สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 423 ยิ่งอยู่ยิ่งอ้อนเป็นแล้ว

“แต่นายก็ต้องบอกเบาะแสของเขาให้พวกฉัน พวกฉันจะได้ไปเรียกเขากลับบ้าน!”

“ใครบอกกับพวกคุณว่าฉันรู้ว่าเขาอยู่ไหน?”

สองสามีภรรยาช็อก

“มีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องเตือนพวกคุณ”

“ก่อนหน้านี้ที่ฉันบอกว่าไม่เอาฉินซื่อกรุ๊ป งั้นก็ไม่มีความหมายที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยโดยเด็ดขาด แต่ถ้าพวกคุณยืนยันว่าจะโยนความผิดนี้มาให้ฉัน ฉันเองก็ไม่รังเกียจที่จะรับภาระนี้”

“ขอแค่ฉันอยาก ฉินซื่อกรุ๊ปเปลี่ยนเจ้าของโดยเด็ดขาดก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร”

คำพูดนี้ ทำให้พี่ใหญ่ฉินสามีภรรยาใจเย็นลงทันที

พี่ใหญ่ฉิน “นาย………นายล้อเล่นใช่ไหม?”

ฉินโม่หานเหลือบตามองพี่ใหญ่ฉินอย่างเย็นชา “พี่ใหญ่ ว่าไงล่ะ?”

พี่ใหญ่ฉินรีบหลบตาทันที ไม่กล้าสบตากับ ฉินโม่หาน

“ส่วนเรื่องการเปลี่ยนไต ฉันไม่เห็นด้วยและไม่คัดค้าน ทุกอย่างเป็นความเต็มใจของหนานเซิงเป็นหลัก ถ้าเป็นห่วงจริงๆ ก็ติดต่อหนานเซิงแล้วโน้มน้าวมให้เขาไม่ต้องไปทำการผ่าตัดด้วยตัวเอง อย่ามาซาโปที่ฉัน”

“ขอแค่หนานเซิงเปลี่ยนความคิดด้วยตัวเอง ฉันจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น”

“แต่ถ้าพวกคุณอยากจะฝีมือที่สกปรกในการบังคับหนานเซิง ฉันก็ไม่ยอมเหมือนกัน”

“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ ได้ยินชัดเจนหรือยัง?”

เสียงที่เรียบง่ายและช้าของ ฉินโม่หาน แต่คำที่พูดออกมากลับเต็มไปด้วยการขู่ขวัญ ทำให้พี่ใหญ่ฉินและสะใภ้ใหญ่ฉินไม่กล้าไม่เจียมตัว ไม่พูดอะไรเป็นเวลานาน

เห็นไม่มีการตอบรับ ฉินโม่หานเริ่มหมดความอดทน

“ได้ยินแล้วใช่ไหม?”

พี่ใหญ่ฉินสะดุ้งแล้วตอบอย่างเสียงดังว่า “ได้ยินแล้ว!”

ฉินโม่หานพอใจเป็นอย่างมาก “งั้นก็ดี ดึกมากแล้ว พี่ใหญ่ พี่สะใภ้เองกลับไปพักผ่อนเถอะ”

จิตใต้สำนึกของพี่ใหญ่ฉินจะทำตามแล้ว แต่กลับถูกสะใภ้ใหญ่ฉินดึงเสื้อไว้อย่างแรง

ใบหน้าของสะใภ้ใหญ่ฉินบิดเบี้ยวไปหมด หน้าของเธอยังเจ็บแสบอยู่เลย จ้องมองซูสือเยว่อย่างโกรธแค้น

“เรื่องของหนานเซิง พวกเราจะคิดวิธีในการแก้ไข แต่การกระทำเมื่อกี้ของน้องสะใภ้ ไม่อธิบายอะไรให้ฉันหน่อยหรอ?”

ในใจของสะใภ้ใหญ่ฉินโกรธเป็นอย่างมาก จนกระทั่งอยากจะเดินไปข้างหน้าแล้วทำลายหน้าใบนั้นของซูสือเยว่ทันทีเลย จะดูว่าเธอจะยังกล้าห้าวไหม!

คิดว่า ฉินโม่หานน่าจะเห็นแก่หน้าของพวกเขา แล้วให้พวกเขาสบายใจขึ้นมาหน่อย กลับคิดไม่ถึงว่า ฉินโม่หานหัวเราะหึอย่างเย็นชาอีกทีหนึ่ง

“สือเยว่ทำผิดตรงไหนหรอ?”

สะใภ้ใหญ่ฉินแสดงความไม่พอใจออกมา กำลังจะพูดอะไรสักอย่าง ก็ได้ยิน ฉินโม่หานพูดขึ้นมาช้าๆ

“พี่สะใภ้ ฉันว่าก่อนหน้านี้คุณน่าจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์”

“สือเยว่เธอไม่ใช่นักแสดงที่ไม่ได้เรื่อง เธอเป็นคุณหนูในบ้านตระกูลเจี่ยน ฐานะสูงส่งเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเธอจะนอนอย่างเดียวไม่ทำอะไร ก็สามารถมีเงินเป็นพันล้านดอลลาร์”

สะใภ้ใหญ่ฉินรู้สึกว่าหน้ามืดขึ้นมาทันที สีหน้าเริ่มบิดเบี้ยว

“คนตระกูลเจียนเป็นคนที่ปกป้องคนอ่อนแอและผูกพยาบาทมาก สือเยว่ยังเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของเจี่ยนหมิงจงอีกด้วย พี่สะใภ้ลองเดาดูว่าคำพูดก่อนหน้านี้ที่พี่สะใภ้พูดถ้าเข้าหูของเจี่ยงหมิงจง เขาจะแก้แค้นพวกคุณยังไง?”

สะใภ้ใหญ่ฉินไม่รู้จักเจี่ยนหมิงจง ก็เลยไม่ได้กลัว แต่สีหน้าของพี่ใหญ่ฉินกลับเปลี่ยนไปทันที

“เมื่อกี้สือเยว่แค่ทำการลงโทษไปเล็กน้อย ฉันว่าไม่มีปัญหาอะไรนะ”

“แก……พวกแก…….”

สะใภ้ใหญ่ฉินอยากบอกว่ารังแกคนเกินไปแล้ว และแล้วยังไม่ทันพูดออกมา ก็ถูกพี่ใหญ่ฉินปิดปากไว้

“วันนี้พวกเราผิดเอง แต่ว่าพวกเราก็เพราะว่าเป็นห่วงหนานเซิงมากเกินไป ก็เลยพูดอะไรไม่ดีออกไป ยังต้องขอให้น้องสามและน้องสะใภ้อย่าเอาไปใส่ใจเลยนะ”

พี่ใหญ่ฉินก้มหน้าไว้ กัดฟันแล้วขอโทษซูสือเยว่

ซูสือเยว่หายโกรธนานแล้ว ได้ยินก็มองสามีภรรยาคู่นั้นอย่างจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม

“ยังไงก็ยังเป็นครอบครัวเดียวกัน ฉันไม่ถือสาก็ได้ แต่ว่าต่อไปพี่สะใภ้ต้องระวังให้เป็นอย่างมากนะ”

“ภัยออกมาจากปากเรื่องนี้ พี่สะใภ้เองก็น่าจะเข้าใจดีใช่ไหม?”

สะใภ้ใหญ่ฉินโกรธจนกำหมัดไว้แน่นแล้วพยายามบีบยิ้มออกมา

“ขอบคุณน้องสะใภ้ที่เตือนนะ”

พี่ใหญ่ฉินเองก็ไม่กล้าอยู่ต่อ กลัวจะถูกคู่สามีภรรยานี้ข่มขู่ต่อ รีบพาสะใภ้ใหญ่ฉินจากไปอย่างเร็ว

หลังจากรอให้คนไปแล้ว ในวิลล่าที่ใหญ่ก็ได้เงียบลงทันที

ซูสือเยว่อดไม่ได้ที่จะยืดเส้นยืดสายแล้วหาวอีกที

“เหนื่อยแล้วหรอ?” ฉินโม่หานถาม

ซูสือเยว่พยักหน้า เพราะนั่งรถมานานขนาดนั้นแล้ว เมื่อกี้ยังเกิดเรื่องขึ้นอีก ไม่เหนื่อยก็แปลกแล้ว

ฉินโม่หานมองเธอทีหนึ่งแล้วอยู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา

“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเธอใช้ตัวตนในการกดดันคนอื่น”

ซูสือเยว่นั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก รู้สึกหิวน้ำเล็กน้อย ก็ได้เหลือบมองกาต้มน้ำที่อยู่บนโต๊ะอย่างใจจดใจจ่อ

ฉินโม่หานนั่งลงที่ข้างๆ เธอ ก็ได้ช่วยเธอเทน้ำแก้วหนึ่งแล้วมองเธอดื่มจนหมด

“เอาอีกไหม?”

ซูสือเยว่ส่ายหัว แล้วชี้ที่น่องขาของตัวเอง “รู้สึกเมื่อยเล็กน้อย”

ในตาของ ฉินโม่หานเต็มไปด้วยยิ้มที่รัก

“ยิ่งอยู่ยิ่งอ้อนเก่งแล้ว”

ในปากเหมือนจะรังเกียจ แต่ความเป็นจริงกลับเพลิดเพลินมาก จนกระทั่งอาสาไปช่วยนวดน่องเล็ก

แรงมือของ ฉินโม่หานพอดีเลย ซูสือเยว่ถูกนวดจนสบายมาก ก็เลยอดไม่ได้ที่จะหลับตาลง

“ใครให้นายเป็นสามีฉันล่ะ ไม่อ้อนนายฉันจะไปอ้อนใคร”

ท่านชายฉินมุมริมฝรปากอย่างมีความสุข

ซูสือเยว่พึ่งนึกขึ้นได้เลยอธิบาย “ที่แรกฉันก็ไม่ได้อยากใช้ความรุนแรงกับเธอเลย ไม่ว่ายังไงก็เป็นอายุเยอะกว่า แต่ที่เธอพูดนั้นน่าเกลียดเกินไปแล้ว คิดไม่ถึงว่านายจะจัดการเรื่องแบบนี้ได้อย่างไหลลื่นมาก เมื่อกี้ก็ควรให้นายออกหน้ามาจัดการก่อนแล้ว”

ท่านชายฉินยังหัวเราะ “แล้วเมื่อกี้ทำไมต้องห้ามฉันด้วย”

“ฉันกลัวว่านายจะมีจุดอ่อนอยู่ในมือของพวกเขา อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ลงมือแรงขนาดนั้น เมื่อก่อนก็ไม่เคยรังแกคนแบบนี้มาก่อนเลย ครั้งนี้มีประสบการณ์แล้ว จะพยายามทำให้ดีกว่าเดิมในครั้งต่อไป”

ฉินโม่หานทนหัวเราะออกเสียงไม่ได้ ยื่นมือไปขยี้ผมของเธอ

ในเวลานี้เองไป่เฉิงก็ได้มาที่บ้าน

“ท่านชายฉิน คุณนายฉิน คุณท่านของบ้านผมให้ผมมาหาท่านชายซินหยุนเพื่อธุระอะไรนิดหน่อย”

เห็นไป๋เฉิง ฉินโม่หานและซูสือเยว่ก็อึ้งไปพร้อมกัน

“เมื่อกี้นายไม่เห็นฉินเจี้ยนอานและเฉินลู่ใช่ไหม?” ซูสือเยว่ถาม ไป๋เฉิง

ไป๋เฉิงส่ายหน้า “เห็นพวกเขาแต่ไกล ก็ได้หลบหนีเอง”

ที่จริงไป๋เฉิงถึงนานแล้ว แต่ตอนที่เขามาถึงในห้องรับแขกก็ยุ่งไปหมด ก็เลยหลบอยู่ข้างๆ ไม่ได้ปรากฏตัว

จนกว่าคู่สามีภรรยานั้นจากไป เขาถึงจะกล้าออกมา

หลังจากรู้เจตนาการมาของเขาแล้วซูสือเยว่ก็ได้เรียกซิงหยุนลงมา ถือโอกาสกำชับเรื่องบางอย่างให้ไป๋เฉิง

ไป๋เฉิงไม่ได้อยู่นานมาก วางโทรศัพท์ไว้แล้วก็จากไปเลย

หลังจากไป๋เฉิงไปแล้ว ซูสือเยว่ถึงได้หันไปมอง ฉินโม่หานอย่างเป็นห่วง

“ที่รัก ตกลงพี่ใหญ่ พี่สะใภ้รู้ได้ยังไง?”

ฉินโม่หานน้ำเสียงหยอกเล่น “ไม่เรียกพวกเขาว่าฉินเจี้ยนอานและเฉิงลู่แล้ว?”

ซูสือเยว่เบะปาก “ลองคิดดูแล้ว นายยังเรียกพวกเขาว่าพี่ใหญ่ พี่สะใภ้ คาดว่าน่าจะยังเห็นแก่ความสัมพันธ์ ฉันเองก็ต้องให้ความเคารพต่อพวกเขาสิ”

ถึงจะพูดอย่างไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ก็เถอะ

ฉินโม่หานยื่นมือไปบีบแก้มของเธอ “ไม่เป็นอะไร เธออยากเรียกยังไงก็เรียกอย่างนั้นเถอะ ตามใจเธอเลย”

ซูสือเยว่ดีใจแล้ว “ได้เลย”

“ตามหลักแล้ว พวกเขาอยู่ที่เมืองหรงตลอด น่าจะไม่มีทางรู้การตัดสินใจของหนานเซิง ถ้าไม่ใช่ว่าพวกเขาส่งคนคอยติดตามหนานเซิง ก็แปลว่ามีคนจงใจเผยให้พวกเขารู้”

ซูสือเยว่มองไปทาง ฉินโม่หานอย่างจริงจัง

“แล้วนายคิดว่า?”

“อย่างหลัง”

“แต่ว่า จะเป็นใครล่ะ?”

ฉินโม่หานก็ยังเป็นท่าทางที่เหมือนกับว่ามั่นใจ แล้วพูดออกมาอย่างแน่วแน่ว่า

“หรงหลิน”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset