สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 418 ไม่ได้รักหนานเซิงแล้วจริงเหรอ

“ไม่เป็นไร คุณยุ่งมาก ที่จริงไม่ต้องมาโดยเฉพาะหรอก”

“พี่ลั่วเยียน ไม่ได้ตอบแทนคุณผมก็เสียใจแล้ว ตอนนี้อย่าปฏิเสธความตั้งใจของผมเลย ดีร้ายยังไงก็ให้ผมได้สบายใจเถอะ ได้ไหมครับ”

ลั่วเยียนปฏิเสธอย่างสุภาพไปหลายครั้ง แต่หรงหลินกลับยืนยันว่าจะมาให้ได้ ลั่วเยียนจึงไม่มีทางเลือก จำต้องตกลง

“งั้นก็ได้ รอทางฉันเข้าที่เข้าทางแล้ว จะบอกคุณอีกที”

“ได้ครับพี่ลั่วเยียน”

“หรงลิน คุณไม่ต้องเรียกฉันแบบนี้ ฉันแก่กว่าคุณไม่เท่าไร คุณเรียกชื่อฉันเฉยๆ ก็ได้”

เรียกว่า“พี่ลั่วเยียน”ตลอด มันทำให้เธออึดอัดนิดหน่อยอย่างไม่มีเหตุผล

แม้จะเป็นลั่วชิงเจ๋อ ก็ไม่เคยเรียกเธอแบบนี้

หรงหลินหัวเราะเบาๆ อีกครั้ง “แบบนี้ไม่น่าฟังเหรอ คุณเป็นพี่ลั่วเยียนของผมตลอดไป”

“เอ่อ เหมือนจะเลี่ยนนิดหน่อยนะ” ลั่วเยียนพูด

หรงหลินหัวเราะตาม ดูท่าทางมีความสุขเป็นพิเศษ “งั้นได้ ผมฟังคุณทุกอย่าง งั้นผมเรียกคุณว่าลั่วเยียนนะ?”

ลั่วเยียนถอนหายใจโล่งอก “แบบนี้รู้สึกดีกว่าเยอะเลย”

ลั่วเยียนพูดคุยไร้สาระกับหรงหลิน โดยที่ไม่สังเกตท่าทีของฉินหนานเซิงที่อยู่ข้างๆ เลย ว่าแทบจะฆ่าคนอยู่แล้ว

หรงหลินยังต้องการคุยเรื่องหลักสูตรฝึกอบรมกับลั่วเยียน ลั่วเยียนก็ไม่ได้คิดมาก คุยตอบโต้กันไปมา แต่ไม่ทันที่ลั่วเยียนจะบอกกับหรงหลินว่าส่วนไหนของนอกเมืองที่เหมาะสมกับหลักสูตรฝึกอบรม มือข้างหนึ่งพลันยื่นเข้ามาเสียก่อน

“คุณทำอะไร”

ลั่วเยียนเบิกตากว้างมองฉินหนานเซิงที่คว้าโทรศัพท์มือถือของเธอไป จากนั้นก็กดวางสาย แถมยังปิดเครื่องด้วย จึงโกรธจัดขึ้นมาทันที

ฉินหนานเซิงเอาโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกงของตัวเอง แล้วชี้นิ้วไปทางคุณแม่ลั่วกับไป๋ยู่หนานที่อยู่ไม่ไกล

“หมอตรวจให้คุณแม่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เธอต้องการพักผ่อน คุณคุยโทรศัพท์เสียงดังเกินไป มันง่ายที่จะรบกวนเธอ”

ลั่วเยียนหันกลับไปมอง สีหน้าพลันอ่อนลง

“แต่คุณก็วางสายฉันตามใจชอบไม่ได้ คืนมือถือให้ฉัน”

“ไม่ให้” ฉินหนานเซิงปฏิเสธ กลัวกว่าลั่วเยียนจะมาขโมยไป จึงจงใจหลับตาลง “ผมก็ต้องการพักผ่อน คุณอย่ารบกวนผม”

“คุณ……”

“ชู่ว”

ลั่วเยียนโกรธจนอยากตีเขา แต่ทั้งรถกำลังเงียบสงบ คุณพ่อลั่วขมวดคิ้วมองมาทางพวกเขา จึงยอมแพ้ไป

“ถึงเมืองหรงเมื่อไร เอามือถือคืนฉันด้วย” เธอกดเสียงต่ำ

ฉินหนานเซิงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ยังคงหลับตานอนต่อไป

“ได้ยินหรือเปล่า” ลั่วเยียนกระแทกแขนเขา

ฉินหนานเซิงเปลี่ยนท่า เอียงศีรษะไปอีกข้าง ไม่สนใจเธอ

ลั่วเยียนโกรธแทบตาย ก่อนหน้านี้ทำไมถึงไม่รู้ว่าฉินหนานเซิงเป็นคนแย่แบบนี้

ลั่วเยียนรู้ว่าเขาแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน จึงกดเสียงต่ำพูดอีกว่า “รอกลับไปเมืองหรงแล้ว คุณกับฉันไปเอาใบหย่าที่สำนักงานกิจการพลเรือน ถึงตอนนั้นเราสองคนก็ตัดขาดกันไปเลย”

ใครจะตัดขาดกับคุณ

รอหย่าแล้วปล่อยให้คุณไปหลงระเริงกับหรงหลินน่ะเหรอ ฝันไปเถอะ

ฉินหนานเซิงคิดในใจ กลับไปเมื่อไรจะเอาทะเบียนสมรสกับทะเบียนบ้านไปซ่อน ให้ตายก็ไม่หย่ากับเธอ

หลังจากก่อกวนอยู่นาน แล้วลั่วเยียนก็เหนื่อย เธอลุกขึ้น สุดท้ายก็ไปนั่งลงตรงที่ว่างข้างหลังคุณแม่ลั่ว

ในรถ กลับคืนสู่สภาวะเงียบสงบอีกครั้ง

จากนอกเมืองกลับมาเมืองหรง ใช้เวลาขับรถเกือบสามชั่วโมง

เดิมทีลั่วเยียนอยากหามุมสงบเพื่อคิดเรื่องต่างๆ แต่ไม่คิดว่าจะค่อยๆ หลับไปจริงๆ

กระทั่งลืมตาอีกครั้ง ฟ้าก็มืดแล้ว เธอนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ร่างกายถูกปกคลุมด้วยผ้าห่มผืนบาง

พลันตกใจ เลิกผ้าห่มแล้วลุกขึ้นนั่ง

มองไปรอบๆ พบว่าที่นี่เป็นห้องที่กว้างขวางมาก

ตรงข้ามกับเตียงที่เธอนอนอยู่ เป็นเตียงของแม่เธอ

“ตื่นแล้วเหรอ” คุณแม่ลั่วกำลังนั่งพักผ่อนพิงหัวเตียง เห็นเธอลุกขึ้นมา จึงยิ้มมองมาทันที

“คุณแม่ ฉันหลับไปได้ยังไงคะ ที่นี่ที่ไหน เราถึงเมืองหรงแล้วเหรอคะ”

เธอมองไปมองมา ไม่เห็นคุณพ่อลั่วกับลั่วชิงเจ๋อ

“อยู่เมืองหรงแล้ว นี่คือห้องพักผู้ป่วยส่วนตัวที่คุณฉินจัดให้เรา เมื่อครู่แกหลับบนรถ พวกเราไม่ได้เรียกแก สองวันมานี้แกยุ่งเรื่องหาเงินหางาน ไม่ได้พักผ่อนดีๆ เลย”

“คุณฉิน…….คือฉินหนานเซิงเหรอคะ”

“ไม่ใช่ คุณฉินอีกคน ฉินโม่หาน”

ลั่วเยียนโล่งใจ ไม่รู้ทำไมถึงแอบผิดหวังนิดหน่อย

“คุณพ่อกับชิงเจ๋อล่ะคะ”

“พ่อแกไปซื้อของกิน ชิงเจ๋อถูกหนานเซิงเรียกไป”

ลั่วเยียนขมวดคิ้ว “ฉินหนานเซิงเรียกชิงเจ๋อไปหาทำไมคะ”

“บอกว่าเช่าบ้านใกล้โรงพยาบาลเอาไว้ เลยต้องพาชิงเจ๋อไปจดจำสถานที่ หลังจากฉันผ่าตัดเสร็จ ต้องอยู่รอดูอาการสักพัก มันนานมากจึงให้พวกแกอยู่แต่ในโรงพยาบาลตลอดไม่ได้”

ลั่วเยียนหงุดหงิดเล็กน้อย “งั้นเราไปอยู่โรงแรมก็ได้”

“ในตัวแกมีเงินเท่าไรจะไปพักโรงแรมตลอด อีกอย่าง ดีร้ายยังไงเมื่อก่อนแกก็เป็นดารา สุดท้ายแล้วการอยู่โรงแรมมันก็ไม่สะดวกเลย”

ลั่วเยียนถูกแม่ตัวเองสั่งสอนไปหลายคำ จึงไม่พูดอีก

เธอสัมผัสกระเป๋าบนเสื้อผ้า แต่ไม่เจอสิ่งที่ตัวเองต้องการ จึงเอ่ยถามว่า “โทรศัพท์มือถือของฉันล่ะคะ ฉินหนานเซิงคืนให้ฉันหรือยัง”

คุณแม่ลั่วถาม “โทรศัพท์มือถืออะไร”

ลั่วเยียนแอบด่าฉินหนานเซิงว่าไร้ยางอาย แต่ภายนอกกลับพูดว่า “ไม่มีอะไรค่ะ เดี๋ยวรอคุณพ่อกลับมาแล้วฉันจะไปถามสือเยว่ให้แน่ชัดอีกที คุณแม่คะ ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง”

คุณแม่ลั่วเผยยิ้มอ่อนแรง “ฉันไม่เป็นไร หมอไป๋สั่งยาให้ฉันแล้ว หลังจากกินแล้วตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมาก”

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ก่อนหน้านี้ที่โรงพยาบาลนอกเมือง จริงๆ แล้วเธอยังรู้สึกไม่ค่อยดี

แต่เนื่องจากคำนึงถึงความรู้สึกของพวกเขา จึงไม่เคยบอก

ลั่วเยียนตาแดงฉับพลัน “คุณแม่ ทั้งหมดเพราะฉันไม่ดีเอง ถ้าฉันมีอนาคตที่ดีสักหน่อย ก็ไม่ต้องให้คุณแบกรับความทรมานอย่างนี้”

“เด็กโง่ แกพูดไร้สาระอะไร แกน่ะเก่งมากแล้ว ฉันไม่คิดไม่ฝันเลย ว่าลูกสาวตัวเองจะกลายเป็นดาราที่มีชื่อเสียงได้”

คุณแม่ลั่วพูดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำตาไหลริน

“ทุกอย่างเป็นพ่อกับแม่ที่ไม่ดีเอง พ่อแม่ไม่มีอนาคตที่ดี ไม่สามารถทำให้แกมีชีวิตที่ดีได้ ทำให้แกต้องลำบาก”

ลั่วเยียนร้องไห้พร้อมกับส่ายหน้า ไม่ ไม่ใช่แบบนี้

ฐานะของครอบครัวแม้เทียบไม่ได้กับคนรวย แต่พ่อแม่ดูแลเธออย่างดีมาตลอด เธอต้องอะไรก็พยายามเติมเต็มให้ ให้ความรักแก่เธอไม่เคยขาดตกบกพร่อง

“เยียนเยียน แกบอกแม่มาตามตรง แกไม่รักหนานเซิงแล้วจริงเหรอ”

ลั่วเยียนร้องไห้พร้อมกับเงยหน้ามองไปยังแม่ที่ป่วยของตัวเอง

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร ที่ใบหน้าของแม่เริ่มมีริ้วรอย ความเจ็บป่วยที่ทรมานเธอ ทำให้เธอดูแก่ชราลง สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนแปลง ก็คือสายตาอันอ่อนโยนของแม่เมื่อมองตัวเอง

ลั่วเยียนสูดจมูกและส่ายหน้า

“คุณแม่ ไม่ใช่ไม่รัก คือฉัน……ไม่คู่ควรกับเขา”

ความรักที่เธอมีต่อฉินหนานเซิง ไม่ใช่ร่ม ที่บอกว่าเก็บก็สามารถเก็บกลับคืนได้

เพราะถึงอย่างไรก็เป็นคนที่หัวใจคอยไล่ตามมาหลายปี แม้ปากจะไร้ความรู้สึกเพียงใด แต่หัวใจของเธอไม่สามารถมืดบอดไปด้วยได้

แต่ก็อย่างที่เธอบอกเมื่อครู่ เธอกับฉินหนานเซิงไม่ใช่คนที่อยู่ในโลกเดียวกัน เธอไม่คู่ควรกับเขา

ก่อนหน้านี้ยังสามารถพึ่งพาความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ถึงตายก็จะคอยอยู่ข้างกายฉินหนานเซิง

แต่เรื่องของลู่จื่อเหยาทำให้เธอเข้าใจ ระหว่างเธอกับฉินหนานเซิงเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบ

ความเป็นจริงนองเลือดอยู่ต่อหน้าต่อตา ทำให้เธอหลอกตัวเองต่อไปอีกไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือจำต้องถอยห่างร้างไกล

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset