สาวชาวนาผู้ชั่วร้ายกับระบบวิเศษ – ตอนที่ 18 เงินเป็นสิ่งที่ดี

        หลิวเต้าเซียงอุ้ม ‘เงินก้อนใหญ่’ ไว้ในอ้อมแขนและตรงไปยังสถานที่ที่ขายลูกไก่ นางกลัวว่าจะไปถึงช้าแล้วจะเสียเที่ยว

        เสียเที่ยวไม่ว่า ที่สำคัญกว่าคือนางไม่สามารถเข้าเมืองได้ทุกวัน หากไม่ประจวบกับวันตลาดนัดก็คงไม่มีโอกาสดีๆ และได้อาศัยรถเข็นวัวของลุงหวังเข้ามาเช่นนี้แน่

        นางไปที่แผงขายลูกไก่เมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากเจรจาก็ได้ลูกไก่ในราคาตัวละสี่อีแปะ เลือกได้ทั้งหมดสามสิบตัว แต่เงินไม่เพียงพอจึงอาศัยที่ตนเองยังเด็กขอตื๊อให้อีกฝ่ายแถมให้อีกหนึ่งตัว เมื่อรวมกับห้าตัวในคลังเก็บของแล้ว ทั้งหมดจะเท่ากับสามสิบหกตัว

        พอจ่ายไปทีเดียวหนึ่งร้อยยี่สิบอีแปะ เดิมทีหลิวเต้าเซียงที่คิดจะซื้อบะหมี่ คงต้องถอดใจชั่วคราวก่อน

        ระหว่างทางที่จะซื้อลูกไก่ นางกดลูกคิดในใจรัวๆ หนึ่งรอบ หากว่าเลี้ยงลูกไก่ในห้วงมิติเป็นเวลาครึ่งปี ก็เทียบเท่ากับเวลาปัจจุบันข้างนอกสิบหกวัน

        หลังจากสิบหกวัน ไก่ของนางจะสามารถวางไข่และไข่ที่ได้มา ก็สามารถนําออกมาแลกเป็นเงินได้

        และถ้าเก็บไก่เหล่านั้นในห้วงมิติเป็นเวลาหนึ่งปี โลกภายนอกก็ผ่านไปหนึ่งเดือนก็จะถูกโปรดิวเซอร์ของห้วงมิติสัตว์ปีศาจบังคับเก็บไป นางต้องจ่ายค่าเช่าห้วงมิติแห่งนี้ แล้วยังต้องคืนค่าเช่าที่ก่อนหน้านี้เช่ามาหนึ่งตารางเมตรด้วย

        โชคดีที่โปรดิวเซอร์ยังมีอาหารไก่ให้ หลักๆ ที่นางต้องทำคือดูแลพวกมันให้ดี เมื่อพบว่าป่วยก็ต้องรีบรายงานให้ฝ่ายตรวจสอบสัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดทราบ แล้วให้มันรายงานต่อโปรดิวเซอร์ โปรดิวเซอร์ถึงจะแจกจ่ายยาที่เหมาะสมลงมาให้

        หลังจากที่นางพบสถานที่ลับตาคน ก็จัดการเก็บลูกไก่สามสิบเอ็ดตัวเข้าไปในห้วงมิติ จากนั้นลูบเงินที่เหลืออีกแปดอีแปะก่อนจะแหงนหน้ามองพระอาทิตย์ เวลาผ่านไปสักพักใหญ่แล้ว ไม่น่าแปลกที่นางเริ่มรู้สึกหิวเล็กน้อย

        เมื่อมองไปที่แผงขายซาลาเปา ซาลาเปาไส้หมูที่ขาวนุ่มหอมหวน ทั้งอร่อยและราคาถูก หลิวเต้าเซียงกลืนน้ำลายแล้วยื่นมือไปลูบเงินแปดอีแปะ ไม่รู้เพราะเหตุใดเบื้องหน้าก็ปรากฏภาพที่หลิวชิวเซียงแอบขโมยไข่ต้มที่หลิวฉีซื่อซ่อนอยู่ในห้องมาให้นางกิน ภาพของเด็กตัวผอมโซที่ยอมให้ไข่ลวกโดนผิวหนังช่วงท้องตนเองจนแดง แต่กลับไม่ยอมแตะแม้แต่คำเดียว

        ทันใดนั้นหลิวเต้าเซียงก็รู้สึกผิดจนต้องกัดฟันอดทน นางยังทำใจไม่ได้จึงหันหลังแล้วเดินจากไป โดยไม่หันกลับมามอง

        ลืมมันเสีย กลับบ้านและดื่มน้ำอีกสองชามก็อิ่ม วันนี้ข้ายอมหิวก็เพื่อวันข้างหน้าจะได้กลายเป็นเศรษฐีที่รุ่งโรจน์ ถึงตอนนั้นข้าจะซื้อคนรับใช้สักสิบคน แล้วให้พวกนางปรนนิบัติทุกวัน

        ในขณะที่ปลอบตัวเองก็ตรงไปที่ร้านขายของชําและถามเหรัญญิกว่า พุทราจีนราคาเท่าไร

        คนผู้นั้นมองด้วยหางตา เชิดหน้าขึ้นสูง ปลายจมูกชี้ขึ้นฟ้า “พุทราจีนไม่ใช่ถูกๆ หรอกนะ ราคาสี่สิบอีแปะต่อครึ่งกิโลกรัม เจ้าเด็กเหลือขอมาจากไหนกัน? พุทราจีนเป็นอะไรที่เจ้าซื้อได้หรือ?”

        จู่ๆ หลิวเต้าเซียงก็อยากจะด่าคำหยาบคายออกมา

        นางอยากจะทำตัวเป็นใหญ่สักครั้ง ล้วงก้อนตำลึงเงินสีขาวดุจหิมะออกมาสักก้อน จากนั้นบอกด้วยท่าทีดั่งเศรษฐีว่า เหมาหมด

        แน่นอน นางทำได้แค่เพียงฝัน จากนั้นกัดฟันล้วงเงินออกมาแปดอีแปะ เขย่งปลายเท้า แล้วชูขึ้นไปให้เหรัญญิกในร้านแล้วเอ่ยอย่างแข็งใจ “ข้าขอซื้อหนึ่งขีด”

        ดังนั้นแล้ว เงินจึงเป็นสิ่งที่ดี!

        เมื่อเหรัญญิกเห็นหลิวเต้าเซียงยื่นเงินมา ก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นรอยยิ้มที่น่าต่อยสักที “เด็กๆ ชั่งมาให้เด็กน้อยหนึ่งขีด”

        หลิวเต้าเซียงยืนอยู่ข้างเสี่ยวเอ้อร์ของร้าน ใบหน้าเล็กๆ ของนางจริงจังมาก ยามที่มองไปที่ก้านเครื่องชั่ง

        “หนึ่งขีดพอดี เด็กน้อย ข้าห่อให้เจ้าเรียบร้อย สินค้าออกนอกร้านไปแล้วห้ามคืนหรือเปลี่ยนนะ” เสี่ยวเอ้อร์รีบใช้ใบบัวแห้งมาห่อให้

        หลังจากพูดจบเขาก็เอ่ยเสริม “เด็กน้อย เจ้ารู้มาตราส่วนหรือไม่?”

        “ข้าไม่รู้!” หลิวเต้าเซียงตอบอย่างร่าเริง

        ฉับพลันเสี่ยวเอ้อร์ในร้านถึงกับหน้าเปลี่ยนสี ไม่รู้จักมาตราส่วนแล้วมาทำเป็นจ้องเหมือนรู้เรื่อง ทำเอาเขาไม่กล้าตักขาดไป แทนที่จะได้โกงเงินมาสักหน่อย

        สามารถพูดได้ว่าหลิวเต้าเซียงนั้นเป็นพวกดูกลโกงออกหรือ?

        นางรีบเอาพุทราจีนที่ห่อเรียบร้อยมาจากมือเสี่ยวเอ้อร์ จากนั้นเงยศีรษะพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้มแล้วเอ่ย “ข้าก็แค่เคยได้ยินมาว่า พ่อค้าสิบคนจะมีสิบเอ็ดคนที่ขี้โกง!”

        เสี่ยวเอ้อร์นิ่งเงียบไป

        เมื่อหลิวเต้าเซียงเดินออกมาจากร้าน อารมณ์ของนางนั้นสาแก่ใจยิ่งนัก พึมพำด้วยเสียงเบา “ข้ารู้ว่าอนาคตของข้าไม่ใช่เพียงความฝัน ข้าตั้งใจในการใช้ชีวิตทุกนาที อนาคตของข้าไม่ใช่เพียงความฝัน หัวใจของข้าสั่นไหวเพราะเงิน…”

        แม้ว่านางจะร้องเพลงเพี้ยน ร้องทีไรก็ทำเอาคนสะดุ้ง แต่สัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดที่ประจบประแจงเก่งก็ยกนิ้วให้นางเต็มที่

        “โฮสต์ครับ สู้ๆ นะครับ อนาคตของคุณไม่ใช่เพียงความฝัน ขอเพียงคุณเป็นสาวชนบทที่สวยงาม ขยันหมั่นเพียรและสู้ชีวิต เงินทองมีมากมายรอให้คุณกอบโกย หัวใจของคุณยิ่งใหญ่เท่าไหร่ คลังเก็บเงินของคุณก็จะกว้างขึ้นเท่านั้น”

        หลิวเต้าเซียงได้ยินดังนี้ ก็เลิกคิ้วจนมีเส้นปรากฏตรงหน้าผาก “สัตว์ปีศาจตัวน้อย นายกับหน่วยตรวจสอบคนอื่น ไม่ใช่สิ นายกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นมักจะติดต่อกันผ่าน We chat หรือเปล่า?”

        “ไม่นี่ครับ เราทุกคนถูกผูกติดกับโฮสต์ โฮสต์ประสบกับอะไร เราก็ต้องผ่านไปด้วย ไม่มีเวลาคุย We chat อะไรกันหรอกครับ ที่สำคัญคือมิติของเวลาต่างกัน แต่เรายังสามารถดูไทม์ไลน์ของเพื่อนๆ ได้ครับ”

        ที่โลกอื่นๆ ก็มีขนาดกว้างใหญ่มาก มันเองก็อยากจะเห็นโลกกว้าง!

        มีเจ้าตัวสอดแนมตัวนี้อยู่ด้วย หลิวเต้าเซียงรู้สึกว่าเวลาผ่านไปรวดเร็วมาก นางเดินไปในเมืองหนึ่งรอบแต่ไม่เห็นเหล่าหวัง เดาว่าคงไปทำงานแล้ว แต่บังเอิญเจอกับรถเข็นวัวของหมู่บ้านข้างๆ นางไม่ได้รู้จักเจ้าของรถเข็นวัวคนนั้น แต่อีกฝ่ายจำนางได้จึงทักทายอย่างอบอุ่น “เต้าเซียง มานั่งตรงนี้เร็ว”

        หลิวเต้าเซียงเอ่ยในใจว่า หากไม่ใช่เพราะบนรถมีแม่บ้านนั่งอยู่หลายคน นางคงนึกว่าคนผู้นี้คือนักต้มตุ๋น

        “เจ้าคือลูกสาวคนที่สองของกุ้ยฮัวสินะ ขึ้นมานั่งสิ เมื่อวานยายเจ้ายังบ่นอยู่เลยว่า แม่เจ้าใกล้คลอดแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเช่นไรบ้าง”

        นี่คือหญิงแก่ที่มีใบหน้าเรียวแหลม ไม่รู้เพราะเหตุใด หลิวเต้าเซียงนึกถึงปีศาจงูในเรื่องการ์ตูนพี่น้องน้ำเต้า [1]

        แน่นอนว่านางยังคงปากหวานเช่นเคย พออ้าปากก็เรียกท่านป้า ท่านลุงอย่างสนิทสนม

        คนในรถชอบนางมากและชมเชยว่าพูดเก่ง เหมือนกับน้าชายเล็กของนาง

        น้าชายเล็กของนางออกจากบ้านไปตั้งแต่สิบปีก่อนแล้วไม่ใช่หรือ? คนเหล่านี้ยังไม่ลืมอีก?

        ไม่ว่าคนเหล่านี้จะพูดความจริงหรือโกหก ถึงอย่างไรในทางขากลับของหลิวเต้าเซียงก็ผ่านไปอย่างมีความสุข

        ส่วนนางก็ไหว้วานให้เหล่าท่านลุงท่านป้านั้นนำข่าวไปฝากให้กับยายของตนที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนว่า แม่ของนางคลอดแล้ว ได้ลูกสาวหนึ่งคน

        เมื่อหลิวเต้าเซียงกลับมาถึงปากหมู่บ้าน ซึ่งยังไม่ถึงเวลารับประทานอาหาร

        “น้องรอง”

        ร่างบางและอ่อนแอโผล่ออกมาจากใต้ต้นไม้เก่าที่ปากหมู่บ้าน เมื่อเห็นหลิวเต้าเซียงกระโดดลงจากรถเข็นวัว ดวงตาของนางก็สว่างขึ้น

        “พี่ใหญ่ พี่มาทำอะไรที่นี่”

        หลิวชิวเซียงกล่าวลาป้าและลุงบนรถเข็นวัวอย่างเขินอาย หลังจากที่รถเข็นวัวเคลื่อนออกไป นางก็ตอบว่า “โชคดีที่ได้เจอกับคนหมู่บ้านข้างๆ”

        นางกังวลว่าหลิวเต้าเซียงจะไม่สามารถกลับมาที่หมู่บ้านได้ทันเวลา นางจึงแอบออกมาแล้วมานั่งรอที่ใต้ต้นไม้

        “ข้าแอบหลบออกมาตอนที่ย่าไม่ทันสังเกต โชคดีที่คุณชายท่านนั้นยังพักอยู่ที่บ้าน นิสัยของย่าดีขึ้นไม่น้อย”

        หลิวเต้าเซียงไม่สนใจอะไรมากนัก นางยิ้มและเอ่ยว่า “พี่ใหญ่ พี่ทำเช่นนี้ถูกต้องแล้ว ผู้อาวุโสในบ้านเรานั้นว่างจะตาย ยังต้องให้เด็กอายุเก้าขวบอย่างพี่มาปรนนิบัติอีก พวกนางเคยเกรงใจเวลาใช้ให้พี่ทำนั่นทำนี่หรือไม่ เป็นข้าคงไม่ยอม”

        หลิวชิวเซียงได้ยินแล้วหัวใจอบอุ่น น้องสาวคนรองตั้งแต่เด็กก็เป็นคนนิสัยโผงผาง ไม่รู้ว่าไปเอาความกล้ามาจากไหน ทั้งที่ย่าโมโหจนนางต้องถูกลงโทษอยู่เรื่อย แต่นางก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงนิสัยตนเองต่อให้โดนตีเยอะแค่ไหนก็ตาม

        ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีเพียงน้องสาวแท้ๆ ที่มองทุกอย่างออกแจ่มแจ้ง และคิดได้ถี่ถ้วนกว่า

        “วางใจได้เลย ข้าทำตามที่เจ้าเคยบอก มีปู่กับพ่ออยู่ด้วย เราก็ขยันหน่อย พอทั้งสองคนไม่อยู่ เราก็เลี่ยงทำงาน ออกมาเที่ยวเล่นกับเพื่อนบ้าง”

        หลิวเต้าเซียงส่งสายตาเห็นด้วยให้นาง พี่น้องครอบครัวนาง ต่อไปล้วนต้องเติบโตขึ้นอย่างสง่างาม นับแต่นี้ต้องทำให้พวกนางค่อยๆ ปรับเปลี่ยนนิสัยอย่างเงียบๆ

        หลิวชิวเซียงไม่ได้โง่ แต่ขาดความกล้าหาญที่จะต่อต้าน

        “พี่ ข้าขายของสดเหล่านั้นได้เงินแปดอีแปะ และข้าใช้ซื้อพุทราจีนมาได้หนึ่งขีด”

        ถึงตอนนี้หัวใจของหลิวเต้าเซียงยังคงบ่นว่าพุทราจีนราคาแพง แต่รสชาตินั้นดีกว่าโลกยุคหลังที่ผ่านกรรมวิธีมากมายนัก เพียงแต่พุทราจีนแห้งเหล่านี้เก็บนานไม่ได้ จะมีหนอนขึ้นได้ง่าย

        แต่ในขณะเดียวกันก็พิสูจน์ได้ว่า อะไรที่เป็นธรรมชาติล้วนเป็นสิ่งที่ดี

        “จริงหรือ เยี่ยม หลังจากที่แม่ให้กําเนิดน้องสาม สีหน้าของนางก็ไม่ค่อยดีนัก ข้าแอบถามป้าในหมู่บ้าน พวกเขาบอกว่าควรกินพุทราจีนให้มากและต้มกับน้ำตาลแดง” ขณะที่หลิวชิวเซียงพูดแบบนี้ ใบหน้าก็ปรากฏความกังวลที่ไม่สมกับวัยนัก

        สถานการณ์ครอบครัวที่ยากจนทําให้เด็กหญิงวัยเก้าขวบคนนี้มีความขยันอดทน ไม่ถอดใจง่ายๆ และช่วยแบ่งเบาภาระงานในบ้าน

        ทันใดนั้น หลิวเต้าเซียงก็รู้สึกจุกในใจเหลือเกิน หลิวชิวเซียงเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ควรได้รับการหวงแหน

        “พี่ใหญ่ ข้าแอบบอกพี่นะ คราวที่แล้วข้าซื้อน้ำตาลแดงให้แม่ ครั้งนี้ก็ได้พุทราจีนมา ไม่เพียงแค่แม่ที่ต้องดื่ม พี่ก็ต้องดื่มด้วย”

        ไม่สําคัญหรอก ต่อให้หลิวฉีซื่อจะร้ายกาจแค่ไหน นางก็ยังมีวิธีแอบทำการลับหลังได้อยู่ดี

        หลิวชิวเซียงตกใจ จู่ๆ นางก็พบว่าตั้งแต่เชื่อคำพูดของน้องรอง วันเวลาเหมือนจะดีขึ้นเรื่อยๆ พุทราจีนต้มน้ำตาลแดงอย่างนั้นหรือ?

        ได้ยินว่ารสชาติหวานมากและนางไม่รู้ว่ารสชาติหวานคืออะไร แต่ทุกคนก็พูดเช่นนั้น นางรู้สึกว่าความหวานนี้จะต้องทําให้หัวใจของนางอบอุ่น เป็นรสชาติที่พ่อแม่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป

        หลิวเต้าเซียงไม่รู้มาก่อน ไม่เช่นนั้นคงจะโกรธจนตาย เด็กหญิงวัยเก้าขวบที่ไม่เคยแม้แต่จะได้ดื่มน้ำกับน้ำตาลแดง ตอนที่นางอายุเก้าขวบก็ดื่มนมเปรี้ยวไปไม่รู้กี่ครั้ง เปรี้ยวๆ หวนๆ อร่อยมาก

        เมื่อนึกถึงสิ่งนี้หลิวเต้าเซียงก็แลบลิ้นออกมา อยากจะดื่มนมเปรี้ยวจริงๆ!

        หากนางมีโอกาสก็จะทำออกมาหนึ่งโอ่งใหญ่ ดื่มไปด้วย รดน้ำไปด้วย เป็นเศรษฐีนี่นาก็ต้องใช้ชีวิตให้สุดโต่งแบบนี้!

        หลิวชิวเซียงจูงมือน้องรองกลับบ้าน ส่วนหลิวเต้าเซียงซ่อนถุงพุทราจีนไว้ในเสื้ออ๋าว เพราะความที่ตัวหลวมโคร่งนั้นทำให้มองไม่ออกว่าซ่อนของไว้ด้านใน

        “น้องรอง เหมือนว่าเงินจะเป็นสิ่งที่ดีจริงๆ”

        พี่เพิ่งรู้หรือ? หลิวเต้าเซียงกลอกตาขึ้นบนฟ้า

        หลิวชิวเซียงกล่าวเสริมว่า “ถ้าข้าสามารถหาเงินได้ทุกเดือน น้องรอง ข้าต้องเลี้ยงเจ้ากับน้องสามให้ตัวขาวอ้วนพีให้ได้”

        เงิน = ตัวขาวอ้วนพี = เกี๊ยวน้ำ?

        หลิวเต้าเซียงกําลังนึกเชื่อมโยงความสัมพันธ์ดังกล่าว

        “น้องรอง หลังจากไถพรวนฤดูใบไม้ผลิเสร็จแล้ว ข้าอยากไปที่บ้านของเศรษฐีในหมู่บ้านข้างๆ เพื่อหางานทํา และเมื่อข้ามีเงิน ข้าก็สามารถทำเหมือนป้าหลี่ซานเสิ่น ซื้อผ้าแดงสวมศีรษะให้เจ้ากับน้องสามได้”

        หาเงินซื้อผ้าแดง แล้วเลี้ยงดูน้องสาวสองคนให้ตัวขาวอ้วนเหมือนหลิวเสี่ยวหลันคือเป้าหมายของหลิวชิวเซียง

        หลิวเต้าเซียงเริ่มลังเล นางบอกได้หรือไม่ว่าเป้าหมายของนางช่างต่างกับหลิวชิวเซียงยิ่งนัก?

        ——

        เชิงอรรถ

        [1] พี่น้องน้ำเต้า หูหลูหวา 葫芦娃 การ์ตูนเยาวชนมีชื่อเสียงของประเทศจีน มีพี่น้องน้ำเต้าที่เป็นฝ่ายธรรมะ และมีปีศาจงูที่เป็นฝ่ายอธรรม

สาวชาวนาผู้ชั่วร้ายกับระบบวิเศษ

สาวชาวนาผู้ชั่วร้ายกับระบบวิเศษ

Status: Ongoing
อ่านนิยายสาวชาวนาผู้ชั่วร้ายกับระบบวิเศษใครว่าการข้ามมิติไม่ใช่งานที่ต้องใช้เทคนิค? จู่ๆ เด็กสาวแสนหวานก็กลายเป็นเด็กหญิงตัวน้อยในครอบครัวยากจน นางอยากจะร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา ที่น่าเศร้ากว่านั้นคือ ครอบครัวยากจน พ่อแม่ขี้ขลาด ญาติพี่น้องทุบตี โดนกดขี่สารพัด…. ยังไม่พอ… ระบบตัวดียังจะขอให้เธอเป็น ‘หลิวเต้าเซียง’ เด็กสาวแสนสวยในชนบท จิตใจดีและขยัน ประเด็นสำคัญคือคำสุดท้าย “ขยัน” แต่เพื่อพ้นความจนที่ข้นแค้นและครอบครัวที่โหดร้าย นางจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ร่ำรวยขึ้นมาให้ได้!! “เจ้าระบบ หวานใจของพี่ รีบบอกพี่สาวหน่อยว่าต้องทำอย่างไรถึงสามารถสร้างตัวได้เร็วที่สุด” ตอนนี้เลือดในกายนางกำลังเดือดพุ่งพล่าน เพื่อความสุขสบายของครอบครัว และหนุ่มเอ๊าะๆ หลิวเหม่ยจวิน (ในร่างหลิวเต้าเซียง) คนนี้ ขอสู้ตาย!!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset