สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 126 ได้เหลือทางหนีทีไล่เอาไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว

รถเริ่มจะออกเดินทาง

ซูสือเยว่มองวิวด้านนอกหน้าต่างที่เปลี่ยนไปไม่มีหยุดหย่อน คิ้วก็ขมวดออกมาแน่น

เธอหันหน้าไปมองหน้าฉินโม่หาน “ไปโรงพยาบาลจิตเวชทำไมคะ?”

ฉินโม่หานอุบเอาไว้ “รอให้ถึงก่อนแล้วคุณจะรู้เอง”

พูดจบ ชายหนุ่มก็ได้ยกมือขึ้นมาลูบบนศีรษะเธอไปเบาๆ “ผมไม่มีทางทำให้คุณลำบากใจหรอก”

ซูสือเยว่เม้มริมฝีปากออกมา พยักหน้าออกมาเงียบๆ

ในเมื่อเขาไม่อยากพูด เธอก็จะไม่ถามอีก

บางทีเขาคงอยากลองตรวจสอบเรื่องที่เธออยู่ที่โรงพยาบาลจิตเวชเมื่อตอนนั้น บางทีเขาก็อาจจะเพียงแค่อยากไปทำความเข้าใจดูก็เท่านั้น

ไม่ว่าจะยังไง เธอก็เชื่อทั้งนั้นว่าเขาจะต้องไม่ทำเรื่องที่จะทำร้ายเธอแน่

ความเชื่อมั่นที่เธอมีต่อเขามันร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว

คิดถึงตรงนี้แล้ว หญิงสาวก็มองไปข้างนอกหน้าต่างรถ แล้วก็เปลี่ยนประเด็นไปเงียบๆ

“ครั้งที่แล้วตอนที่ฉันถามหนานเซิง หนานเซิงบอกว่าเขามีคนที่ชอบ”

“เรื่องนี้คุณรู้หรือเปล่า?”

ฉินโม่หานพยักหน้าออกมาเงียบๆ “รู้ครับ”

“ทำไมจู่ๆถึงถามเรื่องนี้ อยากรู้เรื่องคนที่หนานเซิงชอบคนนั้น?”

ซูสือเยว่พยักหน้ายอมรับออกมาอย่างเก้อเขินเล็กน้อย “ไม่มีอะไรหนีพ้นสายตาคุณไปได้เลยจริงๆ”

เธออยากรู้อยู่บ้างจริงๆนั่นแหละ ทั้งๆที่ฉินหนานเซิงแคร์ลั่วเยียนขนาดนั้น แต่ก็ไม่คบกับลั่วเยียน ไม่ยอมรับว่าชอบลั่วเยียน

แล้วยังพูดออกมาไม่หยุดว่าเขามีคนที่ชอบแล้ว

อย่างนั้นแล้วในเมื่อเขามีคนที่ชอบแล้ว ทำไมเขาถึงต้องทำตัวลอยชายไปวันๆ เอ้อระเหยอยู่ในวงการบันเทิง?

เธอเชื่อว่าลั่วเยียนไม่ใช่ผู้หญิงที่จะไปเซ้าซี้คนอื่นไม่เลิก ถ้าฉินหนานเซิงคบกับผู้หญิงคนอื่นจริงๆ ลั่วเยียนไม่มีทางไล่ตามอย่างไม่มียางอายหรอก

แต่ฉินหนานเซิงกลับไม่เคยประกาศความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหน ไม่ชัดเจนกับผู้หญิงคนไหนเลยสักคน และก็ไม่ได้คบกับผู้หญิงที่เขาพูดออกมาจากปากเลยว่าชอบคนนั้นด้วย

ทั้งหมดนี้มันแปลกเกินไป ไม่ใช่เหรอ?

“ซิงหยุนบอกว่าเด็กผู้หญิงอยากรู้อยากเห็นไปเสียหมด ผมก็ไม่เชื่ออยู่หรอก ที่แท้มันก็เป็นความจริง”

ชายหนุ่มทอดถอนหายใจออกมา หันหน้าไปมองวิวด้านนอกหน้าต่าง “ผู้หญิงคนนั้นที่ฉินหนานเซิงนั้น ผมเคยเจอ”

“แต่เป็นเมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้แม้แต่ผมเองก็จำรูปลักษณ์หน้าตาเธอได้ไม่ชัดแล้วเหมือนกัน”

ซูสือเยว่ย่นคิ้วออกมา “เธอ…”

“เธอเสียแล้ว”

น้ำเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มได้ดังขึ้นมาในรถนิ่งๆ “ผู้หญิงคนนั้นชื่อว่าจื่อเหยา ลู่จื่อเหยา”

“ตอนหนานเซิงเด็กๆ มีช่วงหนึ่งที่พลัดหลงจากคนที่บ้าน ถูกผู้หวังดีส่งไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า”

“จื่อเหยาก็คือเด็กที่เขารู้จักตอนที่อยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า สดใสน่ารัก”

“ในภายหลังหนานเซิงถูกคนที่บ้านตามหาจนเจอ เขาก็ได้แยกจากเด็กผู้หญิงคนนั้น”

“แต่ในช่วงหลายปีมานั้น เขากับจื่อเหยาได้ติดต่อกันทางจดหมายกันตลอด

“ประมาณห้าหกปีที่แล้วล่ะมั้ง พวกเขาได้พบกันใหม่อีกครั้ง หนานเซิงเริ่มตามจีบจื่อเหยาอย่างบ้าคลั่ง แต่ตอนนั้นจื่อเหยาได้ป่วยระยะสุดท้าย กำลังจะตายในไม่ช้า”

“หนึ่งปีต่อจากนั้นจื่อเหยาก็เสียชีวิต หนานเซิงสาบานเอาไว้ว่าชั่วชีวิตนี้จะไม่รักผู้หญิงคนอื่นอีก”

เรื่องราวนี้ทำเอาซูสือเยว่ตะลึกขึ้นมาไม่หยุด “นึกไม่ถึงเลย…”

นึกไม่ถึงเลยว่าหนานเซิงที่ทุกวันเอาแต่เอ้อระเหยลอยชาย จะเป็นพวกจมอยู่กับความรักด้วย

“ใช่แล้ว”

“ก่อนที่จื่อเหยาจะจากไปได้บอกกับหนานเซิงว่า ชีวิตนี้เธอคนที่เธออยากขอโทษมากที่สุดและปล่อยวางไม่ได้ที่สุดเลยก็คือเพื่อนรักที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ชื่อว่าลั่วเยียน”

“อย่างนั้นแล้วต่อมาหนานเซิงเจอลั่วเยียน ทั้งสองคนก็ได้กลายเป็นเพื่อนกัน”

“แต่สิ่งที่ทำให้หนานเซิงนึกไม่ถึงเลยก็คือลั่วเยียนดันมาชอบเขาเสียได้

“ด้านหนึ่งเขาก็ต้องรักษาสัญญาที่ว่าจะดูแลลั่วเยียน เพื่อชดเชยให้จื่อเหยา อีกด้านหนึ่งก็ไม่อาจจะยอมรับมิตรภาพที่ลั่วเยียนมีต่อเขาได้”

“ดังนั้นแล้วฉินหนานเซิงที่คุณเห็นก็เลยเป็นคนที่ขัดแย้งกับตัวเองอย่างนี้ บางทีก็มีความรู้สึกลึกซึ้งเป็นอย่างมาก บางทีก็มีไร้หัวใจเป็นอย่างมาก”

คำพูดของชายหนุ่มทำให้มือทั้งสองข้างของซูสือเยว่กำหมัดแน่น

เธอนึกไม่ถึงเลยว่าที่แท้ระหว่างฉินหนานเซิงกับลั่วเยียน…จะเป็นเพราะเป็นคนรู้จักกับผู้หญิงที่ฉินหนานเซิงชอบคนนั้น

ส่วนลั่วเยียน นึกไม่ถึงว่าจะเคยเป็นเพื่อนสนิทของลู่จื่อเหยาคนนั้น?

นี่มันจะ…เหลือเชื่อเกินไปแล้วมั้ยเนี่ย?

ในตอนที่หญิงสาวกำลังตะลึงอยู่นั้น รถก็ได้มาถึงโรงพยาบาลจิตเวชเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ไป๋ลั่วรีบลงจากรถไปเปิดประตูทันที “คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง ลงจากรถเถอะครับ?”

ฉินโม่หานพยักหน้าออกมาเล็กน้อย หลังจากที่อ้อมรถไปเปิดประตูให้กับซูสือเยว่ งอแขนยื่นออกไป

ซูสือเยว่ถือโอกาสเข้าไปคล้องแขนของ ทั้งสองคนก็ได้เข้าโรงพยาบาลจิตเวชไปด้วยกัน

พอเข้าประตูไป กลิ่นอายความกดดันนั้น ได้ทำให้ซูสือเยว่รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาเล็กน้อย

เธอรู้สึกปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อย

ทั้งหมดของที่นี่ได้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเดจาวูขึ้นมา

แต่ตอนที่เธอตั้งใจนึกย้อนไปว่าเธอเคยมาเมื่อไหร่ หัวมันก็เริ่มปวดขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่

“คุณฉิน คุณมาแล้ว!”

ทันทีที่ทั้งสองคนเดินเข้าประตูไป ชายวัยกลางคนคนหนึ่งได้ออกมาต้อนรับ

ชายคนนั้นเดินเข้ามาอย่างสุภาพเป็นอย่างมาก “พวกเรามารอพวกคุณกันนานแล้ว!”

รอจนทั้งสองคนเดินใกล้เข้ามา ซูสือเยว่ถึงได้มองเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน

เธอเบิกตากว้างออกมาทันที “หัวหน้าผู้กำกับ!?”

ผู้ชายคนตรงหน้านี้ไม่ใช่คนอื่น เป็นผู้กำกับหลินหัวหน้าผู้กำกับที่ถ่ายเรื่อง《ชั่วฟ้ากาลเวลา》ให้เธอเมื่อก่อนหน้านี้!

“สือเยว่”

ผู้กำกับหลินมองซูสือเยว่ไปด้วยรอยยิ้ม “พวกเราเจอกันอีกแล้ว”

“ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่?”

หัวหน้าผู้กำกับคนนึงมาโรงพยาบาลจิตเวช?

“ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่…”

ผู้กำกับหลินมองฉินโม่หานไปแวบนึง “คุณฉิน คุณยังไม่ได้บอกสือเยว่?”

“อืม”

ผู้กำกับหลินจึงได้ตบหน้าผากออกมา เริ่มทำการแนะนำให้กับซูสือเยว่ “ช่วงนี้พวกเราได้ทำแผนการถ่ายทำหนึ่งขึ้นมา เรียกว่าช่วงเวลาที่งดงามที่สุด จุดประสงค์ก็คืออยากให้นักแสดงทุกคนมีเวทีดีๆที่จะแสดงฝีมือของตัวเองกัน”

“โครงการนี้คุณฉินเป็นผู้ลงทุน ต้องการให้นักแสดงใช้บทที่กำหนดให้ในฉากที่กำหนด แสดงกันแบบสดๆ จากนั้นก็ปล่อยลงออนไลน์ จะมีการตัดสินทักษะการแสดงโดยเหล่าชาวเน็ต”

“สุดท้ายจะมีการแข่งขันออกมาถึงนักแสดงที่แสดงเก่งที่สุด”

พูดจบ เขาก็ยังตบไหล่ของซูสือเยว่ไปเบาๆ “สือเยว่ อีกเดี๋ยวเธอก็ต้องแสดงออกมาให้ดีๆ รักษาโอกาสดีๆเอาไว้ให้ได้ล่ะ!”

“อย่าทำให้ความคาดหวังที่คุณฉินมีต่อเธอต้องผิดหวังไปล่ะ!”

ซูสือเยว่ย่นคิ้วออกมา เดินตามผู้กำกับหลินไปพลาง หันหน้าไปมองฉินโม่หานที่กำลังยืนอยู่ตรงที่เดิมไปพลาง ในใจก็ได้มีคำพูดมากมายผุดขึ้นมาทันที

แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ได้พูดอะไร

สิ้นสุดปลายทางตรงชั้นสองของโรงพยาบาลจิตเวช มีห้องผู้ป่วยที่ว่างอยู่ห้องหนึ่ง

ด้านในห้องผู้ป่วยได้มีคนยืนถือเครื่องมืออยู่เต็มไปหมด

“สือเยว่ การแสดงของเธอมันง่ายมาก”

ผู้กำกับหลินหยิบบทออกมาอธิบายให้กับซูสือเยว่ด้วยรอยยิ้ม “เธอต้องแสดงเป็นคนที่ไม่ได้ป่วยคนนึง แต่ถูกหมอกับพยาบาลจับฉีดยาอยู่ที่ตรงนี้”

“ไม่มีปัญหาหรอกใช่มั้ย?”

ซูสือเยว่กัดริมฝีปากออกมาเล็กน้อย พร้อมกับพยักหน้าออกมา “ไม่มีปัญหาค่ะ”

พูดจบ ผู้กำกับหลินก็ให้ซูสือเยว่ไปท่องบทให้คล่องสักหน่อย พร้อมกับเปลี่ยนชุดผู้ป่วย

เปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซูสือเยว่ก็ขมวดคิ้วอ่านบทไป

เธอแน่ใจว่าบทนี้คงจะเป็นเรื่องที่ฉินโม่หานเจาะจงทำมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ

ในเมื่อซูจิ่นเฉิงใช้ภาพพวกนั้นมาขู่เธอ เขาก็จะให้ภาพพวกนี้ของเธอเผยแพร่ออกไปให้ทั่ว!

การตกแต่งทั้งหมดที่อยู่ภายในห้องนี้มันเหมือนกับในภาพของเมื่อตอนนั้นไม่มีผิด

ขอเพียงแค่เธอแสดงเนื้อหาที่อยู่ในภาพออกไป ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วซูจิ่นเฉิงจะปล่อยภาพออกไป เธอก็ไม่ต้องกลัวเลยก็ได้!

คิดถึงตรงนี้แล้ว หัวใจของหญิงสาวรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาอย่างมาก

นึกไม่ถึงว่าฉินโม่หานจะคาดเดาอยู่ก่อนแล้วว่าเธอจะไม่มีทางจะถอนฟ้องอยู่แล้ว และก็ไม่มีทางจะถอนคำให้การ ก็เลยได้เหลือทางหนีทีไล่เอาไว้ให้เธอก่อนแล้ว

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset