สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 919 การเมินเฉยใส่คือการตบหน้าขั้นสูงที่สุด

ท่าทางที่แสร้งทำเป็นคนดีนั้นทำให้เย้นหว่านที่มองอยู่รู้สึกรังเกียจขึ้นมา

ท่านอาวุโสสี่กับท่านอาวุโสห้าล้วนเป็นคนประเภทเดียวกัน

ในตอนที่โห้หลีเฉินยังไม่ได้รับอำนาจ พวกเขาก็เย็นชาใส่ การถอดตำแหน่งผู้สืบทอดในที่ประชุมคราวนั้น พวกเขาก็เป็นคนที่กระตือรือร้นที่จะกำจัดโห้หลีเฉินออกไปมากที่สุด

ทุกครั้งที่พบเธอ ก็มีท่าทีสนิทชิดเชื้อ

แต่ความจริงแล้ว เย้นหว่านรู้นิสัยที่แท้จริงของพวกเขาว่าเป็นคนที่ประจบสอพลอและแอบอิงผู้มีอิทธิพล

ยิ้มก็ไม่ใช่รอยยิ้มที่จริงใจ ความเป็นมิตรก็ไม่ใช่มิตรที่แท้จริง

กับพวกเขานั้นไม่มีวันเดินอยู่บนเส้นทางเดียวกันได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นมา คนที่จะทรยศเป็นคนแรกก็คือพวกเขา

ถ้าหากว่าหลังจากนี้โห้หลีเฉินกลายเป็นผู้นำตระกูล ผู้อาวุโสไม่กี่ท่านนี้ก็ไม่สามารถเก็บเอาไว้นานเช่นกัน

ส่วนท่านอาวุโสแปดนั้น ให้ความรู้สึกกับเย้นหว่าน ไม่เหมือนกับพวกเขา

เย้นหว่านพิจารณามองท่านอาวุโสสี่และท่านอาวุโสห้าโดยไม่พูดอะไร แต่เดินตรงเข้าไปด้านใน

บนใบหน้าไร้ซึ่งรอยยิ้มประดับ

ท่าทางแบบนั้นทำให้ท่านอาวุโสสี่ท่านอาวุโสห้าที่ดูอยู่รู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมาเล็กน้อย

แต่ไหนแต่ไรมา ฐานะของเย้นหว่านทำให้ผู้นำตระกูลไม่ยินยอมที่จะล่วงเกิน พวกเขายิ่งไม่อยากทำอะไรที่ไม่เป็นที่น่าพอใจกับเย้นหว่าน

ท่านอาวุโสสี่รีบเอ่ยยิ้มๆว่า “เสี่ยวหว่าน หนูมานี่มีเรื่องอะไรที่ต้องจัดการหรือ ถ้าต้องการความช่วยเหลือบอกกับฉันได้เลย ฉันจะจัดให้หนูเอง”

“ใช่แล้ว มอบให้พวกเรา ไม่ว่าเรื่องอะไรล้วนไม่มีปัญหา”

ท่านอาวุโสห้าเอ่ยต่อยิ้มๆ “มานั่งนี่แล้วค่อยๆพูดคุยกัน” พูดแล้ว เขาก็หันหน้าไปขึงตาใส่ท่านอาวุโสแปด “ไอ้แปดยังจะยืนนิ่งอยู่ทำไมกัน ไปรินน้ำผลไม้ให้กับเสี่ยวหว่าน”

ก้นบึ้งแววตาของท่านอาวุโสแปดมีความอึดอัดใจพาดผ่าน

ปกติถูกพวกเขาข่มเหงรังแกก็ช่างเถอะ ตอนนี้อยู่ต่อหน้าเย้นหว่านยังถูกพวกเขาเรียกใช้ตามอำเภอใจราวกับคนรับใช้

เขารู้สึกหน้าร้อนๆ อึดอัดใจเป็นอย่างมาก

เดิมเย้นหว่านยังถือว่าให้เกียรติเขา ไปมาหาสู่กันด้วยรอยยิ้ม คิดว่าผ่านวันนี้ไป หลังจากนี้ก็คงจะดูถูกเขาแล้ว

แววตาท่านอาวุโสแปดมืดมนถึงที่สุด

เขาหมุนกายคิดจะไปรินน้ำผลไม้ที่เคาน์เตอร์บาร์ด้วยความหดหู่

“ท่านอาวุโสแปด ไม่ต้องรบกวนคุณหรอกค่ะ ฉันไม่ดื่มน้ำผลไม้”

เย้นหว่านมองท่านอาวุโสแปด แย้มรอยยิ้มที่มุมปาก น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเคารพ “ฉันสามารถขอให้คุณช่วยเรื่องหนึ่งได้ไหมคะ”

ฝีเท้าท่านอาวุโสแปดชะงัก มองไปที่เย้นหว่านด้วยความประหลาดใจอยู่บ้าง

ท่าทีแบบนี้ของเธอ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการเคารพและเห็นแก่หน้าเขาในตอนนี้อย่างถึงที่สุด

เธอเมินเฉยต่อคำพูดของท่านอาวุโสสี่และท่านอาวุโสห้าที่ต้องการจะช่วยเหลือเธอ แต่ร้องขอความช่วยเหลือจากเขา เป็นการถือโอกาสเหยียบเท้าท่านอาวุโสสี่และท่านอาวุโสห้าไปครั้งหนึ่งโดยปริยาย

สีหน้าของท่านอาวุโสสี่ท่านอาวุโสห้าไม่หน้ามองขึ้นมาทันที

พวกเขาล้วนเป็นคนฉลาด จึงเป็นธรรมดาที่จะเข้าใจได้ในทันทีว่าเย้นหว่านจงใจไม่สนใจพวกเขา ทำให้พวกเขาตกอยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้

ใบหน้าเย้นหว่านประดับไปด้วยรอยยิ้มบางๆ เดินตรงไปถึงด้านหน้าท่านอาวุโสแปด

“จะเป็นการรบกวนคุณหรือไม่คะ”

หลังจากตกตะลึง ท่านอาวุโสแปดก็ได้สติกลับมา มองไปทางเย้นหว่านด้วยความประหลาดใจ ในใจก็มีคลื่นกระเพื่อมไหว

เขารีบตอบคำถามว่า “ไม่หรอกๆ คุณต้องการให้ผมทำอะไร เชิญพูดออกมาก็พอ”

“ขอบคุณคุณมากจริงๆนะคะ”

เย้นหว่านยิ้มให้อย่างยินดี แต่กลับไม่ได้เอ่ยในทันที ทว่าหันไปมองท่านอาวุโสสี่และท่านอาวุโสห้า โดยที่สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงตรงไปตรงมา “รบกวนพวกคุณออกไปก่อนได้ไหมคะ ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับท่านอาวุโสแปดค่ะ”

ท่านอาวุโสสี่ “……”

ท่านอาวุโสห้า “……”

นี่เป็นการไม่ให้เกียรติพวกเขามากขนาดไหนกัน ถึงได้ขับไล่พวกเขาออกตรงๆแบบนี้

ใช้ชีวิตกว่าหลายสิบปี ยโสโอหังมามากกว่าครึ่งชีวิต ยังไม่เคยมีใครไม่ให้เกียรติพวกเขาแบบนี้

ท่านอาวุโสห้าที่มีอารมณ์ร้อนคิดอยากจะระเบิดโทสะในสถานที่เกิดเหตุ แค่เมื่อเห็นเย้นหว่านก็ฝืนกลืนโทสะลูกนั้นกลับไป

เขาจะทรมานคนอื่นๆอย่างไรก็ได้ตามใจชอบ แต่เย้นหว่าน สถานะสูงส่งเกินไปจนไม่สามารถล่วงเกินได้

เมื่อตัดสถานะลูกสาวอันเป็นที่รักของตระกูลเย้นออกไป เธอก็จะกลายเป็นภรรยานายน้อยของพวกเขาในเร็วๆนี้แล้ว หลังจากนี้ก็จะเป็นนายหญิงตระกูลหยู

ท่านอาวุโสสี่นั้นฉลาดเฉลียวกว่าเล็กน้อย บนใบหน้าแก่ชรานั้นยังฝืนรักษารอยยิ้มตามมารยาทเอาไว้ได้

จึงเอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ อย่างนั้นพวกเราก็ออกไปก่อนแล้วกัน หนูก็ค่อยๆคุย ถ้าหากว่ามีอะไรที่ต้องการ ก็สามารถเรียกให้พวกเราช่วยเหลือได้ทุกเวลา”

คำพูดนี้ยังคงรักษาท่าทีที่เหมาะสมเอาไว้ได้

เย้นหว่านมองเขายิ้มๆโดยไม่พูดอะไร

ท่านอาวุโสสี่ท่านอาวุโสห้าที่คิดจะอยากจะเอาใจ แต่ผลลัพธ์คือการถูกเมินนั้น ในใจก็เต็มไปด้วยโทสะ แต่บนใบหน้ายังคงรักษารอยยิ้มบางๆเอาไว้ได้ ก็เดินจากไปด้วยความเศร้าหมอง

ท่านอาวุโสแปดมองสองคนที่จากไปด้วยความกังวลเล็กน้อย

เอ่ยเสียงขรึมว่า “คุณเย้น การที่คุณล่วงเกินท่านอาวุโสสี่และท่านอาวุโสห้าเพื่อผมนั้นไม่คุ้มค่า”

แม้ว่าตอนนี้โห้หลีเฉินจะมีอำนาจมาก เย้นหว่านก็จะเป็นนายหญิงในอนาคตของตระกูลเย้น แต่สถานภาพของท่านอาวุโสสี่กับท่านอาวุโสห้าในตระกูลหยูนั้นแข็งแกร่งมากเช่นกัน ถ้าหากว่ามีความขัดใจกัน ก็จะไม่เป็นผลดีเท่าไร

เย้นหว่านส่ายหน้าอย่างไม่สนใจ มองไปทางท่านอาวุโสแปดด้วยสายตาเข้าใจ

“ถ้าหากว่าคิดจะสนับสนุนคุณ ขัดใจกับพวกเขานั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ท่านอาวุโสแปดตกตะลึงในทันที มองไปทางเย้นหว่านอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“คุณเย้น คุณหมายความว่าอะไรหรือ”

เย้นหว่านปรับสีหน้า มองไปทางท่านอาวุโสแปดอย่างจริงจัง พลางเอ่ยว่า

“ท่านอาวุโสแปด คุณก็รู้ว่า แม้ว่าตอนนี้โห้หลีเฉินจะได้รับการสนับสนุนจากทุกคนในตระกูลหยูเพราะความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่ว่าก่อนหน้านี้ โห้หลีเฉินมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับตระกูลหยู จนถึงขั้นจะสงครามในการแก้ไขความขัดแย้ง

ตอนนี้คนที่เชื่อฟังคำสั่งเขา ก็เป็นเพราะว่าไม่มีทางเลือก

โห้หลีเฉินจะเป็นผู้สืบทอดตระกูลหยูในไม่ช้าก็เร็วนี้ แต่ฉันหวังว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาจะไม่ใช่คนที่เชื่อฟังเพราะไม่มีทางเลือก แต่เป็นการติดตามเขาด้วยความจริงใจและช่วยเหลือเขา

ท่านอาวุโสแปดรู้สึกประหลาดใจต่อการแสดงความคิดเห็นของเย้นหว่านเป็นอย่างมาก

ตอนก่อนหน้านี้ เขานึกว่าเย้นหว่านเป็นดอกไม้งามที่ถูกเลี้ยงเอาไว้ในเรือนกระจกมาโดยตลอด เป็นเด็กสาวตัวน้อยที่โห้หลีเฉินกางปีกปกป้อง โดยที่ไม่เข้าใจและไม่รู้อะไรทั้งนั้น

แต่สิ่งที่เธอเพิ่งจะพูดออกมา เป็นการมองเห็นสถานการณ์ของตระกูลหยูในตอนนี้ได้อย่างชัดเจน

จนถึงขั้นที่ต้องการเชื้อเชิญเขา เพื่อช่วยกรุยทางให้กับโห้เฉินหลี

ท่านอาวุโสแปดเปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อเย้นหว่านอย่างสมบูรณ์ สีหน้าก็เปลี่ยนจากมีรอยยิ้มเมตตาเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาหลายส่วน

เขาถามว่า “ทำไมถึงเป็นผม? คุณเย้น บางทีคุณอาจจะยังไม่ทราบดีว่า แม้ผมจะเป็นท่านอาวุโสแปด แต่ผมแทบจะไม่มีอำนาจที่แท้จริงและฐานะใดๆในตระกูลหยูเลย

สามารถพูดได้เลยว่า ผ่านไปอีกไม่นาน ตำแหน่งท่านอาวุโสแปดนี้ผมก็คงนั่งได้อย่างไม่มั่นคงและคงถูกบีบให้ถอยออกไป

สถานการณ์แบบนี้ของผม ให้ปกป้องตัวเองก็ยากแล้ว จึงเป็นการยากที่จะให้ความช่วยเหลือคุณโห้”

คำพูดยืดยาวของท่านอาวุโสแปดทำให้เย้นหว่านเชื่อใจเขามากขึ้นไปอีก การตัดสินใจที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันในครั้งนี้ก็มีความมั่นใจมากขึ้นหลายส่วนเช่นกัน

มีเพียงแค่คนที่นิสัยดีที่จะเตือนเธอทั้งที่ถูกเชื้อเชิญในสถานการณ์ที่เผชิญหน้ากับอุปสรรค สภาพการณ์ของเขาเลวร้ายเกินไป อาจจะไม่มีหนทางในการช่วยเหลืออะไรได้

คนที่มีจิตใจดี ยิ่งเป็นตัวเลือกที่ดี

เย้นหว่านเอ่ยยิ้มๆว่า “สถานการณ์แบบนี้เป็นเพียงแค่ชั่วคราว ขอเพียงแค่คุณยินยอม โห้หลีเฉินจะให้โอกาสกับคุณ โห้หลีเฉินจำเป็นต้องมีคนสนิทในตระกูลหยู ฉันหวังว่าคุณจะสามารถเป็นหนึ่งในนั้น”

ความมืดมนในนัยน์ตาของท่านอาวุโสแปดค่อยๆมีประกายระยิบระยับขึ้นมาอย่างช้าๆ

เขาไม่ใช่คนไร้ความสามารถ แต่หยูฉู่สองไม่เคยให้โอกาสเขา ทั้งยังได้รับอิทธิพลบีบคั้นในตระกูลหยู ความปรารถนาอันยิ่งใหญ่จึงยากที่จะกลายเป็นจริง

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset