สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 875 ไม่มีใครเทียบได้

เย้นหว่านสะดุ้งอย่างแรง กลัวว่าเย้นโม่หลินรู้เรื่องตอนค่ำแล้วจะมาห้ามปราม แน่นอนว่าเธอไม่มีทางบอกอยู่แล้ว

รีบพูดยิ้มๆอย่างรวดเร็ว”นั่นมันเป็นคำพูดเล็กๆน้อยๆระหว่างคู่รัก ถ้าพี่อยากรู้ ก็ลองพูดกับจื่อเฟยดูสิ”

พอได้ยินแบบนั้น ท่าทีของพี่ชายที่เข้มงวดของเย้นโม่หลินก็แตกสลายไปทันที เต็มไปด้วยความไม่เป็นตัวของตัวเอง

เขาหันไปมองกู้จื่อเฟยอย่างไม่ได้ตั้งใจ ขณะที่สายตาหันมาสบกันนั้น เขาก็รีบหันสายตาไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว

คิดอะไร? ไม่คิดว่าเขาจะประหม่า!

เย้นโม่หลินวางตะเกียบลงทันที ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อ

“ผมกินเสร็จแล้ว พวกคุณกินให้อร่อยนะ”

พูดจบ ก็ลุกขึ้นยืน หันตัวเดินไปอย่างว่องไว

เงาหลังเรียกได้ว่าดูดีสุดๆ

กู้จื่อเฟยมองเขาอย่างอึ้งตะลึง เธอสับสนมึนงง เย้นโม่หลินยังไม่ทันกินข้าวหมด ก็ไปทั้งอย่างนี้แล้ว?

แถมตอนที่ไป ก็ไม่หันมามองเธอเลยแม้แต่น้อย

เทียบกับโห้หลีเฉินที่ก่อนจะจากไปก็ยังหันมาพูดกับเย้นหว่านอย่างใกล้ชิดสนิทสนม ท่าทีที่มีต่อเธอของเย้นโม่หลินมันช่างต่างกันสุดขั้ว

ความใกล้ชิดสนิทสนมที่ควรมีระหว่างคนรักล่ะ?

กู้จื่อเฟยรู้สึกอัดอั้นตันใจ มองเงาหลังของเย้นโม่หลิน รู้สึกว่าจิตใจว่างเปล่า เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง แต่กลับบอกไม่ถูกว่าทำไม

หลังจากที่เย้นโม่หลินไปแล้ว ราวกับว่าอาหารไม่มีรสชาติ จืดชืดลงไปเยอะ ความอยากอาหารของกู้จื่อเฟยลดลงอย่างกะทันหัน

ช่วงค่ำ

กู้จื่อเฟยอาบน้ำเสร็จแล้ว แต่ไม่ได้สวมชุดนอน กลับสวมชุดเดรสที่สวยงามดูดีแทน

เธอถือมือถือนั่งเล่นอยู่บนโซฟา หันมองไปยังประตูเป็นระยะๆ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะกำลังตั้งหน้าตั้งตารออะไรสักอย่าง

วันนี้เธอกับเย้นโม่หลินทำการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ ก็คือการคบกัน เธอกำลังคิด ว่าตอนค่ำเย้นโม่หลินจะมาพูดคุยกับเธอไหม

ถึงยังไงคู่รักทั่วๆไป ในช่วงที่กำลังคลั่งรักกันอยู่ ใครๆก็ล้วนแต่อยากจะมีปฏิสัมพันธ์อยู่ด้วยกันกับอีกฝั่งทั้งนั้น

กู้จื่อเฟยตั้งหน้าตั้งตารออยู่แบบนี้ เตรียมตัวรออย่างดี

ในขณะเดียวกัน ตาก็กำลังมองหน้าจอมือถือ กำลังเลื่อนดูข้อความในวีแชทครั้งแล้วครั้งเล่า รอคอยว่าบางทีเย้นโม่หลินอาจจะส่งข้อความมาให้เธอก็ได้

ต่อให้เป็นข้อความประมาณว่า นอนแล้วยัง แบบนี้ก็ยังดี

แต่กู้จื่อเฟยรออยู่นาน กลับไม่มีแม้แต่ข้อความเดียว

ตอนที่เธอรอจนรู้สึกสะลึมสะลือ ยิ่งรู้สึกท้อแท้มากขึ้นแล้วนั้น จู่ๆก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนดังเข้ามาจากทางเดินข้างนอก

กู้จื่อเฟยถลึงสองตากลมโตด้วยความตื่นเต้นทันที กระโดดลุกขึ้นมาอย่างแรง วิ่งตรงไปยังประตูอย่างเบาๆ

เธอแง้มหูฟังเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆอย่างตั้งใจ ใจเต้น”ตึกตักๆ”

เย้นโม่หลินมาแล้วอย่างนั้นเหรอ?

เขามาหาเธอใช่ไหม?

ใช่ใช่ไหม?

เธอตั้งหน้าตั้งตารอด้วยความสุขและความหวัง ในที่สุดก็รอจนกระทั่งเสียงฝีเท้านั้นเข้ามาใกล้ประตูห้องของเธอ จากนั้นก็หยุดลง

กู้จื่อเฟยใจแทบจะเต้นออกมาทันที

สองมือของเธอสั่นด้วยความชอบดีใจ ไปคว้าตรงลูกบิดประตู ขอแค่เขาเคาะประตู เธอก็จะเปิดออกทันที

“ตุ๊งๆๆ”

เสียงเคาะประตูเบาๆดังขึ้นมา

มือที่กู้จื่อเฟยจะหมุนลูกบิดประตูเพื่อเปิดประตูออก กลับนิ่งชะงักลง เสียงนี้มัน ไม่ถูกต้อง นี่มันห้องข้างๆนี่นา!

เธอเหม่อลอย ความดีอกดีใจบนใบหน้าจางหายไป

เย้นโม่หลินไม่ได้มาหาเธอ

ไม่นาน ประตูของห้องข้างๆก็เปิดออก ข้างๆมีเสียงเบาๆคลุมเครือของเย้นหว่านดังขึ้นมา

“คุณมาได้ยังไง? คุณบอกให้ฉันไปหาคุณที่ห้องไม่ใช่เหรอ?”

“คุณไม่มาสักที ผมก็เลยต้องมาหาคุณเองนี่ไง”โห้หลีเฉินพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำในลำคอ น่าดึงดูด

“ฉันกำลังอาบน้ำ ยังแต่งตัวไม่ทันเสร็จเลย……”

“ไม่เป็นไร คืนนี้ก็นอนที่ห้องนี้ก็แล้วกัน”

จากนั้นก็ตามด้วยเสียงปิดประตูที่ไม่ดังไม่เบา เสียงของพวกเขาทั้งสองคนเงียบไปแล้ว

กู้จื่อเฟยยืนอยู่ตรงประตูอย่างนิ่งชะงัก รู้สึกอัดอั้นตันใจเหมือนมีสำลีมาอุดเอาไว้

รู้สึกไม่สุขสบายใจ ตอนนี้ผิดหวังไม่น้อย

เธอคงคิดเยอะไปอย่างที่คิดเอาไว้ เย้นโม่หลินไม่มีทางมาหาเธอหรอก

ดูวีแชทอีกรอบ ข้างในไม่มีข้อความที่มาจากเขาเลยสักข้อความเดียว นิ่งสงบไม่มีแม้แต่สัญญาณใดๆเลยสักนิด

กู้จื่อเฟยนอนอยู่บนโซฟาอย่างหมดเรี่ยวแรง ท่ามกลางความสุขเหลือล้นที่ได้อยู่ด้วยกันกับเขา มันกลับหดหู่มากขึ้นไม่น้อย

วันแรกที่ได้อยู่ด้วยกันก็ไม่ได้ติดต่อพูดคุยกัน ความรู้สึกแบบนี้มันทำให้ความชอบความสุขในใจของเธอไม่มีที่ระบายออกมา

หรือบางที……

ผู้ชายแบบเย้นโม่หิน จะเอาไปเทียบกับผู้ชายทั่วๆไปไม่ได้ พฤติกรรมของเขา ก็ไม่เหมือนกับคนอื่น

หรือบางที……

เขาเพิ่งจะคบกันกับเธอ ก็เลยยังไม่คุ้นเคย ต้องปฏิบัติกับเขายังไง

ในหัวของกู้จื่อเฟยคิดเหตุผลโต้แย้งเต็มไปหมด พูดปลอบใจที่กระวนกระวายของตัวเองอย่างไม่หยุดไม่หย่อน

ตอนกลางคืน นอนไม่หลับ

เวลาสามวัน โห้หลีเฉินตรวจสอบ จัดรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับตระกูลฝู้ไว้หมดแล้ว

ถึงขนาดที่คิดวางแผนการที่จะจัดการกับตระกูลฝู้แล้วด้วย

ในขณะเดียวกัน ฝู้เหวยข่ายก็เตรียมจะกลับไปที่ตระกูลฝู้แล้วเช่นกัน

ตอนนี้โห้หลีเฉินเริ่มทำงานในส่วนขั้นตอนสุดท้ายแล้ว รอฝู้เหวยข่ายกลับไป แล้วตามไป ทุกอย่างก็จะจบลงด้วยดี

เมื่อทุกอย่างผ่านไปด้วยดี สภาพจิตใจของทุกคนก็จะดีขึ้น บรรยากาศในครอบครัวก็จะร่าเริงสดใสขึ้นมาก

แต่สภาพจิตใจของกู้จื่อเฟย กลับยิ่งอยู่ยิ่งหดหู่ลงเรื่อยๆ

ไม่ใช่ใครที่ไหน เพราะเย้นโม่หลินคนเดียว

เธอไม่รู้เลยว่าจะเรียกเรื่องนี้ว่าอะไรดี เธอกับเย้นโม่หลินในตอนนี้เป็นความสัมพันธ์ของคู่รักที่ยืนยันได้แล้ว แต่ที่น่ากังวลใจก็คือ สามวันมานี้ เย้นโม่หลินไม่เคยมาหาเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ตอนเจอหน้ากันในแต่ละวัน ก็มีแค่ตอนกินข้าวเท่านั้น แถมบรรยากาศก็ยังเหมือนกับเมื่อก่อน เขาก็กินของเขาไป ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับเธอเลยสักนิด

ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนั้นบอกว่าจะรับผิดชอบด้วยท่าทางจริงขนาดนั้น กู้จื่อเฟยก็จะรู้สึกว่าจริงๆแล้วเธอกับเย้นโม่หลินไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว

ระหว่างคู่รัก มันมีแบบนี้ที่ไหนกันล่ะ?

สามวันติดกัน เรียกได้ว่าไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเลย ทางฝ่ายชายไม่มีความกระตือรือร้นที่จะเข้าหาเลยแม้แต่น้อย

สองวันก่อนยังพอจะหาข้ออ้างได้บ้าง เย้นโม่หลินคงจะกำลังยุ่ง แต่วันนี้ กู้จื่อเฟยยืนอยู่ตรงระเบียง มองผู้ชายที่นั่งดื่มชาอย่างสบายใจอยู่ในสวน หมดหนทางที่จะปลอบใจตัวเองแล้ว

เขาว่างถึงขนาดที่มีเวลาดื่มชา ไม่ต้องพูดเรื่องจะมานัดเดทกับเธอหรอก!อย่างน้อยมาพูดคุยกับเธอสักสองสามประโยคก็ยังดี

กู้จื่อเฟยดูอึมครึมมืดมน รู้สึกท้อแท้สุดๆ”ที่คุณบอกว่าเย้นโม่หลินชอบฉันน่ะ อาจจะเดาผิดแล้วล่ะมั้ง”

ถ้าเกิดชอบ เขาไม่มีทางไม่สนไยดีเธอแบบนี้หรอก แล้วก็ไม่มีทางไม่มาปฏิสัมพันธ์กับเธอด้วย

เย้นหว่านมองผู้ชายที่ดื่มชาอย่างสง่างามอยู่ข้างล่าง ก็รู้สึกปวดหัวอยู่ไม่น้อย

เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมพี่ชายของตัวเองถึงไม่มาสานสัมพันธ์ความรู้สึกกับกู้จื่อเฟย?

ว่ากันว่าคนที่ชอบ แทบอยากจะมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างอดไม่ได้ แต่ทำไมพอมาเป็นเย้นโม่หลินแล้ว กลับไม่มีความหมายเลยสักนิด?

ถ้าเรื่องนี้ไม่ได้ผ่านการยอมรับยืนยันจากโห้หลีเฉินล่ะก็ เย้นหว่านก็คงจะคิดว่าเย้นโม้หลินไม่ได้ชอบกู้จื่อเฟยไปแล้ว

เธอคิดๆ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างสงสัย

“บางทีพี่ของฉันอาจจะไม่รู้ว่ามีความรักต้องปฏิบัติตัวยังไงก็ได้?”

กู้จื่อเฟยที่อึมครึมเหี่ยวเฉาจู่ๆก็เหมือนกับมีความหวังขึ้นมา”จริงเหรอ?”

จากความเข้าใจของเย้นหว่านที่มีต่อเย้นโม่หลิน เธอยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าอาจจะเป็นไปได้ ถึงยังไงเกิดมาก็มีสถานะเป็นนายน้อยของตระกูลเย้น เติบโตมาโดยมีผู้คนมากมายคอยสนับสนุนเชิดชู แล้วความสามารถของเขาก็โดดเด่น อยู่ระดับแนวหน้ามาโดยตลอด

ไม่มีใครเทียบได้

รอบตัวเขาเหมือนกับไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเพศหญิงแบบนี้ปรากฏขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะมีความรัก หรือว่าประสบการณ์กับผู้หญิงเท่ากับศูนย์เลยก็ว่าได้

เย้นหว่านหันสายตาไป พูดขึ้น

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset