สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 897 รถไฟขนาดเล็ก

นี่ไม่ใช่ห้องๆหนึ่ง แต่เป็นที่ที่หนึ่งที่คล้ายกับชานชาลา ที่ห่างออกไปไม่ไกล มี

รถไฟขนาดเล็กที่เก่าแก่ดูมีอายุจอดอยู่หนึ่งขบวนพอดี

ส่วนข้างรถไฟ มีเก้าอี้วางอยู่ตัวหนึ่ง เก้าอี้ตัวนั้นดูมีอายุการใช้ที่นานมากแล้ว

เย้นหว่านเพิ่งเห็น ถึงขั้นรู้สึกเบลอๆว่าจู่ๆได้ย้อนเวลาไปเมื่อหลายสิบปีก่อน

“ที่นี่เป็นแค่สถานีเปลี่ยนเส้นทางเฉยๆ”

โห้หลีเฉินอธิบายด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ที่ที่เราจะไปไม่ได้อยู่ที่นี่ ต้องนั่งรถไฟไป”

สายตาสำรวจของเขาได้มองไปยังรถไฟขนาดเล็กที่เก่าแก่ขบวนนั้น

รถไฟขบวนนี้ ตั้งแต่สร้างมาจนถึงตอนนี้ อย่างน้อยก็ร้อยกว่าปีแล้ว ของเก่าแก่แบบนี้ ไม่ว่าจะประสิทธิภาพการหรือในเรื่องความสะดวกล้วนไม่ค่อยดีแล้ว

ยิ่งควรจะเปลี่ยนตั้งนานแล้ว

แต่ทำไมตอนนี้ยังอยู่ที่นี่?อีกอย่างดูท่าทีถ้าจะไปห้องลับล่ะก็ ก็ต้องนั่งรถไฟขบวนนี้ไป

สังเกตเห็นสายตาของโห้หลีเฉินอย่างหลักแหลม หยูเซินได้อธิบายอย่างเคารพนอบน้อม “ตั้งแต่ตรงนี้เป็นต้นไป ก็ถือเป็นขอบเขตคลังสมบัติของตระกูลหยูแล้ว ถ้าไม่ขับรถไฟนี้ไปตามปกติ ก็จะไปแตะโดนกลไก ถึงมีโลหิตเป็นตัวล่อก็เปิดคลังสมบัติไม่ออกครับ เพราะคลังสมบัติของตระกูลหยูไม่มีคนเปิดมาร้อยกว่าปีแล้ว เพราะฉะนั้นรถไฟขบวนนี้ก็เคลื่อนย้ายไม่ได้ พอเคลื่อนย้ายปุ๊บก็จะทำลายระบบกลไกของด้านใน ทำให้คลังสมบัติได้รับความเสียหาย เราก็ได้แต่ส่งคนมาบำรุงซ่อมแซมอยู่เป็นประจำ ให้มันสามารถดำเนินการต่อไปได้ครับ

ตอนนี้คุณชายสามารถเปิดคลังสมบัติออก วันข้างหน้า ก็จะสามารถซ่อมถนนเส้นนี้ใหม่ เปลี่ยนเป็นรถยนต์ที่สะดวกและรวดเร็วกว่าครับ”

ที่แท้คือแบบนี้นี่เอง คนรุ่นหนึ่งสามารถเปิดคลังสมบัติ ก็จะสามารถตั้งกลไกรหัสตามไปด้วย

โห้หลีเฉินพยักหน้า แล้วจูงมือเย้นหว่านไปที่รถไฟขบวนนั้น

ในขณะเดียวกัน ได้ยิ้มให้เธอเบาๆพร้อมพูดว่า “รถไฟโบราณ ลองนั่งแล้วสัมผัสความรู้สึกดู”

เย้นหว่านชักจะตื่นเต้นและคาดหวังเล็กน้อย

รถไฟขบวนนี้นับได้ว่าเป็นวัตถุโบราณจริงๆ สามารถวางโชว์ในนิทรรศการพิพิธภัณฑ์ได้เลย

แต่เธอยังสามารถลองนั่งสัมผัสความรู้สึกดู ไม่เลวเลยจริงๆ

หยูฉู่สองมองฝู้ยวนด้วยสายตาไม่พอใจ จากนั้นได้ขึ้นรถไฟด้วยสีหน้าบึ้งตึง

ฝู้ยวนเดินมาเป็นคนสุดท้าย

ตอนที่เขาใกล้จะเดินมาถึงข้างรถ หยูเซินที่ยืนอยู่ข้างรถไฟได้พูดกับเขาด้วยรอยยิ้มที่ฝืนใจ “คุณฝู้ ขึ้นรถระวังด้วยนะครับ รถอันนี้เก่าแก่เกินไป ถ้าไปทำตรงไหนเสียเข้า ก็อาจจะขับไม่ได้ ทำให้เข้าคลังสมบัติไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงใครก็รับผิดชอบไม่ไหวนะครับ”

ดูเหมือนจะเตือนด้วยความหวังดี ที่จริงคำพูดเต็มไปด้วยการข่มขู่และตักเตือน

ฝู้ยวนสีหน้าแข็งทื่อ ฝืนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “รู้ครับ ผมจะระมัดระวังครับ”

เขารู้ดีว่านี่คือการตักเตือนโดยไม่ต้องสงสัยเลย อย่ามีความคิดเกินเลยใดๆกับคลังสมบัติของตระกูลหยู

ถึงเคยเข้ามาครั้งหนึ่ง แต่คราวหน้าถ้าอยากเข้ามาอีก ไม่มีกุญแจขับเคลื่อนรถไฟขบวนนี้ ก็ไม่มีประโยชน์อันใด

ส่วนกุญแจรถก็อยู่ในมือของหยูฉู่สองคนเดียว

“ปู๊นๆๆ”

รถไฟขนาดเล็กสตาร์ทและค่อยๆขับไปข้างหน้า

รถไฟขับช้ามาก เร็วกว่าเดินแค่นิดเดียว เสียงรบกวนดังมาก เห็นได้ชัดว่าเก่าแก่เกินไป มีความรู้สึกเก่าแก่มาก

เย้นหว่านนั่งอยู่บนรถไฟด้วยความตื่นเต้น มักมีความรู้สึกแบบนี้อยู่เรื่อยเลยว่ารถไฟขับอยู่ดีๆ ก็อาจจะหยุดหรือเสียโดยตรงโดยที่ไม่ระวัง

เธอโอบโห้หลีเฉินไว้ พร้อมกระซิบที่ข้างหูเขาเบาๆ “ต่อไปคุณสามารถสร้างถนนเส้นนี้ใหม่ จะเปลี่ยนรถไฟขบวนนี้ทิ้งมั้ยคะ?”

“ดูตามอารมณ์ก่อน”

โห้หลีเฉินตอบเรื่อยเปื่อยอย่างไม่แยแส

แต่เขาไม่ได้กดเสียงต่ำ ทำให้หยูฉู่สองก็ได้ยินคำพูดของเขาด้วย เขาที่เดิมทีหน้าบึ้งอยู่แล้ว ทีนี้ยิ่งดูแย่เข้าไปใหญ่

ตอนนี้เปิดคลังสมบัติออกแล้ว จะต้องเข้าๆออกๆในคลังสมบัติประจำแน่นอน รถไฟขบวนนี้ก็เก่าขนาดนี้แล้ว เกรงว่าก็คงใช้ได้ไม่กี่ครั้งแล้ว

ถ้าไม่เปลี่ยนรถไฟ ไม่ช้าก็เร็วรถไฟก็ต้องเสียแน่นอน ถึงเวลาก็เข้าคลังสมบัติไม่ได้แล้ว

ท่าทีที่ไม่แคร์เลยสักนิดว่าตระกูลหยูจะเจริญรุ่งเรืองหรือเปล่าของโห้หลีเฉิน ทำให้ในใจหยูฉู่สองลุกเป็นไฟ

แต่ก็ระเบิดอารมณ์ไม่ออก

กุญแจคลังสมบัติของตระกูลหยูกุมอยู่ในมือของโห้หลีเฉิน นั่นก็เท่ากับว่าเขาจะต้องถูกควบคุมโดยโห้หลีเฉิน

ถึงจะไม่พอใจแค่ไหน ก็จะมาแตกคอกันตอนนี้ไม่ได้

แต่ไหนแต่ไรหยูฉู่สองกุมทุกอย่างไว้ในมือ แต่หลานชายคนนี้ดันเป็นคนพิเศษ เขาควบคุมไม่อยู่เลยด้วยซ้ำ และยิ่งควบคุมไม่ได้ด้วย

ดันยังทำอะไรเขาไม่ได้อีก

เย้นหว่านสังเกตเห็นออร่าที่เปลี่ยนแปลงของหยูฉู่สองอย่างหลักแหลม ตึงเครียดกว่าก่อนหน้านี้ และยิ่งโกรธเกรี้ยวกว่าก่อนหน้านี้ด้วย

เธอรู้ว่าเป็นเพราะคำพูดของโห้หลีเฉิน

สายตาที่สำรวจของเธอมองทั้งสองอย่างเงียบๆ ไม่ค่อยแน่ใจ แต่พอจะเดาได้ว่าโห้หลีเฉินจงใจ

เขากำลังต่อกรกับหยูฉู่สองอยู่

นี่เป็นศึกชักเย่อที่ไม่มีคราบเขม่าปืน

แข็งกร้าวและควบคุมทุกอย่าง แม้กระทั่งผู้สืบทอดตระกูลก็อยากควบคุมอยู่ในมือตัวเอง ให้เชื่อฟังเขาทุกอย่าง

แต่โห้หลีเฉินดันกลับกันโดยสิ้นเชิง เขาไม่ใช่คนที่ยอมฟังและยอมทำตามเด็ดขาด

เขากลับมาที่ตระกูลหยู จึงเป็นฝ่ายคลุกคลีเข้ามาในน้ำโคลนนี้เอง ยิ่งเพราะสายเลือดของเขา ตระกูลหยูยิ่งไม่มีทางปล่อยเขาไป เขาจำต้องรับช่วงต่อตระกูลนี้แน่นอน

แต่เขาจะรับช่วงต่อ ก็จะต้องใช้วิธีของเขามารับช่วงต่อ ไม่ใช่ถูกคนอื่นมาคุมไว้ กดขี่ไว้และพันธนาการไว้

ในศึกชักเย่อศึกนี้หยูฉู่สองกับโห้หลีเฉินต่างก็ไม่มีใครยอมใคร คือแข่งว่าใครจะสามารถสงบนิ่งถึงสุดท้าย

ระยะทางนี้ไม่ได้ไกลเท่าไหร่ ถึงแม้รถไฟช้า แต่ไม่นานก็ถึงแล้ว

รถไฟได้ค่อยๆจอดลงที่หน้าประตูบานใหญ่ที่มีขนาดกว้างเท่าคนสองคน

ที่นี่เป็นถนนที่เป็นแบบปิดผนึก รอบด้านล้วนเป็นหินอุโมงค์หมด ประตูนี้อยู่สุดปลายทางของอุโมงค์พอดี ข้างๆเป็นก้อนหินหมด

หยูฉู่สองเห็นประตูบานนี้แล้วตาลุกวาวขึ้นมาทันที

หลายสิบปีแล้ว ในที่สุดวันนี้เขาก็สามารถเปิดออกสักที

เขาลงจากรถไฟเป็นคนแรก เดินมาที่หน้าประตูอย่างไว พร้อมทั้งยื่นมือจับกรอบประตูด้วยความตื่นเต้น

“เฉิน หลานมาที่นี่ กรีดนิ้วแล้วกดไปที่ราวจับประตู แค่นี้ก็สามารถเปิดประตูออกแล้ว”

โห้หลีเฉินลงจากรถไฟตาม

รูปร่างสูงใหญ่ของเขายืนอยู่ที่หน้าประตู สายตามองไปที่ราวจับประตู ที่นั่นมีร่องเล็กๆอยู่ร่องหนึ่ง สามารถใส่เลือดได้พอดี

ประตูบานนี้ดูแล้วธรรมดามาก ก็เหมือนประตูของครอบครัวทั่วไป แต่พอมองไปตามร่องอย่างละเอียด ก็จะพบว่าด้านหลังของภายนอกที่ธรรมดานี้ เป็นกลไกละเอียดประณีตที่เทคโนโลยีของตอนนี้ก็ยังไขไม่ออกเลย

หลายร้อยปีก่อน บรรพบุรุษของตระกูลหยูก็ได้ทำวิศวกรรมแบบนี้ออกมาแล้ว แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีวิธีอื่นที่จะสามารถเปิดออก

ในนั้น ได้ซ่อนของเอาไว้เท่าไหร่?

โห้หลีเฉินก็อยากรู้อยากเห็นเหมือนกัน

เขาไม่ได้ลังเล ได้กรีดนิ้วมือตัวเองแล้วหยดเลือดตัวเองลงในร่อง

เห็นแค่เลือดไหลลงไปตามร่องนั้นทันที ไหลเข้าไปในประตูจนไม่เห็นร่องรอย ขณะเดียวกันด้านในของประตูมีเสียงเครื่องกลหมุน”แกร๊กๆๆ”ดังขึ้น

“ประตูเปิดออกแล้ว?”

เย้นหว่านเดินมาที่ข้างกายโห้หลีเฉิน ล้วงมือเขาขึ้นมา แล้วใช้กระดาษชำระที่เตรียมเสร็จห่อมือของเขาไว้เพื่อห้ามเลือด

อดแค้นเคืองอยู่ในใจไม่ได้ กลไกบ้าบออะไร ดันต้องกรีดมือหยดเลือดลงไปถึงจะสามารถเปิดออก

ต่อไปถ้าอยากเข้ามา ไม่ใช่ต้องเข้ามาหนึ่งครั้ง ก็ให้โห้หลีเฉินเสียเลือดครั้งหนึ่งเลยเหรอ?

มองเย้นหว่านที่ไม่พอใจ โห้หลีเฉินขยี้ผมของเธออย่างเอ็นดู หัวเราะเบาๆแล้วพูดว่า “แค่แผลเล็กๆเอง ไม่เจ็บครับ”

ส่วนมืออีกข้างของเขาได้จับอยู่ที่ราวจับประตู บิดลงไปทีหนึ่ง เสียงดัง”แกร๊ก”ขึ้นมาเสียงหนึ่ง ประตูได้เปิดออก

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset