สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 365 ฉันยังมีเรื่องให้ต้องทำ

“ซูสือเยว่ คุณอย่ามาทำเกินไปนะ!”

ลู่จิ่งเฉินกอดลู่จื่อเหยาไว้ในอ้อมแขน มองดูเลือดบนร่างกายของเธอรู้สึกทุกใจเป็นอย่างมาก

“ผมรู้ว่าเพื่อนของคุณกับลู่จื่อเหยาในอดีตมีเรื่องเข้าใจผิดกัน แต่ว่าตอนนี้เรื่องเข้าใจผิดมันก็ได้ถูกแก้ไขแล้ว พวกคุณไม่ได้ทำไมต้องทำแบบนี้เลย!”

“เมื่อตอนกลางวัน เพื่อนของคุณใช้มีดจะทำร้ายลู่จื่อเหยา ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าพวกเราตามไปทันเวลา ก็ไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น!”

“ผมรู้ว่าคุณโกรธที่ตอนกลางวันลู่จื่อเหยาใช้มีดจ่อที่คอของลั่วเยียน แต่ว่าตอนนั้นลู่จื่อเหยาต้องทำไปเพราะสถานการณ์บังคับ!”

“ถ้าเกิดว่าเธอไม่ทำแบบนั้น คนที่จะได้รับบาดเจ็บก็จะเป็นเธอก็ได้”

“ซูสือเยว่ ผมรู้ว่าเพราะว่าเรื่องของฉินโม่หาน แล้วทำให้คุณรู้สึกแค้นผมมากแค่ไหน แล้ววันนี้ลู่จื่อเหยาก็ทำร้ายเพื่อนของคุณอีก”

“แต่ว่าคุณไม่จำเป็นต้องทำเรื่องแบบนี้เลย!”

“คุณมาแอบทำร้ายลู่จื่อเหยาอย่างลับๆ ล่อๆ ในตอนกลางคืนแบบนี้ มีแต่จะทำให้ผมมองคุณในแง่ได้!”

พอพูดจบ เขาก็อุ้มลู่จื่อเหยาออกไปจากที่นี่ด้วยความทุกข์ใจ

ตอนที่เดินถึงประตูเข้าดาดฟ้า ชายหนุ่มก็ขมวดคิ้ว น้ำเสียงเฉยเมย “พรุ่งนี้ผมจะพาลู่จื่อเหยาไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ”

“เรื่องที่ลั่วเยียนทำร้ายเธอในวันนี้ ในอินเทอร์เน็ตมีวิดีโอ หลักฐานแน่นหนา เธอลบไม่ได้หรอก”

“ส่วนคุณ……ผมเห็นแก่ฉินโม่หาน พรุ่งนี้ตอนที่ไปแจ้งความผมจะไม่พูดถึงคุณ แต่ถ้าเกิดผมพบว่าคนพยายามจะทำร้ายลู่จื่อเหยาอีก……”

“ต่อให้คุณเป็นภรรยาของฉินโม่หาน หรือว่าจะเป็นพี่น้องแท้ๆ ของผม ผมก็ไม่ยอมปล่อยคุณไปอย่างแน่นอน!”

พอทิ้งคำพูดนี้ไว้เสร็จ ลู่จิ่งเฉินก็อุ้มลู่จื่อเหยาก้าวยาวออกไปจากที่นี่

ซูสือเยว่นอนอยู่ที่พื้น ในอ้อมแขนกอดปากกาบันทึกเสียงไว้แน่น

เธอไม่สนใจเลยว่าลู่จิ่งเฉินพูดอะไรหรือว่าทำอะไร

ถึงแม้ว่าลู่จิ่งเฉินจะหน้าตาเหมือนกับฉินโม่หานเป๊ะ แล้วเป็นพี่ชายแท้ๆ ของฉินโม่หาน

แต่ว่าสำหรับเธอซูสือเยว่แล้วนั้น ลู่จิ่งเฉินก็เป็นแค่คนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานเท่านั้นเอง

เธอไม่มีความจำเป็นต้องไปแคร์เขา!

สิ่งแรกที่ใช้แคร์ในใจของเธอ มีเพียงแค่ฉินโม่หานเท่านั้น!

ถ้าคิดได้แบบนี้แล้ว เธอก็รีบขึ้นมือที่เปื้อนเลือดออกมา แล้วก็เปิดปากกาบันทึกเสียงด้วยมือที่สั่นเทา

สิ่งที่เธอตั้งตารอคอยจากปากกาบันทึกเสียงเครื่องนั้น ก็คือคำพูดที่เจียงหลีพูดก่อนหน้านี้ ที่เธอวางแผนใส่ร้ายฉินโม่หาน

แต่ว่า……

“เธอถูกหลอกแล้ว”

“ฉันจะพกปากกาที่สำคัญแบบนี้ติดตัวไว้ได้ยังไง”

“ฝีมือของเธอดีขนาดนั้น ถ้าเกิดว่าสู้กันฉันเอาชนะเธอไม่ได้หรอก ถ้าเกิดว่าถูกแย่งไป ฉันก็คงได้แต่เจ็บใจสิ?”

“ดังนั้น ฉันอัปโหลดเสียงบันทึกไปบนอินเทอร์เน็ต ที่จัดเก็บบนอินเทอร์เน็ตนั้นกลับมา มีเพียงแค่ชั้นเท่านั้นที่รู้รหัสผ่านบัญชีในการเปิด”

“ส่วนปากกาบันทึกเสียงนั้น……แน่นอนมันเป็นเหยื่อล่อ ปากกาบันทึกเสียงแบบนี้ ฉันซื้อไว้ 10 กว่าอัน……”

“เธอลองทายดูสิ วันด้านในจะมีเสียงบันทึกไว้ไหม?”

“ฮ่าๆๆ ——!”

กลางคืนที่เงียบเชียบ

ซูสือเยว่นอนอยู่คนเดียวในมุมบนดาดฟ้า ฟังเสียงหัวเราะถากถางของลู่จื่อเหยาจากในปากกานั้น หัวใจของเธอก็เย็นยะเยือกลงในทันที

เธอหลับตา แล้วหัวเราะออกมายังข่มขืน

แผลที่มือของเธอยังเจ็บปวด

ความพยายามของเธอทั้งหมดมันเปล่าประโยชน์

ถึงมันจะเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด แต่ว่ามันก็สมเหตุสมผล

ลู่จื่อเหยาผู้หญิงคนนี้ฉลาดมาก ฉลาดพอที่จะคอยควบคุมและสังเกตวันที่พวกเธอพบกัน วางแผนตอนที่พวกเธอคุยกัน แม้กระทั่งตำแหน่งของเธอ

ดังนั้น ปากกาอัดเสียงแท่งนี้มันจะเป็นของจริงได้อย่างไร?

คำว่าเธอโง่เอง ใสซื่อ แล้วก็รีบร้อนเกินไปเอง ดังนั้นก็เลยเดินไปตามทางของลู่จื่อเหยา ไม่ใช่แค่ไม่ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ แถมยังแหวกหญ้าให้งูตื่นอีก ทำให้ลู่จื่อเหยาเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกัน หรือแม้แต่ ……

ทำให้ลู่จิ่งเฉินคับข้องใจ

ซูสือเยว่หลับตาลง พร้อมกับแหงนมองท้องฟ้าด้วยรอยยิ้มที่ข่มขืน

เธอก็แค่อยากจะได้ปากกาอัดเสียงของตัวเองคืน อยากจะลองทำตามวิธีของหานหยุน อยากแค่ให้ฉินโม่หานได้ฟื้นขึ้นมา

ความต้องการนี้มันเกินไปเหรอ?

เกินไปงั้นเหรอ?

ทำไมพระเจ้าประทานความหวังให้เธอครั้งแล้วครั้งเล่า และทำลายมันด้วยตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า!?

“สือเยว่!”

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน หน้าประตูดาดฟ้าก็มีเสียงของลั่วเยียนและฟู๋เชียนเชียนดังขึ้น

ผู้หญิงทั้งสองคนพุ่งเข้ามา มองดูมือที่เปื้อนเลือดไหลเปื้อนฝุ่นของซูสือเยว่ แล้วก็ประกาศเสียงในมือของเธอ แววตาก็ปรากฏให้เห็นความเจ็บปวด

ฟู๋เชียนเชียนรีบเข้ามาดึงให้ลุกขึ้น “ไปโรงพยาบาลกับฉัน!”

ซูสือเยว่กลับนอนนิ่งไม่ขยับแล้วแหงนหน้ามองท้องฟ้าอยู่แบบนั้น “ไม่ไป”

เธอแหงนหน้ามองท้องฟ้านิ่ง “เชียนเชียน เธอว่า……”

“ทำไมการที่อยากจะช่วยคนที่เธอแคร์ มันถึงได้ยากขนาดนี้……”

ฟู๋เชียนเชียนกัดริมฝีปาก มองดูความอ่อนแอของเธอ น้ำตาของความทุกข์ใจก็เอ่อคลอเบ้า

ซูสือเยว่เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งขนาดไหน ฟู๋เชียนเชียนรู้ดีที่สุด

ตอนแรก เธอเห็นเองกับตาว่าเพื่อเฉิงเซวียนแล้ว ซูสือเยว่ตั้งท้องลูกของฉินโม่หาน และอดทนต่อความเจ็บปวดในการตั้งครรภ์ทั้ง 10 เดือนเพียงคนเดียว

หลังจากนั้น เธอก็เห็นกับตาว่าหลังจากที่ซูสือเยว่จับได้ว่าเฉิงเซวียนกับเซี่ยงหวั่นฉิงเป็นชู้กัน ก็เดินออกมาจากความเจ็บปวดเพียงคนเดียว

เธอไม่เคยหลงทาง หมดหนทาง ราวกับว่าเธอสูญเสียความหวังในชีวิตเหมือนกับตอนนี้มาก่อนเลย

แต่ว่าตอนนี้……

“สือเยว่”

ลั่วเยียนสูดหายใจเข้าลึกๆ เดินเข้าไป แล้วก็จับข้อมือของซูสือเยว่เบาๆ

“ฉินโม่หานยังมีชีวิตอยู่ เธอจะยอมแพ้ไม่ได้”

“ถ้าเกิดว่าเธอเองก็ล้มไป เธอคิดว่าฉินโม่หานยังจะฟื้นขึ้นมาได้อีกเหรอ?”

“หรือว่าเธออยากจะแยกจากฉินโม่หานจริงๆ แล้วให้ซิงหยุน ซิงเฉิน ซิงกวงเด็กน้อยทั้ง 3 คนนี้กลายเป็นเด็กกำพร้า ไร้บุคคลให้พึ่งพาในอนาคตเหรอ?”

“พวกเด็กๆ ยังเด็กมาก เธอจำเป็นต้องมีชีวิตที่ดี ฉินโม่หานก็จำเป็นต้องฟื้นขึ้นมา”

“ต่อให้เธอไม่ยินยอม แต่ว่าตอนนี้เธอก็ต้องปลุกใจขึ้นมา”

คำพูดของหญิงสาว ทำให้ซูสือเยว่หลับตาลง แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น

ใช่

ต่อให้เธอไม่ยอม เธอเหนื่อย

แต่ว่าเธอก็ต้องปลุกใจขึ้นมา

ตราบใดที่ฉินโม่หานยังมีลมหายใจอยู่ เธอจะเลือกยอมแพ้ไม่ได้

ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็ปีนขึ้นมาจากพื้นด้วยความยากลำบาก แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองฟู๋เชียนเชียน “ช่วยติดต่อจี้หนานเฟิงให้ฉันหน่อยสิ”

“วันนี้ฉันจะไปหาฉินโม่หาน”

เธอไม่เชื่อหรอกว่า ถ้าเกิดไม่มีปากกาอัดเสียงแท่งนั้น เธอจะปลุกฉินโม่หานให้ฟื้นขึ้นมาไม่ได้!

เธอจะเฝ้าอยู่ข้างๆ เขาตลอดเวลา อยู่กับเขาทุกวินาที และเอาแต่บอกเขา ว่าเขาได้ทำอะไรและไม่ได้ทำอะไร

ถ้าเกิดว่าทำแบบนั้นแล้วฉินโม่หานยังไม่ฟื้นขึ้นมา……

เธอก็จะยอมรับ!

ฟู๋เชียนเชียนชะงักไป และก็รีบพยักหน้า “OK”

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง จี้หนานเฟิงก็พาหานหยุนมา

ซูสือเยว่ถูกฟู๋เชียนเชียนและลั่วเยียนประคองอยู่ แล้วก็ขึ้นมาบนรถของจี้หนานเฟิง

หานหยุนพันนิ้วให้เธอไปด้วย แล้วก็ถามเธอเกี่ยวกับเรื่องราวที่เธอตามหาปากกาเสียงอีกด้วย

แล้วรถก็สตาร์ทขึ้น

ตอนที่ฟู๋เชียนเชียนขึ้นรถกลับซูสือเยว่นั้น ก็หันหน้าไปมองลั่วเยียนที่ยืนอยู่ด้านนอก

“ไม่ไปเยี่ยมฉินโม่หานกับพวกเราเหรอ?”

ลั่วเยียนยิ้ม

เธอส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ฉันยังมีเรื่องให้ต้องทำ”

ฟู๋เชียนเชียนเม้มปาก ที่จริงแล้วเธอยังไม่ค่อยสนิทกับลั่วเยียนเท่าไหร่นัก ก็ไม่กล้าถามว่าเธอจะไปทำอะไรกันแน่ ได้แต่บอกให้จี้หนานเฟิงขับรถออกไปจากที่นี่

ลั่วเยียนยืนอยู่หน้าประตูร้านอาหารแล้วก็มองพวกเขาจากไป

ตอนที่รถหายไปจากสายตาของเธอนั้น เธอก็สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็เข้าไปในร้านอาหาร

“เถ้าแก่ กล้องวงจรปิดที่ร้านของคุณมีฟังก์ชันในการบันทึกเสียงด้วยใช่ไหม?”

“เปิดภาพบันทึกบนดาดฟ้าเมื่อกี้นี้ให้ฉันดูทั้งหมด”

เธออยากจะรู้ว่า เมื่อกี้ซูสือเยว่ต้องเจออะไรมาบ้าง!

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset