หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 736

นักรบกระบี่สามพันคน

ในโถงใหญ่สำนักสายฟ้าปีศาจ

“ตอนนี้สำนักเรายึดครองแดนร้อยสงครามได้เกือบครึ่งหนึ่งแล้ว”

ภายในโถงหน้าจอแสงเปิดออกโดยมีนิ้วเรียวของจิ่วโยวชี้ไปยังแผนที่ของแดนร้อยสงคราม เกือบครึ่งหนึ่งของเมืองที่เคยเป็นของแดนร้อยสงครามถูกอาณาเขตกงเวทสวรรค์ยึดครองไว้ สามารถจินตนาการได้ว่าสงครามที่เกิดขึ้นในเดือนที่ผ่านมาดุเดือดเพียงใด

มู่เฉินมองแผนที่ก็รู้สึกเหมือนจะได้ถึงกลิ่นคาวเลือดจางๆ ที่แผ่ออกมา การยึดเมืองต่างต้องผ่านเหตุการณ์นองเลือด สงครามช่างโหดร้ายทารุณนัก

ที่นี่ไม่ใช่สำนักศึกษาเป่ยชางอีกต่อไป

“แต่สงครามครั้งนี้เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น” จิ่วโยวเอ่ยเสียงราบเรียบ

มู่เฉิน ถังปิงและจอมยุทธ์คนอื่นๆ ของหอวิหคโลกันตร์ก็พยักหน้าแข็งขัน พวกเขารู้ว่าเดือนที่ผ่านมา ขั้วอำนาจชั้นยอดทั้งสามของแดนร้อยสงครามยังไม่ลงมือใดๆ ไม่อย่างนั้นอาณาเขตกงเวทสวรรค์คงไม่สามารถยึดครองดินแดนได้รวดเร็วขนาดนี้

“ตอนนี้หุบเขาหมื่นศาสตรา สำนักศพปีศาจและพิลาลสสวรรค์มีการเคลื่อนไหวอะไรไหม?” มู่เฉินถาม ในเมื่อถูกล้อมกรอบขนาดนี้ ขั้วอำนาจทั้งสามคงไม่สามารถทนอยู่ได้ต่อไป ไม่อย่างนั้นขั้วอำนาจอื่นในแดนร้อยสงครามก็จะไม่พอใจพวกเขาแล้ว

“จากข้อมูลล่าสุดที่เรามี กองทัพหุบเขาหมื่นศาสตรา สำนักศพปีศาจและพิลาลสสวรรค์มารวมตัวกันที่นี่แล้ว” จิ่วโยวหรี่ตาลงขณะนิ้วเรียวชี้ไปที่ตรงจุดหนึ่งบนแผนที่ ที่นั่นเป็นเขตที่มีการป้องกันสูงที่สุดของแดนร้อยสงคราม

“เมืองไป่จั้น”

มู่เฉินมองชื่อเมืองบนแผนที่ ว่ากันว่านี่คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญมากที่สุดของแดนร้อยสงคราม เวลาปกติจะอยู่ภายใต้การปกครองของขั้วอำนาจทั้งสาม แต่ตอนนี้กลายเป็นป้อมปราการที่สำคัญที่สุดของแดนร้อยสงครามไปแล้ว

เผชิญกับเมืองสำคัญเช่นนี้ แม้แต่กองทัพของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ยังยากที่จะจัดการ

“นักรบของหุบเขาหมื่นศาสตรา สำนักศพปีศาจและพิลาลสสวรรค์ พร้อมด้วยกองทัพอื่นๆ ของแดนร้อยสงครามได้มารวมตัวกันที่นี่หมดแล้ว นับว่าเป็นกองทัพขนาดใหญ่เลยทีเดียว” สีหน้าของจิ่วโยวหนักหน่วงลงมากกว่าเดิม

“นอกจากนี้แดนร้อยสงครามยังประกาศศึกตัดสินกับอาณาเขตกงเวทสวรรค์ ตอนนี้สายตาทั้งภูมิภาคทางเหนือคงมองมาหมดแล้ว หากอาณาเขตกงเวทสวรรค์ของเราถอยไปก้าวหนึ่งและแสดงความอ่อนแอออกมาแม้เพียงนิดเดียวละก็ คงจะทำลายชื่อเสียงของเราป่นปี้แน่”

ประกาศศึกตัดสิน?” สีหน้าของมู่เฉินเปลี่ยนไป แดนร้อยสงครามกล้าประกาศศึกแบบนี้เลยเหรอ?

“ดูเหมือนการได้แรงหนุนลับจากตำหนักสุดนภาจะทำให้แดนร้อยสงครามเหิมเกริมขึ้นสินะ” จิ่วโยวแค่นเสียง

มู่เฉินก็พยักหน้าเมื่อได้ยินคำพูดของนาง ตอนเริ่มสงครามสำนัก ประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ของพวกเขาก็เคยกล่าวถึงหลิ่วเทียนเต้าแห่งตำหนักสุดนภาที่กำลังจ้องมองพวกเขาเหมือนเหยื่อ ดังนั้นประมุขจึงไม่สามารถออกโรงง่ายดายนัก นั่นยังหมายความว่าพวกเขาขาดประมุขที่เป็นจอมยุทธ์ทรงพลังที่สามารถชี้ชะตาได้ในการเคลื่อนไหวครั้งเดียว มากเสียจนไม่มีข้อได้เปรียบขั้นสุดทางไหนให้อาณาเขตกงเวทสวรรค์ของพวกเขาอีกแล้ว

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแดนร้อยสงครามถึงกล้าประกาศสงคราม เพราะหากพวกเขาชนะจะได้เหยียบย่ำอาณาเขตกงเวทสวรรค์และขยายชื่อเสียงเกียรติยศไปไกล

ดังนั้นการต่อสู้นี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับอาณาเขตกงเวทสวรรค์เหมือนกัน

“จอมพลทั้งสามมีคำสั่งว่ายังไง?” มู่เฉินเอ่ยถาม เหล่าจอมพลเป็นคนควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด และตอนนี้แดนร้อยสงครามก็เหิมเกริมจนถึงจุดที่ประกาศท้ารบ ดังนั้นพวกเขาน่าจะมีความเคลื่อนไหวบ้างแล้ว

“เหล่าจอมพลสั่งให้จอมยุทธ์ทั้งหมดของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ไปรวมตัวกันที่รอบนอกเมืองไป่จั้น ตอนนี้ในรัศมีพันลี้แทบจะเต็มไปด้วยไฟสงครามแล้ว” จิ่วโยวเอ่ย

มู่เฉินพยักหน้า ด้วยฐานะของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ทำให้ต้องรับคำท้ารบชี้ชะตา ดังนั้นการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึงคงจะรุนแรงและโหดร้ายเกินความคาดหมาย

นี่คือการเผชิญหน้าอย่างแท้จริงระหว่างกองทัพใหญ่ทั้งสอง การต่อสู้ก่อนหน้าถือเป็นการต่อสู้จิ๋วๆ เท่านั้น

“งั้นพวกเรา?” มู่เฉินมองจิ่วโยว ในเมื่อตอนนี้อาณาเขตกงเวทสวรรค์เรียกระดมพลแล้ว ก็เป็นธรรมดาที่หอวิหคโลกันตร์ของพวกเขาหลีกเลี่ยงไม่ได้

“เคลื่อนพล ตรงไปที่เมืองไป่จั้น!”

จิ่วโยวยืดตัวตรง ไม่มีความลังเลใดๆ แม้แต่น้อย นางโบกมือพร้อมกับเสียงเย็นกังวานไปทั่วโถงประชุม ในฐานะสมาชิกของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ พวกเขาไม่มีทางหลีกเลี่ยงการต่อสู้สำคัญเช่นนี้ไปได้

“รับทราบ!”

เหล่านักรบวิหคโลกันตร์เปล่งเสียงพร้อมกับประสานกำปั้น

มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองออกจากโถงใหญ่ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือที่ไกลออกไป ท้องฟ้าบริเวณนั้นราวกับเต็มไปด้วยรัศมีจั้นยี่จนดูมืดหม่นและกดดันไปหมด

ทว่าเลือดในกายกลับเดือดพล่านทีละน้อย เขาต้องการศึกเช่นนี้ เพราะนั่นเป็นหินเจียระไนที่ขาดไม่ได้บนเส้นทางการเป็นยอดยุทธ์ของเขา

สักวันชื่อของเขาจะต้องขจรขจายไปยังทุกมุมของทวีปเทียนหลัว เมื่อถึงตอนนั้นเขาก็จะมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคนรัก

ลั่วหลี รอข้าก่อนนะ

 

เมืองไป่จั้น

ที่นี่เป็นเมืองยิ่งใหญ่ที่สามารถสร้างความตกตะลึงให้ผู้คนได้ เมืองนี้ได้รับการกล่าวขานว่าสืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคโบราณ ประสบกับการต่อสู้ที่น่าทึ่งมานับไม่ถ้วนและยังคงยืนยงอยู่บนผืนแผ่นดินนี้

วันนี้เมืองโบราณแห่งนี้ก็ถูกปกคลุมด้วยไฟสงครามอีกครั้ง

ค่ายกลแสงขนาดใหญ่ส่องลงมาจากท้องฟ้า ราวกับชามขนาดใหญ่ที่คว่ำปิดล้อมเมืองทั้งเมืองไว้ ตอนนี้ภายในเมืองมีร่างนับไม่ถ้วนบินฉวัดเฉวียนพุ่งผ่านขอบฟ้าจากทุกทิศทาง ขณะคลื่นหลิงทรงพลังผันผวนขึ้นไปเบื้องบน

ที่ขอบฟ้าด้านนอกเมือง ร่างจำนวนมากกำลังยืนอยู่บนอากาศ คลื่นหลิงทรงพลังนับไม่ถ้วนผันแปรออกมา ก่อให้เกิดสัญญาณการบิดเบือนบนท้องฟ้าบริเวณนั้น

สนามรบกระจายออกไปจนสุดลูกหูลูกตาโดยมีเมืองไป่จั้นเป็นศูนย์กลาง

ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองไป่จั้น

แม้สถานที่แห่งนี้จะอยู่ห่างไกลจากเมืองไป่จั้น แต่ไฟสงครามก็ไม่มอดดับ กองทัพของทั้งสองฝ่ายรบกันแบบนองเลือด รังสีสังหารแผ่ซ่านในบริเวณนี้

ตอนนี้การต่อสู้ดุเดือดมากอย่างเห็นได้ชัดบนที่ราบแห่งนี้ กองทัพทั้งสองที่สู้กันอยู่ก็ไม่ใช่กองทัพธรรมดา พวกเขาเป็นกองทัพที่มีรัศมีจั้นยี่!

ทางด้านซ้ายมือ นักรบต่างอยู่ในชุดเกราะสีเหลืองถือง้าวทองหนักอึ้งพร้อมกับรัศมีจั้นยี่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ดูราวกับพายุเฮอริเคนกวาดอาละวาดไปทั่วผืนดินนี้

บนเกราะสีเหลืองทองมีอักขระอยู่ พวกเขาก็คือหน่วยรบฉาบทองที่อยู่ใต้บัญชาการของผู้บัญชาการหลิวจิง!

แม้ชื่อเสียงของหน่วยรบฉาบทองนี้จะเทียบไม่ได้กับหน่วยรบทรงพลังอย่างหน่วยรบอสุรา หน่วยรบแยกคีรีและหน่วยรบเหยี่ยวโลหิต แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอและความสำเร็จของพวกเขาก็นับได้ว่ายิ่งใหญ่เกรียงไกร

แต่ครั้งนี้สถานการณ์หน่วยรบฉาบทองไม่สู้ดีนัก

เพราะศัตรูของพวกเขาเป็นกองทัพในชุดเขียวอมฟ้าถือกระบี่ยาววาดมุมเอียง รังสีกระบี่ที่น่าสะพรึงกวาดหายนะไปทั่วทั้งดินแดน ทำให้แม้แต่ท้องฟ้ายังเต็มไปด้วยบาดแผล

นักรบกระบี่สามพันคนแห่งหุบเขาหมื่นศาสตรา!

เอกลักษณ์เฉพาะตัวได้บ่งบอกถึงตัวตน พวกเขาก็คือนักรบกระบี่สามพันคนแห่งหุบเขาหมื่นศาสตรา นี่คือกองทัพแข็งแกร่งที่สุดของหุบเขาหมื่นศาสตรา ความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาในแดนร้อยสงครามนับว่าเป็นที่หนึ่งที่สองเลยทีเดียว

ดูจากชื่อเสียงอย่างเดียว นักรบกระบี่สามพันคนแห่งหุบเขาหมื่นศาสตราก็แข็งแกร่งกว่าหน่วยรบฉาบทองแล้ว

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

รังสีกระบี่กวาดออกทุกทิศทางขณะที่ตัดกำลังรัศมีจั้นยี่ของหน่วยรบฉาบทองที่ดูราวกระแสทองคำเชี่ยวกรากอย่างต่อเนื่อง เผชิญการโจมตีจากนักรบกระบี่สามพันคน หน่วยรบฉาบทองก็ทำได้แค่ป้องกันตัวเองเท่านั้น

มีกองทัพอื่นรบรากันอยู่ในพื้นที่ราบเหล่าแห่งนี้เช่นกัน แต่เพราะนักรบกระบี่สามพันคนสยบหน่วยรบฉาบทองได้ จึงทำให้กำลังใจของแดนร้อยสงครามฮึกเหิมขึ้น ขณะที่อาณาเขตกงเวทสวรรค์ถอยร่นกลับไปไม่เป็นท่า

“ฮ่าๆ แม่ทัพเฉียนหลง หน่วยรบฉาบทองของเจ้าท่าจะไม่ไหวแล้ว ทำไม่ไม่ยอมแพ้เพื่อไม่ให้เกิดการนองเลือดซะล่ะ?” เสียงหัวเราะดังก้องฟ้าอัดแน่นด้วยรัศมีกระบี่ บนท้องฟ้าเหนือนักรบกระบี่สามพันคน ร่างคนคนหนึ่งในชุดสีเขียวอมฟ้ายืนอยู่ กระบี่ยาวสีม่วงอมน้ำเงินพาดอยู่บนหลัง เขาจ้องมองหน่วยรบฉาบทองที่กำลังหลังชนฝาด้วยรอยยิ้ม

เขาคือแม่ทัพนักรบกระบี่สามพันคน—หลินชิงเฟิง ชื่อเสียงของเขาในแดนร้อยสงครามอยู่ในระดับเดียวกับสูชิงและโจวเยี่ยเลยทีเดียว

บนท้องฟ้าตรงบริเวณของหน่วยรบฉาบทอง ชายร่างกำยำมีสีหน้าน่าเกลียดขณะมองหลินชิงเฟิงพร้อมกับขบฟัน เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะโชคร้ายขนาดนี้ แค่เก็บกวาดเศษซากก็ดันมาปะหน้ากับนักรบกระบี่สามพันคนที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ เขารู้ดีว่านักรบกระบี่เหล่านี้ทรงพลังเพียงใด แม้แต่ในอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็คงมีเพียงหน่วยรบอสุรากับหน่วยรบแยกคีรีที่นำโดยสูชิงกับโจวเยี่ยเท่านั้นที่สามารถต่อกรได้

ครั้งนี้ถ้าไม่ใช่เพราะว่าอีกฝ่ายไม่ได้นำกองทัพนักรบกระบี่สามพันนายมาทั้งหมด หน่วยรบฉาบทองคงแตกพ่ายไปนานแล้ว แต่ถึงกระนั้นเขาก็แทบต้านทานไม่ได้

“หลินชิงเฟิง อย่าลำพองตัวเองไปนัก จอมยุทธ์ในอาณาเขตกงเวทสวรรค์จะมาถึงในไม่ช้า แล้วข้าจะคอยดูสิว่าพวกแกจะจัดการยังไง” เฉียนหลงตะโกนพลางขบฟัน

“ฮ่าๆ ในเมื่ออุตส่าห์เตือนขนาดนี้ งั้นข้าจัดการพวกแกก่อนแล้วกัน” หลินชิงเฟิงในชุดสีเขียวอมฟ้ายิ้มอ่อน จากนั้นสองนิ้วก็งุ้มลงชี้ไปที่ท้องฟ้า รัศมีจั้นยี่ของกระบี่กวาดออกมาทุกทิศทาง ก่อร่างเป็นกระบี่ขนาดใหญ่พันจั้ง รัศมีกระบี่สร้างจากคลื่นหลิง ทำให้แม้แต่มิติยังฉีกขาดออกแยกจากกัน

พอเห็นดังนี้ สีหน้าของเฉียนหลงก็เปลี่ยนไปขณะที่สัญญาณอันตรายลุกโชนขึ้นในหัวใจ เขารีบตะโกนออกไป “โล่เทพทองคำ!”

ตู้ม!

รัศมีจั้นยี่สีทองพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อร่างเป็นโล่ทองคำขนาดใหญ่ที่เบื้องหน้าหน่วยรบฉาบทองอย่างรวดเร็ว โล่นี้เหมือนจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าภูผา ความหนาแน่นนั้นทำให้คนมองถึงกับต้องเดาะลิ้นเลยทีเดียว

วาบ!

ทว่ากระบี่ยาวไม่ได้ชะงักเลย เมื่อฟันลงมาภายใต้สีหน้าสงบนิ่งของหลินฉิงเฟิง ก็เฉือนโล่ทองคำพร้อมกับรัศมีกระบี่น่ากลัวระเบิดออกมา

เปรี๊ยะ!

รัศมีกระบี่กวาดอาละวาด สีหน้าของเฉียนหลงกลับเปลี่ยนไปรุนแรง เพราะเขาเห็นรอยร้าวขยายขนาดบนโล่ทองคำอย่างรวดเร็ว จนสุดท้ายก็ถูกผ่าออกเป็นสองซีกภายใต้สายตาตกตะลึงของเขา

“ตายแล้ว!”

ใบหน้าของเฉียนหลงซีดไป ครั้งนี้หน่วยรบฉาบทองได้รับความเสียหายใหญ่หลวงแน่แล้ว

หลินฉิงเฟิงยังคงมีสีหน้าสงบนิ่งเมื่อเห็นภาพนี้ ทว่าขณะที่เขากำลังจะควบคุมกระบี่ใหญ่ให้ฟันลงมากวาดล้างหน่วยรบฉาบทอง สายตาเขาก็ต้องหดเกร็งกะทันหัน เนื่องจากมีเสียงฟ้าคำรามป่าเถื่อนสะท้อนก้องทั่วขอบฟ้าที่ไกลออกไป

ตู้ม!

สายฟ้าสีดำราวกับมังกรเกรี้ยวกราดระเบิดจากเส้นขอบฟ้าพุ่งตรงมาที่หลินชิงเฟิง

หลินชิงเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย กระบี่ยักษ์ที่กำลังฟันลงมาเปลี่ยนทิศเข้าปะทะกับมังกรสายฟ้าสีดำ

ตึง!

พายุคลื่นหลิงป่าเถื่อนกวนตัวออกมา ทำให้จอมยุทธ์มากมายในบริเวณนึ้ต้องเงยหน้ามองท้องฟ้าไกลออกไปด้วยความตกตะลึง

“ไอ้หน้าไหนกล้ามาขัดข้า?” เสียงของหลินชิงเฟิงดังก้อง ขณะที่รัศมีกระบี่คมกริบระเบิดออกมา ผ่าชั้นเมฆแยกจากกัน สายตาคมกล้าของเขาพุ่งตรงไปยังท้องฟ้าที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำ

ตรงนั้นมีเสียงฟ้าคำรามอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่เสียงฟ้าคำรามดังสะท้อน เสียงหัวเราะหนึ่งก็ก้องกังวานมาแต่ไกล สุดท้ายก็มาปรากฏบนท้องฟ้าบริเวณนี้พร้อมเสียงฟ้าคำราม

“อาณาเขตกงเวทสวรรค์ หน่วยรบวิหคโลกันตร์!”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset