สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 24 ชอบเขาไปแล้วใช่ไหม

บทที่24 ชอบเขาไปแล้วใช่ไหม

ออร่าที่รุกรานของเขาทำให้ซูสือเยว่รู้สึกมึนหัว

ตรงหน้า คือใบหน้าหล่อเหลาที่ทำให้คนเวียนหัว

ผู้ชายคนนั้นยกมือขึ้นจับกรามของเธอ มุมปากของเขาดูขี้เล่นเล็กน้อย “ฉันทำตัวไม่เป็นจุดสนใจจริง แต่ฉันอนุญาตให้เธอคุยโวโอ้อวดได้นะ”

ประโยคเรียบง่าย ถูกเขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำและน่าดึงดูด มันมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด

ซูสือเยว่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีกำลังอะไรแล้ว

สมองว่างเปล่า แม้แต่ตัวเองอยากจะพูดอะไร ก็ลืมไปหมด

ปลายนิ้วที่หยาบของเขาลูบลงที่ริมฝีปากของเธอเบาๆ “ต่อไปถ้าเกิดว่ามีใครมาใส่ร้ายฉัน เธอบอกฉันได้เลยนะ ฉันจะทำให้เขาตายซะดีกว่ามีชีวิตอยู่”

หลังจากพูดจบ เขาก็มองใบหน้าที่แดงก่ำของเธออย่างพอใจ แล้วก็เดินออกไป

ซูสือเยว่นอนนิ่งอยู่บนเตียงเหมือนคนบื้อ หัวของเธอคิดถึงแต่เรื่องที่เขาคร่อมเธอเมื่อกี้นี้ ท่าทางที่เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มของเขา

ผ่านไปอยู่นาน เธอถึงจะตั้งสติขึ้นมาได้

โทรศัพท์ที่อยู่ด้านข้างนั้น ยังคงวิดีโอคอลกับฟู๋เชียนเชียนอยู่

เพราะว่าฉินโม่หานปิดเสียง เธอก็เลยพึ่งจะรู้ตัวตอนนี้

ผู้หญิงคนนี้เปิดเสียงพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำ

แล้วผู้หญิงปลายสายนั้นก็กรีดร้องออกมา! ”

“เชี่ย ซูสือเยว่ เมื่อกี้คือท่านชายฉินเหรอ? ”

“เขาหล่อขนาดนั้น ทำไมข่าวลือด้านนอกถึงได้ไม่น่าฟังแบบนั้นล่ะ! ”

“ฉันกำลังจะหัวใจวายแล้ว! เมื่อกี้เห็นเขาทำกับเธอแบบนั้น ฉันล่ะแม้แต่คาดหวังว่าจะได้ดูชีวิตสามีภรรยาของพวกเธอ! ”

“พวกเธอเหมาะสมกันมาก! เขาหล่อกว่าเฉิงเซวียนหลายระดับมาก เธอได้กำไรมาก! ”

ฟู๋เชียนเชียนชมเกินไปอย่างตามอำเภอใจ ทำให้ซูสือเยว่อารมณ์ดีขึ้นมาอย่างประหลาด

ทันใดนั้น ฟู๋เชียนเชียนก็ตบหน้าผากของตัวเองอย่างรุนแรง “สือเยว่ จู่ๆ ฉันก็นึกเรื่องอะไรขึ้นมาได้”

“เมื่อกี้เธอ ไม่ได้ไม่พอใจเขาใช่ไหม? ”

ซูสือเยว่ก็หยุดไปชั่วคราว

เรื่องเมื่อห้าปีก่อน ทิ้งเงาไว้ที่เธอ

ห้าปีมานี้ แม้แต่จะใกล้ชิดกับเฉิงเซวียน เธอก็ทำไม่ได้

แต่ว่า เหมือนกับว่าตั้งแต่แรก เธอก็ไม่เคยขับไล่การสัมผัสจากฉินโม่หานเลย

“เธอได้รับการรักษาโดยท่านชายฉินแล้วเหรอ? ”

สีหน้าของฟู๋เชียนเชียนดูไม่อยากจะเชื่อ “หรือว่า เธอชอบท่านชายฉินเข้าให้แล้ว? ”

ซูสือเยว่รีบส่ายหน้าทันที “เป็นไปไม่ได้”

“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้?”

“ผู้ชายอย่างท่านชายฉิน ฉันแค่มองรอบเดียวก็อยากแต่งงานด้วยแล้ว แล้วเธอจะแน่ใจได้ยังไงว่าเธอไม่ได้ตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกพบ? ”

ซูสือเยว่นิ่งไป

ตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบงั้นเหรอ?

เธอน่าจะ……ไม่ใช่มั้ง?

……

เช้าวันที่สอง ตอนที่ซูสือเยว่ตื่นขึ้นมานั้น ฉินโม่หานยังนอนอยู่เลย

เธอเอามือเท้าคาง มองผู้ชายที่อยู่ด้านข้างอย่างจริงจัง

เขาหล่อมากจริงๆ

ที่หูของเธอมีเสียงของฟู๋เชียนเชียนดังขึ้นมา

เธอ……จะตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ตั้งแต่แรกพบจริงๆ เหรอ?

“จะมองอีกนานแค่ไหน? ”

ทันใดนั้น เสียงที่เย็นชาของผู้ชายก็ดังขึ้นข้างหูของเธอ

ซูสือเยว่ดึงสติกลับมา ผู้ชายตรงหน้าก็ลืมตาขึ้นมา

“คุณนายฉินจ้องฉันตั้งแต่เช้าขนาดนี้ รู้สึกว่าฉันหล่อเหลาจนอยากจะกลืนกินเลยใช่ไหม? ”

ผู้หญิงหน้าแดง ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความตื่นตระหนก แล้วก็รีบลงไปชั้นล่างทันที

มองดูแผ่นหลังที่จนตรอกของเธอ รอยยิ้มจางๆ ก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของผู้ชายคนนั้น

……

หลังจากมื้อเช้าผ่านไป ซูสือเยว่ก็มาถึงสตูดิโอ

พึ่งจะเข้าประตู ผู้ชายในชุดสูทและรองเท้าหนังเข้ามาทักทาย “สวัสดีครับ ผมชื่อหลิงหยวนเป็นผู้ช่วยของนักแสดงลั่วเยียน”

ผู้ชายคนนั้นยิ้มแล้วก็ยื่นมือมา “ผมได้ยินมาว่าคุณเป็นสแตนด์อินศิลปะการต่อสู้ที่เก่งที่สุดในสตูดิโอ ดังนั้นลั่วเยียนก็เลยให้ผมมาหาคุณเป็นพิเศษ เชิญให้คุณไปเป็นสแตนด์อินของเธอ”

ซูสือเยว่หยิกตัวเองเล็กน้อย “คุณแน่ใจ ว่าคุณลั่วเยียนให้ฉันมาเป็นสแตนด์อินเองเลยเหรอคะ? ”

ทำไมเธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังฝันอยู่เลย?

ลั่วเยียนคือนักแสดงหญิงที่เธอชอบที่สุด!

แค่นักแสดงอย่างลั่วเยียนนั้นยิ่งใหญ่เกินไป ปกติแล้วสแตนด์อินตัวเล็กๆ อย่างเธอไม่มีทางได้สัมผัสอย่างแน่นอน เธอไม่เคยแม้แต่จะกล้าคิดด้วยซ้ำ

แต่ว่าตอนนี้คนคนนี้กลับบอกเธอว่า ลั่วเยียนมาหาเธอเองยังงั้นเหรอ?

“แน่นอนครับ”

หลิงหยวนยิ้มแล้วพาเธอเข้าไปข้างใน “คุณเป็นสแตนด์อินผู้หญิงคนแรกในสตูดิโอนี้เลยนะครับ ลั่วเยียนเคยดูหนังที่คุณเล่น ก็รู้ว่าไม่เลวเลย”

ระหว่างที่พูด เขาก็เปิดประตูห้องพักออก “เข้าไปข้างในเถอะครับ”

ซูสือเยว่เดินตามเขาเข้าไปพร้อมกับหัวที่สับสน

มันไม่ใช่ความฝันจริงๆ ด้วย

เธอยืนอยู่หน้าประตูอย่างอึดอัด ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง

ในห้องพักนั้น ลั่วเยียนที่สวมใส่ชุดโบราณกำลังเติมเครื่องสำอางอยู่

พอเห็นว่าเธอมา ผู้หญิงคนนั้นก็ส่งสัญญาณให้ซูสือเยว่นั่งลงอย่างแผ่วเบา “หลิงหยวนบอกคุณแล้วใช่ไหมคะ? ”

“ตอ่ไปไม่ต้องไปตากแดดตากลมแล้ว มาเป็นแสตนอินให้ฉันเถอะค่ะ เงินเดือนฉันจะให้คุณสามเท่าเลยนะ”

ความสุขนี้มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ซูสือเยว่ก็เหมือนถูกทุบจนเวียนหัว “คุณลั่วเยียน คุณกับฉันไม่เคยปะปนกันมาก่อน ทำไมถึงหาฉันเจอล่ะคะ? ”

ลั่วเยียนยิ้ม “เพราะว่าเพื่อนคนหนึ่งของฉัน เขารู้สึกว่าคุณยอดเยี่ยมมา”

ฉินหนานเซิงโทรมาร้องห่มร้องไห้ขอร้องกับเธอตั้งแต่เช้า แล้วจะให้เธอทำยังไง?

“เพื่อนคนนั้นของคุณ ฉันรู้จักไหมคะ? ”

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว ในความทรงจำของเธอ เธอไม่ได้มีเพื่อนที่มีชื่อเสียงขนาดนั้นนะ”

ลั่วเยียนยิ้มเบาๆ “ต่อไปเดี๋ยวคุณก็จะรู้จักเองล่ะค่ะ”

ตอนนี้เอง ทันใดนั้นห้องพักก็มีคนเคาะประตู “คุณลั่ว ผู้กำกับถามว่าคุณพร้อมรึยังคะ”

“อืม”

ลั่วเยียนยิ้มแล้วก็ยืนขึ้น “สือเยว่ คุณสนใจจะไปดูฉันถ่ายไหม? ”

ซูสือเยว่รีบพยักหน้าแล้วก็เดินตามไป

พอไปถึงสถานที่เธอถึงได้พบว่า ละครที่ลั่วเยียนกำลังถ่ายทำอยู่นั้น พระเอกคือเฉิงเซวียน

ในกองถ่ายไม่ได้มีแค่เฉิงเซวียนเท่านั้น เซี่ยงหวั่นฉิงเองก็อยู่ด้วยเหมือนกัน

เธอมาเพื่อเยี่ยมนักแสดงในกองถ่าย

ตอนนี้ เฉิงเซวียนกับเซี่ยงหวั่นฉิงนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเล็กๆ ของพวกนักแสดง กินซุปถ้วยเดียวกัน

พอเห็นซูสือเยว่ที่อยู่ด้านหลังของลั่วเยียนนั้น เฉิงเซวียนก็อึ้งไปเลย

“เซวียน นายมองอะไรน่ะ? ”

เซี่ยงหวั่นฉิงมองไปตามสายตาของเขา——

สายตาของผู้หญิงคนนั้นเปลี่ยนจากความตะลึง เป็นความเยาะหยัน

เธอขึ้นเสียงพร้อมกับหัวเราะเยาะ “มิน่าล่ะถึงได้แตกหักกับพวกเรา ที่แท้ก็เข้าทางคนที่มีอำนาจมากกว่า”

ซูสือเยว่รู้ดี ว่าพวกเขากำลังพูดถึงเธออยู่

เธอเสแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ตามหลิงหยวนที่กำลังยุ่งอยู่กับลั่วเยียน

สุดท้าย การถ่ายทำก็เริ่มต้นขึ้น ซูสือเยว่ก็นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเล็กๆ ทางไกลแล้วก็มองดูอย่างเงียบๆ

“ซูสือเยว่ ฉันก็นึกว่าเธอจะสง่าผ่าเผยเหมือนที่ตัวเองพูดซะอีก”

ตอนที่เธอกำลังตั้งใจดูลั่วเยียนถ่ายทำอยู่นั้น ก็มีเสียงที่ไม่เบาไม่ดังของเซี่ยงหวั่นฉิงดังขึ้นมา “จงใจมาอยู่ข้างๆ ลั่วเยียนในฐานะแสตนอิน เพราะรู้ว่าพระเอกละครเรื่อง《ชั่วฟ้ากาลเวลา》คือ เฉิงเซวียนใช่ไหม? ”

ผู้หญิงคนนั้นเอามือกอดอก แล้วก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางที่หยิ่งผยอง แล้วก็มองซูสือเยว่ด้วยหางตา “ความมุ่งมั่นของเธอนี่ยังไม่เลือนหายไปเลยจริงๆ ”

“แต่ว่าเธอน่าจะรู้ดีอยู่แล้วนะว่า หัวใจของเฉิงเซวียนไม่ได้มีเธออยู่เลย”

ซูสือเยว่ยิ้ม “ฉันต้องขอบคุณที่ในใจของเขาไม่มีฉันอยู่นะ”

“ไม่ยังงั้น ฉันคงจะอ้วกจริงๆ ”

หลังจากพูดจบ เธอก็หันหน้ามาเหลือบมองเซี่ยงหวั่นฉิง “รู้จักเธอมาตั้งแปดปีแล้ว ฉันก็นึกว่าเธอจะรสนิยมสูงซะอีก”

“ไม่คิดเลยว่า เธอยอมแม้กระทั่งการเก็บขยะ”

เซี่ยงหวั่นฉิงเลิกคิ้วด้วยความโกรธ “นี่เธอกำลังบอกว่าเฉิงเซวียนเป็นขยะยังงั้นเหรอ?! ”

“เปล่า”

ซูสือเยว่หาวนอน “เธอเข้าใจผิดแล้ว”

“ความหมายของฉันก็คือ ทั้งเธอและเฉิงเซวียน เป็นขยะทั้งสองคนนั่นแหละ”

หลังจากพูดจบ เธอก็กอดอก แล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไป

“ซูสือเยว่ เธอปากแข็ง! ”

เซี่ยงหวั่นฉิงจ้องมองแผ่นหลังของเธอแล้วก็กัดฟันแน่น “ตลอดชีวิตของเธอก็ไม่มีโอกาสได้จับมือกับเฉิงเซวียนหรอก แต่ว่าฉันมี! ”

พอพูดจบ ลั่วเยียนก็ถ่ายละครฉากนั้นเสร็จแล้ว

หลิงหยวนขมวดคิ้วและเดินเข้ามา พร้อมกับส่งสคริปต์ให้กับซูสือเยว่ “เพื่อที่จะให้ทันตามตาราง ผู้กำกับได้ขอให้ลั่วเยียนไปที่สตูดิโออื่นเพื่อถ่ายทำ คุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมกับแต่งหน้า เดี๋ยวจะมีถ่ายฉากฝั่งตรงข้ามกับเฉิงเซวียน”

“เค้าโครงเรื่องคือคุณยืนอยู่ที่เดิม เฉิงเซวียนก็จะเดินมาหาคุณทีละก้าว สุดท้ายก็จะจับมือของคุณไว้”

ซูสือเยว่รู้สึกว่ามันน่าขำมาก

เธอเงยหน้าขึ้นมา มอง เซี่ยงหวั่นฉิง “เมื่อกี้เธอบอกว่า ตลอดชีวิตฉันก็ไม่มีโอกาสได้จับมือของเฉิงเซวียนยังงั้นเหรอ? ”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset