หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 733

เพลิงอมตะเบื้องขวา ฤทัยปีศาจเบื้องซ้าย

มิติเหนือจุดจื้อจุนไห่ฉีกขาด

ขณะสายฟ้าไร้รูปร่างพุ่งลงมาจากทุกทิศทาง เสียงคำรามดังสนั่นราวกับเสียงโหยหวนของภูตผีดังก้องไปทั่วจุดจื้อจุนไห่ ยกคลื่นบนพื้นผิวทะเลพลังขึ้น

นี่เป็นฉากที่ดูราวกับวันสิ้นโลก

มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองภาพนี้ สีหน้าก็เคร่งเครียดลงหลายส่วน สายฟ้าไร้รูปร่างนับไม่ถ้วนตกลงมาราวกับฝนอุกกาบาต พุ่งเข้าไปในจุดจื้อจุนไห่ของเขา

ปุ! ปุ!

คลื่นหลิงขนาดใหญ่ยกตัวขึ้น ทุกจุดที่สายฟ้าฤทัยปีศาจดำพุ่งลงมา คลื่นหลิงประกายสีม่วงก็เลือนหายไป เปลวเพลิงสีม่วงพวยพุ่งขึ้นแล้วสลายตัวลงอย่างรวดเร็วจากสายฟ้าไร้รูปร่าง

ริ้วสีผิดปกติต่างๆ แล่นพล่านในจุดจื้อจุนไห่ที่เป็นสีม่วงแต่เดิม

นี่เป็นผลจากการทำลายของสายฟ้าฤทัยปีศาจดำ

นอกจากนี้เมื่อพิจารณาจากรูปการณ์นี้ สายฟ้าฤทัยปีศาจดำกับเพลิงอมตะไม่ถูกกันแน่นอน แต่ก็สมเหตุสมผลเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ชนิดของไฟกับสายฟ้านี้ล้วนไม่ใช่สิ่งธรรมดา มิหนำซ้ำยังแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้พอมาอยู่ในสถานที่เดียวกัน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ร่วมกัน

มู่เฉินถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ในหัวใจ เขาสามารถคาดเดาถึงเรื่องยุ่งยากที่ต้องเผชิญต่อไปได้แล้ว

ตู้ม! ตู้ม!

บนท้องฟ้า สายฟ้าฤทัยปีศาจดำยังคงฟาดลงมาไม่ยั้ง การโจมตีน่ากลัวอย่างยิ่ง ดังนั้นสีไร้รูปร่างจึงได้กระจายออกไปอย่างรวดเร็วบนจุดจื้อจุนไห่กว้างใหญ่ไพศาล

เผชิญกับการโจมตีรุนแรงจากสายฟ้าฤทัยปีศาจดำ แม้แต่เพลิงอมตะก็เริ่มพ่ายแพ้ทีละน้อย คลื่นหลิงสีม่วงจางหายไปอย่างต่อเนื่อง

พลังงานสองสายปะทะกันในจุดจื้อจุนไห่ พยายามลบล้างซึ่งกันและกัน แต่ในกระบวนการนี้ พลังงานทั้งสองก็ค่อยๆ รวมเข้ากับคลื่นหลิงไปด้วย เพราะที่นี่คือจุดจื้อจุนไห่ของมู่เฉิน หากพวกมันต้องการเอาชนะอีกฝ่ายก็ต้องอาศัยคลื่นหลิงที่นี่ ยิ่งพวกมันรวมตัวกับคลื่นหลิงมากเท่าใด ก็จะยิ่งทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น เป็นฝ่ายเหนือกว่าได้ง่ายขึ้น

แล้วเหตุการณ์เช่นนี้ก็เป็นสิ่งที่มู่เฉินต้องการเห็น

ตอนนี้เขาต้องรอให้สายฟ้าฤทัยปีศาจดำค่อยๆ รวมเข้ากับคลื่นหลิงของเขา มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นเขาถึงจะมีโอกาสลงมือและปรับสมดุลพลังงานทั้งสอง ทำให้สามารถควบคุมพวกมันได้

และแล้วการรอคอยก็ใช้เวลาไปสิบวันเต็ม

ระหว่างสิบวันนี้ สายฟ้าฤทัยปีศาจดำก็เติบโตขึ้นในเขตจุดจื้อจุนไห่อย่างต่อเนื่อง จนในวันสุดท้ายมันก็ได้กินพื้นที่จุดจื้อจุนไห่ไปครึ่งหนึ่ง สามารถต้านทานเพลิงอมตะได้อย่างแท้จริง

แต่เมื่อถึงจุดนี้ การขยายพื้นที่ของสายฟ้าฤทัยปีศาจดำก็ชะงักลง เพราะเพลิงอมตะก็ไม่ใช่ธรรมดา หลังจากต้านทานการโจมตีดุเดือดในตอนแรกของสายฟ้าฤทัยปีศาจ มันก็ตั้งหลักได้อย่างมั่นคง ไม่ให้อีกฝ่ายได้ก้าวเพิ่มมาอีกแม้แต่น้อย

ร่างดวงจิตของมู่เฉินยืนอยู่บนท้องฟ้าก้มลงมองจุดจื้อจุนไห่ที่ตอนแรกอัดแน่นด้วยสีม่วง ทว่าตอนนี้แยกออกเป็นสองสี หนึ่งสีม่วงหนึ่งโปร่งใส สองสีที่ต่างกันสิ้นเชิงทำให้จุดจื้อจุนไห่ถูกแบ่งไปอย่างชัดเจน

บริเวณที่สีทั้งสองสัมผัสกันระเบิดออกอย่างดุเดือด เพลิงสีม่วงกับสายฟ้าไร้รูปร่างปะทะกันอย่างหนักหน่วง เสียงระเบิดดังเสียดหู

คลื่นเชี่ยวกรากต่างสีปะทะซึ่งกันและกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนเบาๆ ทั่วทั้งจุดจื้อจุนไห่

มู่เฉินมองจุดจื้อจุนไห่ที่แยกส่วนอย่างชัดเจนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย พลังงานสองชนิดต่างครองพื้นที่จุดจื้อจุนไห่ไปอย่างละครึ่ง แต่ขณะเดียวกันคลื่นหลิงในร่างของเขาก็ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน หากเขาใช้คลื่นหลิงที่รวมตัวกับเพลิงอมตะ คลื่นหลิงที่รวมตัวกับสายฟ้าฤทัยปีศาจดำก็จะไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา

เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ไม่เพียงพลังของเขาจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัย กลับทำให้คลื่นหลิงของเขาอ่อนแอลงอีกด้วย

นอกจากนี้ด้วยความขัดแย้งระหว่างพลังทั้งสอง หากเขาไม่เข้าควบคุมพวกมันอาจทำให้หลุดการควบคุมไป ถึงตอนนั้นเขาก็จะได้รู้สึกถึงการถูกคลื่นหลิงสะท้อนกลับมาอย่างแท้จริง

แต่ถ้าเขารวมพลังทั้งสองนี้ไว้ด้วยกันในตอนนี้ มู่เฉินแน่ใจว่าผลลัพธ์ก็คือการล่มสลายของจุดจื้อจุนไห่ เนื่องจากเขายังไม่มีความสามารถที่จะทำในตอนนี้

“ในเมื่อยังไม่อาจรวมพวกมันเข้าด้วยกันในตอนนี้ งั้นก็ควบคุมแยกไปก่อนแล้วกัน”

ทว่ามู่เฉินก็ไม่ใช่คนที่ไร้ความสามารถ เขาคิดหาทางแก้ไขอย่างรวดเร็ว สายตาเขาเป็นประกายขณะพึมพำกับตัวเอง “แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าก็ต้องให้เพลิงอมตะกับสายฟ้าฤทัยปีศาจดำยอมรับซึ่งกันและกัน”

เขาต้องทำให้พลังงานทั้งสองไม่โจมตีซึ่งกันและกันอีก ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องคอยระวังสถานการณ์ในร่างอยู่ตลอด

แต่เห็นชัดว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เนื่องจากเพลิงอมตะกับสายฟ้าฤทัยปีศาจดำไม่ได้อ่อนแอ ปกติถ้าพวกมันปะทะกัน ก็ย่อมสู้กันจนตายไปข้าง แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่ต่างจากการนำเสือสองตัวมาอยู่ในภูเขาเดียวกัน

“เสือสองตัวในภูเขาเดียวกันงั้นหรือ?”

แววตาของมู่เฉินวูบไหว ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เสือสองตัวจะอยู่ในที่เดียวกัน เขาเพียงแค่ต้องหาอะไรบางอย่างมาไว้ในภูเขาเพื่อช่วยกำราบเสือทั้งสองตัวให้สงบลง

แต่ตอนนี้เขาจะหาสิ่งที่ช่วยกำราบเสือสองตัวได้จากที่ไหนกันล่ะ?

แม้ว่าหน้ารายการนิรันดร์จะน่าสะพรึงกลัว แต่ชัดว่าไม่เหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้ แล้วเขาควรใช้วิธีไหนกันล่ะ?

มู่เฉินยืนกลางอากาศขณะจมอยู่ในความภวังค์ความคิด สถานการณ์ตอนนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดกลางคัน ถ้าเขาสามารถจัดการปัญหานี้ได้ เขาก็สามารถควบคุมคลื่นหลิงทรงพลังสองกลุ่มที่มีคุณลักษณะต่างกันได้ แต่ถ้าไม่สามารถแก้ไขได้ เขาก็ไม่กล้าสู้กับใครหน้าไหนเลย

ครืน!

ขณะที่มู่เฉินกำลังครุ่นคิด คลื่นหลิงกลุ่มใหญ่สองกลุ่มที่หลอมรวมกับเพลิงอมตะและสายฟ้าฤทัยปีศาจดำก็ยังคงสู้กันไม่หยุด กัดกร่อนคลื่นหลิงที่ได้มาจากการฝึกฝนอันยากลำบากของมู่เฉินอย่างต่อเนื่อง

รูม่านตาของมู่เฉินสะท้อนเพลิงสีม่วงและสายฟ้าไร้รูปร่าง ครู่หนึ่งเขาก็หรี่ตาลง พูดถึงการกำราบ เขาลืมวัตถุนี้ไปสนิทเลย

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาของมู่เฉิน จากนั้นเขาก็วาดตราประทับ เสียงกระหึ่มดังจากจุดจื้อจุนไห่ ขณะที่เจดีย์เก้าชั้นขนาดมหึมาค่อยๆ ปรากฏบนขอบฟ้า

เจดีย์เก้าชั้น

นี่เป็นวัตถุที่ถูกชำระด้วยการฝึกวิชามหาเจดีย์ และเป็นสิ่งเดียวที่มารดาของมู่เฉินทิ้งไว้ให้ มู่เฉินไม่สงสัยถึงพลังที่มันมีเลย ทว่าตอนนี้ตัวเขายังไม่สามารถดึงพลังที่มีทั้งหมดของมันออกมาได้

แต่คงไม่ใช่เรื่องยากในการปราบเสือสองตัวที่อยู่ในจุดจื้อจุนไห่ของเขาตอนนี้

มู่เฉินมองเจดีย์เก้าชั้นลึกลับสีดำตรงหน้าก็พลิกนิ้ว เจดีย์เก้าชั้นพุ่งหวือแล้วพลิ้วลงมา สร้างเงาขนาดใหญ่ทับเขตแดนระหว่างพลังงานหลิงทั้งสองชนิดอย่างหนักหน่วง

ชี่! ชี่!

เมื่อเจดีย์เก้าชั้นกดทับลงมา แสงสีดำก็ระเบิดตามแนวเขตแดน ไม่กี่อึดใจคลื่นหลิงทั้งสองกลุ่มก็ถูกแยกจากกัน

แสงสีดำราวกับแยกคลื่นหลิงที่ขัดแย้งกันทั้งสองกลุ่มออก คลื่นเชี่ยวกรากตรงเขตแดนก็ค่อยๆ สงบลง

ความรุนแรงถูกสยบได้ด้วยเจดีย์เก้าชั้น!

มู่เฉินมองภาพนี้ด้วยแววตาปีติ เขาไม่คิดว่าความสามารถในการปราบปรามของเจดีย์เก้าชั้นจะทรงพลังเพียงนี้ จนถึงจุดที่ว่าสามารถแก้ปัญหาใหญ่ของเขาได้อย่างง่ายดาย

เจดีย์เก้าชั้นตั้งตระหง่านเงียบๆ บนพื้นผิวจุดจื้อจุนไห่กว้างใหญ่ แสงสีดำที่แผ่ออกไปขวางกั้นคลื่นหลิงทั้งสองกลุ่มกลายเป็นเส้นกั้น

ในอนาคตเมื่อมู่เฉินฝึกฝน เขาก็เพียงเทคลื่นหลิงที่ชำระลงไปในเจดีย์เก้าชั้น มันก็จะแบ่งคลื่นหลิงออกเป็นสองกลุ่มได้เองโดยทันที ให้พวกมันคงสมดุลเอาไว้

มู่เฉินรู้สึกโล่งใจอย่างมาก การหลอมรวมสายฟ้าฤทัยปีศาจดำในครั้งนี้สำเร็จได้ดีเหนือความคาดหมาย ทว่าเขาเข้าใจดีนี่เป็นเพราะเจดีย์เก้าชั้นล้วนๆ ถ้าเขาต้องการประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง ก็ไม่รู้จริงๆ ว่าต้องใช้เวลานานเท่าใด

ร่างดวงจิตของมู่เฉินมองจุดจื้อจุนไห่ที่สงบลงด้วยรอยยิ้มพึงใจก่อนจะค่อยๆ จางหายไป ทิ้งไว้เพียงจุดจื้อจุนไห่ยิ่งใหญ่และทรงพลัง

 

ลึกลงไปในทะเลสายฟ้าสีดำเมื่อม

จิ่วโยวนั่งนิ่งไม่ไกลจากมู่เฉิน ดวงตาหงส์เหลือบมองมู่เฉินเป็นระยะด้วยความห่วงและร้อนใจฉายในส่วนลึกของนัยน์ตา

มู่เฉินคงอยู่ในสภาพนี้ตลอดระยะเวลาสิบกว่าวัน แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณว่าจะสิ้นสุด

สายฟ้าฤทัยปีศาจดำที่เคยปกคลุมร่างของมู่เฉินก็หายไปแล้ว จริงๆ ก็ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่เข้าไปในร่างกายของมู่เฉิน

แม้ภายนอกเขาจะดูสงบ แต่จิ่วโยวรู้ว่าจุดจื้อจุนไห่ของเขาจะต้องปั่นป่วนมากแน่ แต่นางก็ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือเรื่องนี้กับมู่เฉินได้ เขาต้องจัดการด้วยตัวเอง

จิ่วโยวกำหมัดแน่นขณะที่กัดริมฝีปากสีแดง เตือนตัวเองว่าอย่าพึ่งร้อนใจ แต่ครั้งนี้นางทำได้เพียงนั่งลงอยู่ครึ่งวันก่อนจะผุดลุกขึ้นยืนอย่างอดรนทนไม่ไหว

ทว่าจังหวะที่นางลุกขึ้น นางก็เห็นว่าดวงตาของมู่เฉินที่ปิดมาตลอดสิบกว่าวันสั่นไหวแล้วเปิดขึ้นทีละน้อย…ละน้อย

ความยินดีปรีดาฉายบนใบหน้าของจิ่วโยว นางรีบพุ่งเข้าไปหาถามอย่างเป็นห่วง “เป็นยังไงบ้าง?”

ตอนนี้ท่าทางของมู่เฉิน ทำให้มองไม่ออกว่าประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว

มู่เฉินเงยหน้าขึ้นคลี่ยิ้มให้จิ่วโยว รอยยิ้มดูสงบและมั่นใจ จากนั้นเขาก็ยืนขึ้นเหยียดมือออกก่อนจะกำขึ้นในทันที

ชี่!

เมื่อมู่เฉินกำหมัด คลื่นหลิงแฝงเพลิงสีม่วงก็ลุกโชนบนมือด้านขวา ส่วนบนมือซ้ายเป็นคลื่นหลิงโปร่งใสแต่ลึกลงไปราวกับมีเสียงสายฟ้าคำรามดังออกมาเงียบๆ

เพลิงอมตะเบื้องขวา ฤทัยปีศาจเบื้องซ้าย!

คลื่นหลิงต่างกันสองชนิดไหลเวียนบนมือของมู่เฉิน ภาพนี้ทำให้แม้แต่คนอย่างจิ่วโยวก็ยังมีแววตาเจิดจ้าอย่างไม่เคยเป็น

เจ้านี่ชักสุดยอดขึ้นจริงๆ

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset