สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 329 คนนำทางคนนั้น

ซิงเฉินที่นั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย มองหญิงสาวที่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม สวมชุดกาวน์สีขาวตรงหน้า เหงื่อเย็นๆผุดบนศีรษะทีละชั้นๆ

แม้ว่าก่อนหน้าที่เขาจะสลบไป ไม่เห็นว่า“คุณหมอเจียง”ที่ผู้ชายคนนั้นพูดถึง ตกลงว่าใช่คนตรงหน้าเขาคนนี้หรือไม่ แต่ สรรพนามที่เรียกเหมือนกัน ทำให้เขากลัวเล็กน้อย

ก่อนที่จะสลบไป ซิงเฉินจำได้ชัดเจน ว่ามีคนอยู่ด้านหลังเขา เอาเข็มทิ่มลงบนแขนเขาหนึ่งครั้ง

ต่อจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แล้ว

ตอนแรกคนที่เอาเข็มมาทิ่มเขาจนสลบ ก็คือคุณหมอเจียง

ตอนนี้คนที่รักษาเขาหายแล้ว คนที่จะพาเขาไป ก็ยังเป็นคุณหมอเจียง

เด็กน้อยกัดริมฝีปาก เงยหน้ามองฉินโม่หานและซูสือเยว่ที่อยู่ตรงหน้า นัยน์ตาแฝงความอ้อนวอนขอร้อง “ผมไม่ไปกับเธอได้มั้ยครับ”

“ไม่ได้หรอกนะ”

ซิงเฉินยังพูดไม่ทันจบเจียงหลีก็หัวเราะออกมา ดวงตาแคบและยาวคู่นั้นมองใบหน้าของซิงเฉินอย่างแผ่วเบา “พ่อกับแม่เธอเซ็นชื่อทำข้อตกลงกับฉันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว”

“หลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมา จำเป็นต้องไปกับฉัน”

พูดจบ เจียงหลีก้มหน้าลงมองเวลา “วันนี้ตอนนี้บ่ายสี่โมงกว่าแล้ว ไม่ทันแล้ว”

เธอลุกขึ้นยืน “คืนนี้พวกคุณก็บอกลากันให้เรียบร้อยนะคะ พร้อมกับช่วยเก็บสัมภาระของซิงเฉินด้วยเลย”

“พรุ่งนี้เช้าตรู่ ฉันก็จะมาพาเขาไป”

พูดจบ หญิงสาวยังส่งสายตาให้ฉินโม่หาน “แม้ว่าบนข้อตกลงบอกไว้แล้วว่า ในช่วงระยะเวลาหนึ่งปีพวกคุณจะพบกับซิงเฉินไม่ได้”

“แต่ว่า……”

เธอมองฉินโม่หานอย่างหลงใหล “ถ้าคุณยินยอม ฉันก็จะส่งข้อความให้คุณ รายงานสถานการณ์ของซิงเฉินให้ทราบค่ะ”

พูดจบ หญิงสาวหมุนตัว จากไปอย่างสง่างาม

ซูสือเยว่ยืนอยู่ที่เดิม มองแผ่นหลังของเธอที่เดินจากไปอย่างเฉยชา สุดท้ายก็เงยหน้าขึ้นมา มองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆตนเอง “ทำยังไงดีคะ”

เวลาหนึ่งคืน จะเอาตัวซิงเฉินไปซ่อนไว้ที่ซึ่งคนอื่นหาไม่เจอ……จะทันเหรอ

อาจจะเพราะอ่านความคิดในใจของซูสือเยว่ออก ฉินโม่หานถอนหายใจ หันไปทางเธอส่ายหน้าอย่างเงียบๆ “เป็นไปไม่ได้”

“อยู่ที่เมืองหรงเจียงหลีเย่อหยิ่งอวดดีขนาดนี้ คุณคิดว่าเธอตัวคนเดียวจริงเหรอ”

ซูสือเยว่กัดริมฝีปาก ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ซิงเฉินที่อยู่บนเตียงก็ถอนหายใจ “เธอมีผู้สมรู้ร่วมคิด”

เด็กน้อยขมวดคิ้วมองซูสือเยว่ “หม่ามี๊หากระดาษกับปากกาให้ผมหน่อยได้มั้ยครับ”

ซูสือเยว่ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร แต่ซิงเฉินสลบไปนานขนาดนี้ สิ่งแรกที่เขาต้องการก็คือกระดาษกับปากกา แน่นอนว่าเธอต้องทำตามความต้องการเขาแน่นอน

หญิงสาวเปิดประตูไปข้างนอก ไปหาพยาบาลขอกระดาษและปากกา ถือเข้าไปในห้องส่งให้ซิงเฉิน

เด็กน้อยเอากระดาษวางบนหัวเข่า เหยียดตัวพิงกับหัวเตียง ขมวดคิ้ว ย้อนความทรงจำพลาง วาดไปพลาง

สุดท้าย ซิงเฉินก็วาดใบหน้าของชายผู้หนึ่งออกมาบนกระดาษ “ก็คือคนนี้”

เขาส่งกระดาษแผ่นนั้นให้ฉินโม่หานอย่างจริงจัง “ผู้ชายคนนี้ ก็คือคนสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนที่ผมจะสลบไป”

“ตอนนั้นเขากดผมไว้กับพื้น เรียกชื่อใครคนหนึ่งว่าคุณหมอเจียงบอกว่าจับผมได้แล้ว”

เด็กน้อยเกาศีรษะอย่างสงสัยเล็กน้อย “ผมไม่รู้ว่าคุณหมอเจียงที่เขาเรียกนั้น คือคุณหมอเจียงคนนี้หรือเปล่า ผมก็ไม่เคยเห็นหน้าคุณหมอเจียงคนนั้นว่าหน้าตาเป็นยังไง แต่ว่าหน้าตาคนผู้นี้ ผมจำได้”

ฉินโม่หานขมวดคิ้วรับกระดาษแผ่นนั้นมา

ซูสือเยว่ก็รีบโน้มตัวไปดู

รอตอนที่สองสามีภรรยาเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นบนกระดาษ ต่างก็ตกใจในเวลาเดียวกัน

ผู้ชายคนนี้ ฉินโม่หานและซูสือเยว่จำได้

และยังจำได้อย่างแม่นยำด้วย

คนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เป็นคนที่ไป๋ลั่วหามาวันนั้น พาฉินโม่หานเข้าไปในป่า เป็นคนนำทางในท้องที่นั้น

“คนนี้……”

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว

เธอจำได้จริงๆ ตอนที่ฉินโม่หานจะเข้าไปในป่า ข้างกายมีคนนำทางคนนี้ตามไปด้วยจริงๆ

รอจนต่อมาเธอกับไป๋ลั่วตามเข้าไปในป่านั้น สิ่งที่เห็น ก็มีแค่ฉินโม่หานเพียงคนเดียว

ฉินโม่หานมองภาพวาดบนกระดาษ คิ้วขมวดเข้าหากันอย่างแรง

คนนำทางคนนี้ เขายังจำได้

วันนั้นพอเขาพบฉินหลิงยี่ ก็แทบจะทนที่จะพุ่งตัวไปไหว ถือมีดอยากจะไปฆ่าฉินหลิงยี่

ต่อมาเพราะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉินหลิงยี่ ดังนั้นจึงไม่เข้าใกล้เขาเลย

ตอนนั้นเขาพูดว่า เพราะเมื่อก่อนนี้คนนำทางที่พวกเขาส่งคนไปสามคนถูกฆ่าตาย เป็นพี่น้องที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เขาอยากจะล้างแค้นให้พี่น้องเขา

ฉินโม่หานขมวดคิ้ว ในหัวสับสนเล็กน้อย

ซิงเฉินไม่มีทางโกหกเขา

ถ้าสิ่งที่ซิงเฉินพูดทั้งหมดเป็นเรื่องจริง อย่างนั้นคนนำทางคนนี้ ก็น่าจะไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่เป็นคนขององค์กรK

ในเมื่อเขาเป็นคนขององค์กรK อย่างนั้นพี่น้องสามคนที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก……ก็น่าจะไม่ใช่คนพื้นเพเมืองหรง

ดังนั้น……

ดวงตาของชายหนุ่มหรี่มองอย่างแรง

ตอนแรกฉินหลิงยี่ น่าจะรู้อยู่แล้วว่าสามคนนั้นเป็นคนขององค์กรK จึงได้ลงมือฆ่า

ไม่เช่นนั้น เขาไม่มีทางฆ่าคนอย่างง่ายดายขนาดนั้น

แม้ฉินหลิงยี่จะเป็นคนเลว แต่ก็ไม่เลวร้ายถึงขั้นฆ่าคนไม่มีทางสู้

น่าจะเป็นเพราะการปรากฏตัวของคนขององค์กรK เขาจึงรู้ว่าตนเองหมดทางรอดชีวิตแล้ว สุดท้ายจึงเลือกที่จะจับตัวซิงเฉินและซิงหยุนไป บีบให้ฉินโม่หานไปพบเขา และดำเนินการต่อสู้ในสนามประลองที่เขาเฝ้ารอมาทั้งชีวิตนี้กับเขา

อาจจะ ตั้งแต่แรกเริ่ม ฉินหลิงยี่รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว แต่แค่ไม่ได้พูดเท่านั้น

ชายหนุ่มขยำกระดาษใบนั้นในมือตนเองแน่น สายตาและอารมณ์สับสนเหมือนกัน

เวลานี้เอง ไป๋ลั่วก็ผลักประตูเข้ามา “คุณชายครับ เรื่องที่คุณให้ผมไปจัดการ ผมจัดการเสร็จแล้วครับ”

พูดจบ เห็นฉินโม่หานไม่ตอบอะไรเขา ไป๋ลั่วขมวดคิ้ว เงยหน้ามองกระดาษแผ่นนั้นในมือของฉินโม่หาน “นี่ไม่ใช่คนนำทางที่ผมเคยไปหาเมื่อก่อนนี้เหรอครับ”

ฉินโม่หานขมวดคิ้ว มองเขาอย่างเย็นชา “แกไปหาเขาที่ไหน”

“ในตลาดเมืองฝั่งตะวันตกครับ”

ไป๋ลั่วขมวดคิ้ว “คนผู้นี้อยู่ที่เมืองฝั่งตะวันตก ได้ยินว่าตอนเด็กๆเติบโตในเขตใกล้ชานเมืองเมืองฝั่งตะวันออก พี่น้องหลายคนของเขาเหมือนกับเขา คุ้นเคยกับป่าของเมืองฝั่งตะวันออกเป็นอย่างดี”

“ต่อมาเพราะปัญหาการย้ายที่อยู่พวกนั้น ต่อมาก็เลยมาอาศัยอยู่ที่เมืองฝั่งตะวันตก”

พูดจบ ไป๋ลั่วขมวดคิ้วทอดถอนใจเฮือกหนึ่ง “หมอนี่ก็ช่างใจกล้าจริงๆ ในฐานะที่เขาเป็นคนนำทางของพวกเรา พวกเราเกิดเรื่องที่ในป่าของเมืองฝั่งตะวันออก เขาก็กลับไปเมืองฝั่งตะวันตกตัวคนเดียวเลย”

“คงจะเพราะตอนหลังคิดว่าไม่ได้ช่วยอะไรพวกเรา แม้แต่ค่าเหนื่อยก็ยังไม่เอา”

คำพูดของไป๋ลั่ว ทำให้ฉินโม่หานและซูสือเยว่ทั้งสองคนชะงักไปทันที

สองสามีภรรยาสบตากัน ในที่สุดฉินโม่หานก็ขมวดคิ้ว จ้องมองหน้าไป๋ลั่วนิ่งๆ “แกบอกว่า เขาพักอยู่ที่เขตเมืองฝั่งตะวันตกเหรอ”

ไปลั่วพยักหน้า

“บ่ายวันนั้นที่พวกเขาเกิดเรื่อง ตัวเขาเองกลับไปที่เมืองฝั่งตะวันตกเหรอ”

“ใช่ครับ”

ไป๋ลั่วพยักหน้าอย่างสงสัย รู้สึกแปลกประหลาดใจต่อคำถามของชายหนุ่มเล็กน้อย

“ผมมองเห็นจากกล้องวงจรปิด เขายังมีขยะกองเบ้อเริ่ม ลากถังขยะกลับไปเมืองฝั่งตะวันตกด้วย”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset