สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 208 ช่วยแด๊ดดี้หน่อย

ตอนที่ฉินโม่หานกับซูสือเยว่ออกมาจากห้องผู้ป่วยนั้น ด้านนอกนั้นก็ไร้เงาของผู้ดูแลบ้านเสิ่น

ผู้คุ้มกันยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูด้วยสายตาที่เย็นชา “ผู้ดูแลบ้านเสิ่นบอกว่ามีเรื่องด่วนให้ต้องจัดการ ก็เลยไปสนามบินแล้วครับ”

เขามองซูสือเยว่อย่าดูถูก “ก่อนผู้ดูแลบ้านเสิ่นจะไปนั้นได้ให้ฝากบอกว่า ว่าถ้าเกิดว่าคุณหนูไม่อยากจะกลับตระกูลเจี่ยนกับพวกเราล่ะก็ ก็อยู่กับคุณฉินต่อไปก็ได้ครับ”

“คุณไม่อยากจะแยกจากลูกทั้งสามคนของคุณ เขาเองก็เข้าใจ”

พอพูดจบ ผู้คุ้มกันก็เดินออกไป

ซูสือเยว่ยื่นอึ้งอยู่กับที่ แล้วก็ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น

ผู้ดูแลบ้านเสิ่นคนนี้ ตอนที่เธออยู่ที่ตระกูลเจี่ยนนั้น เขาทำทุกวิถีทางเพื่อหาคนมาเฝ้าเธอ ไม่อนุญาตให้เธอหนีออกไปได้

หลังจากนั้นพอเธอถูกฉินโม่หานพาตัวมา เขาก็รีบตามมาเพื่อต้องการให้เธอกลับไปที่ตระกูลเจี่ยน

แล้วทำไมแค่เธอเข้าไปเยี่ยมหลิวหรูเยียน ใช้เวลาก็ไม่นานเท่าไหร่นัก นิสัยเขาถึงเปลี่ยนไปได้ล่ะ?

ไม่ใช่แค่ไม่สนใจเรื่องที่เธอไม่กลับบ้าน แถมผู้คุ้มกันด้านนอกก็ไปหมดแล้ว เหลือแค่ผู้คุ้มกันคนเดียวที่เอาไว้ให้รายงานเรื่องนี้กับพวกเขาเนี่ยนะ?

“ไปกันเถอะ”

เสียงที่อบอุ่นของฉินโม่หานดังขึ้นด้านหลังของเธอ

ชายหนุ่มโอบเธอไว้ พร้อมกับยิ้มและเดินไปด้านหน้า “หายากนะกว่าผู้ดูแลบ้านเสิ่นจะหาจิตสำนึกเจอ แล้วก็ปล่อยให้เธอกับฉันได้อยู่ด้วยกันดีๆ ”

พอพูดจบ เขาก็คลี่ยิ้มออก “ตอนเย็นอยากกินอะไร? ”

ความคิดของซูสือเยว่ถูกดึงกลับมาด้วยคำพูดของเขา

เธอเม้มปาก “อยากกินปลา”

ฉินโม่หานชะงักไป

“โอเค”

เขายังจำได้ว่า ตอนที่แต่งงานกันใหม่ๆ นั้น เธอถามผู้ดูแลบ้านว่าเขาชอบกินอะไร

ผู้ดูแลบ้านก็บอกเธอว่าเขาชอบกินปลา

ถึงแม้ว่าเธอจะถูกโจมตีในกองถ่าย และได้รับบาดเจ็บ แต่ว่าเธอก็จะไปตลาดเพื่อซื้อปลามาให้เขากิน

แต่ว่าตั้งแต่ไหนแต่ไรเขายังไม่เคยถามเลยว่า เธอชอบกินอะไร

พอคิดได้แบบนี้แล้ว เขาก็ค่อยๆ พูดออกมา “ที่แท้แล้วเธอชอบกินปลาเหรอ? ”

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว แล้วก็พยายามคิดอย่างละเอียด “เมื่อก่อนฉันก็น่าจะไม่ได้ชอบกินเท่าไหร่นะ”

“แต่ว่าก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามาชอบตอนไหน”

“พอนายถามว่าฉันชอบกินอะไร สิ่งเดียวที่ขึ้นมาในหัวของฉันก็คือปลา”

พอพูดจบ เธอก็ยักไหล่ “บางทีอาจจะชอบตอนที่ฉันสูญเสียความทรงจำไปก็ได้”

ฉินโม่หานโอบแขนของเธอไว้ และก็ชะงักไปเล็กน้อย

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็หัวเราะเบาๆ “น่าจะใช่”

“พอเธอได้ความทรงจำกลับมาเมื่อไหร่ก็จำได้เองแหละ”

หลังจากทั้งสองคนออกจากโรงพยาบาลแล้วนั้น ฉินโม่หานก็ให้ไป๋ลั่วขับรถไปตลาดของสด

เขาเลือกปลาไม่เป็น

ซูสือเยว่หัวเราะเยาะเขา แล้วก็เลือกซื้อปลาไปอย่างตั้งใจ

ฉินโม่หานยืนอยู่ข้างๆ เธอ พร้อมกับมองดูท่าทางที่จริงจังของเธอ แล้วเขาก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน

“สือเยว่”

“เธอ……ความจำเสื่อมจริงๆ เหรอ? ”

ตอนที่เขาได้พบเธออีกครั้งนั้น นิสัยของเธอช่างไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้เลย

แต่ว่าพอได้อยู่ด้วยกันวันหนึ่ง เขากลับพบว่า……

เธอในตอนนี้กับเธอในเมื่อก่อนนั้น ยิ่งเหมือนกันขึ้นเรื่อยๆ

ท่าทางของเธอในตอนนี้ ถ้าบอกว่าเธอไม่ได้ความจำเสื่อม นิสัยไม่ได้เปลี่ยนไป เขาก็เชื่ออย่างหมดใจ

“แน่นอนสิ ไม่งั้นฉันจะเสแสร้งให้นายดูรึไงกัน? ”

ซูสือเยว่เลือกปลาส่งให้เจ้าของร้านจัดการให้พร้อมกับกลอกตาใส่เขา “คุณผู้ชาย ฉันไม่ได้มีอารมณ์สนุกสนานอะไรขนาดนั้นหรอกนะ”

ฉินโม่หานมองเธอแล้วก็ยิ้ม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

พอออกมาจากตลาดสด หญิงสาวก็พิงเบาะหลังอย่างเหนื่อยล้า หลับตาลงแล้วพูดว่า “ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในห้องผู้ป่วย นายแค่ถามว่าฉันยินยอมจะช่วยตระกูลเจี่ยนรึเปล่า”

“แต่ว่านายยังไม่ได้บอกฉันเลยว่า นายกะจะช่วยตระกูลเจี่ยนยังไง? ”

ฉินโม่หานหันออกไปมองนอกหน้าต่างรถ แล้วก็พูดด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ “รู้ไหมว่าศัตรูที่ใหญ่ที่สุดของตระกูลเจี่ยนคือใคร? ”

ซูสือเยว่เบะปาก “LYกรุ๊ปไง ผู้ดูแลบ้านเสิ่นพูดกรอกหูจนฉันเอียนไปหมดแล้ว”

“เขาบอกว่าLYกรุ๊ปพยายามโจมตีตระกูลเจี่ยน”

“เมื่อหกปีก่อนหลังจากที่บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้น ก็เป็นคู่แข่งกับตระกูลเจี่ยนมาโดยตลอด แม้แต่ยอมสูญเสียทางฝั่งของตัวเองได้เหมือนกัน”

“ฉันยังเคยถามผู้ดูแลบ้านเสิ่นอยู่เลย ว่าLYกรุ๊ปเป็นของศัตรูพ่อกับแม่ฉันในเมื่อก่อนรึเปล่า แต่ว่าผู้ดูแลบ้านเสิ่นบอกว่าไม่ใช่”

“ถึงแม้ว่าพ่อกับแม่ของฉันจะเคยทำเรื่องที่ไร้คุณธรรม แต่ว่าอีกฝ่ายก็มีชื่อมีนามสกุล มีร่องรอยให้ติดตามได้”

“แต่ว่าเจ้าของของLYกรุ๊ปนั้น ได้ยินมาว่าลึกลับมาก ที่อยู่นั้นไม่แน่ชัด”

“เบาะแสเดียว เหมือนกับว่าเจ้าของคนนี้น่าจะเป็นทหารผ่านศึกมั้ง? ”

ฉินโม่หานคลี่ยิ้มจางๆ “ฉันรู้จักคนคนหนึ่ง เขาก็เป็นทหารผ่านศึกเหมือนกัน”

“ชื่อย่อของเขา คือLY”

ที่จริงแล้ว เกี่ยวกับLYกรุ๊ปของฉินหลิงยี่นั้น ฉินโม่หานรู้ตั้งนานแล้ว

LYกรุ๊ปกับชวงซิงกรุ๊ปก็กำลังเจรจาเรื่องธุรกิจอยู่ในยุโรปเหมือนกัน ความเป็นศัตรูหรือความสนิสนมในวงการการค้านั้นมันเป็นเรื่องที่ต้องมีอยู่แล้ว

ตั้งแต่ครั้งแรกที่LYกรุ๊ปแย่งกิจการของตระกูลเจี่ยนครั้งแรกนั้น ฉินโม่หานก็ได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของบริษัทนี้ แล้วก็ได้รู้ชื่อของเจ้าของที่อยู่เบื้องหลังด้วย

ดังนั้นหลายปีมานี้ เขาก็เลยให้ชวงซิงกรุ๊ปในต่างประเทศถ้าต้องเจอกับLYกรุ๊ปนั้น หลีกได้ก็หลีก หลบได้ก็หลบ

เพราะว่าตอนนั้นฉินโม่หานคิดว่า พี่รองก็คงเหมือนกับเขา แค่ชอบการทำธุรกิจแค่นั้นเอง

จงใจแข่งขันทางด้านธุรกิจของตระกูลอันดับสองของยุโรป ถึงแม้ว่ามันไม่ได้เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา แต่ก็ถือว่าเป็นวิธีการแข่งขันที่สมเหตุสมผล เขาไม่อยากเปิดเผยตัวเอง แล้วก็ไม่อยากยุ่งด้วย

และเพราะว่าการที่ชวงซิงกรุ๊ปปล่อยLYกรุ๊ปไป เลยทำให้ในเวลาสั้นๆ ห้าปีนี้ LYกรุ๊ปได้พัฒนากลายมาเป็นบริษัททางด้านการเงินอันดับสองรองจากชวงซิงกรุ๊ป

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว แล้วก็หันไปมองฉินโม่หาน “นายหมายความว่ายังไง? ”

“นายรู้จักเจ้าของของLYกรุ๊ปเหรอ? ”

“ไม่ใช่แค่รู้จัก แต่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก”

เรื่องของเย่เชียนจิ่วในครั้งนี้ ในที่สุดฉินโม่หานก็เข้าใจ……

ฉินหลิงยี่ที่เดิมทีที่โอ๋เขามาตั้งแต่เด็กจนโต และมอบความอบอุ่นเพียงหนึ่งเดียวจากตระกูลฉินให้กับเขานั้น ที่จริงแล้วก็เหมือนกับพี่ใหญ่นั่นแหละ ไม่ชอบเขา ดูถูกเขา

พี่ใหญ่ฉินเจี้ยนอานไม่ชอบเขา มันเขียนอยู่บนใบหน้าอย่างชัดเจน

แต่ว่าพี่รองฉินหลิงยี่ กลับเผยให้เห็นท่าทางเหมือนคนดีเสมอ

ที่จริงแล้วเจตนาร้ายที่เห็นได้ชัดของฉินเจี้ยนอาน ยังดูจริงใจกว่าความจอมปลอมของฉินหลิงยี่เยอะเลย

ฉินโม่หานหลับตาลง

สิ่งที่เย่เชียนจิ่วทำกับซูสือเยว่ทั้งหมดนั้น ก็เพราะว่ามีฉินหลิงยี่คอยให้ท้าย

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ทุกครั้งที่เย่เชียนจิ่วทำให้ซูสือเยว่ต้องได้รับบาดเจ็บนั้น ต้องมีฉินหลิงยี่เกี่ยวข้องด้วย

เมื่อก่อนเขาก็ไม่รู้หรอก แต่ว่าตอนนี้……

ในเมื่อซูสือเยว่คือลูกของตระกูลเจี่ยน แล้วเธอก็ต้องการช่วยให้ตระกูลเจี่ยนเอาชนะความยากลำบากนี้

เขาก็ไม่ได้จำเป็นต้องไว้หน้าฉินหลิงยี่อีกแล้ว

ตอนที่เขากำลังรู้สึกทอดถอนใจอยู่นั้น โทรศัพท์ของชายหนุ่มก็ดังขึ้น

ฉินหนานเซิงโทรมา

“อาเล็ก”

น้ำเสียงของฉินหนานเซิงที่อยู่ปลายสายนั้นร้อนรนมาก “อารองหาที่ที่ขังเย่เชียนจิ่วไว้เจอแล้ว แถมยังยัดเงินให้พ่อกับแม่ผมอีก ตอนนี้พวกเขาทั้งสามคนกำลังพาคนมาวุ่นวายที่นี่ จะให้ปล่อยเย่เชียนจิ่วออกไป”

“ทำยังไงดี ผมจะยื้อไม่ไหวแล้ว!”

คิ้วของชายหนุ่มขมวดเข้าหากันอย่างรุนแรง

สถานที่ที่ขังเย่เชียนจิ่วไว้นั้นปกปิดอย่างแน่นหนามาก

แต่ยังไงฉินหลิงยี่ก็เคยเป็นทหารมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ห่างไกลความเจริญแค่ไหนก็หาเจอ

“พวกเขาพาคนมาเท่าไหร่?”

ฉินหนานเซิงขมวดคิ้ว “หลายสิบคนเลย”

“ทำยังไงดี?”

“อย่าพึ่งตื่นตระหนก”

ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกๆ “ฉันจะส่งกำลังเสริมไปให้”

ฉินหนานเซิงขมวดคิ้ว “อาเล็ก อาพาคนของอาไปตามหาสือเยว่หมดแล้ว แล้วจะไปหากำลังเสริมมาจากไหนกันเล่า? ”

“คนรู้จักของผมอาก็รู้จัก ส่วนใหญ่ก็เอาแต่ฟังพ่อของผม มีเพียงไม่กี่คนที่หรอกที่จะคอยปกป้องผมน่ะ…”

“วางใจเถอะ”

พอพูดสองคำนี้เสร็จ ชายหนุ่มก็ตัดสาย แล้วก็โทรออกหาซิงกวง

“ช่วยอะไรแด๊ดดี้หน่อยสิ””

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset