สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 373 คุณน้าลั่วเยียน

ลั่วเยียนตื่นตกใจออกมา

เธอนึกไม่ถึงว่าฉินหนานเซิงจะมาในตอนนี้ได้

ถือโอกาสใช้พลังของแอลกอฮอล์ เธอมองชายคนตรงหน้าไปนิ่งๆใบหน้านี้เธอเคยหลงใหลที่สุด

“ฉันทำเรื่องงี่เง่ายังไง?”

“ชีวิตของฉันเอง ฉันจะเป็นคนตัดสินใจด้วยตัวเอง”

เธอพูดไปพลาง เดินเข้าไปนิ่งๆไปพลาง เกี่ยวตรงกรามล่างของฉินหนานเซิงขึ้นมาอย่างไม่จริงจังนัก

“ฉินหนานเซิง เมื่อก่อนหลากหลายเรื่องฉันก็ได้เชื่อฟังคุณมาทั้งนั้น”

“ฉันคิดว่าคุณคือคนที่ฉันรักมากที่สุด เป็นท้องฟ้าของฉัน เป็นพระอาทิตย์ของฉัน แล้วฉันก็จะต้องโคจรรอบตัวคุณ”

“คุณเปิดบริษัทโมเดลลิ่ง ต้องการนักแสดงหญิงดีเด่นสักคนนึง ฉันก็เลยพยายามตั้งใจเรียนสุดชีวิต ในทุกๆวันก็เอาแต่ศึกษาว่าจะถ่ายละครยังไงไปตลอดทั้งวันทั้งคืน”

“ฉันไม่ได้มีประกาศนียบัตรที่ได้เรียนจบจากทางด้านนี้โดยตรง แต่เพื่อให้ลู่จื่อเหยาได้รักษาตัวแล้ว ฉันก็ได้หยุดเรียนไปทำงานพาร์ทไทม์”

“ในวงการนี้ฉันเดินไปอย่างยากลำบากมากแค่ไหน มีเพียงแค่ตัวฉันเองเท่านั้นที่รู้ดี”

“ตอนที่เริ่ม ฉันทำงานไปก็เพื่อให้ลู่จื่อเหยาได้รักษาตัว แต่หลังจากที่ลู่จื่อเหยาเดินออกไปแล้ว ฉันยังพยายามทำงานอยู่”

“ถึงขนาดที่พยายามหนักกว่าเมื่อก่อนเสียอีก คุณรู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไร?”

เธอมองหน้าของชายหนุ่ม รอยยิ้มตรงมุมปากได้เปลี่ยนมากำเริบเสิบสานมากขึ้นกว่าเดิม “ฉันอยากจะทำให้คุณมีความสุขไง”

“คุณเคยบอกว่าคุณไม่อยากจะสืบทอดทรัพย์สมบัติของตระกูลฉิน เงื่อนไขสุดท้ายที่อาเล็กของคุณกับพ่อของคุณให้กับคุณมาคือให้คุณสร้างกิจการของตัวคุณเองมาภายในช่วงหลายปีนี้ขึ้นมา”

“คุณบอกว่าคุณอยากจะเปิดบริษัทโมเดลลิ่ง คุณบอกว่าคุณอยากจะปั้นให้ฉันดัง ให้ฉันกลายเป็นตัวทำเงินของบริษัทของคุณ”

“ฉันเลยพยายามทำงานอย่างหนัก พยายามถ่ายละครให้ดี”

“ปีนึงมีสามร้อยหกสิบห้าวัน ฉันมีสามร้อยหกสิบวันที่ต้องหมกตัวอยู่ในกองถ่ายตลอด”

“สุดท้าย ฉันก็ได้คว้านักแสดงหญิงดีเด่นมาให้คุณได้ ทำให้คุณสามารถเชิดหน้าชูตาอยู่ต่อหน้าอาเล็กกับคุณพ่อของคุณได้”

“แต่คุณให้อะไรกับฉันล่ะ?”

เธอมองเขา สายตาค่อยๆเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นขึ้นมาช้าๆ

“สิ่งที่คุณให้ฉันมา ก็คือในทุกครั้งที่คุณดื่มเหล้า พอเมาแล้วก็จะต้องเอ่ยถึงชื่อของลู่จื่อเหยาขึ้นมาเสียทุกครั้ง”

“มันเป็นความไม่เชื่อมั่นของคุณ คุณมักจะคิดอยู่ตลอดว่าเมื่อตอนนั้นคนที่ติดต่อกับคุณทางจดหมายคนนั้นเป็นลู่จื่อเหยา ฉันเพียงแค่เคยอ่านเนื้อหาที่คุณคุยกับลู่จื่อเหยามาก่อนเท่านั้น แล้วเป็นคนที่เลียนแบบลายมือของลู่จื่อเหยาเอาเท่านั้น”

“คุณให้ฉันทำอะไร ฉันก็ทำทุกอย่าง”

“คุณให้ฉันดูแลซูสือเยว่ ฉันก็ดูแลซูสือเยว่”

“คุณให้ฉันออกห่างจากจี้หนานเฟิงสักหน่อย ฉันก็ออกห่างจากจี้หนานเฟิง”

เธอมองหน้าของฉินหนานเซิง แสงสว่างในดวงตาค่อยๆเปลี่ยนจากความชอบที่มีต่อเขาไปเป็นความโกรธและได้เปลี่ยนเป็นความเกลียด

“เพื่อคุณแล้ว ฉันไปช่วยซูสือเยว่ จนสุดท้ายก็ได้ประสบเข้ากับเรื่องอย่างนั้น ฉันสูญเสียความบริสุทธิ์ของตัวเองไป”

“คุณมันดีมากเลยจริงๆ คุณใช้โอกาสตอนที่ฉันอยู่ในอาการโคม่า แต่งฉันเข้าบ้านไป มอบชื่อเสียงสถานะให้ฉัน ให้ฉันไม่ต้องเจอกับคำพูดเสียๆหายๆเพราะเรื่องนี้”

“แต่ต่อจากนั้นล่ะ?”

“หลังจากที่ฉันฟื้นขึ้นมา คุณก็เริ่มไล่ฉันออกไป”

“ฉันไม่ตกลง คุณก็ไม่มาเจอฉันเลย ลงโทษฉัน”

“ฉันนึกว่าคุณอยากจะหย่ากับฉันเป็นเพราะว่าขาของคุณไม่ดี คุณก็เลยไม่อยากทำให้ฉันต้องลำบาก ก็เลยให้ฉันออกไป”

“ฉันยังตัดสินใจเด็ดขาดไปว่าไม่ว่าจะยังไงฉันก็จะต้องช่วยคุณให้ได้ รักษาขาของคุณให้หายให้ได้”

“แต่ว่า…”

เธอมองเขาพลางยิ้มเย็นออกไป “ถึงตอนที่ลู่จื่อเหยากลับมาแล้ว ตอนที่คุณไปเจอลู่จื่อเหยาครั้งแรก”

“ฉันถึงได้เข้าใจอย่างชัดเจน”

“ว่าที่แท้ที่คุณหย่ากับฉันก็เป็นเพราะลู่จื่อเหยานั่นเอง”

“คุณรู้สึกผิดกับลู่จื่อเหยาของคุณ ถูกมั้ยล่ะ?”

พูดจบ เธอก็ได้ปล่อยกรามล่างของฉินหนานเซิงไปอย่างแรง

“เมื่อก่อนฉันใช้ชีวิตอยู่เพื่อคุณมานานมาก เหนื่อยเกินไปแล้ว”

“ดังนั้นแล้วตอนนี้ฉันอยากจะยอมแพ้แล้ว”

“หย่ากับคุณ ถอนตัวออกไปจากวงการบันเทิง”

“ออกไปจากคุณ และก็ออกไปจากการมีชื่อเสียงที่คุณเคยสร้างมาให้กับฉัน”

“ต่อจากนี้ไปฉันจะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับคุณเลยแม้แต่นิดเดียว”

พูดจบ เธอก็สูดหายใจเข้าลึก กระชากสร้อยคอที่ทำใจถอดออกไปไม่ลงที่สวมอยู่บนลำคอมาโดยตลอด เป็นสร้อยที่ฉินหนานเซิงมอบให้เธอมาออกมาทันที

สร้อยเส้นนั้นทั้งบางและสวยมาก นาทีที่ถูกกระชากออกมา ก็ได้ขาดเป็นสองท่อนไปทันที

ลั่วเยียนโยนสร้อยคอลงไปบนพื้น

“ฉินหนานเซิง ตั้งแต่วันนี้ไปฉันจะมีชีวิตอยู่เพื่อตัวฉันเอง”

“คุณชอบใคร ไม่ชอบใคร ล้วนแล้วแต่จะไม่เกี่ยวกับฉันทั้งสิ้น”

“ฉันจะทำเรื่องงี่เง่าขึ้นมาหรือไม่ มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ!”

หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึกๆ เดินอ้อมฉินหนานเซิงไปทางด้านหลังเขาแล้วเปิดประตูห้องออกมา

จากนั้นเธอก็ใช้ความเร็วที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เข้าไปเปลี่ยนทิศทางรถเข็นของฉินหนานเซิงเข็นออกไปด้านนอกประตูทันที

ประตูห้องถูกปิดลงเสียงดัง “ปัง”

ตัวของลั่วเยียนได้พิงเข้ากับบานประตูไปเหมือนกับคนที่กำลังหมดแรง ทั้งร่างได้ไถลลงไปอย่างไร้เรี่ยวแรง

ด้านนอกประตูได้มีเสียงเคาะประตูของฉินหนานเซิงดังขึ้นมา

“ลั่วเยียน!”

“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?”

“คุณเปิดประตูออกมานะ!”

เธอปิดหูเอาไว้ไม่ฟัง

สุดท้ายหญิงสาวก็ได้ทรุดนั่งลงไปกับพื้น ปิดหูเอาไว้ น้ำตาไหลพรากลงมา

เธอควรจะรู้สึกยินดีขึ้นมาที่เมื่อกี้เธอได้ดื่มเหล้าไป

เหล้าทำให้คนขี้ขลาดใจกล้าขึ้นมา คำพูดประโยคนี้มันเป็นความจริงจริงๆด้วย

ถ้าไม่ถือโอกาสตอนที่เมาอยู่ ด้วยนิสัยของเธอแล้ว ก็คงทำเรื่องที่ไร้ความปรานีขนาดนี้กับฉินหนานเซิงออกไปไม่ได้เลยจริงๆ

บนโซฟาที่อยู่ด้านในประตู ซิงหยุนซิงเฉินซิงกวงเด็กน้อยทั้งสามคนพากันมองหน้ากันไปมา

หลังจากที่ผ่านไปได้สักพักนึง ซิงเฉินก็ได้สูดหายเข้าลึกๆ ก้าวเท้าเดินเข้าไปข้างๆลั่วเยียน จากนั้นก็นั่งลงไปข้างๆ

“พี่สะใภ้ลั่วเยียน บ่าของผมสามารถให้พี่ซบได้นะครับ”

ได้ยินเสียงอ่อนเยาว์ที่จงใจแสร้งดัดเป็นเสียงผู้ใหญ่มาอีกทีของเด็กน้อยแล้ว ลั่วเยียนก็หยุดร้องไห้แล้วหลุดหัวเราะออกมา

เธอกอดซิงเฉิน แล้วเอาหัวซุกลงไปบนบ่าเล็กๆของเขา

“ขอบคุณเธอนะ”

“แต่จากนี้ไปเรียกฉันว่าคุณน้าลั่วเยียน อย่าเรียกฉันว่าพี่สะใภ้เลย”

ซิงเฉินถอนหายใจออกมา “โอเคครับ คุณน้าลั่วเยียน”

เห็นว่าอารมณ์ของลั่วเยียนค่อยๆกลับมาสงบลงเพราะซิงเฉินขึ้นมาแล้ว ซุนหยุนก็ได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมา แล้วก็ได้แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาเงียบๆ บันทึกภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าส่งไปให้ซูสือเยว่

“หม่ามี้ ผมรู้ว่าตอนนี้หม่ามี้ยุ่งมาก แต่ว่า…เรื่องทางนี้หม่ามี้ก็ยังจะต้องใส่ใจสักหน่อยนะครับ”

“คุณน้าลั่วเยียนได้กลายมาเป็นอย่างนี้ไปเพราะว่าสิ่งที่ผู้หญิงเลวๆคนนั้นพูดกับหม่ามี้เมื่อเย็นวาน”

ส่วนซิงกวงกลับก้าวเดินขึ้นไปชั้นบนไปทันที

บนหน้าจอคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับความคืบหน้าในการแฮกบัญชีลู่จื่อเหยาคนนั้นได้ดำเนินมาถึง90เปอร์เซ็นต์แล้ว

จอเพียงแค่ผ่านไปอีกสักหนึ่งชั่วโมง…

พวกเขาก็จะสามารถเอาบันทึกเสียงที่อยู่ในWeb Driveชุดนั้นมาได้!

ในขณะเดียวกันนั้นเอง เครื่องบินของจี้ว่านเชิ่งก็ได้ลงจอดที่สนามบินเมืองหรงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ด้านนอกสนามบินลู่จิ่งเฉินได้ยืนอยู่ที่ตรงทางออก กำลังรอการปรากฏตัวของจี้ว่านเชิ่งไปด้วยความวิตกกังวล

ถึงแม้ว่าอายุของเขาตอนนี้จะไม่น้อยแล้ว แต่จี้ว่านเชิ่งพ่อคนนี้นั้น…

เขาเพิ่งจะเคยเจอมาแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเอง

ครั้งนี้ นับว่าเป็นครั้งที่สองที่เขากับจี้ว่านเชิ่งได้เจอหน้ากัน

จะบอกว่าไม่ตื่นเต้นเลย มันก็โกหก

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อความน่าเกรงขามของตัวเอง และก็เพื่อภาพลักษณ์ของฉินโม่หาน จึงทำได้แค่เพียงฝืนเหยียดหลังตรงปิดซ่อนความตื่นเต้นทั้งหมดของตัวเองเอาไว้

เพียงไม่นานตรงสุดทางออกก็ได้ปรากฏเงาร่างของจี้ว่านเชิ่งกับเจี่ยนหมิงจงสองสามีภรรยาออกมา

ลู่จิ่งเฉินสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็รีบสาวเท้าก้าวใหญ่ๆเข้าไปข้างหน้า

“คุณพ่อ!”

ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกๆ มองจี้ว่านเชิ่งแล้วเอ่ยปากพูดออกไป

จี้ว่านเชิ่งส่งเสียงเฮอะเสียงเย็นออกมา

ตรงเข้ามาฟาดลงไปบนใบหน้าของลู่จิ่งเฉิน เสียงดัง “เพี้ยะ——!” ไปทีนึง

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset