ฉินโม่หานเงียบไป
เห็นได้ชัดว่าฝึกศิลปะการต่อสู้กับซูสือเยว่ นี่เป็นคำถามที่ตอบได้ยากคำถามหนึ่งเลย พอไม่ระวัง ก็จะทำให้เขาไม่มีภรรยาไปเลย
ฝีมือการต่อสู้ของซูสือเยว่เยี่ยมยอด แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้แย่
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ลูกชายแท้ๆของท่านปู่ตระกูลฉิน แต่ตั้งแต่เล็กจนโต ท่านปู่ฉินก็เลี้ยงดูเขามาอย่างคนตระกูลฉินจริงๆ
ในฐานะลูกชายมหาเศรษฐีแห่งเมืองหรง ตั้งเด็กก็ต้องเผชิญกับการถูกลักพาตัว และปัญหาที่มีคนคอยคิดร้ายต่างๆนานา
อย่างนั้นแล้วตั้งแต่เด็กท่านปู่ฉินก็ได้หาครูสอนศิลปะการต่อสู้ มาเริ่มฝึกให้พวกเขาพี่น้องทั้งห้าคนตั้งแต่สี่ห้าขวบ
และเพราะว่าการฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก มันเลยทำให้ฉินหลิงยี่เสพติดกับการต่อสู้ โตไปก็ยังไปเป็นทหารรับจ้าง
ฉินโม่หานถึงแม้ว่าจะไม่เคยเป็นทหารรับจ้างมาก่อน แต่ร่างกายเองก็ไม่แย่เลย
ทักษะพวกนั้นของซูสือเยว่ สำหรับเขาแล้ว มันไม่นับว่าอะไรเลย
แต่ว่า…
ถ้าเขากับเธอฝึกการต่อสู้ด้วยกัน ถ้าชนะ ไม่เธอถูกเขาทำร้ายจนบาดเจ็บ ก็จะเกิดความไม่พอใจขึ้นมา
ถ้าเขาแพ้ เธอไม่เยาะเย้ยเขาว่าเป็นพวกไก่อ่อน ก็จะคิดว่าเขาที่อ่อนปวกเปียกอย่างนั้นไม่คู่ควรกับเธอ
ฉินโม่หานย่นคิ้วออกมา จากความสามารถในคิดคำนวณได้บอกเขาว่าคำขอที่จะฝึกการต่อสู้กับซูสือเยว่นี้ไม่อาจตอบรับไปได้
แต่…
ชายหนุ่มก้มหน้า มองหญิงสาวที่เตี้ยกว่าเขาไปครึ่งนึงที่อยู่ตรงหน้า
ในดวงตาของเธอเต็มไปความคาดหวังและ…จิตสังหาร
เหมือนกับว่าเขาไม่ตอบรับเธอ วันนี้เธอก็จะไม่สนใจเขาอีก
คิดถึงเรื่องพวกนี้แล้ว ฉินโม่หานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “ผม…”
ซูสือเยว่กวาดสายตามองเขาไปเงียบๆ “คุณไม่ยินยอม?”
“ไม่ ผมก็ต้องยอมอยู่แล้ว”
หลังจากที่ชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียแล้ว ฉินโม่หานก็เลือกคำตอบที่ไม่เป็นอันตรายต่อตัวเขาเองในตอนนี้ “แต่ว่า ผมกลัวว่าหลังจากที่พวกเราออกเดตกันแล้ว คุณจะไม่มีแรงจะมาฝีกการต่อสู้กับผมนะครับ”
ซูสือเยว่ยิ้มเย็นออกมา “คุณดูถูกกำลังกายของฉันไปแล้ว!”
“เรี่ยวแรงฉันดีมาก!มันจะไม่มีเหตุการณ์ที่หลังจากที่ได้ออกเดตกับคุณไปแล้วจะไม่สามารถฝึกการต่อสู้กับคุณได้!”
“คุณคิดมากไปแล้ว!”
ฉินโม่หานยิ้มเยาะออกมา
ใครกันแน่ที่คิดมากไป?
ผู้หญิงคนนี้บนเตียงแย่มากแค่ไหน ยังต้องให้เขาเตือนสติเธอด้วยหรือเปล่า?
“คิดถึงตรงนี้แล้ว เขาก็แสยะริมฝีปากออกมา ผันร่างเดินไปที่รถ เปิดประตูอย่างสง่างาม “คุณสวี่หรง ขึ้นรถเถอะครับ”
“ในเมื่อตอบรับคำเชิญในวันนี้ของผมแล้ว ก็อย่าเสียใจภายหลังแล้วกัน”
ซูสือเยว่ยังจมอยู่กับแผนการตอนที่ฝึกการต่อสู้เย็นนี้ว่าจะต่อยตีฉินโม่หานไปยังไงอยู่ จึงไม่ได้รู้สึกเลยว่าตัวเองได้เข้าไปสู่กับดักอันใหญ่ของชายหนุ่มเข้าให้แล้ว
หญิงสาวยักไหล่ออกมา สาวเท้าก้าวใหญ่ๆเดินขึ้นรถไป
“คุณผู้หญิง… เจ้าของสวี่”
ไป๋ลั่วที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับได้เอ่ยพูดออกมาอย่างระมัดระวัง “เจ้าของสวี่สวัสดีครับ”
ซูสือเยว่พยักหน้าเหมือนกับไม่ได้ยินที่ไป๋ลั่วเรียกว่า “คุณผู้หญิง” คำนั้นออกมาเลย
สถานีแรกที่ฉินโม่หานพาซูสือเยว่มาออกเดตก็คือห้างร้านจิวเวลรี่แห่งหนึ่ง
ยืนอยู่ด้านนอกร้านจิวเวลรี่ ซูสือเยว่ย่นคิ้วออกมา มองชายหนุ่มที่สูงกว่าเธอไปครึ่งนึงที่อยู่ข้างๆตัวเองไปด้วยความสงสัย
“ทำไมต้องมาเดตกันที่นี่?”
ใครเขามาออกเดตกันในที่แบบนี้?
การออกเดตไม่ควรจะเป็นสถานที่ที่มันทั้งโรแมนติกและทั้งอบอุ่นสวยงามหรือไง?
ทำไมเธอถึงต้องมายืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าร้านจิวเวลรี่ พนักงานก็ถามเธอว่าต้องการเครื่องประดับแบบไหน?
ฉินโม่หานจูงมือเธอเอาไว้ เดินก้าวเข้าไปด้านในร้านจิวเวลรี่ก้าวใหญ่ๆ
“เพราะว่าอยากสวมของแทนใจที่ผมมอบให้คุณไปบนร่างของคุณ ผมถึงจะสบายใจได้”
พูดจบ เขาก็เดินเข้าไปในร้านจิวเวลรี่ เอาเครื่องประดับชุดที่พนักงานได้เตรียมอาไว้เรียบร้อยแล้วส่งให้ซูสือเยว่ไป “ลองดูสิ ชอบหรือเปล่า”
ซูสือเยว่ย่นคิ้วพลางเปิดมันออก
เธอนึกว่าฉินโม่หานถึงแม้ว่าจะให้เครื่องประดับเธอ ก็ควรจะเป็นเครื่องประดับจำพวกเพชรอะไรจำพวกนั้น
แต่เธอนึกไม่ถึงว่าในกล่องมันจะเป็นชุดเครื่องเงินที่ดูไม่เข้ากับที่นี่เลยชุดหนึ่ง
ชายหนุ่มสวมสร้อยเงินให้เธอ รอยยิ้มตรงมุมปากเผยออกมาจางๆ “รู้ว่าหลังจากนี้คุณจะต้องอาบเหงื่ออยู่ที่สถานฝึกศิลปะป้องกันตัวหรง สถานที่จำพวกนี้อยู่เป็นประจำ อันที่มันเปราะบางเกินไปสำหรับคุณแล้วมันไม่มีประโยชน์ใช้สอยจริง อันที่แพงเกินไปคุณจะต้องไม่กล้าสวมทุกวันอีก”
“อย่างนั้นแล้วผมเลยตั้งใจสั่งทำเครื่องประดับชิ้นนี้มาเป็นพิเศษ เป็นชิ้นที่ผมออกแบบเอง และก็เป็นชิ้นที่ผมลงมือทำด้วยตัวเอง”
“ทั้งโลกมีแค่ชิ้นเดียว”
“คุณสามารถสวมยังก็ได้ ทำหายยังไงก็ได้ ทำพังได้ตามสบายเลย”
“ถ้าหาย พัง หรือว่าไม่อยากสวม ก็สามารถมาหาผมโดยตรงได้เลย ผมสามารถทำงานล่วงเวลาเพื่อทำชิ้นใหม่ให้คุณใหม่อีกครั้งเลยก็ได้”
“ดีมั้ย?”
เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มร่วมกับการกระทำทีดูอ่อนโยนในตอนนี้ของเขา แล้วก็ความรู้สึกที่ลึกซึ้งที่เข้มข้นจนไม่อาจเปลี่ยนแปลงไปในดวงตาคู่นั้น ทั้งร่างของซูสือเยว่ได้นิ่งค้างอยู่กับที่
เธอมองผู้ชายคนตรงหน้านี้นิ่ง ก้นบึ้งภายในใจเปียกชื้นขึ้นมา และก็เกิดความรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา
ถึงแม้ว่าซิงหยุนจะบอกเธอมาแล้ว ความจริงแล้วฉินโม่หานรู้ว่าเธอคือซูสือเยว่มาตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่ใช่สวี่หรงอะไรนั่น
แต่ว่าตั้งแต่ที่ฉินโม่หานเจอเธอ จนถึงตอนนี้มันก็แค่สามวันเอง
ในช่วงเวลาสามวัน เขาออกแบบเครื่องประดับมาเรียบร้อยแล้ว แล้วยังลงมือทำให้เธอด้วยตัวเอง?
“ใช่ค่ะ”
เหมือนกับว่าได้มองทะลุไปถึงความสงสัยของซูสือเยว่ พนักงานสาวที่อยู่ข้างๆก็ได้ยิ้มออกมา “คุณสวี่ท่านนี้ คุณมีวาสนามากเลยจริงๆ”
“ท่านชายฉินของพวกเราไม่เคยทำของพวกนี้มาก่อนเลย ช่วงเย็นหลายวันนี้เอาแต่อยู่ที่ในโรงงานด้านหลังเพื่อทำสิ่งนี้ให้คุณอยู่ตลอด”
“อันที่จริงนี่มันไม่ใช่ชุดแรกที่เขาทำ ในทุกครั้งล้วนเป็นอันที่เขาลองทดลองทำทั้งนั้น ทำไปห้าหกชุด ชุดนี้เป็นชุดที่ประสบความสำเร็จที่สุด และก็เป็นชุดที่สมบูรณ์แบบที่สุด ก็เลยได้เอามาห่อเรียบร้อยเพื่อมอบให้คุณ”
คำพูดของพนักงาน ทำให้ฉินโม่หานอดไม่ได้ที่จะย่นคิ้วออกมา
ชายหนุ่มเหยียดมองพนักงานไปด้วยความเยือกเย็น “พูดมาก!”
พนักงานรีบหุบปากลงไปทันที ก่อนที่จะผันร่างออกไปก็ยังลอบมองซูสือเยว่ไปเงียบๆ
ผู้หญิงคนนี้ บนหน้ามีทั้งปานทั้งรอยแผลเป็น แล้วก็ยังมีจุดด่างดำอยู่เยอะมาก
น่าเกลียดสุดๆ
คนน่าเกลียดอย่างนี้ ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วทำบุญอะไรมา นึกไม่ถึงว่าจะสามารถถูกท่านชายฉินมาชอบเข้าได้!
ต้องรู้ก่อนว่าซูสือเยว่ภรรยาเก่าของท่านชายฉิน นั้นเป็นถึงผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็นนักแสดงหญิงดีเด่น!สุดยอดสาวงามที่ได้รับการยอมรับในวงการบันเทิง!
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว พนักงานสาวก็อดไม่ได้ที่จะมองซูสือเยว่ไปอีกที
เนื้อหาที่อยู่ในสายตาของพนักงานสาว แท้จริงแล้วมันได้อยู่ในสายตาของซูสือเยว่ทั้งหมด
เธอยักไหล่ออกมา พลางส่งเสียงเฮอะเสียงเย็นออกมา “ตัดสินคนอื่นจากภายนอก”
เพราะว่าเธอมีหน้าตาที่นับได้ว่าสวยเลยทีเดียว ดังนั้นแล้วจึงไม่เคยได้สัมผัสกับความรู้สึกตอนที่คนอื่นมาตัดสินกันจากภายนอกมาก่อนเลย
ตอนนี้ในที่สุดเธอก็สามารถสัมผัสถึงความรู้สึกนั้นแล้ว ทำไมบางคนถึงได้มีความกังวลในรูปโฉมกันนัก
เพราะถึงยังไงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ท่านชายฉินตามจีบอยู่ เพราะว่าหน้าตาน่าเกลียด ก็ต้องถูกพนักงานหัวเราะเยาะกัน
บนโลกนี้ มันน่ากลัวเลยจริงๆ
คิดถึงตรงนี้แล้ว เธอก็เบ้ปากออกมา ผันร่างไปมองฉินโม่หาน
“ฉันสวยมั้ย?”
ฉินโม่หานแสยะริมฝีปากออกมา ยื่นมือใหญ่ออกมาหยิกใบหน้าเล็กที่เต็มไปด้วยการแต่งหน้าสเปเชียลเอฟเฟคเอาไว้อย่างประณีตไปเบาๆ
“ทั้งโลก คุณสวยที่สุด”
คำพูดของชายหนุ่มทำให้คนทั้งร้านจิวเวลรี่ต่างพากันตะลึงเบิกตากว้างกันออกมาทันที
ถึงขนาดที่มีคนถ่ายคลิปภาพที่ฉินโม่หานกำลังจีบอยู่กับซูสือเยว่แชร์ลงไปในอินเทอร์เน็ต
“ช็อก! หลังจากที่เสียซูสือเยว่ไป ท่านชายฉินรสนิยมทางด้านความงามผิดปกติไป นี่มันตกลงแล้วเป็นเพราะการบิดเบี้ยวตามธรรมชาติของมนุษย์หรือว่าการสูญสิ้นทางศีลธรรม?”
