หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 716

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 716 ขุมพลังจื้อจุนขั้นสอง

ในช่วงหลายวันต่อมา

บรรยากาศในอาณาเขตกงเวทสวรรค์ตึงเครียดมากขึ้น เหล่าผู้บัญชาการต่างรวบรวมกองทัพใต้บังคับบัญชาการ ขณะที่ข่าวนับไม่ถ้วนเกี่ยวกับแดนร้อยสงครามก็ถูกส่งไปทั่วเขตต้าหลัวเทียนไม่จบสิ้น ขั้วอำนาจขนาดใหญ่อย่างอาณาเขตกงเวทสวรรค์ ในที่สุดก็ได้เผยความสามารถออกมาแล้ว

หอวิหคโลกันตร์ก็ดูวุ่นวายมาก เนื่องจากเมืองร้อยเมืองของเสี่ยยิงถูกนำเข้ามาผนวกรวมอย่างรวดเร็ว แม้ยังไม่ได้ให้ความมั่งคั่งกับหอวิหคโลกันตร์ได้ในทันที แต่ก็ดีกว่าสภาพดูไม่จืดเหมือนเมื่อก่อน นอกจากนี้สงครามสำนักก็เป็นวิธีที่สามารถเก็บเกี่ยวทรัพยากรได้ดีที่สุด ถ้าพวกเขาคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ หอวิหคโลกันตร์จะต้องก้าวย่างอย่างมั่นคงแน่นอน

ขณะที่ทั้งหอวิหคโลกันตร์กำลังวุ่นวาย มู่เฉินก็เลือกปลีกตัวออกมาเพื่อเข้าสู่ขุมพลังจื้อจุนขั้นสอง เรื่องใหญ่น้อยก็มีผู้ดูแลอย่างถังปิง การจัดสรรอย่างเป็นระบบและการสั่งงานของนาง ทำให้แม้แต่จิ่วโยวก็ยังเทียบไม่ได้

ดังนั้นเขากับจิ่วโยวจึงไม่ต้องกังวลในเรื่องหอวิหคโลกันตร์

หอวิหคโลกันตร์ ห้องฝึกยุทธ์

มู่เฉินนั่งอยู่เงียบๆ ขณะปรับลมปราณ จากนั้นครู่ใหญ่เขาก็กำฝ่ามือ ขวดหยกโปร่งแสงปรากฏขึ้นที่กลางฝ่ามือ ยาเม็ดกลมสีเขียวเข้มลอยอยู่ภายในขวดปล่อยกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วทั้งห้องฝึกยุทธ์

สายตาของมู่เฉินจับจ้องอยู่ที่ยาจื้อเทียนพลางครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะสะบัดแขนเสื้อ สายธารสว่างไสวพุ่งออกมาพันรอบตัวเขา

สายธารเหล่านั้นเกิดจากของเหลวจื้อจุนทั้งหมด คลื่นหลิงยิ่งใหญ่ผันผวนออกมา ทำให้กระทั่งอากาศในห้องฝึกยุทธ์แห่งนี้ยังหนาแน่นขึ้น

ขุมพลังจื้อจุนแบ่งออกเป็นเก้าขั้น การบรรลุแต่ละขั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้คนจำนวนมากฝึกฝนแทบกระอักมาหลายปี แต่ก็ไม่ได้ก้าวหน้าใดๆ เพียงเท่านี้ก็เห็นแล้วว่าช่องว่างพลังแต่ละขั้นห่างกันมากขนาดไหน

ดังนั้นต่อให้มู่เฉินมียาจื้อเทียน เขาก็ต้องการของเหลวจื้อจุนปริมาณมหาศาลเพื่อดึงฤทธิ์ยาออกมาจนถึงขีดสุดที่จะช่วยให้บรรลุขุมพลังได้

“ของเหลวจื้อจุนอีกเกือบสองพันหยด…”

มู่เฉินรู้สึกปวดใจเมื่อมองสายธาร ก่อนหน้าเขามอบของเหลวจื้อจุนส่วนใหญ่ให้ถังปิงเพื่อสนับสนุนการฝึกยุทธ์ของหน่วยรบวิหคโลกันตร์ ดังนั้นตอนนี้เขาจึงเหลือน้อยกว่าห้าพันหยด นอกจากนี้ปริมาณนี้ยังเป็นปริมาณที่เหลืออยู่หลังจากที่เขาดึงของเหลวจื้อจุนทั้งหมดออกจากถ้วยสมานอุระแล้วด้วย

หลังจากเข้าสู่ขุมพลังจื้อจุน มู่เฉินถึงได้ตระหนักว่าของเหลวจื้อจุนสำคัญต่อการฝึกยุทธ์มากเพียงใด นี่แทบจะเหมือนการรับประทานอาหารของมนุษย์ ซึ่งขาดไม่ได้เลย มิน่าล่ะถึงมีจอมยุทธ์จื้อจุนจำนวนมากยอมรับใช้ขั้วอำนาจเพื่อของเหลวจื้อจุน

แม้ของเหลวจื้อจุนจะไม่สามารถจ้างผีให้ฝนหมึกได้ แต่ก็ทำให้จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนฝนหมึกได้….

“นี่แค่บรรลุขุมพลังขั้นเดียวนะ ในอนาคตใครจะรู้ว่าต้องใช้ของเหลวจื้อจุนปริมาณมหาศาลขนาดไหน” มู่เฉินเอ่ยอย่างช่วยไม่ได้ ดูเหมือนต่อไปนี้เขาจะต้องสะสมของเหลวจื้อจุนให้มากๆ แล้ว ไม่อย่างนั้นเมื่อเขาต้องบรรลุขุมพลังและขาดของเหลวจื้อจุน ก็คงเป็นเรื่องที่ทำให้ต้องร้องไห้แบบไร้น้ำตา

เขาส่ายหน้าระงับความคิดเหล่านี้ชั่วคราวพลางสูดหายใจลึก จากนั้นก็พลิกนิ้ว ขวดหยกโปร่งใสในมือสลายหายไป ยาจื้อเทียนลอยออกมา พริบตาห้องฝึกยุทธ์ก็ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของสมุนไพรวิเศษ

มู่เฉินสูดปากขณะที่ยาจื้อเทียนเปลี่ยนเป็นลำแสงลอยเข้าไป

เขาวาดตราประทับสองมืออย่างรวดเร็ว มิติบิดตัวเบื้องหลัง จุดจื้อจุนไห่มหึมามองเห็นได้เลือนราง เขาก็รู้สึกถึงคลื่นหลิงบริสุทธิ์มหาศาลแผ่ออกจากภายใน

จิตของมู่เฉินเข้าสู่สมาธิลึกอย่างแน่วแน่ขณะที่ค่อยๆ หลับตาลงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะเข้าสู่สภาวะฝึกยุทธ์อย่างรวดเร็ว ครั้งนี้เขาต้องบรรลุขุมพลังให้ได้แบบรวดเดียวจบ!

 

สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

การฝึกฝนของมู่เฉินยาวนานถึงสามวัน วันแรกห้องฝึกยุทธ์ปกคลุมไปด้วยหมอกหลิงหนาแน่น ส่วนร่างของมู่เฉินก็จมลงไปอยู่ภายใน

แต่ท่ามกลางหมอกหลิงที่ไม่สามารถมองทะลุผ่านได้ ก็สามารถรับรู้ถึงความผันผวนคลื่นหลิงที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

หมอกหลิงปกคลุมอยู่นานสามวันก่อนที่จะอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ และเมื่อหมอกหายไป ก็เห็นฉากที่มู่เฉินนั่งเปิดปากดูดกลืนของเหลวจื้อจุนส่วนสุดท้ายเข้าไป

คลื่นหลิงน่าตกใจรอบตัวเขาก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่เขาลืมตาขึ้นช้าๆ

ตู้ม!

เมื่อม่านตาสีดำเปิดขึ้น แสงสว่างก็วาบขึ้นทันที เสื้อผ้าของมู่เฉินสั่นกระพือ ระเบิดออกด้วยคลื่นหลิงน่าสะพรึงกลัว

ปัง! ปัง!

อากาศในห้องฝึกยุทธ์ระเบิดออกทันที เมื่อระลอกคลื่นพลังกวาดไปที่ผนัง แสงเข้มข้นก็ลุกโชนออกมาก่อนที่ห้องฝึกยุทธ์จะต้านทานระลอกคลื่นได้

แสงในนัยน์ตาของมู่เฉินคงอยู่หลายนาทีก่อนจะจางลง คลื่นหลิงน่าทึ่งหดกลับเข้าไปในร่าง

ทว่าผิวกายของเขากลับเปล่งประกายเงางามไม่มีสิ้นสุดและคงอยู่เป็นเวลานาน มู่เฉินรู้ว่าเป็นเพราะคลื่นหลิงในร่างกายมากล้นเกินไป ทำให้ไม่สามารถดึงกลับเข้าไปในร่างได้ทั้งหมด

มู่เฉินลุกขึ้นยืนและรู้สึกถึงคลื่นหลิงเพิ่มขึ้นอย่างมากมายในจุดจื้อจุนไห่ รอยยิ้มพึงใจยกขึ้นที่มุมปาก ช่องว่างระหว่างขุมพลังจื้อจุนแต่ละขั้นห่างกันมากอย่างแท้จริง ตอนนี้คลื่นหลิงในจุดจื้อจุนไห่ของเขาทรงพลังมากกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า

ตอนนี้ต่อให้เขาต้องเผชิญหน้ากับสี่แม่ทัพสุดยอดอย่างสูชิงและโจวเยี่ย คนอย่างเขาก็ไม่กลัว ครั้งนี้เขามีความมั่นใจเพิ่มขึ้นในสงครามสำนักที่จะมาถึงไม่ช้าแล้ว

มู่เฉินรอกระทั่งคลื่นหลิงที่เพิ่มขึ้นในร่างค่อยๆ สงบลง ถึงได้ออกจากห้องฝึกยุทธ์ไป ที่หน้าห้องมีหน่วยรบวิหคโลกันตร์ยืนเฝ้าระวัง เมื่อพวกเขาเห็นมู่เฉินออกมาก็รีบโค้งคำนับให้

มู่เฉินโบกมือ “เตรียมการกันไปถึงไหนแล้ว?”

“เตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วขอรับ เราสามารถเดินทัพได้ทุกเมื่อ” จอมยุทธ์คนหนึ่งตอบด้วยความเคารพ

มู่เฉินพยักหน้า ตราบใดที่มีถังปิงเป็นผู้ดูแล ทุกเรื่องในหอวิหคโลกันตร์ก็จะได้รับการจัดการอย่างดี เขาโบกมือให้นักรบวิหคโลกันตร์ออกไป อึดใจเขาก็เงยหน้าขึ้นเห็นร่างเล็กอยู่บนท้องฟ้าซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเขาปรากฏตัวขึ้นอย่างลึกลับ ดวงตาสีทองคำกระจายแรงกดดันชวนใจสั่นในยามค่ำคืน

มั่นถัวหลัวแตะเท้าบนท้องฟ้า จากนั้นก็มาปรากฏตรงหน้ามู่เฉิน นางกวาดม่านตาสีทองคำพลางเอ่ยว่า “ท่าทางเจ้าจะบรรลุขุมพลังสำเร็จสินะ ศักยภาพสูงจริงๆ”

“ด้วยยาจื้อเทียนและของเหลวจื้อจุนจำนวนมาก ถ้าล้มเหลวก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว” มู่เฉินยิ้ม

“งั้นตามข้ามาเถอะ”

มั่นถัวหลัวพยักหน้าไม่พูดอะไรอีก นางโบกมือทะยานออกไป เมื่อเห็นมู่เฉินก็ลังเลครู่หนึ่งก่อนจะติดตามนางไปในทันที

ทั้งสองออกจากหอวิหคโลกันตร์ ภายใต้การนำทางของมั่นถัวหลัว ก็พุ่งไปยังจุดลึกของเขตต้าหลัวเทียน ยิ่งกว่านั้นนางยังไม่ปกปิดตัวเองตลอดทางทะยานออกไปราวกับสายฟ้าแลบ เรื่องนี้ทำให้มู่เฉินรู้สึกตื่นตระหนกเนื่องจากเขตต้าหลัวเทียนมีการรักษาการณ์แน่นหนา หน่วยองครักษ์ลาดตระเวนไม่ได้มาจากหน่วยรบอื่นๆ แต่พวกเขาคือทัพหลวงทรงพลังที่อยู่ภายใต้การบัญชาการของท่านประมุขโดยตรง

ทว่าสถานการณ์ที่มู่เฉินกังวลก็ไม่ได้เกิดขึ้น แม้จะมีองครักษ์ตรวจตราพื้นที่อยู่เป็นประจำ แต่ภายใต้การนำของมั่นถัวหลัวเหมือนเขาจะเข้าไปในพื้นที่โล่งว่างโดยไม่มีใครจับเขาได้

มู่เฉินได้เห็นวิธีการน่ากลัวของมั่นถัวหลัวอีกครั้ง แม้แต่ในทวีปเทียนหลัว พลังของนางก็คงไม่ใช่จอมยุทธ์ไร้ชื่ออย่างแน่นอน

ทั้งสองเข้าสู่จุดลึกของเขตต้าหลัวเทียนโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ ขัดขวาง ก่อนที่จะมาหยุดที่เบื้องหน้ายอดเขาสีดำขนาดใหญ่ มั่นถัวหลัวโบกมือเบาๆ ค่ายกลยักษ์สีดำก็ปรากฏขึ้นบนยอดเขา

ครืน

ยอดเขาสั่นสะเทือนขณะที่รอยแตกปริออกช้าๆ มั่นถัวหลัวทะยานนำเข้าไปก่อนโดยมีมู่เฉินตามไปติดๆ

เมื่อเข้าไปในภูเขาผ่านรอยแยกแล้ว ภาพเบื้องหน้าครรลองสายตาก็ทำให้มู่เฉินอึ้งไป ภายในภูเขาเป็นโพรงกว้าง อักขระโบราณสีดำสลักบนผนังถ้ำเปล่งแสงลึกลับออกมาบางจาง

มู่เฉินจ้องมองอักขระโบราณเหล่านั้นขณะแววตกตะลึงวาบขึ้นในดวงตา เพราะเขาพบว่าอักขระเหล่านั้นเหมือนจะก่อตัวเป็นค่ายกลทรงพลัง

ความซับซ้อนของค่ายกลอยู่เหนือจินตนาการของเขาไปไกล ค่ายกลนี้เห็นชัดว่าไม่ใช่ค่ายกลระดับต่ำธรรมดาแน่นอน

“เจ้าสร้างขึ้นมาหรือ?” มู่เฉินเอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อ นอกจากนี้เขายังนึกไม่ออกว่ามั่นถัวหลัวหลบเลี่ยงจอมยุทธ์มากมายในอาณาเขตกงเวทสวรรค์ แล้วมาก่อความวุ่นวายใหญ่โตในบริเวณนี้ได้อย่างไร ประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ไม่ทันสังเกตเรื่องนี้เลยเหรอ? หรือได้ทำข้อตกลงกับมั่นถัวหลัวไว้?

มั่นถัวหลัวยังคงเงียบโดยไม่ตอบอะไร เท้าขาวราวหิมะของนางหย่อนลงไปที่พื้น พริบตาก็ปรากฏตัวบริเวณกึ่งกลาง ตรงนั้นเป็นบ่อน้ำสีดำสนิท แม้ว่าน้ำในบ่อดูเหมือนจะเดือดปุดพุ่งไปมา แต่มู่เฉินกลับรู้สึกหนาวเยือกไปถึงกระดูก ความแตกต่างดังกล่าวทำให้เขารู้สึกอึดอัดไม่น้อย

มู่เฉินพลิ้วกายลงตรงขอบบ่อถามด้วยความสงสัย “ต้องการให้ข้าทำอะไรไหม?”

“รอข้าบอกแล้วเรียกหน้ารายการนิรันดร์ออกมาก็พอ” มั่นถัวหลัวเอ่ยเบาๆ แต่เสียงอ่อนเยาว์ของนางกลับมีพลังอำนาจที่ยับยั้งการตั้งคำถามไว้ได้

มู่เฉินทำได้เพียงผงกศีรษะพลางเบ้ปาก แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไรออกไป ดวงตาเขาก็ต้องเบิกกว้าง เพราะเด็กสาวตรงหน้าได้ถอดชุดออกโดยไม่สนใจเขาเลย จากนั้นร่างเล็กขาวผุดผ่องของนางก็เผยตัวท่ามกลางอากาศเย็น

“ถ้าไม่อยากมีดวงตาแล้วก็มองต่อเลย”

เสียงเล็กกำจายไอเย็นเยือกดังก้องทำให้มู่เฉินสั่นสะท้านไปหมด ทว่าเขาก็ยังอดพูดอย่างขุ่นเคืองไม่ได้ “ใครให้เจ้าไม่บอกอะไรล่วงหน้าเลยล่ะ อีกอย่างข้าไม่สนเด็กหรอก”

ปัง!

เมื่อสิ้นเสียงมู่เฉิน พลังมหาศาลก็ยิงเข้ามาซัดเขาจนกระเด็น เมื่อเขาทรงตัวได้อย่างทุลักทุเลและกำลังจะอาละวาด ก็เห็นร่างเล็กก้าวลงไปในบ่อประหนึ่งมัจฉาได้น้ำ ภาพนี้ช่างสะดุดตาในภูเขาเย็นเยือกแห่งนี้

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset