สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 134 ไม่ต้องตามหาลูกของลูกแล้ว

พ้นผิดงั้นหรอ

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว “คุณฟังผิดหรือเปล่า?”

ซูโม่จะพ้นผิดได้ยังไง?

เธอเป็นพยานที่เห็นเหตุการณ์ลั่วเยียนถูกลักพาตัว หนึ่งคือเธอไม่ได้ปลอมแปลงสอบปากคำ สองคือเธอไม่ได้ยกเลิกการแจ้งความ ถ้าหลักฐานหนาแน่น แล้วเขาจะพ้นผิดได้ยังไง

“ไม่ผิด”

เสียงของลั่วชิงเจ๋อฝั่งปลายสายเต็มไปด้วยความโกรธ “ได้ยินมาว่าพ่อของซูโม่ได้ออกใบรับรองการประเมินว่าซูโม่ป่วยทางจิต หลังจากตรวจแล้ว พบว่าซูโม่ป่วยเป็นโรควิตกกังวลคลั่งไคล้เป็นระยะ? ตอนที่วางแผนลักพาตัวพี่ผม เป็นช่วงที่อาการของเธอกำเริบ”

“ซูสือเยว่ คุณว่านี่กำลังโกหกอยู่ไม่ใช่หรอ?”

“เป็นแบบนนี้ไปได้ยังไง!”

ฝั่งต้นสาย ซูสือเยว่จับโทรศัพท์ในมือไว้อย่างแน่น

ก็ว่าทำไมเมื่อกี้ที่เธอกับหานหยุนเดินออกมาจากโรงพยาบาลจิตเวช ถึงได้เจอรถยนต์ของซูจิ่นเฉิง

ครั้งนี้ซูจิ่นเฉิงไปโรงพยาบาลจิตเวช ไม่ได้มาหาหลักฐานที่เธอรักษาตัวหรือเป็นคนไข้อยู่ที่นี่ แต่ไปหาคนช่วยพิสุจน์ว่า ซูโม่นั้นป่วยจิตนี่เอง!

เธอหลับตาลง “คุณใจเย็นก่อนนะ เดี๋ยวฉันลองหาวิธีดู”

“ครับ!”

ลั่วชิงเจ๋อฝั่งปลายสายกัดฟันอย่างแน่น “ซูสือเยว่ พี่ผมเป็นถึงขนาดนั้นแล้ว ผมหวังว่าคนทำผิดจะไม่หนีไปนะ”

“แน่นอน ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ ถ้าคุณช่วยได้ก็ช่วย”

“ถ้าช่วยไม่ได้จริงๆ……ผมก็จะไปสู้กับซูโม่นั่นไม่ผมกับเขาใครสักคนต้องตายกันไปข้าง เพราะยังไงชีวิตผมก็ไม่ได้มีค่าอะไร!”

น้ำเสียงที่เหมือนวัยรุ่นหัวร้อน ทำให้ซูสือเยว่ขมวดคิ้วเข้าหากันเบาๆ “ลั่วเยียนคงไม่อยากฟังคุณพูดอะไรแบบนี้”

พูดจบ เธอก็ถอนหายใจออกมา “คุณดูแลพ่อแม่คุณไปก่อน แล้วรอข่าวจากฉัน”

หลังจากที่พูดจบประโยคนี้ เธอไม่รอให้ลั่วชิงเจ๋อได้ตอบกลับ แล้วกดวางสายในทันที

หานหยุนตรงหน้าเธอขมวดคิ้ว “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“คุณหมอหาน”

ซูสือเยว่เงยหน้าขึ้น ใช้สายตาที่จริงจังมองเขา “คุณพอจะเข้าใจ โรควิตกกังวลที่มาเป็นระยะๆไหมคะ?”

หานหยุนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอหัวเราะ “เพื่อนคุณป่วยเป็นโรคนี้?”

“เปล่าค่ะ”

เธอเม้มปาก ก่อนจะเล่าบทสนทนาที่เธอคุยโทรศัพท์กับลั่วชิงเจ๋อให้หานหยุนฟังคร่าวๆ

“คุณหมอหาน อาการแบบนี้ ต้องทำยังไงคะ?”

“คุณถามผมเนี่ย ถือว่าถามถูกคนแล้วครับ”

หานหยุนยกกาแฟขึ้นมาจิบ “ผมเคยทำวิจัยด้านนี้มาก่อน”

“ส่งคนไข้คนนี้ให้ผม ถ้าหากเขาป่วย ผมสามารถรักษาเขาให้ดีขึ้นได้ แล้วให้เขากลับเข้าคุกใหม่”

“ถ้าหากเขาไม่ได้ป่วย……ผมก็จะทำให้เขาได้ป่วยสมปรารถนาครับ”

ตอนที่พูดถึงคำว่า“สมปรารถนา” ใบหน้าของหานหยุนปรากฏรอยยิ้มแปลกๆขึ้น

ซูสือเยว่ที่เห็นถึงกับขนลุกไปทั้งตัว

ถึงแม้จะรู้ว่าจริงๆแล้วคุณหมอหานเป็นคนดี แต่รอยยิ้มที่แปลกของเขา ทำให้ซูสือเยว่ต่อสู้กับความคิดตัวเองอยู่สักพัก

น้ำเสียงเธอสั่นเครือเบาๆ “งั้นคุณหมอหาน คุณจะช่วยฉันไหมคะ?”

หานหยุนเกี่ยวยิ้มมุมปากนิ่งๆ “ช่วยได้แน่นอนสิครับ”

“แต่ว่า”

ดวงตาลที่คมยาวของเขามองซูสือเยว่อย่างนิ่งๆ “เมื่อวานผมช่วยคุณ ก็เพราะว่าไป๋ยู่หนาน”

“ที่วันนี้ช่วยคุณ ก็เพราะรู้สึกว่าคุณก็เป็นคนที่ไม่แย่คนหนึ่ง”

“แต่ผม ไม่สามารถช่วยคุณไปได้ตลอดนะครับ”

เขาวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะด้วยท่าทางที่สง่า “ซูสือเยว่คุณกับผมไม่ได้เป็นญาติหรือคนสนิท”

“ถ้าผมบอกว่า ผมสามารถช่วยคุณได้แค่หนึ่งเรื่อง คุณจะเลือกยังไง?”

ดวงตาที่คมลึกของเขาจ้องมองไปที่ใบหน้าเธอ “ไปหายาให้คุณที่ศูนย์วิจัย หรือจะให้ทำคดีของเพื่อนคุณพลิก ระหว่างสองอย่างนี้ คุณเลือกให้ผมช่วยได้แค่เรื่องเดียว”

“คุณเลือกยังไงครับ?”

ซูสือเยว่ถึงกับอึ้ง

เธอไม่เคยคิดว่าหานหยุนจะถามคำถามนี้กับเธอ

แน่นอนว่าเธอรู้ว่า ผู้เชี่ยวชาญหานหยุนกับเธอไม่ได้เป็นญาติหรือคนสนิทกัน ไม่มีทางที่เขาจะช่วยเธอไปตลอด เธอก็เคยคิดว่าหลังจบเรื่องจะเอาเงินที่ได้จากการถ่ายหนังมาขอบคุณเขา

แต่ตอนนี้เขาดันโยนคำถามนี้ออกมา และให้เธอเลือกหนึ่งในสองตัวเลือกอย่างเด็ดขาด

หญิงสาวกัดริมฝีปาก

ด้านหนึ่ง ความทรงจำที่เธออยากฟื้น แต่ไม่อยากเจ็บปวดเหมือนเมื่อวาน ถ้าให้หานหยุนไปหายาที่ศูนย์วิจัยมาให้เธอ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

ส่วนอีกด้าน ลั่วเยียนกลายเป็นแบบนี้ เธอก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบ ยังไงแล้ว ตอนนี้อารมณ์ของตระกูลลั่วไม่ค่อยดีนัก ถ้าสุดท้ายแล้วซูโม่ไม่ได้รับการลงโทษใดๆ……

หญิงสาวหักนิ้วและใช้ความคิดเป็นเวลานาน

ทันใดนั้น เธอก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วใช้สายตาที่จริงจังมองไปยังหานหยุน “ฉันเลือกช่วยเหลือเพื่อนฉันค่ะ”

ความทรงจำของเธอ ถึงจะไม่มียาช่วย แต่เพียงแค่เธอพยายาม ลำบากมากกว่านิดหน่อย ยังไงความจำก็ต้องฟื้นกลับมาได้

แต่ซูโม่ไม่เหมือนกัน

ถ้ารอบนี้ปล่อยให้ซูโม่หนีพ้นไปได้ งั้นครั้งหน้า คงต้องมีคนเจ็บตัวอีก

อีกอย่าง ถึงแม้หลังจากนี้ซูโม่จะไม่ทำ งั้นใครจะมาชดใช้ความเจ็บปวดของลั่วเยียน?

หานหยุนยกยิ้มเบาๆ แล้วมองตาเธอ “ได้ครับ”

“แต่ว่า”

น้ำเสียงของชายหนุ่มดูลึกลับ “ถ้าผมทำเรื่องนี้สำเร็จ คุณยังต้องช่วยผมเรื่องหนึ่งนะ”

ซูสือเยว่พยักหน้า เพราะของฟรีนั้นไม่มีบนโลก “ช่วยอะไรคะ?”

“ไม่รู้”

เขามองเธอแล้วหัวเราะ “แต่ยังไง ไม่ใช่เรื่องฆ่าคน หรือทำลายครอบครัวของคุณหรอก”

“รอผมคิดได้แล้ว ค่อยบอกคุณนะ”

“โอเคค่ะ”

หลังจากที่ทั้งสองตกลงกันเสร็จ หานหยุนก็ขอข้อมูลซูโม่จากซูสือเยว่เล็กน้อยแล้วจากไป

หลังจากที่หานหยุนกลับไป เธอโทรหาลั่วชิงเจ๋อและปลอบคนตระกูลลั่วก่อน จากนั้นก็นั่งเหม่อคนเดียวอยู่ในร้านอาหารต่อ

หลังจากที่เวลาล่วงเลยไปนาน เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดโทรหาเจี่ยนเฉิง

ยังคงปิดเครื่องเหมือนเดิม

ช่วยไม่ได้ เธอคงทำได้แค่ทิ้งข้อความไว้ให้เขาแล้วแหละ

“มีเพื่อนคนหนึ่งบอกว่า ห้าปีก่อนหนูไม่เคยเป็นบ้าแม้แต่นิด”

“เขายังบอกอีกว่า ที่หนูความจำเสื่อมอาจจะเกิดจากฝีมือของคน ไม่ได้เกิดจากอาการป่วยทางจิต”

“พ่อคะ ตอนนั้นพ่อเป็นคนจัดการเรื่องที่หนูเข้าโรงพยาบาล พ่อน่าจะเข้าใจอาการของหนูมากที่สุด บอกหนูได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”

“ไม่ต้องปิดบังหนูแล้วค่ะ หนูนึกออกแล้ว ลูกของหนูยังไม่ตาย”

หลังจากที่ส่งข้อความเสร็จ หญิงสาวก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วเก็บโทรศัพท์

แต่เธอคาดไม่ถึงว่า ข้อความเพิ่งจะถูกส่งไปนาน เจี่ยนเฉิงก็โทรกลับมาแล้ว

“สือเยว่”

เสียงผู้ชายในโทรศัพท์แหบแห้ง และอ่อนแอไม่น้อย “ทำไมจู่ๆถึงพูดถึงเรื่องเมื่อห้าปีก่อน?”

“ฉินโม่หานเป็นคนบอกหรอ?”

ซูสือเยว่เลิกคิ้วขึ้น เรื่องห้าปีก่อนเกี่ยวข้องกับฉินโม่หานด้วย?

“เพราะฉะนั้นพ่อคะ ห้าปีก่อนเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

เจี่ยนเฉิงเงียบไปสักพัก

“ตอนนั้นคนที่ส่งลูกเข้าโรงพยาบาลจิตเวช คือพ่อจริงๆ”

“แต่ตอนนั้นพ่อมีเหตุผลของพ่อ”

“ตอนนั้นที่ลูกบาดเจ็บ เพราะปัญหาส่วนตัวของพ่อ ก็เลยไม่ได้ส่งถึงในโรงพยาบาลด้วยตัวเอง แต่เจอเพื่อนที่เป็นหมอที่นั่นพอดี จากคำแนะนำของเขา ก็เลยส่งลูกเข้าไป”

“ให้ลูกเข้าโรงพยาบาลจิตเวช ก็เพราะรักษาโรคอื่นๆของลูก ไม่ใช่เพื่อทำร้ายลูก”

“แล้วก็ ไม่ต้องตามหาลูกของลูกแล้ว”

“เด็กคนนั้นเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคนอื่น ถึงลูกหาเจอ ลูกจะทำยังไงต่อ?”

“ให้เด็กออกมาจากพ่อเขากับตระกูลเขาแล้วมาอยู่กับลูกหรอ? บริษัทตอนนี้ของลูกยอมให้ทำแบบนี้ไหม?”

“ถ้าพาเด็กออกมาไม่ได้ งั้นลูกจะเจอหรือไม่เจอเขา จะมีอะไรแตกต่างกันหรอ?”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset