สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 206 คุยเงื่อนไขกับแด๊ดดี้ของหนู

คำพูดของซูสือเยว่ ทำให้สีหน้าของผู้ดูแลบ้านเสิ่นดูแย่ขึ้นมาในทันที

เธอบอกว่า จะให้แย่งฉินโม่หานกลับไปเป็นสามี!

ต้องเป็นคนแบบไหนถึงจะแย่งใครสักคนไปเป็นสามี?

มันโจรชัดๆ !

คำพูดของซูสือเยว่ดูผิวเผินเหมือนกับว่าอยากจะพาฉินโม่หานกลับไป แต่ว่าความจริงแล้วนั้น……

เธอกำลังบอกว่าตระกูลเจี่ยนเป็นโจร!

ผู้ดูแลบ้านเสิ่นมองหน้าซูสือเยว่ด้วยสีหน้าที่หนักอึ้งและกัดฟันกรอก “คุณผู้หญิง หยุดวุ่นวายได้แล้วครับ”

“คุณต้องเป็นตัวแทนของตระกูลเจี่ยน แต่งงานกับคุณชายใหญ่ของตระกูลจี้”

“ผู้ดูแลบ้านเสิ่น”

ฉินโม่หานยิ้มจางๆ แล้วก็ยื่นมือไปโอบซูสือเยว่ไว้ “ก่อนหน้านี้ผมเคยบอกคุณแล้วไง ว่าซูสือเยว่คือภรรยาของผม”

“พวกเรามีทะเบียนสมรส และเป็นคู่สามีภรรยากันตามกฎหมาย”

ผู้ดูแลบ้านเสิ่นหัวเราะอย่างเย็นชา “คุณเองก็รู้ว่า ทะเบียนสมรสของคุณนั้นจดกับซูสือเยว่นิ? ”

“แต่ว่าคุณผู้หญิงของตระกูลเรา มีชื่อของเธอเอง! เธอชื่อเจี่ยนสือ!”

ผู้หญิงในอ้อมแขนของฉินโม่หานขมวดคิ้วเล็กน้อย

ชื่อนี้……

เธอไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เลย

“ฉันเปลี่ยนชื่อไม่ได้เหรอ?”

“ได้สิครับ”

ผู้ดูแลบ้านเสิ่น “ถ้าไม่เปลี่ยนชื่อ ก็หย่าสิ”

“หนูไม่เห็นด้วย!”

บนบันไดนั้น ซิงกวงที่สวมใส่ชุดเดรสสีขาวก็ค่อยๆ เดินลงมา “หนูไม่เห็นด้วย!”

ผู้ดูแลบ้านเสิ่นเหลือบมองเธอ ทันใดนั้นดวงตาเขาก็เป็นประกายทันที!

เด็กน้อยคนนี้ เขาเคยเห็น!

จี้ซิงกวง

เด็กน้อยที่คุณชายของตระกูลจี้เก็บมาเลี้ยง เธอเคยไปเข้าร่วมงานฉลองวันเกิดของคุณหญิงใหญ่ตระกูลจี้เธอเป็นเด็กฉลาดและหัวใจ คนของตระกูลจี้ทั้งหมดต่างชื่นชอบเธอ!

ผู้ดูแลบ้านเสิ่นที่เมื่อกี้ยังมองซิงกวงด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม ก็เปลี่ยนสีหน้าทันที

“องค์หญิงน้อยจี้ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันครับ? ”

ซิงกวงทำปากมุ่ย แล้วก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าซูสือเยว่กับฉินโม่หานด้วยสีท่าทางที่สง่างาม แล้วก็มองหน้าผู้ดูแลบ้านเสิ่นด้วยสีหน้าที่หยิ่งผยอง “หนูก็ต้องอยู่ที่นี่สิ”

“เพราะว่าฉินโม่หานคือพ่อแท้ๆ และซูสือเยว่ก็คือแม่แท้ๆ ของหนูไง!”

ผู้ดูแลบ้านเสิ่นหน้าซีด

ลูกบุญธรรมของคุณชายตระกูลจี้……

คือลูกของฉินโม่หานยังงั้นเหรอ?

“หนูไม่เห็นด้วยที่แด๊ดดี้กับหม่ามี๊จะหย่ากัน และหนูก็ไม่อยากให้คุณอาจี้แต่งงานกับหม่ามี๊ของหนูด้วย”

ซิงกวงกอดอก “ถ้าเกิดว่าคุณจะให้หม่ามี๊แต่งงานกับคุณอาจี้ให้ได้ หนูจะบอกคุณยาย ว่าคุณบังคับให้หนูแยกจากพ่อแท้ๆ หนูจะเป็นโรคซึมเศร้า หนูไม่มีความสุข!”

“ถึงเวลานั้นก็คอยดูได้เลย ว่าคุณยายจะให้ตระกูลจี้ช่วยตระกูลเจี่ยนอยู่รึเปล่า!”

เสียงของสาวน้อยนั้นใสซื่อ แต่กลับน่าเกรงขามอย่างมาก

ผู้ดูแลบ้านเสิ่นเหงื่อซึมออกหน้าผาก

คุณหญิงใหญ่ของตระกูลจี้รักสาวน้อยคนนี้ขนาดไหน เขาเองก็เคยเห็นอยู่

ตอนแรก……

เพราะว่าจี้ซิงกวงอยากกินสตอเบอร์รี่ คุณหญิงใหญ่ให้ซื้อสตอเบอรี่จากทั่วทุกมุมโลกมาให้เธอเลือก

เพราะว่าจี้ซิงกวงอยากเล่นสกี คุณหญิงใหญ่ก็ทุ่มเงินหลายสิบล้านเพื่อสร้างสกีรีสอร์ตให้เธอกลางฤดูร้อน

เพราะว่าจี้ซิงกวงรู้สึกว่าชื่อตัวเองเป็นเหมือนดวงดาว ก็เลยชอบแหงนมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว คุณหญิงใหญ่ก็ซื้อดาวเคราะห์ในอวกาศให้เธอดวงหนึ่ง และตั้งชื่อว่าซิงกวงน้อย……

คนในสังคมชั้นสูงของยุโรปต่างก็พูดว่า ถึงแม้ว่าจี้ซิงกวงจะเป็นเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง แต่ว่าคุณหญิงใหญ่จี้ปฏิบัติกับเธอนั้น เช่นเดียวกับที่ปฏิบัติกับเจ้าบ้านตระกูลจี้ในขณะนั้น ทั้งโอ๋ทั้งให้ความสำคัญ

แม้แต่มีคนบอกว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณหญิงใหญ่จี้นั้น เด็กน้อยคนนี้ยังเป็นที่โปรดปรานมากกว่าคนรับเลี้ยงเธออย่างจี้หนานเฟิงอีก

ยิ่งคิด เหงื่อของผู้ดูแลบ้านเสิ่นยิ่งออกมาก

คนๆ นี้คือปีศาจตัวน้อยที่เขาไม่สามารถทำให้คับข้องใจได้จริงๆ!

ถ้าเกิดว่าเขาบังคับให้ซูสือเยว่หย่ากับฉินโม่หานและแต่งงานกับจี้หนานเฟิงจริงๆล่ะก็ สาวน้อยคนนี้ต้องไปนินทาว่าร้ายกับคุณหญฺงใหญ่จี้อย่างแน่นอน

ส่วนเรื่องที่ตระกูลจี้จะช่วยเหลือตระกูลเจี่ยนในอนาคตนั้น ถึงมีอุปสรรคมากมายโดยแน่

ถึงแม้เขาจะไม่คิดว่าคุณหญิงใหญ่จี้จะไม่มีสติเพราะว่าเด็กคนนี้ แต่……ถ้าเกิดว่าใช่ล่ะ?

พอคิดได้แบบนี้ เขาก็เช็ดเหงื่อที่หน้าผากของตัวเอง ก็โน้มตัวลงไปมองซิงกวงตัวน้อยที่ตัวไม่สูงเท่าไหร่แต่กลับดูมีพลังอำนาจเป็นอย่างมาก “ถ้ายังงั้นหนูอยากให้ทำยังไงล่ะ? ”

ซิงกวงโบกมือ “คุยเรื่องเงื่อนไขกับแด๊ดดี้!”

ในเมื่อพูดมาขนาดนี้แล้ว ผู้ดูแลบ้านเสิ่นถอนหายใจออกมา แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองฉินโม่หาน “ถ้างั้น……คุยก็ได้”

……

ณ เมืองหรง

จี้หนานเฟิงกำลังนั่งดื่มคลายทุกข์อยู่ในบาร์

เขากลับมาเมืองหรงหลายวันแล้ว

ตอนแรกนั้น เขาตรวจสอบสถานที่ในวันที่ซูสือเยว่หายตัวไปซ้ำแล้วซ้ำอีก

แต่ว่าก็ไม่เจอเบาะแสอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

หลังจากนั้นเขาก็พบว่า ไม่เพียงแต่ซูสือเยว่หายตัวไป ฉินโม่หานก็ยังพาลูกทั้งสามคนไปด้วย

ซิงกวงไม่ได้ติดต่อเขา แค่ทิ้งเจิ้งเจิงไว้ แล้วบอกเขาว่า เธอกับแด๊ดดี้และพี่ชายอีกสองคนจะไปตามหาหม่ามี๊

“คุณอาจี้ หนูจะคิดถึงคุณอา! รอให้หนูหาหม่ามี๊เจอเมื่อไหร่ หนูจะกลับมานะคะ!”

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วก็ฟังคำพูดที่สาวน้อยทิ้งไว้ให้เขาครั้งแล้วครั้งเล่า

สุดท้าย ชายหนุ่มก็ถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง

ซูสือเยว่……

เธอหายไปไหนกันแน่?

“คุณจี้?”

เหลียงหยูซินที่กำลังมากินข้าวกับเพื่อนนั้นผลักประตูเข้ามา แล้วก็จำเขาที่นั่งอยู่ตรงมุมได้ในทันที

หญิงสาวทักทายเพื่อนๆ ของเธอ แล้วก็เดินเข้ามานั่งลงข้างๆ เขา “ยังไม่มีข่าวคราวของซูสือเยว่เลยเหรอ? ”

จี้หนานเฟิงหันไปมองเธอ แล้วก็ส่ายหัวอย่างขมขื่น

“ค่อยๆ แล้วกัน”

เหลียงหยูซินถอนหายใจ แล้วก็สั่งเหล้ามาสองแก้ว แล้วก็นั่งพิงบาร์อย่างสบายๆ “ที่นายกลับไปในครั้งนี้ เพราะจะไปยกเลิกสัญญาหมั้นกับตระกูลเจี่ยนอะไรนั่นไม่ใช่เหรอ? ”

“ได้ยินมาว่าตระกูลเจี่ยนคนนั้นถูกพบแล้ว? ”

“ฉันไม่ได้เจอเธอ”

จี้หนานเฟิงขมวดคิ้ว แล้วก็หยิบแก้วขึ้นมาดื่ม “ฉันไม่ได้สนใจในตัวเธอ”

“ตระกูลเจี่ยนเร่งรีบจะให้เธอแต่งงานกับฉัน ก็เพราะว่าต้องการจะให้ตระกูลจี้ช่วยเหลือตระกูลเจี่ยน”

“ฉันไม่ต้องการให้การแต่งงานของฉันกลายเป็นเครื่องมือทางธุรกิจของทั้งสองครอบครัว”

“ยิ่งไปกว่านั้น”

ชายหนุ่มวางแก้วลง “คนที่ตระกูลเจี่ยนพากลับมานั้น ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นคุณหนูของตระกูลเจี่ยนจริงๆ ”

เหลียงหยูซินพยักหน้า

“ตระกูลของพวกเราเป็นญาติห่างๆ ของตระกูลเจี่ยน”

“พ่อฉันก็เคยช่วยตระกูลเจี่ยนตามหาคุณหนูเหมือนกัน”

“คุณหนูของตระกูลเจี่ยนมีเอกลักษณ์เฉพาะอยู่สองอย่าง อย่างแรกคือมีปานรูปหัวใจที่เอว ส่วนอย่างที่สอง……เธอสวมจี้หยกของหลิวหรูเยียน”

พอพูดจบ เธอก็วางรูปปานและจี้หยกลงบนโต๊ะ “ตอนนี้สถานการณ์ของตระกูลเจี่ยนค่อนข้างจะเข้าขั้นวิกฤต ผู้ดูแลบ้านเสิ่นมีความเป็นไปได้อย่างมากว่าจะเอาตัวปลอมมา หลักฐานสองอย่างนี้……ถือว่าฉันช่วยนายแล้วกัน”

จี้หนานเฟิงมองเธอนิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไร

เหลียงหยูซินยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ว่าเพื่อนเธอที่อยู่ชั้นบนก็เริ่มเรียกหาเธอแล้ว

เธอบอกลาจี้หนานเฟิงแล้วก็เดินออกไป

หลังจากที่เหลียงหยูซินไปแล้ว จี้หนานเฟิงก็มองดูรูปบนโต๊ะ แล้วก็หัวเราะอย่างเย็นชา

เขาหยิบเหล้าที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาดื่ม แล้วก็เดินออกไป

หลังจากที่ชายหนุ่มออกไปแล้ว บาร์เทนเดอร์ก็ขมวดคิ้ว กำลังอยากจะหยิบสองรูปนั้นขึ้นมาเพื่อเอาไปทิ้ง ทันใดนั้นก็มีมือของผู้หญิงคนหนึ่งยื่นเข้ามาแย่งรูปนั้นไป

หยางชิงโยวหยิบรูปนั้นมา “ขอโทษทีค่ะ พอดีว่าคนเมื่อกี้คือเพื่อนฉันเอง เดี๋ยวฉันเก็บไว้ให้เขาเอง”

เพราะว่ากลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับจี้หนานเฟิง หลายวันมานี้ เธอก็ตามเขาไปทุกย่างก้าว

พอออกจากบาร์มาแล้ว เธอก็เหลือบมองรูปภาพในมือของเธอ

ทันใดนั้น เธอก็อึ้งไปในทันที

จี้หยกนี้……

หญิงสาวก็รีบเรียกรถกลับบ้าน แล้วก็หยิบจี้หยกที่เหมือนกับในรูปเป๊ะๆ ออกมาจากลิ้นชัก

ข้างหูก็มีเสียงที่เย่เชียนจิ่วพูดกับเธอดังแว่วขึ้นมา

“นี่คือสิ่งที่น้องสาวของซูสือเยว่ ซูโม่ให้ฉันเอาไว้ ว่ากันว่าเป็นสิ่งที่แม่ของซูสือเยว่ทิ้งไว้ให้ แพงมาก”

“แต่ว่าฉันให้คนมาประเมินแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นหยกแท้ แต่ฝีมือไม่ละเอียด ลายก็ไม่สวย ราคาก็เลยอยู่ที่แค่แสนหยวนเท่านั้น”

“มันไม่มีค่าเทียบเท่าชุดราตรีของฉันด้วยซ้ำ ฉันให้เธอแล้วกัน”

หยางชิงโยวหรี่ตา แล้วก็กำจี้หยกในมือแน่น

ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็ลงไปเรียกแท็กซี่ “ไปโรงพยาบาลจิตเวชในเมืองค่ะ”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset