สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 151 ฉันมันก็แค่คนโง่ที่ไม่มีคนรัก

นักข่าวหนุ่มตกใจกับสายตาคมกริบของฉินโม่หาน จนถึงขั้นถอยหลังไปก้าวหนึ่ง “ไม่…ไม่มีอะไรแล้ว”

ดวงตาที่ไร้ซึ่งความรู้สึกคู่นั้นของฉินโม่หานกวาดตามองเหตุการณ์ด้วยความเย็นชารอบหนึ่ง “คนอื่นล่ะ ยังมีคนจะถามคำถามอะไรอีกไหม?”

นักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้ากันไปมา มองคนนั้นทีคนนี้ที จนไม่มีใครกล้าปริปากส่งเสียงอะไรออกมาอีกแล้ว

“ไม่มีคำถามกันแล้วนะ”

ฉินโม่หานกระแอมเสียงออกมา จากนั้นก็ทำท่าทางอยู่เหนือทุกคน สายตาจ้องมองกล้องวงจรปิด “ซูสือเยว่เป็นภรรยาของผม ต่อไปไม่ว่าใครหน้าไหน อยากจะแตะต้องเธอ ก็ถามผมก่อนว่าผมอนุญาตไหม”

คำพูดนี้ ภายนอกก็เหมือนว่า เขากำลังพูดกับเกรียนคีย์บอร์ดที่กำลังก่อกวนเป็นห่วงจนล้ำเส้นเหล่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว เขาพูดให้จี้หนานเฟิง เย่เชียนจิ่ว และคนที่ต้องการจะแตะต้องซูสือเยว่เพื่อให้พวกเขาฟัง

ไม่ว่าจะเป็นการ “แตะต้อง” ด้วยวิธีไหนก็ตาม ขอแค่มีเขาอยู่ หน้าไหนก็อย่าคิดที่จะแตะต้องซูสือเยว่!

คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างปรบมือกันดังลั่น

ภาพสะท้อนจากตัวโปรเจคเตอร์ ก็หยุดอยู่แค่ตรงนั้น

จากนั้นนั้น ในโปรเจคเตอร์ก็ปรากฏภาพซิงหยุนกับซิงเฉินยืนคู่อยู่ด้วยกัน

เด็กหนุ่มทั้งสองคนยืนชิดอยู่ข้างกำแพงสีขาว พร้อมทั้งยิ้มแฉ่งให้กับกล้อง

ซิงเฉิน “หม่ามี๊ หม่ามี๊ก็อย่ากล่าวโทษกับความโรแมนติกแบบเชยๆ ของแด๊ดดี้เลย ทั้งหมดนี่เขาก็ขุดเอาสมองที่มีแต่เรื่องงาน ถึงได้คิดการสารภาพรักที่แสนโรแมนติกนี้ออกมาได้”

ซิงหยุน “แม้ว่ารูปแบบการสารภาพรักจะทำให้คนอยากจะอาเจียนไปมากก็ตามที แต่ว่าคุณฉินแก่จนปูนนี้แล้ว การหวั่นไหวสักครั้งมันก็ไม่ง่ายเลย”

ซิงเฉิน: “ดังนั้นหม่ามี๊ หม่ามี๊น่าจะรู้ว่าเพราะอะไรพวกเราถึงได้อัดคลิปวิดีโอแล้วใช่ไหม?”

ซิงหยุน: “ก็เพราะว่าผู้ชายแก่ๆ เขาหน้าบางนะสิ ไม่อยากจะสารภาพรักเอง เลยให้พวกเราสองคนออกหน้าเป็นตัวตั้งตัวตีแทน”

เมื่อพูดเรื่องนี้เสร็จแล้ว เด็กหนุ่มสองคนก็สบตากัน พร้อมทั้งถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย

ซิงเฉินหยิบป้ายยาวๆ ออกมาจากด้านหลัง จากนั้นก็ยัดด้านหนึ่งใส่มือของซิงหยุนทันที ส่วนตัวเองนั้นก็จับอีกฝั่งเอาไว้ จากนั้นก็ค่อยๆ แผ่ขยายออกมา

ป้ายสีแดงยาวเหยียด ส่วนตัวอักษรสีเหลืองตนเองเป็นคนเขียนเอง

“ฉินโม่หานรักซูสือเยว่”

ซูสือเยว่เดิมทีที่รู้สึกซาบซึ้งจนน้ำตาคลอเบ้า แต่เมื่อเห็นป้ายสีแดงนี้ จนต้องหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้

เธอหัวเราะจนหงายหลัง จากนั้นก็หันไปมองผู้ชายที่อยู่ด้านข้าง “ทั้งหมดนี่คือคุณให้พวกเขาเตรียมการเอาไว้ใช่ไหม?”

ขมับของชายหนุ่มเต้นตุบๆ

เขาแทบไม่รู้เลยว่าเจ้าสองหนุ่มนี่ยังอัดคลิปวิดีโอแบบนี้เอาไว้ด้วย!

ชายหนุ่มได้แต่ตีหน้าขรึมปฏิเสธหน้าตาย “ผมเปล่านะ”

เขาเปล่าทำจริงๆ!

แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าวิธีการสารภาพอย่างเป็นทางการของตนเองนั้นจะไม่โรแมนติกพอ

แต่ว่าเขาก็ไม่ยอมให้เจ้าสองคนนั้นอัดวิดีโอให้เขาแบบนี้!

ช่างก่อเรื่องจริงๆ!

“ผมรู้แล้ว คุณฉินโม่หานต้องอายจนไม่ยอมรับแน่ๆ เลยพูดว่าเขาไม่ได้ให้พวกเราเตรียมการเรื่องนี้ไว้”

ซิงเฉินถอนหายใจเล็กน้อย “หม่ามี๊ หม่ามี๊ต้องชินนะ คุณฉินโม่หานเขาก็เป็นคนประเภทนี้แหละ ปากไม่ตรงกับใจ แถข้างๆ คูๆ ”

“ทั้งๆ ที่เขาชอบคุณชอบจนบ้าคลั่งแล้วเนี่ย แถมยังพูดกับพวกเราอีกว่า การที่เขาเปิดเผยว่ากำลังมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับหม่ามี๊ ก็แค่ไม่อยากให้หม่ามี๊ต้องประสบพบเจอกับความวุ่นวายเท่านั้นเอง”

ซิงหยุนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “สิ่งที่คุณฉินทำลงไปนั้นแสดงให้เห็นว่าเพื่อให้ตนเองได้รู้สึกอิจฉาน้อยลงเท่านั้นเอง”

“หม่ามี๊ ความเชยสุดโต่งมันก็คือความโรแมนติกนะ”

“หม่ามี๊รับรู้ความรู้สึกรักของคุณฉินที่รักหม่ามี๊หรือยัง?”

วิดีโอมาถึงตรงนี้ ก็จบลงพอดี

แสงไฟในโปรเจคเตอร์ก็มลายหายไป ในห้องก็สว่างขึ้นมา

บนหน้าของซูสือเยว่ยังมีน้ำตาอยู่ ทว่ายิ้มหน้าบานจนปวดกรามแล้ว

ตอนแรกเริ่มนั้นฉินโม่หานรู้สึกว่าไม่พอใจสักเท่าไหร่

ทว่า เมื่อเห็นว่าเธอทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะไปพร้อมกัน ความน่ารักมันทำให้คนอยากจะกัดสักนิดจริงๆ เขาถอนหายใจเล็กน้อย

ไม่นานนัก รอจนเธอหัวเราะจนเหนื่อยแล้ว เขาถึงได้ดึงตัวเธอให้ลุกขึ้นมาจากนั้นก็กอดให้อยู่ในอ้อมกอด พร้อมทั้งใช้นิ้วบนฝ่ามือใหญ่ค่อยๆ เช็ดปาดน้ำตาบนใบหน้าของเธอ “มีความสุขขนาดนั้นเชียว?”

“อื้อ!”

ซูสือเยว่เม้มริมฝีปาก พร้อมทั้งยกแขนกระหวัดเกี่ยวต้นคอของเขาเอาไว้อย่าบ้าบิ่น “คุณสามี”

น้อยครั้งนักที่เธอจะเรียกเขาว่าอย่างนี้

ก่อนหน้านี้รู้สึกว่าพวกเขาไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อกัน การที่เรียกเช่นนี้มันไม่เหมาะสม

ต่อมาชินกับการเรียกว่าท่านชาย ก็เลยเรียกออกมาไม่ได้

ทว่าคืนนี้ เวลานี้วินาทีนี้ เธอก็แค่อยากจะเรียกเขาแบบนี้ ได้แค่เรียกเขาแบบนี้แล้ว

“อื้อ”

น้ำเสียงออดอ้อนของหญิงสาว มันทำให้แววตาฉินโม่หานอ่อนโยนลงไปเยอะ

เขายกมือและประคองกอดเธออย่างแผ่วเบา “เด็กดี”

น้ำเสียงชายหนุ่มทุ้มต่ำและเด่นชัด พร้อมทั้งมีความล่อหลอกจนทำให้คนสับสนได้

อ้อมกอดของเขาอบอุ่นที่สุดแล้ว

ซูสือเยว่แนบพิงอยู่ในอ้อมอกของเขา เหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่พูดออกมาไม่ได้

หลังจากเงียบงันอยู่นาน ในที่สุดเธอก็แหงนหน้าขึ้นมา พร้อมทั้งใช้ดวงตาสุกสกาวจ้องมองเขาเอาไว้ “ขอบคุณค่ะ”

ขอบคุณที่เขาทำทุกอย่างเพื่อเธอ

ตอนที่แต่งงานกับเขา เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า สุดท้ายแล้วตนเองจะได้รับชายหนุ่มที่แสนอ่อนโยนคนนี้

ทุกอย่างในเวลานี้ สำหรับเธอแล้ว ราวกับความฝัน

“ทำไมต้องขอบคุณด้วย”

ชายหนุ่มชูมือขึ้นมาพลันลูบศีรษะของเธออย่างแผ่วเบา “คุณเป็นภรรยาผมนะ”

สิ่งที่เขาทำเพื่อเธอ ล้วนเป็นสิ่งที่ควรทำทั้งสิ้น

ทว่า…

“ผมอยากจะพูดให้ชัดเจนกันก่อน”

“วิดีโอของซิงหยุนกับซิงเฉินเมื่อครู่… ผมไม่ได้เป็นคนให้พวกเขาถ่ายเอาไว้นะ”

“ผมไม่รู้เรื่องด้วย”

เขาไม่ได้เชยขนาดนั้นนะ!

สีหน้าของซูสือเยว่ค้างเติ่งเล็กน้อย

เขาพูดว่า วิดีโอนั่นเขาไม่ได้ให้ซิงหยุนกับซิงเฉินเป็นคนถ่าย

ดังนั้นนี่หมายความว่า …

เธอก้มศีรษะลง พร้อมทั้งพูดเสียงอ่อย “ฉันรู้แล้ว”

ที่เขาทำดีกับเธอ ความจริงแล้วเป็นเพราะว่าเขาอยู่ในฐานะสามีเท่านั้นเอง

สามีคนหนึ่งปฏิบัติกับภรรยาตามความรับผิดชอบก็แค่เท่านั้นเอง

เขาปฏิบัติต่อเธอ อาจจะชอบก็ได้

แต่ ยังไม่ถึงระดับคำว่ารักแหละมั้ง…

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ความตื่นเต้นแต่เดิม หัวใจที่พองโตเริ่มบีบรัดลงเล็กน้อย

ชั่วครู่ หญิงสาวแหงนหน้ามองพลันสูดลมหายใจเข้า “ไม่เป็นไร”

“ฉันก็ไม่รู้สึกว่าคุณจะรักฉันขึ้นมา”

“ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนที่เป็นแบบนี้ มันก็ดีมากแล้ว”

เธอไม่สมควรจะที่ใฝ่ฝันลมๆ แล้งๆ ให้มากมายนัก

ทุกอย่างที่ได้มาในเวลานี้ ต่างเกินความคาดหมายของเธอไปไกลมากแล้ว

คนเราต้องเรียนรู้ความพอดี

ฉินโม่หานขมวดคิ้วแน่น “ผมไม่ได้หมายความอย่างนี้สักหน่อย”

หญิงสาวไม่ได้เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการอธิบายเลย

เธอก้มหน้าก้มตาลง และส่ายหน้าปฏิเสธอยู่เงียบๆ “ไม่เป็นไร คุณไม่ต้องปลอบใจฉันหรอก”

“ความจริงแล้ว …ความจริงแล้วฉันก็ไม่รักคุณหรอก”

“เราเป็นแบบนี้ก็ดีมากแล้ว”

“เรื่องของความรู้สึก บางทีฉันอาจจะไม่มีสิทธิ์…”

ฉินโม่หานขมวดคิ้ว ยิ่งมองสาวน้อยที่กำลังบ่นน้อยเนื้อต่ำใจอยู่เช่นนั้น จนเขาทั้งปวดใจแล้วตลกไปพร้อมกัน

เขารู้สึกมาตลอด เรื่องของความรัก ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา

แค่ทำให้เห็น ก็พอแล้ว

สิ่งที่เขาทำเพื่อเธอทั้งหมด เขาคิดว่าเธอก็คงมองเห็นถึงความหมายจากใจเขาอย่างชัดเจนแล้ว

ทว่าผลลัพธ์ที่ได้กลับมาล่ะ?

“เด็กโง่เอ๊ย”

น้ำเสียงของชายหนุ่ม ทำให้น้ำตาของซูสือเยว่ที่อดกลั้นเอาไว้นานเริ่มทนไม่ไหวแล้ว

เธอสูดลมหายใจเข้า พร้อมทั้งกลั้นน้ำตาเอาไว้อย่างสุดกำลังแล้ว “ฉันไม่ใช่เด็กโง่นี่ คุณก็ไม่ได้รู้จักฉันวันนี้เป็นวันแรกสักหน่อย”

“ความรู้สึกที่อยู่ในใจของคุณ พร่ำบอกว่าฉันก็แค่คนโง่ที่ไม่มีคนรักเหรอ”

“ฉัน…”

“อื้อ–!”

เธอยังพูดไม่ทันจบ ชายหนุ่มก็ใช้ฝ่ามือใหญ่เชิดปลายคางเธอขึ้นมา จากนั้นก็บรรจงจูบเธออย่างเผ็ดร้อน

การจูบของเขาทั้งดุดันและบ้าคลั่ง จนทำให้เธออ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน

เธอเบิกตาตาโต อยากจะขัดขืน แต่กลับขัดขืนไม่ได้เลย

จนสุดท้ายแล้ว เธอก็ถูกกดลงบนเตียงนุ่ม

ชายหนุ่มใช้มือข้างหนึ่งดึงมือทั้งสองข้างของเธอตรึงไว้บนศีรษะ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็กดเอวคอดกิ่วของเธอเอาไว้

เธอถลำเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจังหวะของเขาด้วย

ฉินโม่หานจุมพิตตรงติ่งหูของเธอ น้ำเสียงกระเส่าเจ้าเล่ห์ “ต่อไป ไม่อนุญาตให้คิดเองเออเองอีกแล้วนะ”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset