สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 387 ปลูกฝังสายสัมพันธ์พี่น้อง

ลู่จื่อเหยาตกใจไปครู่หนึ่ง

ราวกับว่าเธอไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉินหนานเซิงพูดมา เธอมองไปที่ชายหนุ่มด้วยสายตาอันว่างเปล่า:

“หนานเซิง คุณ…คุณกำลังล้อเล่นหรือเปล่า?”

สุขภาพร่างกายของเธอดีจะตายไป จะเป็นมะเร็งได้ยังไง?

ถึงแม้ว่าเธอจะเคยบอกว่าเธอป่วยหนักมากมาก่อน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงกว่าใครๆ!

ลั่วเยียนเป็นมะเร็ง เธอไม่มีวันเป็นมะเร็งหรอก!

ฉินหนานเซิงยิ้มออกมาเบาๆ และโยนแผ่นตรวจวินิจฉัยโรคไปที่ลู่จื่อเหยา “ฉันจะให้แผ่นตรวจวินิจฉัยโรคฉบับนี้กับคุณ ก็แค่นึกถึงคุณที่เป็นเคยเพื่อนกันและให้โอกาสคุณไปรักษาได้ทันเวลา”

เมื่อลู่จื่อเหยาถูกโยนแผ่นตรวจวินิจฉัยโรคใส่ เธอก็อ่อนแรงล้มลงกับพื้นอย่างแผ่วเบา

ลู่จื่อเหยารีบหยิบมันขึ้นมาด้วยความสิ้นหวังที่เหมือนร่างไร้วิญญาณ

คงเป็นเพราะว่าเธอตื่นเต้นและกังวลเกินไป ลู่จื่อเหยาหยิบแผ่นตรวจวินิจฉัยโรคนั้นขึ้นมา มือของเธอสั่นอยู่หลายครั้ง แผ่นตรวจวินิจฉัยโรคปลิวหล่นลงพื้นอยู่หลายครั้ง และสุดท้ายก็หล่นไปอยู่บนพื้น

เมื่อลู่จิ่งเฉินที่ยืนอยู่ด้านหลังได้เห็นดังนั้น เขาก็เริ่มขมวดคิ้ว

ในที่สุด เขาถอนหายใจและเดินไปข้างหน้าของลู่จื่อเหยา หยิบแผ่นตรวจวินิจฉัยโรคแผ่นนั้นขึ้นมาและเหลือบมองอย่างเย็นชา และได้อ่านเนื้อหาบนแผ่นตรวจวินิจฉัยโรคแผ่นนั้น

“มะเร็งปากมดลูกระยะสุดท้าย” เขียนอยู่บนแผ่นตรวจวินิจฉัยโรค

ชายหนุ่มได้หรี่ตาลงเล็กน้อย

เขาไม่ได้พูดอะไรและส่งแผ่นตรวจวินิจฉัยโรคให้กับลู่จื่อเหยา

เมื่อเห็นเนื้อหาที่เขียนอยู่บนแผ่นตรวจวินิจฉัยโรค ลู่จื่อเหยาก็เซตามสัญชาตญาณต้องการที่จะเซล้มลงไปทางลู่จิ่งเฉิน

แต่ทว่าในครั้งนี้…

ลู่จิ่งเฉินไม่สามารถรับเธอได้ไว้เหมือนเมื่อก่อน

ชายหนุ่มหมุนตัวหลบออกห่างจากเธออย่างเย็นชา

“ปึง!” ลู่จื่อเหยาล้มลงกับพื้น

ความเจ็บที่รุนแรง ทำให้เธอกัดฟันตามสัญชาตญาณ มองหน้าของลู่จิ่งเฉินอย่างดุร้าย

เธอกำลังป่วยอยู่ ไม่นึกเลยว่าลู่จิ่งเฉินจะหลบเธอ

“คุณลู่จิ่งเฉิน”

ฉินหนานเซิงค่อยๆหันไปมองลู่จิ่งเฉินด้วยรอยยิ้มบางๆ “น้องสามีของฉันกับคุณเป็นพี่น้องแท้ๆกันนะ ถ้านับตามรุ่น ฉันควรจะเรียกคุณว่าคุณอา”

“แต่ฉันไม่ได้คิดมาก ดังนั้นฉันจึงเรียกคุณว่า คุณลู่จิ่งเฉิน ไม่ถือสาอะไรใช่ไหม?”

ลู่จิ่งเฉินหยุดไปพักหนึ่งและยิ้มออกมา “แน่นอนว่าฉันไม่ถือสา”

เขาพูดไปพลางยื่นมือออกไปหาฉินหนานเซิง “จากประสบการณ์ที่เคยโดนหลอกมาก่อน คุณก็คงเป็นผู้อาวุโสกว่า”

ฉินหนานเซิงพรวดหัวเราะออกมา ยืดมือออกไปทางลู่จิ่งเฉินแล้วจับมือกันไว้ “ถ้าคุณไม่ถือสา พวกเราคงจะสามารถนั่งดื่มและมานั่งคุยกัน”

ลู่จิ่งเฉินกระตุกยิ้มเล็กน้อยและมองไปที่ขา ของฉินหนานเซิงที่นั่งบนรถเข็น

“คุณดื่มเป็นไหม?”

“มันเป็นขาที่หัก ไม่ใช่ปากหัก”

พูดจบฉินหนานเซิงก็มองไปที่ผู้ดูแลและพูดว่า “คุณสามารถลาพักร้อนได้ ส่งผมให้กับคุณลู่จิ่งเฉินได้เลย”

คนรับใช้พยักหน้า เขาได้มอบของทุกอย่างที่ถือไว้ในมือยื่นให้ลู่จิ่งเฉินและจากไป

ก่อนที่ลู่จิ่งเฉินจะเข็นรถเข็นของฉินหนานเซิงไป เขาก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบตาไปมองลู่จื่อเหยา:

“ฉันจะให้เงินนี้กับเธอไป เพื่อให้เธอเอาไปใช้รักษาโรค ซึ่งมันควรจะพอนะ”

“ถ้าหากว่าหลังจากที่คุณหายดีแล้ว จำไว้ด้วยล่ะ ว่าอย่าไปนอนกับผู้ชายคนไหนตามใจอีก”

พูดจบเขาก็เข็นรถเข็นของฉินหนานเซิงจากไป

ลู่จื่อเหยานอนฟุบลงกับพื้น กำแผ่นตรวจวินิจฉัยโรคแน่น เธอหันไปมองลู่จิ่งเฉินกับฉินหนานเซิงที่เดินไปไกลพลางกัดริมฝีปาก

แท้จริงแล้วมันผิดพลาดไปตั้งแต่ตอนไหนกันแน่!

ชายหนุ่มสองคนนี้ เดิมทีควรจะคุกเข่าอยู่ใต้ชายกระโปรงของเธอสิ ควรจะก้มหัวและอยู่ใต้บังคับบัญชาของเธอ และก็จะกลายเป็นหุ่นเชิดให้กับเธอในที่สุด!

แต่ทำไมตอนนี้ทั้งสองคนนั้นจึงทิ้งเธอไว้แล้วหันหลังเดินจากไปแบบนั้น?

ในขณะที่เธอกัดริมฝีปากตนเองเพราะไม่อยากจะยอมรับกับสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ก็ได้ยินเสียงเตือนให้ขึ้นเครื่อง

สองมือกำหมัดไว้แน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่เธอก็ยังคงหยิบของทั้งหลายและเดินไป

เธอไม่สามารถอยู่ในเมืองหรงได้อีกต่อไป

ถ้าหากว่าเธอยังคงอยู่ต่อไป รอจนฉินโม่หานรู้สึกตัวขึ้นมา…

ยกโทษให้เธอไม่ได้แน่!!

ลู่จิ่งเฉินกับฉินหนานเซิงต่างก็มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องพัวพันกันกับเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงพร้อมใจที่จะละเธอไว้เป็นข้อยกเว้น

แต่กับฉินโม่หานเขาแตกต่างออกไป!

ผู้ชายคนนี้โหดเหี้ยมไร้ซึ่งความปรานี เธอไม่สามารถต้านทานมันไว้ได้!

เมื่อคิดไปถึงจุดนั้น เธอก็รีบยกกระเป๋าเดินทางเดินเข้าไปในจุดตรวจอย่างรวดเร็ว

แต่ไม่คิดไม่ถึงเลยว่า…

เธอยังไม่ทันไปก้าวเข้าไปในจุดตรวจ ก็มีคนคนหนึ่งยืนขวางทางไว้

คนที่ขวางทางเธออยู่ไม่ใช่ใครที่ไหน ใช่แล้ว…

เขาคือผู้ช่วยใกล้ชิดของฉินโม่หาน ไป๋ลั่ว

ในเวลานี้ บนใบหน้าของไป๋ลั่วมีรอยยิ้มบางๆอยู่ เขายื่นมือออกมากขวางทางเธอเอาไว้ไม่ให้ไป:

“คุณหนูลู่จื่อเหยา”

“ทำไมถึงจะไปแล้วล่ะครับ?”

“คุณชายของพวกเรากำลังจะรู้สึกตัว ยังไม่ทันได้คุยกับท่านเลยนะครับ”

“ท่านเพิ่งจะประกาศต่อหน้าคนทั้งเมืองว่าท่านเป็นคู่หมั้นของคุณชาย ทำไมถึงจะไปแล้วล่ะครับ?”

“คุณชายไปเห็นคลิปวิดีโอที่ท่านพูดว่าเป็นคู่หมั้นของคุณชายแล้วล่ะครับ”

“เขากำลังสนใจเกี่ยวกับเรื่องที่มีคู่หมั้นที่ไร้หลักฐานการยืนยันใดๆของคุณชายปรากฏตัวออกมาอย่างมากเลยครับ ดังนั้นเขาจึงให้ผมมาขวางทางคุณไว้ และพาคุณกลับไปพบคุณชายครับ”

“คุณหนูจะได้ถือโอกาสนี้ไปอธิบายให้คุณชายได้รับฟัง ว่าคุณชายเขาไปทำให้คุณกลายเป็นคู่หมั้นของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่”

คำพูดของไป๋ลั่ว ชั่วพริบตาเดียวสามจิตเจ็ดวิญญาณของลู่จื่อเหยาหวาดกลัวและกลายเป็นหนึ่งจิตหนึ่งวิญญาณไปแล้ว

เธอยกหิ้วกระเป๋าเดินทางไปพลางน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด

“ฉันพูดซี้ซั้วเอง! ฉันพูดจาเหลวไหล!”

“คุณชายไป๋!”

“ผู้ช่วยไป๋ที่หล่อเท่ที่สุด!”

“ได้โปรดปล่อยฉันไปที ขอร้องล่ะช่วยปล่อยฉันไป!”

“คุณก็บอกท่านฉินว่า คุณจับฉันไว้ไม่ได้ คุณหาฉันไม่เจอ เป็นไง? ดีไหม?”

ไป๋ลั่วหันมามองเธอที่กำลังร้องไห้น้ำมูกไหลและยิ้มข่มความรู้สึกของเธอเอาไว้ “แต่ว่า ถ้าหากผมบอกคุณชายว่าผมหาท่านไม่พบจริงๆ คุณชายจะคิดว่าผมไม่ตั้งใจทำงานนะครับ”

“เมื่อถึงตอนนั้นผมก็คงจะถูกปรับเงินเพื่อเป็นการลงโทษ ถ้าหากหักเงินเดือนของผมออกไปแล้วละก็…”

เมื่อได้ยินที่ไป๋ลั่วพูดแล้ว ลู่จื่อเหยาก็ตาเป็นประกาย

เธอรีบหยิบบัตรของลู่จิ่งเฉินออกมา และยังมีเช็คธนาคารมีอะไรก็ควักออกมาจนหมดเปลือกแล้วยัดเข้าไปใส่มือของไป๋ลั่ว:

“รหัสผ่านคือวันเกิดของฉัน!”

“ข้างในนี้มีหลายล้านหยวน โปรดรับไว้เถิดคุณชายไป๋!”

พูดจบ ก็ไม่ทันได้นึกถึงปฏิกิริยาของไป๋ลั่วว่าจะเป็นอย่างไร เธอก็รีบลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปในจุดตรวจอย่างรวดเร็วไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมา!

ในมือของไป๋ลั่วถือเงินเหล่านี้และบัตรเอาไว้ ก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกยิ้มขึ้นมา

ชายหนุ่มถอนหายใจ และยัดของเหล่านี้ลงในกระเป๋าเสื้อของเขา หลังจากนั้นก็ไปหาซอกมุมหนึ่งและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร:

“คุณชายซิงหยุน ทำตามที่ท่านบอกเรียบร้อยแล้วครับ”

“ลู่จื่อเหยากลัวที่จะโดนคุณชายชำระบัญชีอย่างที่คิดไว้จริงๆครับดังนั้นเงินทั้งหมดที่คุณลุงของท่านได้ให้เงินเธอไว้ล้วนมาอยู่ที่ผมหมดแล้วครับ”

“ตอนนี้เธอเข้าไปในจุดตรวจความปลอดภัยแล้ว และเธอน่าจะกลับมาอีกครับ”

“อืม”

เสียงที่แสดงถึงความสงสัยดังมาจากปลายสายในโทรศัพท์:

“สิ่งที่บอกให้นายไปบันทึก บันทึกมาแล้วใช่ไหม?”

ไป๋ลั่วหยุดครู่หนึ่งและพยักหน้า “ท่านหมายถึง ที่ลู่จื่อเหยาพูดออกจากตนเองว่า เธอพูดซี้ซั้วว่าเธอเป็นคู่หมั้นของคุณชายใช่ไหมครับ?”

“วางใจได้เลยครับ ผมบันทึกเสียงมาเรียบร้อยแล้ว อีกสักครู่จะส่งไปในกล่องจดหมายของท่านครับ”

“โอเค”

เสียงของเจ้าหนุ่มน้อยปลายสายโทรศัพท์ดังขึ้น “ส่วนวิดีโอไม่ต้องส่งมาให้ฉันในกล่องจดหมายนะ ส่งไปให้แด๊ดดี้ก็โอเคแล้ว”

“เรื่องเงินพวกนั้น ก็เอาให้แด๊ดดี้ด้วยนะ ให้แด๊ดดี้โอนให้ลุง ให้เป็นการปลูกฝังสายสัมพันธ์ของพี่น้องก็ไม่เลวเลยล่ะ!

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset