สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 196 ผมติดต่อคนของตระกูลฉินได้

“คุณ……คุณหนูใหญ่”

ผู้ดูแลบ้านถูกซูสือเยว่บีบคอ จนสีหน้าเขาแดงก่ำ “คุณ……”

“ได้โปรดไว้ชีวิต……”

“ตอนนี้รู้จักคำว่า ไว้ชีวิต แล้วหรอ?”

ซูสือเยว่ถอนหายใจอย่างเย็นชา และยังคงออกแรงบีบคอต่อไป

“ซูสือเยว่!”

เมื่อเห็นผู้ดูแลบ้านแทบจะกลอกตาแล้ว หานหยุนที่อยู่ด้านหลังก็รีบเรียกขานชื่อเธอ

เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย พลางยกขาที่ยาวเหยียดนั้นเตะไปที่ขาของผู้ดูแลบ้านอย่างโหดเหี้ยมก่อนจะปล่อยเขาไป

ผู้ดูแลบ้านรู้สึกเจ็บและไร้ซึ่งเรี่ยวแรง สุดท้ายเขาก็พิงกำแพงและล้มพับไป

ซูสือเยว่หันหลังกลับไปยังข้างเตียงนอน เธอนั่งมองผู้ดูแลบ้านด้วยท่านั่งไขว่ห้างอย่างสง่าผ่าเผยอยู่ตรงนั้น

“ตอนนี้รู้หรือยังล่ะว่า ใครเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้และใครเป็นคนรับใช้?

ผู้ดูแลบ้านใช้มือกุมคอที่เจ็บเพราะโดนบีบ จากนั้นก็เอ่ยปากพูดอย่างยากลำบาก “รู้……รู้แล้วครับ”

“ดีมาก”

เธอจ้องหน้าผู้ดูแลบ้านอย่างเย็นชา “ฉันจะมอบหมายงานให้นายสักหน่อย”

“คุณพูดมาได้เลยครับ”

“ฉันมีลูกสามคน”

ซูสือเยว่ยกมือขึ้นมาลูบเส้นผมตัวเองอย่างเบามือ “ลูกชายสอง ลูกสาวหนึ่ง”

“ตอนนี้พวกเขาน่าจะอายุราวๆ……”

เธอกวาดตามองเวลาก่อนจะพูดต่อ “ราวๆห้าขวบ”

พูดจบ เธอก็มองไปที่หานหยุน “ผู้ชายในรูปเมื่อกี้ ชื่ออะไร?”

หานหยุนตะลึงงันและตอบกลับโดยไม่รอช้า “ชื่อฉินโม่หานครับ”

“อืม”

เธอมองหน้าผู้ดูแลบ้านด้วยท่าทีที่ทรงพลัง“พ่อของเด็กๆชื่อ ฉินโม่หาน”

“ลูกชายทั้งสองอยู่กับเขา ส่วนลูกสาวอีกคนยังต้องตามหาต่อไป

“ฉันให้เวลานายหนึ่งสัปดาห์ พาลูกๆของฉันกลับมาให้ได้”

ผู้ดูแลบ้านกุมคอและเงยหน้าด้วยความลำบาก “คุณหนูใหญ่ คุณ……คุณกลับมาครั้งนี้ ก็เพราะต้องมาเกี่ยวดองกับตระกูลจี้ เพื่อให้ตระกูลเจี่ยนของเราได้รับเงินลงทุน…..”

“คุณมาตามหาลูกของตัวเองอย่างเอิกเกริกยิ่งใหญ่แบบนี้……ดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ ว่าไหมครับ?”

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว “ฉันรับปากนายเมื่อไหร่ว่าจะแต่งงาน?”

ผู้ดูแลบ้านเลิกคิ้ว “ ถ้าคุณไม่แต่งงาน ตระกูลเจี่ยนของเรา…..”

เธอยิ้มเยาะ

“ในสายตาของนาย นอกจากเรื่องที่ผู้หญิงต้องแต่งออก ก็ไม่มีวิธีอื่นที่จะทำให้ครอบครัวตัวเองหลุดพ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้แล้วหรอ?”

“อย่าลืมสิ ฉันเป็นลูกสาวของหลิวหรูเยียนนะ”

หลังจากที่พ่อของเธอเสียชีวิต แม่ของเธอเป็นคนที่ทำให้ตระกูลเจี่ยนยืนหยัดอยู่ในโลกธุรกิจยุโรปได้อย่างตระหง่านมั่นคง เธอก็ต้องทำได้สิ!

ครุ่นคิดมาถึงตอนนี้ ซูสือเยว่ก็ขมวดคิ้วอย่างเย็นชา “แม่ฉันทำได้ ฉันก็ทำได้”

สีหน้าของผู้ดูแลบ้านยังคงมีความลังเลใจ“แต่ว่า……”

“แต่อะไร!”

ซูสือเยว่จ้องเขาตาเขม่น “นายเมินเฉยกับสิ่งที่ฉันพูดไปหรอ?”

“ไม่ครับ ไม่กล้า…..”

“แล้วยังไม่รีบไปอีก?”

เธอจ้องเขาตาเขม่นอีกครั้ง “หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ฉันจะต้องได้เห็นหน้าลูกทั้งสามคนของฉัน”

พูดจบ เธอก็ครุ่นคิดอีกครั้ง

“พาฉินโม่หานมาหาฉันด้วย”

ทันทีที่เธอได้ยินซูสือเยว่เอ่ยชื่อถึงฉินโม่หาน หานหยุนก็กระแอมในทันที “พาฉินโม่หานมาทำอะไรหรอครับ?”

ถ้าฉินโม่หานรู้ว่าซูสือเยว่เป็นแบบนี้ เพราะยาที่หานหยุนฉีดให้เธอนั้นมีปัญหา……ก็เกรงว่าฉินโม่หานจะโดนฉีกเขาเป็นชิ้นๆแบบคาที่

ซูสือเยว่มองเขาอย่างเย็นยะเยือก “แน่นอนว่าจับมาเพื่อทุบตีเขาสักตั้ง ”

พูดจบ จู่ๆเธอก็นึกถึงอะไรบางอย่าง เธอหันไปชำเลืองมองหานหยุน “ฉินโม่หานนี่ แต่งงานหรือยัง?”

หากจำไม่ผิด ซูสือเยว่ในเวลานั้นอยากแต่งงานกับฉินโม่หาน ทว่าเธอไม่สามารถมีลูกได้ จึงได้คิดวิธีแบบนั้นออกมา

หานหยุนลังเลชั่วครู่ “นับว่า……แต่งงานแล้ว”

คู่รักของฉินโม่หานก็คือผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขานี่ไง

“สงสารภรรยาเขาจริงๆ”

ซูสือเยว่หาวหนึ่งที จากนั้นก็ถลึงตาใส่ผู้ดูแลบ้านอย่างเย็นชา “ยังอยู่ที่นี่ทำไม? รีบออกไปตามหาสิ!”

ผู้ดูแลบ้านหยุดชั่วครู่ จากนั้นก็ลุกขึ้นมาแบบแทบล้มทั้งยืน และออกไปจากห้องด้วยความเร็วแสง

“ผู้ดูแลบ้านเสิ่นชจะช่วยคุณหนูใหญ่ตามหาเด็กๆของเธอและหนุ่มนามสกุลฉินนั้น……จริงหรอ?”

เมื่อออกมาจากห้องของซูสือเยว่ กลุ่มคนรับใช้ที่เดินตามหลังผู้ดูแลบ้าน ก็นบน้อมก้มหัวพร้อมกับยื่นกระดาษทิชชู่ให้เขา

ผู้ดูแลบ้านเสิ่นรับกระดาษทิชชู่มา พลางเหล่ตามองคนรับใช้คนนั้นอย่างเลือดเย็น “จะตามหาพวกเขาเพื่ออะไร เพื่อให้เธอรื้อฟื้นความทรงจำหรอ?”

พูดจบ เขาก็ใช้ทิชชู่ซับเหงื่อที่อยู่บนหน้าผาก “รู้ดีว่าหานหยุนยังคงเป็นกังวล ฉันก็เลยแอบหาคนมาเปลี่ยนยาของเขาเป็นการพิเศษ”

“เพื่อความเนียน ฉันเลยสั่งให้ใส่แค่นิดเดียว”

เขามองตรงไปข้างหน้าด้วยสายตาที่เย็นยะเยือก “ดูเหมือนว่าตอนนี้จะเพียงพอแล้วล่ะ”

“แต่ว่าผู้ดูแลบ้านเสิ่น……”

คนรับใช้ที่อยู่ด้านหลังมีความลังเลเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยปากถาม “ทำไมผมกลับคิดว่า คุณหนูใหญ่ในตอนนี้เทียบไม่ได้กับคุณหนูใหญ่ในตอนที่ยังไม่สูญเสียความทรงจำ…..”

ก่อนที่ซูสือเยว่จะความจำเสื่อม แม้ว่าเธอจะทำตัวไร้เหตุผล แต่ก็ไม่ได้ชอบใช้ความรุนแรงถึงขั้นนี้……”

ทว่าหลังจากที่เธอสูญเสียความทรงจำไปแล้ว นิสัยก็แทบจะเปลี่ยนเป็นคนละคน……

ผู้ดูแลบ้านเสิ่นยิ้มเยาะ “จะมีประโยชน์อะไร?”

“ให้เธอทำตัวน่ารำคาญไปก่อน รอให้ถึงวันแต่งงาน จากนั้นก็ลอบตีเธอให้สลบและค่อยนำไปส่งที่ตระกูลจี้

“งานแต่งครั้งนี้ เธอก็จะเป็นคนของตระกูลจี้แล้ว

หลังจากที่หลิวหรูเยียนกลายเป็นคนที่อยู่ในสภาพผักเรื้อรัง LYกรุ๊ปก็พร้อมจะจ้องเขมือบ ญาติฝ่ายภรรยาของตระกูลเจี่ยนก็มีความคิดที่จะรับช่วงต่อและยึดตระกูลเจี่ยนมารวมกับของตนเองอยู่ตลอดเวลา

ตอนนี้ตระกูลเจี่ยนมีผู้จ้องแต่จะเอาประโยชน์ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

แม้ว่าตระกูลเจี่ยนจะให้คุณหนูรองแต่งงานกับของคุณชายบ้านเล็กของตระกูลจี้ได้ไม่นาน แต่แค่นี้ก็ยังไม่พอ

คนในตระกูลจี้ที่ร่ำรวยและมีอำนาจอย่างแท้จริง ก็คือลูกชายคนโตของตระกูลจี้

คุณชายจี้หนานเฟิงลูกชายคนโต ไม่เพียงแต่มีการหมั้นหมายกับซูสือเยว่มาตั้งแต่วัยเด็ก ทว่ายังคงให้ความสำคัญกับเรื่องของสายสัมพันธ์อยู่

หากซูสือเยว่แต่งออกได้เร็วเท่าไร ตระกูลเจี่ยนก็พอมีทางรอด!

ครุ่นคิดมาถึงตรงนี้ ผู้ดูแลบ้านเสิ่นก็เลิกคิ้วในทันที “ว่าแต่ตระกูลจี้ตอบกลับมาหรือยัง?”

คนรับใช้นิ่งไปชั่วครู่ “ตอบกลับแล้ว……”

“พวกเขาบอกว่าคุณชายจี้หนานเฟิงกลับเมืองหรงในคืนนั้นเลย ดูเหมือนว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับผู้หญิงที่เขาชอบ……”

ผู้ดูแลบ้านเสิ่นขมวดคิ้วมุ่น

“ตระกูลจี้ไม่ได้บอกหรอว่า อีกนานแค่ไหนที่เขาจะกลับมา?”

“ว่ากันว่าหนึ่งถึงสองสัปดาห์……”

หนึ่งถึงสองสัปดาห์

ผู้ดูแลบ้านเสิ่นจำได้คร่าวๆว่า ซูสือเยว่ให้เวลาเขาหนึ่งสัปดาห์ในการพาลูกทั้งสามคนของเธอนั้นกลับมา

เขาไม่พูดไม่จาอยู่สักพัก จากนั้นก็เปรยตามองคนใช้ “แกล้งทำเป็นตามหาก่อน อย่าให้เธอจับพิรุธได้”

เพราะหากเขานิ่งนอนใจ เกรงว่าจี้หนานเฟิงยังไม่ทันกลับมา เขาจะโดนเธอบีบคอตายเสียก่อน

……

“คุณคิดว่าผู้ดูแลบ้านเสิ่นจะช่วยคุณตามหาเด็กๆและพากลับมาไหม?”

หานหยุนยืนอยู่ในห้องนอนของซูสือเยว่และใช้สายตามองตามผู้ดูแลบ้านที่อยู่ในระยะไกล พลางขมวดคิ้วและถามผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังเขา

ซูสือเยว่พิงเก้าอี้ เธอลับมีดคัตเตอร์ที่แหลมคมด้วยท่านั่งที่ดูสง่า “แน่นอนว่าเขาไม่สามารถช่วยฉันได้อย่างใจจริง แต่อย่างน้อยก็ได้ใช้ลูกไม้ตบตาคน”

หานหยุนตะลึงงัน พลางหันขวับ “แล้วคุณมีแผนจะทำอะไร? ไม่ตามหาเด็กๆแล้วหรอ?

“แน่นอนว่าไม่”

ซูสือเยว่มองต่ำ สายตาจับจ้องไปที่ใบมีดที่เงาระยับ “ฉันคิดว่าจะรอสะสางเรื่องของตระกูลเจี่ยนให้เสร็จก่อน จากนั้นจะกลับเมืองหรงเพื่อตามหาพวกเขาด้วยตัวเอง”

เมื่อเห็นท่าทีที่เธอลับมีด หานหยุนก็ถอยหลังออกมาหนึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัว

“น่าจะอีกนานเลยใช่ไหมครับ?”

ซูสือเยว่เงยหน้ามองเขา “หรือว่านายมีวิธีที่ดีกว่านี้?”

หานหยุนเงียบไปชั่วขณะ

ผ่านไปสักพัก เขาก็แหงนหน้าขึ้นมา “ให้ฉินโม่หานพาเด็กๆมาไม่ดีกว่าหรอครับ?”

ซูสือเยว่ยิ้ม “พวกเขาจะยอมมาง่ายๆหรอ?”

หานหยุนพยักหน้า “ผมติดต่อคนของตระกูลฉินได้”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset