สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 123 ซูสือเยว่ นี่เป็นเรื่องที่คุณหาเรื่องใส่ตัวเองนะ

“ภาพพวกนี้ฉันก็เพิ่งจะเห็นวันนี้เป็นครั้งแรกด้วยเหมือนกัน”

ซูสือเยว่ผ่อนลมหายใจออกมา เลิกสายตาขึ้นมองฉินโม่หานไปด้วยสายตาที่ออกมาตามความรู้สึกที่แท้จริง “คุณฉิน ทำยังไงดีคะ?”

“ภรรยาของคุณไม่เพียงแต่จะเป็นผู้หญิงที่เคยมีลูกกับคนอื่นมาก่อน แต่ยังเคยเป็นบ้าด้วย”

ฉินโม่หานเปิดดูภาพทั้งหมดไปอย่างเงียบๆจนหมด

สุดท้ายเขาก็วางภาพลงไป ดวงตาที่ล้ำลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้งคู่นั้นได้มองใบหน้าของซูสือเยว่ไปนิ่งๆ “เปลี่ยนเสื้อผ้า ไปโรงพยาบาลกัน”

“ไปโรงพยาบาล?”

หัวใจของซูสือเยว่ได้หล่นฮวบลงไปในใต้หุบเหวลึกทันที

เธอเอาภาพพวกนี้ให้เขาดูอย่างเปิดเผย แชร์ความลับของเธอออกไป เพราะความเชื่อมั่นที่มีต่อเขา และความไว้วางใจต่อเขา

แต่ผู้ชายคนนี้ กลับพูดออกมาว่าจะพาเธอไปโรงพยาบาล

เขา…รังเกียจเธอแล้วใช่มั้ย?

มือของซูสือเยว่กำหมัดแน่นอยู่ข้างๆลำตัว

อันที่จริงไม่ว่าฉินโม่หานจะตัดสินใจยังไง เธอก็สามารถเข้าใจเขาได้ทั้งนั้น

เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นผู้ชายทั่วไปคนหนึ่ง

ยอมรับความจริงเรื่องในอดีตของภรรยาไปครั้งหนึ่งมันก็ไม่ง่ายแล้ว เธอไม่อาจจะไปโลภอยากให้เขายอมรับอาการป่วยที่เธอเคยเป็นได้อีก

ยิ่งไปกว่านั้น โรคทางจิตของพรรค์นี้ โอกาสที่มันจะกำเริบขึ้นมาก็สูง

คบอยู่กับเธอไป แท้จริงแล้วมันก็เท่ากับการติดตั้งระเบิดเวลาเอาไว้ในบ้าน ไม่รู้ว่าจะอาละวาดออกมาจนบ้านต้องพลิกหน้ามือเป็นหลังมือไปเมื่อไหร่

หญิงสาวถอนหายใจออกมา “อาการป่วยของฉันมันหายดีแล้ว”

“ในห้าปีมานี้ ฉันไม่เคยอาการกำเริบมาก่อนเลย และก็ไม่เคยสูญเสียการควบคุมทางอารมณ์เลย”

“ถ้าคุณ…”

“เชื่อฟัง”

คำพูดของเธอยังไม่ทันได้พูดออกมาจนจบ ฉินโม่หานก็ได้เอ่ยขัดเธอออกมานิ่งๆ

เห็นท่าทางหน้านิ่วคิ้วขมวดของหญิงสาวแล้ว ชายหนุ่มก็ได้ย่นคิ้วออกมาจางๆ ยกมือขึ้นมาลูบหัวซูสือเยว่ไปเบาๆ “ไปเปลี่ยนชุด”

“ผมให้ไป๋ยู่หนานหาผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้สองสามคนมาตรวจอาการของคุณ”

ซูสือเยว่ “…”

เขาแคร์เรื่องนี้จริงๆใช่มั้ย?

“ผมรู้ว่าคุณหายดีแล้ว หลังจากที่พวกเราแต่งงานกันมาในช่วงระยะเวลานี้ คุณก็ปกติไปทุกด้าน”

ชายหนุ่มเก็บมือกลับมา ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ไปพลาง เอ่ยออกมานิ่งๆออกมาพลาง “เรื่องด่วนที่ต้องรีบจัดการในตอนนี้ก็คือต้องหาคุณหมอมาตรวจดูอาการให้คุณสักสองสามคนเพื่อยืนยันว่าอาการป่วยทางประสาทของคุณนั้นมันปกติดีหมดแล้ว”

“ไม่อย่างนั้นแล้ว ซูจิ่นเฉิงจะสามารถใช้เหตุผลที่คุณเป็นผู้ป่วยโรคทางจิตนี้มาล้มล้างคำให้การที่สถานีตำรวจของคุณได้ทุกเมื่อ”

ฉินโม่หานเก็บโทรศัพท์ไป พร้อมกับทอดถอนหายใจออกมาออกมา “อีกทั้ง ผมเองก็อยากให้คุณหมอช่วยวินิจฉัยอาการของคุณในตอนนี้อย่างละเอียดดูสักหน่อย”

“เพราะถึงยังไงโรคจำพวกนี้มันกำเริบกลับมาได้ง่าย”

เสียงของชายหนุ่มยังคงทุ้มต่ำ แต่มันกลับอ่อนโยนแบบที่หาได้ยาก “ในฐานะที่เป็นสามีของคุณ ผมก็ควรจะต้องรู้ชัดในเรื่องจุดอ่อนไหวทุกอย่างของคุณให้ชัดเจน อย่างนี้แล้วต่อจากนี้ไปก็จะสามารถดูแลคุณให้ดีขึ้นได้ ใช่มั้ยล่ะหืม?”

คำพูดที่ซูสือเยว่กำลังจะพูดออกไปก็ได้ถูกทำให้กลืนลงไป

“คุณ…คุณหมายความว่าอย่างนี้นี่เอง”

เธอยังนึกเลยว่า…

“แล้วคุณคิดว่าผมหมายความว่าอะไร?”

ฉินโม่หานย่นคิ้วออกมาเล็กน้อย พร้อมกับดึงเธอเข้ามาสู่ในอ้อมแขน

กลิ่นอายที่มีความเยือกเย็นอันเป็นเอกลักษณ์บนร่างของชายหนุ่มได้ทำให้การหายใจของซูสือเยว่หยุดนิ่งไปเล็กน้อย

ใกล้กันมาก

ใกล้จนเธอสามารถได้ยินการหายใจของเขา และรับรู้ได้ถึงการเต้นของหัวใจของเขาได้เลย

การหายใจและการเต้นของหัวใจของเธอนั้นได้ถูกเขาก่อกวนจนเสียจังหวะไป

หญิงสาวดิ้นออกมาตามสัญชาตญาณเพื่อที่จะออกมาจากในอ้อมแขนของเขา “ฉัน…ฉันไม่ได้หมายความว่าอะไร…”

“เพียงแค่เข้าใจคุณผิดไปเท่านั้นเอง…”

คำพูดสุดท้ายของซูสือเยว่ได้พูดออกมาเบามาก

ฉินโม่หานหัวเราะออกมาเบาๆ โอบรัดเธออยู่ในอ้อมแขนแน่น

มือข้างหนึ่งของเขาโอบรัดเอวบางตรงด้านหลังของเธออาไว้ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งนั้นได้เชิดขากรรไกรล่างของเธอขึ้นมา น้ำเสียงทุ้มต่ำชวนให้หลงใหล “งั้นที่หน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่อยากจะไปเปลี่ยนชุดเมื่อกี้ เป็นเพราะว่าเข้าใจผมผิดไป?”

“เข้าใจอะไรผมผิด?”

“เข้าใจผิดผมว่าจะทอดทิ้งคุณไปเพราะว่าคุณเคยเคราะห์ร้ายป่วยไป หรือว่าเข้าใจผิดว่าผมให้คุณไปหาหมอเพราะว่ารังเกียจคุณ?”

ซูสือเยว่เงียบไม่ตอบออกมา

“ดูเหมือนว่าจะทายถูก”

ใบหน้าของชายหนุ่มเย็นชาออกมา

เขากวาดสายตาที่เย็นชามองใบหน้าของซูสือเยว่ไป “ความเชื่อมั่นที่คุณมีต่อผม มันมีแค่นี้?”

“หรือว่าคุณคิดว่า ผมฉินโม่หานเป็นผู้ชายตื้นเขินคนหนึ่ง?”

“ครั้งที่แล้วตอนที่ซูจิ่นเฉิงเอาภาพออกมา ผมทำยังไง ครั้งนี้ผมก็ยังเหมือนเดิม”

“สิ่งที่ผมต้องการก็คือปัจจุบันและอนาคตของคุณคนนี้ อดีตของคุณ ผมจะไม่ไปสืบเสาะ เพราะว่าสืบเสาะไปก็ไม่มีความหมาย”

เสียงของเขาเยือกเย็นเป็นอย่างมาก

ซูสือเยว่รู้ว่าเขาจะต้องโกรธอย่างแน่นอน

หญิงสาวกัดริมฝีปากออกมาอย่างทำอะไรไม่ถูก

เอาแล้วมั้ยล่ะ เป็นเธอที่เอาจิตใจที่คับแคบของตัวเองไปตัดสินคนที่ใจคอกว้างขวางเอง

แต่เธอกับฉินโม่หานคำนวณดูแล้วสุดท้ายก็เพิ่งจะรู้จักกันมาเดือนเดียวเท่านั้นเอง

เฉิงเซวียนและเซี่ยงหวั่นฉิงทั้งสองคน สามารถละทิ้งความรักห้าปีและมิตรภาพหกปีกับเธอไปได้ง่ายๆ

เดือนเดียว เธอจะไปกล้าเชื่อได้ยังไง?”

มองใบหน้าเยือกเย็นของชายหนุ่ม เธอก็กัดริมฝีปากออกมาเล็กน้อย

ผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ หญิงสาวสอดมือออกไปโอบรอบลำคอของเขา เขย่งเท้าประกบลงไปบนริมฝีปากของเขา

จูบที่บางเบา

แต่กลับทำให้แววตาของฉินโม่หานจากที่เยือกเย็นก็ได้เปลี่ยนมาเป็นร้อนแรงขึ้นมาทันที

“อย่าโกรธเลย”

ซูสือเยว่กัดริมฝีปาก มองเขาไปด้วยแววตาที่เจ็บช้ำ “ฉันไม่ควรไม่เชื่อมั่นในอุปนิสัยของคุณ ไม่ควรคิดว่าคุณจะเหมือนกับคนทั่วไปพวกนั้น ไม่ควรคิดว่าคุณรังเกียจฉันจะทอดทิ้งฉันไป…”

“ฉันสัญญาว่าต่อจากนี้ไปเว้นเสียแต่ว่าคุณจะเอ่ยปากบอกกับฉันมาเองว่าคุณไม่ต้องการฉันแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันก็จะไม่ไปคาดเดาคุณมั่วซั่วอีกเป็นอันขาด!”

พูดจบ เธอก็กัดริมฝีปากมองเขา “ฉันผิดไปแล้ว คุณสามี”

เสียงของหญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างระมัดระวังเหมือนกับช็อกโกแลตยืดที่ได้พาดผ่านไปยังหัวใจของฉินโม่หาน

ละเอียด อ่อนนุ่ม และเรียวยาว หวาน

เขามองเธอ เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าออกมา “เรียกผมว่าอะไร?”

ซูสือเยว่ชะงักไป จึงได้ค้นพบว่าเมื่อกี้นี้ตนได้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลม จึงเรียกเขาออกไปว่า “สามี” แทนที่จะเป็น “ท่านชายฉิน”

การค้นพบอย่างนี้ได้ทำให้ใบหน้าของหญิงสาวได้แดงระเรื่อออกมาทันที

เธอเม้มริมฝีปากออกมา “ท่านชายฉิน ฉันผิดไปแล้ว”

คนอื่นเรียกผมอย่างนั้นก็ได้ แต่คุณไม่สามารถเรียกอย่างนั้น”

เขาก้มหน้าลงไป กุมตรงขากรรไกรล่างของเธอเอาไว้ มองริมฝีปากชมพูที่เรียบลื่นของเธอ แสงสว่างในดวงตาร้อนแรงออกมา “คำเรียกที่คุณเรียกผมเมื่อกี้นี้ เรียกมาอีกหลายๆครั้ง”

ซูสือเยว่ที่ทำผิดไปไม่กล้าจะโต้แย้งกลับไป ทำได้เพียงเรียกเขาออกไปเบาๆอย่างว่าง่าย

“คุณสามี”

“คุณสามี…”

“คุณสามี——”

คำว่า “คุณสามี” คำที่สี่ของเธอยังไม่ทันได้พูดออกมา ฉินโม่หานก็ได้ผละออกจากร่างเธอไป สาวเท้าก้าวยาวๆขึ้นไปชั้นบน

ซูสือเยว่ขมวดคิ้วออกมามองเขาร่างเบื้องหลังที่เดินออกไปชั้นบนของเขา “คุณไปไหน?”

“อาบน้ำ”

อาบน้ำให้ใจเย็นขึ้น

หญิงสาวตบลงบนหน้าผาก “ฉันก็ควรจะต้องอาบน้ำด้วยใช่มั้ย?”

ถ้าอีกเดี๋ยวไปโรงพยาบาลแล้วยังจะต้องทำการตรวจอะไรต่างๆอีกนะ?

คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เธอก็ได้ก้าวเท้าไป เดินขึ้นบันไดตึงตังตามเขาขึ้นไป “คุณอาบก่อนหรือว่าจะให้ฉันอาบก่อนคะ?”

“ฉันเองก็อยากจะอาบน้ำก่อนแล้วค่อยไปโรงพยาบาลด้วยเหมือนกัน”

ไฟที่กำลังแผดเผาร่างของชายหนุ่มอยู่นั้น ได้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้งเพราะว่าคำถามนี้ของเธอ

เขาหรี่ตามองเธอ “ซูสือเยว่ นี่เป็นเรื่องที่คุณหาเรื่องใส่ตัวเองนะ”

“ซูสือเยว่นิ่งอึ้งไป หมายความว่าอะไร?

ต่อจากนั้น ฉินโม่หานก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาไป๋ยู่หนาน

“การตรวจเลื่อนไปเป็นวันพรุ่งนี้เช้า”

ไป๋ยู่หนานที่อยู่ทางปลายสายนั้นแสดงอารมณ์เซ็งๆออกมา “ทำไมล่ะ?”

เขากำลังจะเรียกเหล่าผู้เชี่ยวชาญมากันแล้ว!

“คุณนายฉินอยากอาบน้ำกับฉัน เลยถือโอกาสเอาใจเธอสักหน่อย”

“ฉันยุ่งมาก”

พูดจบ ชายหนุ่มก็ได้วางสายไป

ไป๋ยู่หนาน “…”

เขามันไอ้คนปากเสีย!

ถามว่าสาเหตุเพราะอะไร!

อาหารหมามันไม่อร่อยเลยสักนิด!

……

“เอ่อ…”

หลังจากที่ฉินโม่หานวางสายไป ในที่สุดซูสือเยว่ก็ได้รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของความอันตรายที่อยู่ในอากาศขึ้นมา

เธอจึงได้ถอยไปข้างหลังทันที “จู่ๆฉันก็ไม่อยากอาบน้ำขึ้นมาแล้ว…”

“ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า!”

พูดจบ เธอก็ผันร่างวิ่งไป

แต่เธอจะหนีพ้นสองขายาวของฉินโม่หานได้ยังไง?

ชายหนุ่มไล่ตามไปสองสามก้าว แล้วก็ได้อุ้มเธอขึ้นมาเดินเข้าห้องอาบน้ำไป

“คุณนายฉิน เป็นคุณที่พูดออกมาเองว่าต้องการจะอาบน้ำกับผม”

“ผมไม่อาจปฏิเสธความปรารถนาดีของคุณได้”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset