สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 304 ความรักของวัยหนุ่มสาว​

ซูสือเยว่สูดหายใจเข้าลึก

วันนี้ฉินโม่หานเป็นอะไรไป?

สมองของเขาถูกประตูหนีบหรือถูกลาเตะไปแล้วใช่ไหม?

ตอนนี้ทั้งซิงหยุนและซิงเฉินอยู่ในเงื้อมมือของฉินหลิงยี่ เขายังพูดเรื่องแบบนี้อยู่อีก?

หญิงสาวกลอกตาไปมา

“ถ้าคุณดูแลพวกเขาอย่างดีจริงๆ ตอนนี้พวกเขาจะถูกฉินหลิงยี่จับไปได้หรือไง”

เธอหายใจเข้าลึก แล้วปัดแขนของชายหนุ่มทิ้ง “ถ้าคุณไม่อยากไปช่วยพวกเขา ฉันจะไปช่วยเอง”

หลังจากพูดจบ หญิงสาวก็เดินตรงไปที่ประตูฉินซื่อกรุ๊ป

ฉินโม่หานมองเห็นเธออย่างชัดเจน ด้านนอกประตูกระจกขนาดใหญ่ เจี่ยนเฉิงกับเจี่ยนหมิงจง กำลังยืนรออยู่ที่นั่นอย่างร้อนรน อีกทั้งยังชำเลืองมองเข้ามาด้านในไม่หยุด

ซูสือเยว่วิ่งออกไป หลังจากพูดอะไรกับคนทั้งสองเล็กน้อย ทั้งสองก็ถอนหายใจขณะที่เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่พอใจ

ชายหนุ่มถอนหายใจออกมา

สาเหตุที่เขาไม่รีบร้อน ก็เพราะในหูฟังของเขา กำลังคุยกับซิงหยุนอยู่

“แด๊ดดี้ครับ คุณลุงรองบอกว่า เขารู้แล้วว่าหนังสือที่ผมกำลังอ่านสามารถส่งข้อความให้คนอื่นได้”

“เขาบอกว่า ในเมื่อพวกเราติดต่อกับแด๊ดดี้ได้ ก็ให้ผมบอกแด๊ดดี้ ว่าเป้าหมายของเขาคือแด๊ดดี้ ไม่ใช่พวกเรา”

ฉินโม่หานหรี่ตาลง แล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เขาพูดอะไรอีก?”

“เขาพูดว่า……”

“หลายปีมานี้ เขาเกลียดแด๊ดดี้มากที่สุด และไม่อยากยอมแพ้ให้มากที่สุด”

“ก่อนจะตาย เขาอยากจะสู้กับแด๊ดดี้อย่างตรงไปตรงมาสักครั้ง”

ข่าวที่ได้รับมาจากหูฟัง ทำให้ฉินโม่หานมีท่าทางเคร่งขรึมขึ้นมาทันที

“บอกกับเขาว่า ขอแค่เขาไม่ทำร้ายพวกลูก อย่าว่าแต่สู้กันสักครั้งเลย จะสิบครั้งแด๊ดดี้ก็รับคำท่า”

ชายหนุ่มคุยกับซิงหยุนสักพัก หลังจากที่เขาแน่ใจว่าซิงหยุนกับซิงเฉินปลอดภัยดี ชายหนุ่มก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วเดินออกจากตึกฉินซื่อกรุ๊ป

ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาได้รับโทรศัพท์จากซิงกวง เขานึกว่าเขาจะต้องไปช่วยเหลือลูกชายทั้งสองคนโดยด่วน เขาจึงให้ไป๋ลั่วส่งคนไปรับซูสือเยว่มา

แต่ตอนนี้ พอมั่นใจแล้วว่าซิงหยุนกับซิงเฉินปลอดภัยดี ซูสือเยว่กับเจี่ยนเฉิงและเจี่ยนหมิงจงที่ยืนทะเลาะกันอยู่นอกประตู ทำให้เขาปวดหัวไม่น้อย

ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึก เขาเริ่มก้าวเดินแล้วเดินออกจากประตูไป

ด้านนอกตึกฉินซื่อกรุ๊ป เจี่ยนเฉิงและเจี่ยนหมิงจงกำลังนินทาเขาต่อหน้าซูสือเยว่อยู่พอดี

เจี่ยนเฉิงส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ “รู้อยู่แล้วว่าเจ้าเด็กคนนี้ไม่น่าเชื่อถือ แม้แต่เสือร้ายยังไม่กินลูกตัวเองเลย พวกเด็ก ๆตกอยู่ในอันตรายแบบนี้ เขายังนิ่งเฉยอยู่อีก ”

“ดูท่าความปลอดภัยของเด็ก ๆ คงไม่สำคัญกับเขาเลย”

“แม้แต่ลูกทั้งสองคนของลูกเขายังไม่ชอบ เห็นได้ว่า ในสายตาของเขา ลูกไม่มีความสำคัญเลยด้วยซ้ำ”

“เชื่อพ่อ หาโอกาสหย่ากับเขาซะ ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันอีก”

เจี่ยนหมิงจงนวดขมับอย่างเหนื่อยใจ “บางทีฉินโม่หานอาจมีแผนของเขาอยู่แล้ว นายอย่าสร้างปัญหาตอนนี้ได้ไหม”

“สิ่งแรกที่ต้องทำในตอนนี้คือตามหาพวกหลานๆว่าอยู่ที่ไหน”

“ทำไมพูดลามไปถึงเรื่องหย่าแล้วล่ะ?”

เจี่ยนเฉิงถลึงตามองเขา “ฉันก็แค่พูดไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเอง”

“ยังไงตอนนี้เราก็ไม่ได้ข่าวของพวกหลานๆ แทนที่ร้อนใจโดยเปล่าประโยชน์ มาต่อว่าฉินโม่หานยังดีซะกว่า”

เจี่ยนหมิงจง “แต่นายพูดแบบนี้นอกจากทำให้สือเยว่เครียดแล้ว ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย”

ซูสือเยว่ฟังทั้งสองคนทะเลาะกันไปมา ต่างคนต่างไม่ยอมแพ้กัน

ชายวัยกลางคนสองคน เริ่มทะเลาะกันตั้งแต่วันแรกที่เธอกลับมาประเทศมา และทะเลาะกันมาตลอด…

คนรู้จัก คงจะรู้ว่าพวกเขาสองคนโตมาด้วยกัน จึงสนิทกันโดยตอนเช้าทะเลาะกันตอนเย็นก็คืนดีกัน คนที่ไม่รู้จักคงคิดว่าในครอบครัวของเธอเกิดปัญหากันภายในซะอีก

หญิงสาวนวดขมับตัวเองเบาๆ“พวกคุณพ่อคะ ช่วยเงียบกันหน่อยได้ไหม”

เจี่ยนเฉิงและเจี่ยนหมิงจงมองหน้ากัน แล้วยกมือขึ้นกอดอกหันหลังให้กัน

พอเห็นภาพนี้ ฉินโม่หานก็อดที่จะถอนหายใจแล้วผลักประตูออกไปไม่ได้

“พวกคุณไม่ต้องร้อนใจครับ ซิงหยุนกับซิงเฉินยังมีผมอยู่”

หลังจากพูดจบ เขาก็ยกมือขึ้นและตบไหล่ของซูสือเยว่เบาๆ “คุณทำใจให้สบายรออยู่ที่นี่กับพ่อของคุณ ผมกับไป๋ลั่วจะรีบไปช่วยพวกลูกๆเดี๋ยวนี้เลย”

ซูสือเยว่กรอกตามองเขาอย่างเย็นชา “ท่านชายฉินงานยุ่งมากขนาดนี้ เขาจะมีเวลาไปช่วยชีวิตลูกของตัวเองจริงๆ เหรอคะ?”

ฉินโม่หานฟังน้ำเสียงเยาะเย้ยคำพูดของเธอออก

ชายหนุ่มยกยิ้ม แล้วพูดเสียงเรียบนิาง “ผมมีเหตุผลของผมเอง”

“แต่ผมรับรองได้เลย ว่าผมจะพาพวกเขากลับมาอย่างปลอดภัย”

ดวงตาที่ลุ่มลึกของเขามองหน้าซูสือเยว่นิ่ง “เชื่อใจผม ได้ไหม”

ซูสือเยว่มองเข้าไปในดวงตาของเขา หัวใจของเธอเริ่มเต้นแรงอีกครั้งอย่างควบคุมไม่อยู่

เธอต้องยอมรับ ว่าผู้ชายคนนี้ มีดวงตาที่น่าหลงใหลมาก

ทุกครั้งที่เขาใช้สายตานี้มองมาที่เธอ ซูสือเยว่รู้สึกลุ่มหลง จนไม่สามารถหลบหนีไปจากเขาได้

เธอกัดริมฝีปากของตัวเอง อารมณ์เคร่งเครียดของเธอในที่สุดก็ผ่อนคลายลง

“คุณ…จะพาพวกเขากลับมาอย่างปลอดภัยจริงๆ ใช่ไหมคะ?”

“อืม”

ชายหนุ่มพยักหน้าเบา ๆ “เหตุผลที่ผมไม่รีบไปหาซิงหยุนกับซิงเฉิงก็เพราะผมรู้ว่าซิงกวงมีวิธีติดต่อพวกเขา ดังนั้นผมถึงได้มั่นใจว่าพวกเขาไม่ได้ได้รับบาดเจ็บและไม่เกิดอะไรขึ้น”

“แล้วอีกอย่าง……”

เขาถอนหายใจ “ถึงแม้ฉินหลิงยี่จะทำเรื่องไม่ดีมามาก ถึงเขาจะเกลียดผมมาก แต่ซิงหยุนกับซิงเฉินเขาเห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต”

“ตอนเด็ก คนที่ซิงหยุนชอบมากที่สุด ก็คือฉินหลิงยี่คุณลุงรองของเขาแล้ว”

“ฉินหลิงยี่เคยบอกไว้ว่าซิงหยุนเหมือนเขาในวัยเด็กมาก ถึงแม้จะเป็นแค่หลานชาย แต่ในสายตาของเขา เขาเอ็นดูอีกฝ่ายเหมือนลูกชายของเขาเอง”

“ถึงแม้ผมจะไม่แน่ใจว่าคำพูดของเขาจริงแท้มากแค่ไหน แต่พอรวมกับข้อมูลที่ซิงหยุนให้เขามา ผมเชื่อว่าเขาจะไม่ทำร้ายพวกเขาด้วยอารมณ์แน่นอน”

ในสายตาที่ตกใจของซูสือเยว่ ชายหนุ่มยกยิ้มบางๆ “ที่จริงแล้วเขาลักพาตัวซิงหยุนกับซองเฉินไป เป้าหมายคือผม”

“เขาอยากให้ฉันยอมแพ้ให้เขา”

บางที อาจจะอยากได้ชีวิตของเขาด้วย

แต่ฉินโม่หานไม่ได้พูดประโยคหลังออกไป

ซูสือเยว่มองเข้าไปในดวงตาของเขา หลังจากนิ่งเงียบไปสักพัก ในที่สุดก็เอื้อมมือไปจับมือเขาไว้ “ทำไมคุณไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้คะ”

เธอเกือบจะคิดว่า ในใจของเขา ลูกและเธอล้วนไม่สำคัญกับเขาอีกต่อไปแล้ว

“คุณเองก็ไม่รอฟังผมอธิบายไม่ใช่หรือไง”

ชายหนุ่มยกยิัม อย่างอ่อนใจ แล้วก้มลงจูบที่หน้าผากของเธอ

“ผมสัญญาว่าผมจะพาซิงหยุนกับซิงเฉินกลับมาอย่างปลอดภัย”

ซูสือเยว่กัดริมฝีปาก แล้วพยักหน้าเงียบ ๆ

มาถึงตอนนี้แล้ว เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเชื่อใจเขา

ซิงหยุนกับซิงเฉินอยู่ในเงื้อมมือของฉินหลิงยี่ ถ้าหากฉินหลิงยี่พุ่งเป้าหมายไปที่ฉินโม่หาน…

ถึงแม้เธอจะพยายามมากแค่ไหน ก็ทำอะไรไม่ได้

“เด็กดี กลับไปอยู่ที่บ้านกับซิงกวง แล้วรอพวกเรากลับมา”

ชายหนุ่มจูบหน้าผากของซูสือเยว่อีกครั้ง แล้วหันหลังเดินจากไป

ซูสือเยว่ยืนอยู่ตรงจุดเดิม ยืนมองแผ่นหลังของชายหนุ่มเดินจากไป หัวใจของเธอเหมือนจะถูกบีบรัดด้วยมือคู่ใหญ่ที่มองไม่เห็น

มันรู้สึกเจ็บเล็กน้อย โดยไม่รู้สาเหตุ

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอรู้สึกว่าคำพูดของฉินโม่หาน เหมือนกำลังบอกลา

เขา… กำลังบอกลาใคร?

ทำไมต้องบอกลาด้วย?

เป็นไปได้ไหมว่าหลังจากที่เขาไปครั้งนี้…

ซูสือเยว่ไม่กล้าคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก

พอเห็นสีหน้าลูกสาวซีดเผือดไป เจี่ยนหมิงจงก็ขมวดคิ้ว เดินไปหยุดด้านข้างซูสือเยว่ แล้วยกมือขึ้นลูบหลังเธอเบาๆ “ทำไม ลูกไม่วางใจเหรอ”

ซูสือเยว่พยักหน้า

แน่นอนว่าเธอต้องไม่วางใจอยู่แล้ว

ในเมื่อฉินหลิงยี่สามารถลักพาตัวซิงหยุนกับซิงเฉินได้ เพื่อให้ฉินโม่หานเดินเข้าไปในกับดักที่เขาวางเอาไว้

ฉินโม่หานไปในครั้งนี้… ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง?

“ถ้าไม่วางใจก็ตามเขาไปสิลูก”

เจี่ยนเฉิงมองมาที่เธอ “แทนที่จะอยู่ที่นี่แล้วคิดมาก ตามเขาไปคงจะดีกว่า”

คำพูดของเขา ทำให้ซูสือเยว่คิดได้ทันที

เธอหันหลังกลับ แล้ววิ่งไปที่รถของเจี่ยนเฉิงรวดเร็วราวบินไได้เธอรีบเปิดประตูแล้วสตาร์ทรถออกไปทันที

รถสีดำพุ่งออกมาไปกับลูกศร ขับตรงไปยังทิศทางที่รถของฉินโม่หานจากไปก่อนหน้านี้

“ความรักของคนหนุ่มสาว ทำให้คนเหนื่อยใจจริงๆ”

เจี่ยนหมิงจงมองไปตามทิศทางที่ซูสือเยว่จากไป แล้วถอนหายใจออกมา

เจี่ยนเฉิงชำเลืองมองเขานิ่งๆ “ความรักของพวกนาย ก็เหนื่อยใจเหมือนกัน”

“ไม่ว่าจะเป็นนายกับหลิวหรูเยียน หรือจะเป็น… ผู้หญิงคนนั้นกับจี้ว่านเชิ่ง”

พอได้ยินเจี่ยนเฉิงพูดถึงจี้ว่านเชิ่ง บิดาผู้ให้กำเนิดของฉินโม่หาน เจี่ยนหมิงจงก็เลิกคิ้วขึ้น “นายยังจำขงเนี่ยนโหรวได้ไหม?”

เจี่ยนเฉิงพยักหน้า “จำได้สิ ผู้หญิงที่ฆ่าจี้ว่านเชิ่งและไม่ได้รับหัวใจของจี้ว่านเชิ่งคนนั้น”

“มีอะไรหรือเปล่า?”

เจี่ยนหมิงจงหรี่ตาลง “รหัสของขงเนี่ยนโหรวคือ K”

“องค์กรที่ให้เงินทุนกับฉินหลิงยี่ และทำให้สือเยว่ของเราต้องความจำเสื่อม มีรหัสว่า Kเหมือนกัน นายไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญไปหน่อยเหรอ?”

สายตาของ เจี่ยนเฉิงเบิกกว้าง “เป็นไปได้ไหมว่า … “

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset