หงส์สยายปีก – ตอนที่ 6 ชะตากรรมอันท้าทายความประสงค์พระเจ้า

ตอนที่ 6 ชะตากรรมอันท้าทายความประสงค์พระเจ้า

 

จิ๋งหยุนเฉารู้สึกสับสน… ชายแก่คนนี้อาจเป็นปู่ของเธอ…ปู่งั้นเหรอ?! แต่ทำไมตัวของเขาถึงได้โปรงจนเหมือนเอามือทะลุผ่านไปได้? และเขายังพูดอีกว่าฉันและเขากำลังอยู่ในจี้หยก…มีบางอย่างผิดปกติใช้หรือไม่? ที่ฉันอยู่ในเมืองเวทยมนตร์หรืออย่างไร?!

 

“จิ๋งหยุนเฉา” ชายคนนี้โพล่ออกมาจากมุมไหนก็ไม่รู้ ถึงเธอจะทำสีหน้าไม่พอใจขนาดไหนแต่เธอก็ตอบคำถามของเขาอยู่ดี

 

“หยุนเฉา…ข้าคือบรรพบุรุษของเจ้า ข้าคือจิ๋งมี่ ในตอนที่ข้ายังมีชีวิตอยู่…ข้าเป็นหมอที่มีความสามารถมากจนพูดได้ว่าข้าเป็นหมออัจฉริยะ จู่ๆ วันหนึ่งข้าก็ข้ามเวลาไปเมื่อหนึ่งพันปีที่แล้ว… เมื่อหนึ่งพันปีที่แล้วข้ามีชีวิตที่แสนยากลำบากและใช้ความสามารถทางด้านการแพทย์ที่ตนเองมีช่วยเหลือคนอื่น ทว่าข้าก็มีอายุได้เพียงสามร้อยปีเท่านั้น ที่จริงแล้วข้าควรกลับชาติไปเกิดได้แล้ว ทว่าข้าไม่ยากละทิ้งความรู้และประสบการณ์ทางการแพทย์ที่สะสมมาหลายร้อยปี ข้าจึงได้เลือกทิ้งเศษวิญญาณของตัวเองเอาไว้ในจี้หยกชิ้นนี้ ข้ามีความตั้งใจจะมอบทุกความรู้และพรสวรรค์ที่ข้ามีให้แก่ทายาทที่มีชะตากรรมเช่นเดียวกันกับข้า” ชายชราถอนหายใจ

 

“จี้หยกชิ้นนี้เต็มไปด้วยดวงจิตวิญญาณ…ชะตากรรมของเจ้าของจี้หยกชิ้นนี้จะต้องลำบากเหมือนถูกพระเจ้ากลั่นแกล้งเหมือนกำลังท้าทายความประสงค์ของพระเจ้า…ซึ่งข้ารอบุคคลนั้นมาหลายร้อยปีแล้ว!” ชายชราพูดเสริม

 

ทันทีที่จิ๋งหยุนเฉาได้ยินคำพูดทั้งหมดของชายชรา พายุแห่งอารมณ์หวาดกลัวและประหลาดใจได้ถาโถมพัดเข้ามาในหัวใจของเธอ

 

ชะตากรรมของฉันที่ท้าทายความประสงค์พระเจ้าอย่างงั้นเหรอ?

 

เธอเนี่ยนะคือคนที่ถูกเลือก เธอคือคนที่ตายอย่างน่าสังเวช เธอถูกทุกคนมองว่ามีโชคชะตาที่เลวร้าย แต่จู่ๆ เธอก็มีโอกาสได้กลับมาใช้ชีวิตอีกครั้ง! หรือว่าเรื่องทั้งหมดนี่คือคำนิยามของคำว่า ชะตากรรมที่ท้าทายความประสงค์พระเจ้า?

 

“คุณปู่…ท่านกำลังจพบอกว่าฉันคือคนที่ท่านรอคอยเหรอคะ?” จิ๋งหยุนเฉาถามอย่างลังเล เธอยังไม่กล้าเรียกเขาว่าปู่ได้อย่างเต็มปากเสียด้วยซ้ำ

 

“ใช่! ข้าหมายความเช่นนั้น…ร่างกายของเจ้าถูกปกคลุมด้วยรัสมีแห่งความฉลาดหลักแหลม ถ้าหากเจ้าอาศัยอยู่ในโลกของข้าล่ะก็ชีวิตของเจ้าจะไม่มีวันสิ้นสุด…แต่ถึงอย่างนั้นชีวิตของเจ้าในโลกนี้ก็เหลือเวลาที่จะเปลี่ยนมันไม่มากแล้วมิใช่หรือ? เจ้าคิดว่ายังไงล่ะหยุนเฉา…เจ้าอยากสืบทอดทักษะทางการแพทย์ของข้าหรือไม่?” ชายชราถาม

 

และแน่นอนจิ๋งหยุนเฉาต้องการทักษะนั้น

 

ทว่า…

 

“คุณปู่คะ…บอกตามตรงฉันไม่เคยเรียนแพทย์มาก่อนเลย…” เธอรู้ว่าวิชาแพทย์แผนตะวันออกจำเป็นต้องเริ่มเรียนกันตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งจริงๆ แล้วเธอไม่เคยข้องเกี่ยวกับแขนงวิชานี้เลยด้วยซ้ำ ทว่าผู้อาวุโสท่านนี้ตั้งใจจะสอนเธออย่างไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน ถ้าหากว่าจู่ๆ เขาก็พบว่าเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสายเลือดของเขาล่ะ ทุกอย่างจะไม่สูญเปล่าอย่างนั้นหรือ…

 

เมื่อชายชราได้ยินเช่นนั้นเขาก็หัวเราะอย่างสนุกสนาน “เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล! ตราบใดที่เจ้าเต็มใจจะเรียนรู้ทักษะ…ข้าก็มีวิธีสอน”

 

จิ๋งหยุนเฉาอาจยังไม่เชื่อคำพูดของชายชราทว่าเธอก็ได้พยักหน้ายอมรับข้อเสนอของเขา

 

ทักษะการแพทย์ที่มาจากบุคคลลึกลับสมัยโบราณ วิชานี้จะต้องวิเศษจนไม่มีใครเทียบได้ เธอจะใช้ประโยชน์จากทักษะนี้ให้จนถึงที่สุด

 

เมื่อชายชราเห็นปฎิกิริยาของเธอ เขาจึงเอื้อมมือไปหมุนวงล้อบนโต๊ะทันที ทันใดนั้นวงล้อก็ลอยขึ้น! ใต้วงล้อนั้นมีกองกระดาษม้วนโบราณที่เปล่งประกายเต็มไปด้วยแสงสีเขียว

 

“นี่มัน…” สีเขียวที่เปล่งประกายนั้นทำให้กองกระดาษม้วนโบราณนี้เป็นเหมือนสมบัติล้ำค่า

 

“ตัวหนังสือในม้วนกระดาษแต่ละฉบับนี้คือข้อมูลและความรู้ของฉันที่มีมาทั้งชีวิต…เจ้าต้องใช้มันอย่างไม่ประมาท…การอ่านข้อมูลต่างๆ ม้วนกระดาษนี้จะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากเพราะมันมีขนาดเล็กและอาจไม่ได้มีรายละเอียดเยอะมากนัก มันทำมาจากหยกวิญญาณวิเศษที่ข้านำมาจากโลกใบอื่น ซึ่งกระดาษม้วนโบราณมีทั้งหมดเก้าสิบเก้าชิ้น เจ้าต้องเริ่มเรียนรู้ตั้งแต่กระดาษม้วนโบราณชิ้นแรก…ทุกครั้งที่เจ้าจะเริ่มใช้งานเจ้าจำเป็นจะต้องหยดเลือดลงบนชิ้นส่วนกระดาษม้วนโบราณนั้น จากนั้นข้อมูลทั้งหมดในกระดาษจะไหลเข้าสู่สมองของเจ้าเอง หลังจากที่เจ้าได้ซึมซับความรู้ทั้งหมดของกระดาษม้วนโบราณชิ้นแรกแล้วเจ้าถึงจะสามารถเรียนรู้กระดาษม้วนโบราณชิ้นต่อไปได้” คำอธิบายในการใช้กระดาษม้วนโบราณ

 

หัวใจที่หวาดกลัวของจิ๋งหยุนเฉาค่อยๆ สงบลง

 

เธอได้กลับมาเกิดใหม่…มันคงไม่มีอะไรที่จะแปลกไปมากกว่านี้แล้ว

 

“ขอบคุณค่ะ” จิ๋งหยุนเฉารู้สึกขอบคุณ

 

“เจ้าเป็นลูกหลานของข้า” ชายชราตอบ “เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า แต่จงอย่าลืมว่าตัวเจ้าเองจะต้องมีความทะเยอะทะยานซึ่งท้ายที่สุดแล้วมันจะทำให้เจ้าบินสู่อิสระ…เจ้าต้องค่อยๆ เรียนรู้ไปทีละนิด อย่าหักโหม! สมองของเจ้าไม่สามารถเก็บข้อมูลอันมากมายนี้ได้ในครั้งเดียว…ถึงมันจะไม่สามารถทำให้เจ้าโง่ลงได้แต่มันก็ทำให้เจ้าบ้าได้เช่นกัน! น้ำพุแห่งนี้ไม่ใช่มีเพียงเอาไว้รดน้ำต้นสมุนไพรอย่างเดียวเท่านั้นล่ะ! มันสามารถเพิ่มพัฒนาการให้แก่เจ้าได้อีกด้วย ทว่าเจ้าจะไม่สามารถนำมันออกไปยังโลกภายนอกที่เจ้าจากมาได้ ความสามารถในการเพิ่มพลังในการพัฒนาของน้ำพุนี้มักขึ้นอยู่กับสมาธิของตัวผู้ใช้ และสิ่งที่สำคัญที่เจ้าควรจำเอาไว้คือหัวใจของคนภายนอกนั้นสามารถเปลี่ยนได้ทุกเมื่อ และเจ้าต้องห้ามให้ใครรู้ว่ามีสถานที่นี้ภายในจี้หยกเด็ดขาด! สถานที่แห่งนี้ไม่ต้อนรับบุคคลอื่น! ถ้าหากถึงเวลาอันเหมาะสมเจ้าก็แค่ต้องส่งถอดมรดกของตระกูลนี้ให้แก่ผู้สืบเชื้อสายที่เหมาะสมก็เท่านั้น!”

หงส์สยายปีก

หงส์สยายปีก

หงส์สยายปีก ในช่วงชีวิตของเธอที่ผ่านมา ไม่มีใครเป็นที่พึ่งพา…และต้องตายอย่างทรมานในคุก! ทว่าในตอนนี้เธอได้เกิดใหม่และได้รับโอกาสในการใช้ชีวิตเป็นครั้งที่สอง เธอเกิดมาและถูกเลือกให้ได้เป็นคนที่รับมรดก… เธอมีความสามารถในการเปิดมิติอวกาศลึกลับ… เธอขยันเรียนและมีสมองอันชาญฉลาดจนได้เป็นแพทย์อัจฉริยะ เธอเปิดคลินิกเป็นของตนเอง… เธอก่อตั้งบริษัท… เธอซื้อบ้านและที่ดิน… เธอได้มีโอกาสพบญาติต่างสายเลือด! ความมั่งคั่งของเธอเริ่มเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ในตอนนี้เธอมีคนรักมากกว่ามีคนเกลียด! “คุณผู้ชาย! คนตละกูลเฉียวแกล้งทำเป็นว่าตนเองป่วยและไปรักษายังโรงพยาบาลที่คุณผู้หญิงจิ๋งหยุนเฉาทำงานอยู่!” คนรับใช้กล่าว “หักขามันซะ! ทำให้มันพิการไปสะจริงๆเลย!” ชายคนหนึ่งกล่าว “ใช่ครับ! ช่างน่าตลกที่เขาแสร้งทำตัวน่าสงสาร! แต่คุณผู้ชายคะ…ท่านกำลังทำอะไร?!” คนรับใช้พูดอย่างงงๆ ชายผู้นั้นกลืนยาที่หมดอายุลงไปทันทีหนึ่งเม็ดและพูดว่า “ผมป่วย! ผมต้องการไปหาภรรยาเพื่อให้เธอรักษา!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset