สาวชาวนาผู้ชั่วร้ายกับระบบวิเศษ – ตอนที่ 29 นักทวงค่าเช่ามาแล้ว

        กล่าวกันว่าคนเราต้องมีแรงขับเคลื่อนถึงจะมีความหวัง แม้ว่าหลิวซานกุ้ยจะไม่ได้ให้อาหารไก่เอง แต่พอรู้ว่าบุตรสาวคนรองคิดหาหนทางในการทำเงินได้แล้ว เขาในฐานะพ่อก็มิควรเป็นตัวถ่วง เพียงแต่ในตอนนี้ถูกกักขังอยู่ในสวน ไม่อาจหาทางออกไปทำเงินได้

        เขาไตร่ตรองว่าหลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตในฤดูใบไม้ผลิเรียบร้อยแล้ว จะไปฟันต้นไผ่บนหลังเขาเพื่อมาทำกับดักปลา จะได้จับปลาและกุ้งมาให้บุตรสาวคนรองได้คลายความอดอยากบ้าง

        เมื่อเริ่มเข้าสู่ต้นเดือนเมษายน ดอกท้อผลิแย้มเขินอาย

        หลังจากถามได้ความจากป้าหลี่ซานเสิ่นแล้ว หลิวเต้าเซียงคำนวณดู มุมบ้านของป้าหลี่ไม่ได้กว้างนัก หากเลี้ยงมากไปจะเกิดความแออัดสูง ไก่จะป่วยได้ง่าย นางเองก็ไม่อยากเอาของในห้วงมิติออกมารักษาไก่ เกรงว่าจะสร้างความตื่นตระหนกกับผู้คน ถึงอย่างไรนี่ก็ไม่ใช่ยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์เฟื่องฟูนัก

        นางวางแผนที่จะซื้อมาเลี้ยงสักสิบตัว เลี้ยงดูพวกมันให้ดี ถึงตอนนั้นก็คงหาเงินได้บ้าง นางยังเด็ก ไม่รีบ ค่อยเป็นค่อยไปได้

        พรุ่งนี้จะถึงวันตลาดนัด ตอนนี้ห่างจากเทศกาลเชงเม้งไม่นาน พรุ่งนี้เป็นวันจ่ายตลาด ชาวบ้านจากพื้นที่นับไม่ถ้วนต่างพากันเข้าตำบลเพื่อจับจ่าย จะได้แลกของเซ่นต่างๆ ไปเซ่นให้กับบรรพบุรุษ

        หลิวเต้าเซียงแอบหาเวลาว่างมุดเข้าห้วงมิติ นางอยู่ที่นี่มาได้หนึ่งเดือนแล้ว ส่วนไก่ที่เลี้ยงในห้วงมิติก็เลี้ยงครบสามร้อยวันแล้ว เมื่อวานเพิ่งฟักไข่ออกมาหนึ่งเล้า ไก่สามตัวมีเพศผู้หนึ่งตัว เพศเมียสองตัว

        น่าจะเป็นเพราะสายพันธุ์ไก่ของอำเภอถู่หนิวนั้นใช้ได้ จากที่สัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดได้กล่าวคือ ไก่ตัวผู้จะหนักมากกว่าห้ากิโลกรัม ขนไก่ที่มีสีแดงไฟเป็นประกาย ดูก็รู้ว่ากินแล้วบำรุงมากกว่าเป็นเท่าตัว

        ส่วนไก่ตัวเมียอีกสองตัว ตัวหนึ่งมีน้ำหนักเพียงสองกิโลกว่า ส่วนอีกหนึ่งตัวหนักสามกิโลกว่า แม่ไก่ทั้งสองตัวฟักไข่ออกมาทั้งหมดสองร้อยห้าสิบใบ คนทั้งบ้านกินไปทั้งหมดสามสิบห้าใบ ยังมีเหลืออีกสองร้อยสิบห้าใบ

        ทำไมถึงกินแค่สามสิบห้าใบน่ะหรือ ก็เพราะหลังๆ ขนาดของไข่นั้นใบใหญ่มาก และจางกุ้ยฮัวเสียดายไม่อยากกินให้หมดทีเดียว จึงเก็บไว้ค่อยๆ กิน

        ในขณะนี้ เสียงประจบประแจงของสัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดก็ดังขึ้น “โฮสต์ที่รักครับ ยินดีด้วยกับการเข้าใกล้วิถีชีวิตเด็กสาวชนบทผู้ขยันหมั่นเพียรและสวยงามอีกหนึ่งก้าว”

        หลิวเต้าเซียงระวังตัวทันที สัตว์ปีศาจที่ปกติขี้เกียจตัวเป็นขนก็มีวันที่มาประจบประแจงนางเช่นนี้ด้วยหรือ?!

        “มีอะไร?”

        กลีบถั่วงอกของสัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดขนาดเล็กปรากฏขึ้นในสมอง ลำตัวถั่วงอกที่เรียวยาวบิดไปมา กลีบถั่วงอกสองใบพลิ้วไหวด้วยความเขินอาย “โฮสต์ที่รัก หนึ่งปีผ่านไป กระผมมาคิดบัญชีกับคุณโดยเฉพาะเลยครับ เห็นสมควรหรือไม่ครับว่า เราควรจะคิดค่าเช่า ค่าดูแล แล้วยังมีค่าที่คราวที่แล้ว จะได้คืนให้หมดๆ ไปเสียที?”

        “หนึ่งปี? มันแค่เดือนเดียวเองไม่ใช่หรือ?” หลิวเต้าเซียงถามด้วยความประหลาดใจ ที่มากไปกว่านั้นคือเสียดาย เพิ่งจะเลี้ยงไก่ตัวอ้วนพีได้สามตัว ไม่ทันไรก็บินหนีไปอยู่ในปากคนอื่นเสียนี่

        “โฮสต์ที่รัก คุณเข้าใจผิดแล้ว ช่วงเวลาหนึ่งปีนี้คํานวณจากเวลาในบ้านเกิดของผม ไม่ใช่ตามสมัยราชวงศ์โจวอันยิ่งใหญ่ครับ!” สัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดกล่าวเตือนนางอย่างรู้จังหวะ

        มันไม่กังวลว่าหลิวเต้าเซียงจะหอบไก่หนีไป หนีไปไหน มันก็แค่ตามไปถึงนั่น…

        ทันใดนั้น มันก็พบว่าโปรดิวเซอร์มีความเป็นมนุษยธรรมสูงมาก ดูสิ บังคับให้มันกับเจ้านายผูกพันธะสัญญาวิญญาณกัน เท่านี้ ก็จะไม่มีทางเกิดเหตุการณ์ที่ผู้เช่าเบี้ยวค่าเช่า

        ส่วนมัน ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเหมือนชุ่ยฮัว เพื่อนบ้านของโฮสต์ที่กังวลไปทุกเรื่อง

        “คำนวณเช่นนี้หรือ?” หลิวเต้าเซียงคํานวณอย่างรวดเร็วในใจ รู้ว่าตนเองไม่อาจหนีพ้นจากหนี้ก้อนนี้ได้แน่

        “ครับ นี่คือรายการชําระเงิน” สัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดขยับใบถั่วงอกสองใบและแสดงแบบฟอร์มการชําระเงินเสมือนจริง

        ด้านบนระบุรายละเอียดไว้อย่างชัดเจน

        ชื่อผู้เช่า: หลิวเต้าเซียง (ประเภทการเจริญเติบโต)

        การขยายครั้งแรก:

        พื้นที่: หนึ่งตารางเมตร 

        ค่าใช้จ่าย: หนึ่งร้อยอีแปะ ใช้ไข่แทนเงิน จากการคำนวณ หนึ่งอีแปะครึ่งเท่ากับไข่หนึ่งใบ ทั้งหมดหกสิบเจ็ดใบ (หมายเหตุ: ราคานี้คํานวณจากราคาของในราชวงศ์โจวอันยิ่งใหญ่บนดาวเคราะห์ที่โฮสต์อาศัยอยู่)

        ค่าเช่า: ไก่สองตัว บวกไข่สองในสาม นั่นเท่ากับว่าโฮสต์ได้รับไข่สองร้อยห้าสิบใบ ควรจ่ายหนึ่งร้อยหกสิบหกใบ โดยพิจารณาว่าโฮสต์ยังเป็นมือใหม่ ดังนั้นจึงคิดค่าใช้จ่ายเพียงหนึ่งร้อยสามสิบสามใบเท่านั้น (หมายเหตุ: การคํานวณนี้ขึ้นอยู่กับไก่ห้าร้อยตัวต่อหนึ่งไร่ คำนวณจากที่โฮสต์จำเป็นต้องจ่ายสี่ร้อยตัว )

        ยอดสะสมทั้งหมด: ไก่: สองตัว ไข่: สองร้อยใบ

        ในเวลานี้ เสียงที่เย้ายวนใจของสัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดดังขึ้นอีกครั้ง “โฮสต์ครับ เป็นอย่างไรบ้าง ผมบอกแล้วว่าคุณจะต้องได้เป็นเศรษฐินีที่เปล่งประกายและเจ๋งที่สุดในราชวงศ์โจวอันยิ่งใหญ่ ผมพูดไม่ผิดเลยใช่ไหมครับ คุณดูสิ เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือน คุณก็ได้รับไก่ตัวผู้ที่หนักห้ากิโลกว่า และไข่ห้าสิบใบมาแล้ว”

        หลิวเต้าเซียงเบ้ปากอย่างไม่พอใจ ชี้ไปที่ค่าขยายพื้นที่แล้วเอ่ย “แล้วนี่จะอธิบายอย่างไร? ไม่ใช่ว่าพวกนายควรเป็นฝ่ายให้ฉันเองหรอกหรือ? แล้วมาเก็บค่าใช้จ่ายได้อย่างไรกัน?”

        สัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดมีสติสัมปชัญญะมาก “โฮสต์ที่รัก ทุกส่วนของพื้นดินล้วนต้องใช้เครื่องจักรในการทำให้เรียบ ไม่อย่างนั้น ไก่เหล่านั้นจะอยู่ที่นี่อย่างเหมาะสมได้อย่างไร มีแต่แมงป่อง ตะขาบ คงกัดไก่ของคุณตายไปก่อนไม่ใช่หรือครับ? ตอนที่ปล่อยเช่าให้คุณก็จัดการไล่สัตว์มีพิษออกไปทั้งหมด ไม่ให้มีแม้แต่ไข่ทิ้งไว้”

        หลิวเต้าเซียงรู้ว่าเทคโนโลยีของกาแล็กซีนี้ได้รับการพัฒนาอย่างมาก แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ นี่มันช่าง…

        “เข้าใจแล้ว แล้วจะคิดค่าใช้จ่ายอย่างไร?”

        สัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดอารมณ์ดีอย่างยิ่ง ในที่สุดตนเองก็หลอกล่อให้คนซื่อบื้อยอมทำเรื่องนี้ด้วยความเต็มใจได้สำเร็จ เมื่อเขาพบว่าไก่ของหลิวเต้าเซียงสามารถนำมาจ่ายได้ เขาก็ดีใจจนแทบกระโดดโลดเต้น หากว่ามีมือมีเท้าล่ะก็นะ

        เพราะช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สื่อกลางที่ถูกส่งออกไปยังดวงดาวต่างๆ มีคนที่ปฏิบัติภารกิจสำเร็จน้อยนัก และต่างพากันรังเกียจว่างานนี้เหนื่อยและสกปรกเกินไป ทั้งยังได้ค่าแรงน้อยอีกด้วย

        ในที่สุด มันก็หาเจอคนหนึ่ง ตีให้ตายมันก็จะกอดขาที่ใหญ่และหนาของหลิวเต้าเซียงไว้ เพราะการทำภารกิจสำเร็จ มันเองก็มีรางวัลเช่นเดียวกัน

        ตัวอย่างเช่น รูปอวตารที่ดูดีขึ้น พลังงานที่เอร็ดอร่อย หรือบางทีอาจได้เปิดความสามารถทางสติปัญญาของตนเองอีกขั้นหนึ่ง แน่นอนว่าความต้องการข้อสุดท้ายนั้นต้องทำความดีเป็นล้าน ถึงจะสามารถอัพเกรดสติปัญญาได้หนึ่งขั้น

        อย่างไรก็ตาม สัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดเห็นความหวังที่ว่ามันจะไปสู่ความฉลาดได้มากยิ่งขึ้น

        “โฮสต์ที่รัก แค่ต้องส่งไก่กับไข่ไปที่โซนค้าขายก็พอ ส่วนของคุณเองก็เก็บไว้ในคลังเก็บของ เท่านี้คุณก็สามารถเปิดเขตเพาะเลี้ยงรอบใหม่ได้เลย ถ้าอย่างนั้นโฮสต์ที่รัก ครั้งหน้าต้องการจะพิจารณาเพิ่มขนาดพื้นที่ไหมครับ ถึงตอนนั้นคงไม่ใช่เลี้ยงได้แค่สามตัวแน่นอน”

        หลิวเต้าเซียงกําลังคํานวณในใจว่าสิ่งของในมือตนจะสามารถแลกเป็นเงินได้เท่าไร ด้วยเหตุนี้จึงตอบแบบขอไปทีว่า “ฉันยังไม่ได้คิดดีๆ”

        พอพูดจบก็ไม่ได้สนใจเจ้าถั่วงอกที่เสแสร้ง ช่วงนี้นางไม่ได้ทำอย่างอื่น มัวแต่ยุ่งเรื่องเลี้ยงไก่ และสืบได้ความมาว่าไก่นั้นสามารถขายได้ยี่สิบห้าอีแปะต่อครึ่งกิโลกรัม ถึงอย่างไรนางเองก็ออกเงินแค่ซื้อลูกไก่ไม่กี่ตัวเท่านั้น

        เมื่อนึกถึงว่าในกระเป๋ากำลังจะมีเงิน ท่าเดินก็อวดดีขึ้นมาทันที

        “น้องรอง มีเรื่องอันใดเจ้าถึงมีความสุขเพียงนี้?” กระทั่งหลิวชิวเซียงก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายความสุขที่แผ่ออกมาจากตัวน้องสาว

        มุมปากของหลิวเต้าเซียงฉีกยิ้มอีกครั้ง จากนั้นก็เพียงแค่หัวเราะ ไม่ได้ตอบคำถาม

        “โฮสต์ที่รัก ตื่นก่อนดีไหมครับ?” หลังจากอัดอั้นอยู่นาน ในที่สุดสัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดก็ปรากฎขึ้นในสมองของเธอ

        ทันทีที่หลิวเต้าเซียงได้ยินมันเรียก ก็ระมัดระวังตัวทันที “มีเรื่องอะไรอีก ฉันจ่ายค่าเช่าไปแล้วไม่ใช่หรือ? อีกอย่างนะเจ้าถั่วงอก แม้ว่าฉันจะเป็นผู้เช่า แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะกดขี่ข่มเหงฉันได้ง่ายๆ นะ”

        “คือว่า ผมว่าคุณควรเอาไข่ไปแลกอาหารไก่ได้แล้วนะครับ?”

        “ไม่ใช่ว่าเบื้องบนของนายเป็นคนจัดหาให้หรอกหรือ? นายคิดว่าฉันความจำฟั่นเฟือนหรืออย่างไร?”

        “ไม่ใช่นะครับ คุณรับปากป้าหลี่ไปแล้วว่าจะไปเลี้ยงไก่ที่บ้านของนางไม่ใช่หรือครับ? หรือว่าคุณตั้งใจจะขึ้นไปหลังเขาเพื่อหาหญ้า?” สัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดเองก็เจ็บปวดอยู่ข้างใน โปรดิวเซอร์ที่สมควรตายดันจัดข้าวร่วนกับรำข้าวไว้เป็นผลงานที่ต้องทำ แล้วยังบอกว่าเป็นข้อบังคับอีกต่างหาก

        แต่เดิมกาแล็กซีที่สัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดอาศัยอยู่ มีผลผลิตทางการเกษตรค่อนข้างสูง วัตถุดิบในการผสมอาหารไก่จึงมีข้าวร่วนเป็นส่วนน้อย ยิ่งรำข้าวนั้นแทบจะไม่มีเลย แต่การผลิตข้าวสารย่อมต้องมีของเหล่านี้ปะปนมา ในเมื่อมันเปลืองพื้นที่ แล้วยังสิ้นเปลืองแรงงานมนุษย์ อีกทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ คิดอย่างไรก็ไม่คุ้ม ท้ายที่สุดจึงออกประกาศให้สิ่งนี้กลายเป็นภารกิจการบังคับขาย

        “อืม แล้วจะต้องแลกอย่างไร?” หลิวเต้าเซียงมีแผนการแอบใช้รำข้าวที่หลิวฉีซื่อเก็บไว้ แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถแอบเอามาใช้ได้ทุกวัน หากใช้ไข่แลกได้ นางเองก็ยอม อีกอย่างไก่ใหม่สามตัวถูกปล่อยเลี้ยงไว้ในห้วงมิติแล้ว อีกไม่นานก็มีไข่ให้กินอีก

        เมื่อสัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดได้ยินก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที แล้วเอ่ย “ข้าวร่วนใช้แค่เงินสองอีแปะต่อครึ่งกิโลกรัม รำข้าวใช้เพียงหนึ่งอีแปะได้หนึ่งกิโลกรัม ใช้ไข่แลกอย่างเดียว อย่างอื่นไม่ได้ครับ”

        หลิวเต้าเซียงได้ฟังน้ำเสียงที่กระตือรือร้นของมัน จึงเกิดความสงสัยในใจ ดาวดวงนั้นขาดแคลนไข่มากมายหรืออย่างไร ดูเจ้าเด็กนี่ร้อนรนเสียจริง

        “ตกลง ฉันจะแลกกับนายสักหน่อย”

        นางเอาไข่ห้าใบออกจากคลังเก็บของแล้วยื่นให้สัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ด แลกข้าวร่วนได้หนึ่งกิโลครึ่ง รำข้าวอีกหนึ่งกิโลกครึ่ง ข้าวร่วนเหล่านี้หากต้มเสร็จแล้วผสมรำข้าวก็สามารถเอาไปใช้เป็นอาหารไก่ได้

        “คือว่า โฮสต์ที่รัก ลืมไปอย่างหนึ่งครับ ข้าวผสมรำข้าว ต้องรอลูกไก่อายุครึ่งเดือนจึงจะสามารถกินได้นะครับ”

        หมายความว่า ก่อนหน้านั้นต้องเลี้ยงด้วยข้าวร่วนอย่างเดียวหรือ?

        ดวงตาของหลิวเต้าเซียงทอดมองลงมาบนลูกไก่ทั้งสามตัวที่กระเด้งไปมาอยู่ข้างๆ เท้า

        ศูนย์ศูนย์เจ็ดตะโกนทันที “คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ตีพวกมันนะครับ ทั้งสามตัวนี้ได้รับการจดทะเบียนกับโปรดิวเซอร์แล้ว”

        หลิวเต้าเซียงอดไม่ได้ที่จะกลอกตา นางเพียงแค่คิดเฉยๆ เจ้าสัตว์ปีศาจ นายอย่าฉลาดถึงขั้นนี้ได้ไหม

        ช่วงอาหารค่ำ หลิวฉีซื่อเอ่ยถึงเรื่องจ่ายตลาดวันพรุ่งนี้

        “แม่ วันรุ่งขึ้นเป็นวันจ่ายตลาด เราจะไปหรือไม่?” หลิวเสี่ยวหลันอยากไปดูเหลือเกิน วันจ่ายตลาดนัดค่อนข้างคึกคัก

        หลิวฉีซื่อมองบุตรสาวอย่างรักใคร่และยิ้มแย้มว่า “เด็กโง่ หลังจากเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง แม่จะพาเจ้าไปยังเมืองหลวงและพักที่บ้านพี่ใหญ่ของเจ้าไม่กี่วัน ถึงตอนนั้นเจ้าจะได้เห็นความเจริญในเมืองหลวง และจะไม่คิดอยากไปในตำบล มีแต่คนยากจน ไม่มีอะไรน่าดู ข้าวของก็ไม่ประณีตสวยงาม เผลอๆ จะทำให้เสื้อผ้าเราสกปรกอีกต่างหาก”

        จากคำพูด ช่างดูแคลนเหล่าผู้คนที่เท้าเปื้อนดินโคลน โดยหาได้สนใจชายหนุ่มสองคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารซึ่งก็คือหลิวต้าฟู่และหลิวซานกุ้ย ที่ตอนนี้พวกเขาก็อยู่ในสภาพเช่นเดียวกับที่นางพูดไม่

        หลิวเสี่ยวหลันได้ยินดังนั้น ความตื่นเต้นที่อยากจะไปในตำบลก็ลดลง “แม่ ข้าปักผ้าเช็ดหน้าได้อีกสิบผืน คิดว่าน่าจะหาเงินได้ห้าสิบอีแปะ อยากจะเอาไปส่งให้ที่ร้านปัก เพื่อให้เถ้าแก่เนี้ยเอาไปขายช่วงวันจ่ายตลาด จะได้ขายได้เยอะหน่อย”

        “หลันเอ๋อร์ของข้าช่างจิตใจดี ผ้าเช็ดหน้าที่ปักได้เก็บไว้ดูเล่นเองก็ได้ ยังคิดถึงเถ้าแก่เนี้ยร้านปักอีก”

        หลิวเต้าเซียงอดไม่ได้ที่จะกลอกตามองบน หลายวันก่อนนี้ไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนสั่งให้ตนเองเข้าไปในตำบล พอคราวนี้กลับบอกว่าผ้าเช็ดหน้าจะเอาไปแลกหรือไม่แลกก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

        “กุ้ยฮัว ถึงอย่างไรเจ้าก็ออกเดือนแล้ว หรือไม่เช่นนั้น ก็พาเต้าเซียงกับชุนเซียงเข้าไปเล่นในตำบลสักหน่อย แล้วเอาผ้าเช็ดหน้าของหลันเอ๋อร์ไปแลกเงินมา พร้อมกับซื้อมันหมูกลับมาทำน้ำมันที่บ้านสักห้ากิโลกรัม ซี่โครงหนึ่งกิโลกรัม แล้วก็เม็ดบัวด้วย เอามาหลายกิโลหน่อย จะได้เอามาต้มน้ำแกงซี่โครงหมู เม็ดบัวบำรุงลมปราณดี”

        ขณะที่หลิวฉีซื่อพูด ใบหน้าก็หันไปทางห้องทิศตะวันตก น้ำเสียงเพิ่มความดังขึ้นหลายระดับ

        จริงๆ แล้วหลิวเต้าเซียงอยากหัวเราะ ไม่รู้ว่าการกระทำเช่นนี้ของหลิวฉีซื่อจะเป็นการตักน้ำใส่ตะกร้าไม้ไผ่แต่กลับไม่ได้อะไรหรือไม่

        นางคาดว่าคุณชายน้อยน่าจะเป็นคนที่รู้จักโลกพอสมควร ลำพังท่าทีของหลิวเสี่ยวหลัน เดาว่าคงจะมองออกและอยู่ในสายตาของเขาทั้งหมดแล้ว

        —–

สาวชาวนาผู้ชั่วร้ายกับระบบวิเศษ

สาวชาวนาผู้ชั่วร้ายกับระบบวิเศษ

Status: Ongoing
อ่านนิยายสาวชาวนาผู้ชั่วร้ายกับระบบวิเศษใครว่าการข้ามมิติไม่ใช่งานที่ต้องใช้เทคนิค? จู่ๆ เด็กสาวแสนหวานก็กลายเป็นเด็กหญิงตัวน้อยในครอบครัวยากจน นางอยากจะร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา ที่น่าเศร้ากว่านั้นคือ ครอบครัวยากจน พ่อแม่ขี้ขลาด ญาติพี่น้องทุบตี โดนกดขี่สารพัด…. ยังไม่พอ… ระบบตัวดียังจะขอให้เธอเป็น ‘หลิวเต้าเซียง’ เด็กสาวแสนสวยในชนบท จิตใจดีและขยัน ประเด็นสำคัญคือคำสุดท้าย “ขยัน” แต่เพื่อพ้นความจนที่ข้นแค้นและครอบครัวที่โหดร้าย นางจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ร่ำรวยขึ้นมาให้ได้!! “เจ้าระบบ หวานใจของพี่ รีบบอกพี่สาวหน่อยว่าต้องทำอย่างไรถึงสามารถสร้างตัวได้เร็วที่สุด” ตอนนี้เลือดในกายนางกำลังเดือดพุ่งพล่าน เพื่อความสุขสบายของครอบครัว และหนุ่มเอ๊าะๆ หลิวเหม่ยจวิน (ในร่างหลิวเต้าเซียง) คนนี้ ขอสู้ตาย!!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset