สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 411 ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเมืองมากเกินไป

ลั่วเยียนเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายตรงหน้า

เพราะการเคลื่อนไหวไปเป็นชุดเมื่อครู่ ผมของเขาจึงยุ่งเล็กน้อย ใบหน้าที่ควรซีดหมองเกิดแดงเรื่อพอสมควร บนหน้าผากมีเม็ดเหงื่อบางส่วน แต่สายตาที่มองเธอกลับเต็มไปด้วยความปวดใจและสงสาร

ลั่วเยียนใจสั่น

เธอไม่เคยเห็นฉินหนานเซิงมีสายตาแบบนี้มาก่อน

ก็ไม่ใช่ไม่เคยเห็น เพียงแต่สายตาแบบนี้ไม่เคยมีให้ตน

แต่ครั้งนี้……

ฉินหนานเซิงมองตัวเองอยู่จริงเหรอ

“นี่ฉินหนานเซิงไม่ใช่เหรอ”

“คุณชายฉินมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง……”

“ไม่ใช่ว่าเขาหย่ากับลั่วเยียนไปแล้วเหรอ ทำไมยังทุ่มเทปกป้องขนาดนี้”

“งั้นพวกเขา……”

เสียงนักข่าวแถวนั้นที่กระซิบกันเซ็งแซ่ ปลุกหลายคนที่จมอยู่ในอารมณ์ของตัวเองให้รู้สึกตัว

ฉินหนานเซิงปล่อยมือที่จับไหล่ลั่วเยียน แล้วดึงอีกฝ่ายไปข้างหลังตัวเอง

ดวงตาดุดันมองฝูงชนที่อยู่ตรงข้ามอย่างเย็นชา

“ใครให้พวกคุณมา”

พลังอำนาจของเขากล้าแกร่ง กรามที่ขบแน่นยกขึ้นเล็กน้อย พาให้คนที่เห็นต่างเหงื่อแตกอย่างไม่มีเหตุผล

นักข่าวที่เคยยโสโอหัง เมื่อเผชิญหน้ากับสายตากดขี่ของคุณชายตระกูลฉิน พลันใจสั่นเล็กน้อย

มีคนอธิบายด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “คุณ……คุณชายฉิน พวกเราก็แค่ทำเพื่อต้องการนำความจริงออกสู่สาธารณชน”

ฉินหนานเซิงหัวเราะเยาะเป็นเชิงดูถูกอย่างที่สุด

“เพื่อความจริงอะไร เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของพวกคุณมากกว่ามั้ง”

“ไม่ใช่อย่างนั้นเลยครับ”

ในฝูงชน ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมา บนใบหน้าเจือรอยยิ้มประจบสอพลอ

“ยังไงลั่วเยียนก็ถอนตัวออกจากวงการไปแล้ว เธอไม่ใช่ศิลปิน ไม่ว่าคนอื่นจะมองเธอยังไงก็ไม่มีประโยชน์ พวกเราทำให้เธอมีคุณค่าให้ผู้คนสนใจเป็นครั้งคราว เป็นการดีที่เธอจะกลับมาในอนาคต……”

สายตาของฉินหนานเซิงเปลี่ยนเป็นน่าสยดสยองอย่างถึงที่สุดขึ้นมาฉับพลัน

“เมื่อครู่คุณพูดอะไรนะ”

ชายวัยกลางคนถูกฉินหนานเซิงจ้อง เกิดตกใจกลัวจนเงียบเสียงลงทันที

“ผมว่าคุณก็ไม่ใช่ศิลปิน ความหมายของคุณคือผมสามารถเปิดเผยความเป็นส่วนตัวของคุณได้ตามใจชอบงั้นเหรอ”

ชายวัยกลางคนอธิบายตะกุกตะกัก “ผม……ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น”

“ไป๋เฉิง!”

ฉินหนานเซิงไม่สนใจคำอธิบายของเขา ออกคำสั่งต่อไป๋เฉิงที่รีบวิ่งเข้ามา

“ถอดเสื้อผ้าของเขาออก แล้วโยนไปบนถนนให้คนมุง”

“ไม่ใช่แค่นั้น หาคนมาถ่ายทอดสดด้วย ให้ทุกคนได้เห็นภาพลักษณ์ทุเรศๆ ของเขา!”

ไป๋เฉิงนำกลุ่มบอดี้การ์ดเข้ามาในสถานที่ หลังจากได้ยินคำพูดของฉินหนานเซิง บอดี้การ์ดก็ก้าวเข้าหาชายวัยกลางคนทันที

ชายคนนั้นเผยสีหน้าหวาดกลัว ร้องตะโกนอย่างร้อนรน “ไม่นะ ไม่ได้นะ!”

“นี่คือการหมิ่นประมาทผม พวกคุณทำแบบนี้ไม่ได้”

ฉินหนานเซิงหัวเราะเยาะ

“พวกคุณได้รับอนุญาตให้ขุดคุ้ยความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น ตอนนี้ผมแค่ใช้วิธีเดียวกับที่คุณทำกับผู้อื่นไง คุณทนไม่ได้เหรอ”

“ขอโทษ! ผมผิดไปแล้ว! คุณฉิน ผมสำนึกผิดแล้ว ต่อไปจะไม่ทำอีก ได้โปรดอย่าทำแบบนั้นกับผมเลย!”

ผู้ชายคนนั้นถูกบอดี้การ์ดลากไป น้ำมูกน้ำตาไหลไปทั่วพื้น ร้องไห้ฟูมฟายขอความเมตตา

“คนที่คุณควรขอโทษจริงๆ คือใคร” น้ำเสียงของฉินหนานเซิงเย็นเยียบ

“ขอโทษ คุณลั่วเยียน! ผมผิดไปแล้ว คุณให้อภัยผมนะครับ! ขอโทษจริงๆ ผมมันไม่มีจิตสำนึก ผมไม่มีศีลธรรม ได้โปรดอย่าให้คุณฉินทำแบบนี้กับผมเลย!”

ชายวัยกลางคนหวาดกลัว เลวร้ายมากที่ไปยั่วโมโหฉินหนานเซิง ซึ่งเป็นคนที่ทำอย่างที่พูดโดยไม่เกรงกลัวผลที่ตามมา

เขามีครอบครัวและอาชีพ ถ้าถูกคนเปลื้องผ้าลงอินเตอร์เน็ตขึ้นมาจริงๆ ต่อไปจะสู้หน้าใครได้อีก

ไม่เพียงแค่นั้น ครอบครัวของเขาจะถูกคนติฉินนินทาด้วย ถึงขั้นที่ว่าแม้แต่ลูกของเขาก็อาจถูกบีบให้ออกจากโรงเรียน

มาถึงจุดนี้ เขาถึงได้รู้สึกเสียใจภายหลังแล้วจริงๆ

ฉินหนานเซิงหน้าบึ้งและไม่พูดอะไร

ในที่สุด ลั่วเยียนที่อยู่ข้างหลังก็ดึงชายเสื้อของฉินหนานเซิง

ฉินหนานเซิงรู้สึกถึงแรงอันน้อยนิด จึงหันหน้าไปมองลั่วเยียนอย่างอ่อนโยน

ลั่วเยียน “ช่างเถอะ”

ลั่วเยียนหน้าซีด แต่สายตาของเธอสงบนิ่ง

หลังจากอยู่ในวงการมานาน เธอคุ้นเคยกับความโหดร้ายของวงการบันเทิงอยู่แล้ว

ไม่ใช่ว่าเธอไม่เกลียดพฤติกรรมของคนพวกนี้ แต่ถ้าทำอย่างนั้นจริงๆ ชื่อเสียงของฉินหนานเซิงก็จะพลอยไม่ดีไปด้วย

เพราะฉินหนานเซิงทำเพื่อปกป้องเธอ เธอจึงไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้ฉินหนานเซิง

ก่อนหน้านี้ฉินหนานเซิงเป็นเพียงคุณชายของตระกูลฉิน จะทำตัวอวดดีอย่างไรก็ไม่เป็นไร แต่ต่อไปฉินหนานเซิงต้องสืบทอดฉินซื่อกรุ๊ป ถ้าการกระทำของเขาไม่เหมาะสม ทั้งกรุ๊ปจะได้รับผลกระทบไปด้วย

“คุณแน่ใจเหรอ เมื่อครู่พวกเขาไม่ได้สนใจความรู้สึกของคุณกับคุณพ่อคุณแม่เลยนะ” ฉินหนานเซิงพูด

ลั่วเยียนกัดริมฝีปากล่าง หันเหสายตาไปมองครอบครัวตัวเอง

แต่สุดท้ายก็ยังพูดว่า “ไม่ต้องเปลื้องผ้าเขา มันส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเมืองมากเกินไป”

“แต่ใช้วิธีอื่นได้ ให้เขาไปลงอินเตอร์เน็ตขอโทษฉันกับครอบครัว”

“ได้ไหม”

ทั้งทั้งที่ตอนแรกยังพูดเสียงแข็ง แต่สองคำสุดท้ายกลับขอร้องกลายๆ

นุ่มนวล ฟังแล้วเหมือนการออดอ้อน

ฉินหนานเซิงอ่อนยวบไปทั้งใจ

เป็นนางฟ้าน้อยใจดีที่ยืนหยัดด้วยตัวเองคนนั้นนั่นเอง ทำไมก่อนหน้านี้เขาถึงจำไม่ได้

ทั้งทั้งที่ชัดเจนออกขนาดนี้

เป็นอีกครั้งที่ลำพึงในใจว่าตัวเองตาบอด ฉินหนานเซิงพยักหน้าเบาๆ ทั้งที่ยังสบตากับลั่วเยียน

“ได้แน่นอน”

พูดจบ ก็หันกลับมามองชายวัยกลางคนซึ่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น สีหน้ากลายเป็นเย็นชาลง

“ได้ยินชัดแล้วใช่ไหม”

“ได้ยินชัดแล้วๆ! ขอบคุณคุณลั่วเยียนมาก ผมต้องขอโทษอย่างจริงจังแน่นอนครับ!”

ชายคนนั้นถอนหายใจโล่งอก ยังดีที่ลั่วเยียนปล่อยเขาไปสักครั้ง

ฉินหนานเซิงเลื่อนสายตาไปยังนักข่าวคนอื่นๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“พวกคุณล่ะ”

พวกฝูงชนตัวสั่นงันงกด้วยความกลัวอยู่ก่อนแล้ว เพราะกลัวโดนกระทำแบบเดียวกัน เห็นฉินหนานเซิงมองมา จึงรีบร้องขอความเมตตา

“ผมก็ขอโทษ ผมจะลงขอโทษด้วยเหมือนกัน!”

“ขอโทษ คุณลั่วเยียน!”

“พวกเราผิดไปแล้ว ขอคุณโปรดยกโทษให้ด้วย!”

“ฉันจะลงขอโทษในเว่ยป๋อเดี๋ยวนี้เลย”

“ฉันจะปักหมุดขอโทษหนึ่งเดือนเต็มเลย!”

คนอื่นๆ ต่างตระหนักได้แล้ว ทยอยกันมาขอความเมตตา

ฉินหนานเซิงเลื่อนสายตาไปมองไป๋เฉิง

“คุณรับผิดชอบในการจับตามองพวกเขา ถ้าใครมันกล้าเสแสร้งต่อหน้าแล้วลับหลังแอบทำเลวล่ะก็…….”

ไป๋เฉิงพยักหน้า “รับทราบครับ”

ฉินหนานเซิงส่งเสียงเยาะเบาๆ ก่อนจะหันไปมองลั่วเยี่ยน

“พวกเราไปกันเลยไหม”

ลั่วเยียนผ่อนลมหายใจ แล้วพยักหน้าให้

“คุณแม่ เราไปกันเถอะ”

คุณแม่ลั่วที่หวาดกลัวในตอนแรก แต่ตอนนี้รู้สึกคลายกังวลไปมากแล้ว

“ได้ เราไปกัน”

ครอบครัวลั่วอยู่ในสายตาของทุกคน ค่อยๆ เดินไปที่ลานจอดรถ

บนใบหน้าฉินหนานเซิงมีรอยยิ้มบาง เดินตามคนอื่นๆ ไป

ในตอนนั้นเอง ฉินโม่หานที่ตลอดมาไม่ได้โผล่หน้าจู่ๆ กลับปรากฏตัว เข็นรถเข็นอีกคันเข้ามา

“ยังสามารถยืนอยู่ได้เหรอ”

ฉินหนานเซิงหันหน้าไปมองฉินโม่หาน “คุณอาเล็ก”

ฉินโม่หานพยักหน้าให้เขา “เมื่อครู่หล่อมากนะ”

ฉินหนานเซิงเผยยิ้มโง่ๆ

“ยังต้องการขาอยู่ไหม” ฉินโม่หานถามอีกครั้ง

ใบหน้ายิ้มแย้มพลันแข็งทื่อ เมื่อเห็นว่ารอบตัวไม่มีใครอยู่ ก็อ่อนแรงทันใด รีบนั่งบนรถเข็นทันที

บอกตามตรง เมื่อครู่แค่ขยับนิดหน่อย ก็เจ็บปวดรวดร้าวไปหมดแล้ว

คาดว่าต้องโดนหมอด่าอีกแน่ น่าอนาถแท้ๆ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset