สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 234 ลวกๆ ยังงี้เลยเหรอ

ตอนที่ฟู๋เชียนเชียนกลับมาถึงคฤหาสน์นั้น ทั้งหัวยังรู้สึกสับสนไปหมด

ในห้องครัว ซูสือเยวส่กำลังทำโจ๊กอย่างกระตือรือร้น

นอกห้องครัวนั้น ซิงหยุน ซิงเฉินและซิงกวง เด็กน้อยทั้งสามคนนั่งเรียงแถวอยู่ตรงโต๊ะ ทุกคนถือชามใบเล็กๆ ไว้ ในชามนั้นมีโจ๊กที่ไม่รู้ว่าวัตถุดิบคืออะไร

ซิงหยุนกินโจ๊กจนหมดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ก็พอได้”

ซิงเฉินมองดูพี่ชายของตัวเองด้วยแววตาที่เหมือนมองสัตว์ประหลาด เขาสงสัยว่าต่อมรับรู้รสชาติของเขามันเพี้ยนไป ก็เลยเอาช้อนตักโจ๊กขึ้นมากินอีกคำหนึ่ง

หลังจากนั้น ใบหน้าของเด็กน้อยก็ดูแย่ซะยิ่งกว่าก้นหม้ออีก

ซิงกวงที่นั่งอยู่ริมสุดหยิบโถน้ำตาล ใส่เข้าไปในโจ๊กหนึ่งช้อน ลองชิมดู แล้วก็ใส่เข้าไปอีกช้อนหนึ่ง

ฟู๋เชียนเชียนมองเด็กทั้งสามคนด้วยสีหน้าเฉื่อยชา

“สือเยว่ เธอให้พวกเขาสามคนเป็นหนูทดลองรึไง? ”

ซูสือเยว่หยิบโจ๊กชามใหญ่ออกมาวางบนโต๊ะอย่างว่องไว “ตอนแรกฉันก็อยากจะให้สามีช่วยชิมให้ แต่เขาบอกว่ากู้ถิงเซิงจากชวงซิงกรุ๊ปบอกว่ามีธุระกับเขา เขาก็เลยไปก่อน”

หญฺงสาวยิ้มตาหยีพร้อมกับมองถ้วยของซิงหยุน แล้วก็เติมโจ๊กเข้าไป “สามีฉันบอกว่า ถ้าเกิดว่าเธออยู่ี่บ้าน ก็ให้เธอช่วยฉันชิม”

“แต่ว่าเธอก็ไมอยู่บ้าน ก็เลยต้องรบกวนลูกรักทั้งสามคน”

เธอส่งถ้วยโจ๊กคืนให้ซิงหยุน แล้วก็หยิบถ้วยของซิงเฉินมา “ฉันแค่ให้พวกเขาชิมนิดหน่อยเอง ไม่ป่วยหรอก”

หญิงสาวพูดไป พลางพยายามดึงถ้วยออกมาจากมือของซิงเฉิน

แต่ว่าเจ้าเด็กคนนี้จับแน่นเกินไป

เธอขมวดคิ้ว แล้วก็ออกแรงมากกว่าเดิม….

สุดท้ายแล้วชามในมือของซิงเฉินก็ถูกเธอแย่งมาจนได้

“ทำไมยังกินไม่หมดอีกล่ะ?”

หญิงสาวมองพลางขมวดคิ้ว “แต่ว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวหม่ามี๊จะให้ชิมโจ๊กหม้อนี้ แล้วลูกลองเปรียบเทียบดู ว่ามันมีอะไรแตกต่างกันรึเปล่า”

ใบหน้าของซิงเฉินเต็มไปด้วยความผิดหวัง

แต่ซูสือเยว่กลับเหมือนมองไม่เห็น ส่งชามนั้นคืนให้ซิงเฉิน “กินให้หมดล่ะ!”

สุดท้าย เธอก็หยิบชามของซิงกวง

ฟู๋เชียนเชียน:“……”

แน่ใจว่านี่คือแม่แท้ๆ ?

ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเด็กสามคนนี้ กำลังถูกแม้เลี้ยงจัดการอยู่กัน?

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็เดินเข้าไป แย่งถ้วยในมือของซิงเฉินกับซิงกวงมา “ตอนนี้ฉันกลับมาแล้ว เดี๋ยวฉันช่วยชิมให้เธอเอง”

เธอยิ้ม แล้วก็นั่งลงบนเก้าอี้ “ยังไงพวกเขาก็ยังเป็นเด็ก ให้ข้อเสนอแนะเธอไม่ได้หรอก”

พอพูดจบ หญิงสาวก็ยื่นไปจะหยิบถ้วยของซิงหยุน แต่ว่าเด็กน้อยนั้นกลับหลบ

ซิงหยุนมองเธอนิ่งๆ “ขอบคุณครับน้าฟู๋”

“แต่ว่าของที่หม่ามี๊ผมทำ อร่อยหมดนั่นแหละ”

“ผมไม่อยากจะพลาดพัฒนาการของเธอในทุกขั้นตอน”

พอพูดจบ เด็กน้อยก็ก้มหน้าลง แล้วก็เอาช้อนตักโจ๊กในชามกินจนหมด

“อืม หม่ามี๊ พัฒนาขึ้นแล้ว”

“คราวนี้โจ๊กไม่เค็มแล้ว”

“อืม!”

พอได้รับคำยืนยันจากเด็ฏน้อย ซูสือเยว่ก็เต้นรำด้วยความตื่นเต้น “เชียนเชียน เธอรีบมาชิมเร็ว!”

ฟู๋เชียนเชียนขมวดคิ้วแล้วก็ชิมเข้าไปคำหนึ่ง

ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของเธอก็บูดเบี้ยวในทันที

ผ่านไปนาน หญิงสาวก็กระแอมออกมา “สือเยว่ ตอนที่ต้มโจ๊ก เธอต้องทำตามสูตรอย่างเคร่งครัด อย่าใส่เครื่องปรุงอื่นมั่วซั่ว”

“เวลาทำโจ๊กลูกเดือยฟักทอง อย่าใส่น้ำมันพริกลงไป”

ซูสือเยว่กะพริบตา “แต่น้ำมันพริกมันสวยมากเลยนะ”

ฟู๋เชียนเชียน:“……”

พอได้ยินคำบรรยายของฟู๋เชียนเชียน ซิงเฉินกับซิงกวงก็มองหน้ากันทันที

“หม่ามี๊ จู่ๆ หนูก็นึกขึ้นได้ว่า หนูยังมีโปรแกรมที่เขียนไม่เสร็จเลย!”

ซิงกวงรีบวิ่งออกไปทันที

“หม่ามี๊ จู่ๆ ผมก็นึกออกว่า ผมยังไม่ได้เล่นรถบังคับเลย!”

ซิงเฉินก็ตามไปติดๆ

ซูสือเยว่เม้มปาก แล้วก็หันไปมองซิงหยุน

เด็กน้อยนั่งอยู่บนเก้าอี้ แล้วก็เล่นโทรศัพท์อย่างจริงจัง

พอสัมผัสได้ถึงสายตาของซูสือเยว่ ซิงหยุนก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน “หม่ามี๊ ไม่ต้องห่วง ผมไม่ไปหรอก”

ฟู๋เชียนเชียนกุมขมับ

เธอรู้มาโดยตลอดว่า ในบรรดาลูกทั้งสามคนของซูสือเยว่ ซิงหยุนคือคนทีต่รู้เรื่องมากที่สุด และเหมือนกับฉินโม่หานมาก

แต่เธอไม่นึกเลยว่า……

ซิงหยุนจะเหมือนฉินโม่หานมากขนาดนี้

แม้แต่ท่าทางต่ออาหารรสชาติแย่ที่ซูสือเยว่ทำนั้น ยังเหมือนกันเป๊ะๆ

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็หันไปมองซิงหยุน “น้ายังมีเรื่องที่ต้องคุยกับหม่ามี๊ของหนูหน่อย หนูขึ้นไปข้างบนก่อนดีไหม? ”

ซิงหยุนขมวดคิ้ว แล้วก็ยังคงนั่งพิงเก้าอี้แล้วก็จ้องโทรศัพท์ของตัวเอง “ผมไม่รบกวนหรอกครับ”

ฟู๋เชียนเชียนทำปากมุ่ย แล้วก็ขยับเข้าไปใกล้ซิงหยุน “ดูอะไรอยู่น่ะ? ”

ซิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองเธอ แล้วก็เปิดเนื้อหาบนหน้าจอโทรศัพท์ให้เธอดู : 《หลักการทำงานของวิศวกรรมไฟฟ้าอัตโนมัติ》

ฟู๋เชียนเชียน:“……”

เธอหดตัวกลับมาเงียบๆ

โลกของเด็กอัจฉริยะ เธอเกรงว่าเข้าไปไม่ได้……

“ซิงหยุน”

พอเห็นว่าฟู๋เชียนเชียนเหมือนจะมีเรื่องอยากคุยกับตัวเอง ซูสือเยว่ก็หายใจเข้าลึกๆ แล้วก็เงยหน้ามองซิงหยุน “ลูกขึ้นไปอยู่กับน้องชายน้องสาวเถอะ”

“หม่ามี๊มีเรื่องบางเรื่องที่เด็กไม่ควรฟังที่ต้องคุยกับน้าฟู๋”

ซิงหยุนถึงได้กลอกตา แล้วก็มองฟู๋เชียนเชียนเงียบๆ “นอกจากน้าฟู๋จะหาแฟนได้แล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าจะมีหัวข้ออะไรอีกที่ผมฟังไม่ได้”

พอพูดจบ เด็กน้อยก็กระโดดลงจากเก้าอี้ จัดแจงเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อย แล้วก็เดินขึ้นชั้นบนไป

“เชียนเชียน”

พอได้ยินเสียงปิดประตูห้องเด็กด้านบน ซูสือเยว่ถึงได้หันหน้ามา แล้วก็หรี่ตามองฟู๋เชียนเชียน “มีเรื่องอะไรอยากคุยกับฉันเหรอ? ”

“อืม”

ฟู๋เชียนเชียนก้มหน้าลง แล้วหน้าของเธอก็เริ่มแดง “ที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก”

“ตอนนี้ฉันยังสับสนอยู่เลย”

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว “เป็นอะไรกันแน่? ”

ฟู๋เชียนเชียนหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็เงยหน้าขึ้นมา “เมื่อกี้ ฉันกับจี้หนานเฟิงได้ยืนยันความสัมพันธ์กัน”

ซูสือเยว่ตกใจจนเกือบจะล้มลงไปที่พื้น “หา? ”

“คือ……”

ฟู๋เชียนเชียนกัดริมฝีปากตัวเอง เธอไม่รู้ว่าควรจะอธิบายยังไง

“สรุปก็คือ”

“ฉันเกลี้ยกล่อมเขาว่าเขาไม่เหมาะสมกับเธอ เธอกับฉินโม่หานต่างหากคือความรักที่แท้จริง เป็นคู่ที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน”

“ฉันบอกให้เขายอมแพ้กับเธอไปซะ บอกว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบในอุดมคติของเขาเลย ที่เขาตามจีบเธอจนถึงตอนนี้ เขาแค่สู้เพื่อตัวเอง แต่ไม่ได้ชอบเธอจริงๆ”

“หลังจากนั้น……เขาก็ถามฉัน ว่าผู้หญิงในอุดมคติของเขาต้องเป็นยังไง เขาเหมาะสมกับแบบไหน แบบฉันรึเปล่า”

ฟู๋เชียนเชียนยิ่งพูดยิ่งรู้สึกหน้าร้อน หัวใจก็เต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ เสียงก็ยิ่งเบาลง “ต่อมาฉันก็เลยตอบว่า เขาเหมาะสมกับคนแบบฉันจริงๆ ”

“ฉันให้เขาดูข้อมูลของผู้หญิงที่ฉันคิดว่าเหมาะสมกับเขา ฉันหวังว่าเขาจะออกมาจากเงารักที่พังทลายและเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ได้”

“แต่หลังจากนั้น เขาก็บอกว่า……เขาอยากเลือกฉัน”

“ให้คบกับเขา”

ซูสือเยว่ช็อกจนไม่ได้สติอยู่นาน

“นี่……”

“พวกเธอ……”

“ทำลวกๆ ขนาดนี้เลยเหรอ?”

ฟู๋เชียนเชียนเม้มปาก “ก็ค่อนข้างจะลวก”

“แต่ว่า ตอนแรกเธอกับฉินโม่หาน……ก็ลวกๆ แบบนี้ไม่ใช่เหรอ? ”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset