สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 227 ทำไมมีเวลาว่างมาหาผมได้

คำพูดของซูสือเยว่ ทำให้ผู้ดูแลบ้านเสิ่นกับหยางชิงโยวผงะไปทันที

พวกเขาไม่คิดเลยว่า…

ซูสือเยว่จะมีตัวช่วยตัวเธอเองอีก!

คนที่ตกใจที่สุดก็คือหยางชิงโยว

คนคนหนึ่งเมื่อความทรงจำเสื่อม ขนาดนิสัยใจคอและความเคยชินต่างเปลี่ยนไปหมดจริงๆ เหรอเนี่ย?

ทั้งๆ ที่…

ซูสือเยว่คนเมื่อก่อน ไม่สามารถทำเรื่องนี้ได้!

ทว่าตอนนี้…

เธอเงยหน้าเหลือบมองซูสือเยว่

ผู้หญิงคนนี้ที่อยู่ด้านหน้า ใบหน้ายังคงเป็นเช่นเดิม ดวงตาเหมือนเดิม

แต่แววตา กลับไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย

เธอฉุกคิดตอนที่ผู้ดูแลบ้านเสิ่น ให้เธอดูรูปหลิวหรูเยียนตอนช่วงวัยรุ่นก่อนหน้านี้

แววตาของซูสือเยว่ในเวลานี้ ช่างเหมือนกับแววตาหลิวหรูเยียนในรูปใบนั้น ทุก…กระเบียดนิ้ว

หยางชิงโยวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง

ก่อนหน้านี้ที่เธอกล้าหน้าด้านมาปลอมเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลเจี่ยน ความจริงแล้วก็เพราะว่าเธอรู้นิสัยของซูสือเยว่ดี

เธอเป็นคนสงบปากสงบคำ

อย่าได้เอ่ยถึงเย่เชียนจิ่วเลย ขนาดเฉิงเซวียนเซี่ยงหวั่นฉิงสองคนที่เป็นคนไร้ความสามารถ ยังรังแกเธอได้มาตั้งหลายปี

หยางชิงโยวสรุปเอาแล้วว่าแม้ว่าจะแย่งฐานะคุณหนูใหญ่ตระกูลเจี่ยนไปจากซูสือเยว่ก็ตาม ความจริงแล้วก็ไม่กล้าทำอะไรกับเธอ

แต่ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า…

“ซูสือเยว่!”

ผู้ดูแลบ้านเสิ่นจ้องซูสือเยว่ตาเขม็ง “ถ้าแกกล้าจะเอาคำพูดเหล่านี้ไปบอกกับตระกูลจี้ ต่อไปตระกูลเจี่ยนกับแกเป็นศัตรูกัน!”

“ก่อนหน้านี้ฉันเข้าใจผิดคิดว่าแกเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลเจี่ยน ถึงได้ไปเอาตัวแกมา เพื่อให้แกแต่งงานกับคุณชายใหญ่ตระกูลจี้ เพื่อจะทำให้เรื่องแต่งงานตั้งหลายปีของตระกูลเจี่ยนเสร็จสมบูรณ์”

“ฉันไม่หวังว่าแกต้องคอยรบราฆ่าฟันทางธุรกิจเหมือนกับท่านประมุข ฉันแค่หวังว่าให้แกได้ทำตามหน้าที่ของแกอย่างเสร็จสมบูรณ์ แม้ว่าจะเป็นหุ่นเชิดที่ไม่มีความทรงจำก็ตาม ขอแค่แกแต่งงานไป ความยากลำบากของตระกูลเจี่ยนของพวกเราในครั้งนี้ก็จะผ่านไปได้แล้ว!”

“แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ?”

“แกไม่เพียงไม่ยอมแต่งงาน แถมยังเอาสามีและลูกๆ ติดสอยห้อยตามมาจากเมืองหรงอีก”

“แกหวังว่าให้ฉินโม่หานช่วยตระกูลเจี่ยนเสมอภาคกับLYกรุ๊ปเหรอ?”

“ฉินซื่อกรุ๊ปของฉินโม่หาน ก็แค่ตระกูลธุรกิจในเมืองหรงเมืองเล็กๆ เท่านั้นเอง!”

“ทรัพย์สินของฉินซื่อกรุ๊ป ขนาดเอามาเทียบกับตระกูลเจี่ยนยังห่างกันอีกช่วงตัว ที่คอยฝากความหวังให้เขามาช่วยตระกูลเจี่ยนผ่านความลำบากครั้งนี้ไปได้ มันก็เหมือนคนบ้าที่กำลังเพ้อฝันอยู่!”

ผู้ดูแลบ้านเสิ่นสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “แกไม่ยอมแต่งงาน และก็ไม่ยอมจะช่วยตระกูลเจี่ยน ตอนที่ฉันกำลังลำบากใจอยู่นั้น ก็ได้รับสายจากคุณหยาง”

“ฉันรีบมาที่เมืองหรง เพื่อเอาเส้นผมที่เธอเสนอให้ จนสุดท้ายตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว เธอถึงเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยนที่แท้จริง!”

“แต่ผลลัพธ์ที่ได้ในเวลานี้ตระกูลเจี่ยนของพวกเรารอดแล้ว แกก็เริ่มมาก่อกวนอีกแล้ว!”

พูดจบ เขาก็กัดฟันไว้แน่น “ซูสือเยว่ คุณอยากเห็นตระกูลเจี่ยนล่มจมกับตา ใช่ไหม?”

เมื่อเห็นดวงตาที่โกรธเกลียดของผู้ดูแลบ้านเสิ่น

ซูสือเยว่ยิ้มทันที

“ถ้าคนที่คุณหามาได้ไม่ใช่คุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยนที่แท้จริง ตระกูลเจี่ยนถึงได้จบสิ้นกันจริงๆ แล้ว”

หญิงสาวช้อนสายตา พลันกวาดตามองผู้ดูแลบ้านเสิ่นกับหยางชิงโยวอย่างทรงพลัง “ฉันยังคงเก็บความคิดของฉันไว้เช่นเดิม”

“ฉันจะตรวจสอบต่อไป ว่าสุดท้ายแล้วจะให้พวกคุณไสหัวไปซะ หรือว่าจะให้พวกคุณชดใช้ค่าเสียหายให้ฉัน ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบของฉัน”

พูดจบ เธอก็โบกปากกาบันทึกเสียงไปมา “อย่าเล่นตุกติก”

เมื่อพูดทิ้งระเบิดไว้ หญิงสาวก็หันตัว ก้าวฉับๆ เดินออกจากห้องพักผู้ป่วยอย่างสง่าผ่าเผย

ในห้องพักผู้ป่วย ผู้ดูแลบ้านเสิ่นกับหยางชิงโยวสบตากันอย่างเงียบงัน แต่ไม่ได้พูดอะไร

……

เมื่อออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว ซูสือเยว่ก็รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย

ระยะนี้ อาศัยการช่วยเหลือของฉินโม่หานกับเจี่ยนเฉิง จนในที่สุดตนเองก็รับความจริงเรื่องนี้ที่ตนเองเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยนได้

แต่จู่ๆ แม่ก็ไม่ใช่แม่ของเธอซะงั้น แถมสถานะยังไม่ใช่ของเธออีก

แล้วอะไรที่เป็นของเธอกัน?

หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตอนที่กำลังอยากจะเรียกรถกลับบ้านนั้น ทว่าสายตาก็เหลือบไปเห็นนาฬิกาที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

นี่มัน11โมงกว่าเข้าไปแล้ว

ลังเลอยู่สักพัก เธอก็เดินเข้าไปในร้านอาหารที่อยู่ด้านข้าง

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง

ซูสือเยว่ก็ถือกระติกข้าวเก็บความร้อนออกมา พลันปรากฏตัวที่ด้านล่างของตึกชวงซิงกรุ๊ปในเมืองสตัฟฟ์

หญิงสาวยืนอยู่ตรงประตูของบริษัท พลางจ้องมองตึกสูงระฟ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือศีรษะ ก้นบึ้งหัวใจพลันรู้สึกถอนหายใจออกมา

ไม่เสียแรงเลยที่ชวงซิงกรุ๊ปเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่เป็นสองรองใครในโลก

ทั้งสไตล์ และความสง่างามอย่างยิ่งใหญ่

หรูหรากว่าฉินซื่อกรุ๊ปของฉินโม่หานในเมืองหรง ไม่ใช่เล็กไม่ใช่น้อย

หญิงสาวสูดลมหายใจเข้า พลันถือกระติกข้าวเก็บความร้อนเดินเข้าไปด้านใน

“สวัสดีค่ะ ฉันมาหาเพื่อนฉันค่ะ”

ซูสือเยว่ แจ้งชื่อของฉินโม่หานตอนที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ “เขาพูดว่าเขามาเจรจาธุรกิจที่นี่ พวกคุณก็จัดเตรียมห้องทำงานไว้ให้เขาห้องหนึ่งด้วย”

พนักงานสาวหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ตะลึงไปหนึ่งนาที

ชั่วครู่ เธอก็ยื่นคีย์การ์ดของห้องให้กับซูสือเยว่ด้วยอาการลังเล “คุณขึ้นไปเถอะ…”

“ประธานฉินเขากำลังรอคุณอยู่”

ซูสือเยว่พยักหน้าให้ พลันรับคีย์การ์ดขึ้นลิฟต์มา

พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ยืนอยู่ที่เดิม พลางแอบถอนหายใจเบาๆ

ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ ผู้ช่วยของท่านประธานไป๋ลั่วรีบลงจากชั้นบนเพื่อสั่งงาน บอกว่าภายในหนึ่งชั่วโมงจะมีผู้หญิงสวยๆ มาหาท่านประธาน

แถมไม่ให้เธอพูดอะไรทั้งสิ้น เอาคีย์การ์ดให้เธอเลย ให้เธอขึ้นไปก็พอแล้ว

เมื่อเห็นประตูลิฟต์ปิดลง พนักงานสาวหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ได้แต่ส่ายหน้า

มาเจรจาธุรกิจที่ชวงซิงกรุ๊ปแล้วจะมีห้องทำงานของตนเองเหรอ?

คุณซูคนนี้… ก็หลอกง่ายชะมัด?

……

ลิฟต์ถึงชั้นที่สิบห้า

ตอนที่ซูสือเยว่ถือกระติกข้าวเก็บความร้อนมานั้น ก็เห็นหญิงสาวกลุ่มหนึ่งที่มีท่อนบนนูนส่วนท่อนล่างก็กลมงอนหุ่นเซ็กซี่เดินเข้ามาในลิฟต์

เหล่าหญิงสาวต่างใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร

ภาษาอังกฤษของซูสือเยว่ไม่ค่อยดีเลย แต่เธอก็พอจะจับประเด็นได้อยู่

ราวกับว่า พวกเธอกำลังพูดถึงบิ๊กBOSSของชวงซิงกรุ๊ป

“ผู้ชายอย่างบิ๊กBOSSทั้งหล่อทั้งรวยเลย!”

“ถ้าเขาไม่ได้แต่งงาน ฉันอยากจะฉุดเขาลากขึ้นเตียงจริงๆ เลย!”

“คุณนี่มันช่างสงวนเนื้อสงวนตัวจริงๆ เป็นฉันนะ แสดงหนังสดในห้องทำงานเลย!”

“ชายหนุ่มหน้าตาดีทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ ได้แต่มองแต่ไม่สามารถทำอะไรได้!”

……

เมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาวพวกนั้น ซูสือเยว่ได้แต่ขมวดคิ้วเข้าหากัน จากนั้นก็ออกจากลิฟต์

ยังดีที่ว่าสามีของเธอแค่มาเจรจาทางธุรกิจ ยังดีที่ว่าผู้หญิงพวกนั้นตาบอด เห็นความหล่อของบิ๊กBOSS แต่กลับไม่เจอคนที่มาเจรจาธุรกิจในระยะนี้เลย เขาก็เป็นคนหล่อมากอยู่นะ!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ซูสือเยว่ภาคภูมิใจมาก

หญิงสาวเดินไปเรื่อยๆ ตามที่อยู่ในการ์ด ก็มาเจอห้องทำงานของฉินโม่หาน

“เข้ามา”

ซูสือเยว่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ผลักประตูเข้ามา

ห้องนี้เป็นห้องทำงานที่ทั้งใหญ่และหรูหรามาก

แม้ว่าในห้องทำงานเป็นโทนสีดำกับสีขาว การตกแต่งก็ไม่ได้มากมาย แต่ว่าทุกชิ้นก็มองเห็นว่าความเยือกเย็นของความหรูหรา

เธอเอากระติกข้าวเก็บความร้อนวางลงบนโต๊ะ พลางเริ่มพูดหมดอารมณ์ “บิ๊กBOSSของชวงซิงกรุ๊ปนี่ช่างมหาเศรษฐีชัดๆ ถึงได้ให้ห้องทำงานกับคุณในช่วงระยะเวลาสั้นได้หรูหราเช่นนี้!”

มือของฉินโม่หานที่กำลังเขียนงานอยู่ชะงักเล็กน้อย

….ทั้งๆ ที่เขาได้ให้ไป๋ลั่วไปหาห้องทำงานที่แสนธรรมดาที่สุดมาแล้วนะ

ชายหนุ่มหยุดมือทันที พลันเงยหน้าและยิ้มให้เธอ “ทำไมถึงมีเวลามาหาผมได้?”

ซูสือเยว่เอากับข้าวในกระติกข้าวเก็บความร้อนวางลง พลางเปิดออก “มีเรื่องอยากจะพูดกับคุณหน่อย พอดีมองเวลาแล้วเป็นเวลาที่คุณควรจะกินข้าวพอดี ก็เลยเอาข้าวมาส่งให้คุณเลย”

ดวงตาของชายหนุ่มเหลือบมองอาหารที่อยู่บนโต๊ะอันหอมกรุ่นหน้าตาสีสันสวยสด “คุณทำเองเหรอ?”

ซูสือเยว่พยักหน้า แถมยังหน้าด้านอ้าปากพูด “ใช่สิ”

ฉินโม่หานฉีกยิ้ม จากนั้นก็เอาเอกสารกดทับใบเสร็จการสั่งอาหารกลับบ้านที่เพิ่งจะปลิวมาเมื่อครู่ ดันไปทางด้านข้าง “อืม พัฒนาได้เร็วมาก”

“หน้าตาดีกว่าอาหารที่สั่งกลับบ้านอีกนะเนี่ย”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset