หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 739

การเดิมพัน

ผู้คนในบริเวณนี้อึ้งทึ่งไปเมื่อมองร่างแสงบนบัลลังก์

ไม่มีใครคิดเลยว่ากระบวนท่าที่น่าตกใจของหลิ่วเทียนเต้าจะถูกกลืนลงไปในคำเดียว

มู่เฉินก็พูดไม่ออกเกี่ยวกับความแตกต่างของขุมพลังระหว่างตี้จื้อจุนกับจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนทั่วไป นี่มากเสียจนทำให้ตกใจไปเลยทีเดียว หากไม่ใช่เพราะประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ออกโรงเองแล้วละก็ การโจมตีของหลิ่วเทียนเต้าคงจะก่อให้เกิดหายนะใหญ่กับกองทัพอาณาเขตกงเวทสวรรค์เป็นแน่ การมีพลังถึงระดับนี้เป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่จะต่อกรด้วยจำนวน เว้นแต่ว่าจะเป็นจั้นเจิ้นซือที่มีกองทัพทรงพลัง…

ดวงตาล้ำลึกของหลิ่วเทียนเต้าหดลงเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนี้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นหนักใจแวบหนึ่งแบบแทบไม่ทันสังเกต แม้นี่จะไม่ใช่การโจมตีเต็มกำลัง แต่วัตถุสงค์ของเขาก็ได้รับการเติมเต็มแล้ว

การรับพลังโจมตีอย่างง่ายดายโดยที่คลื่นหลิงไม่ปั่นป่วนแม้แต่น้อย ชัดว่าประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ไม่ได้อยู่ในสภาพอ่อนแออย่างที่เขาคิดไว้

“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้…” แววตาของหลิ่วเทียนเต้าเย็นเยือกลง ข้อมูลที่เขาได้รับมาไม่ผิดพลาดแน่ ช่วงเวลานี้น่าจะเป็นช่วงที่อาการบาดเจ็บประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์กำเริบและน่าจะอยู่ในสภาพอ่อนแอที่สุด แต่ดูจากที่เห็นตอนนี้แล้ว พลังก็ยังคงแข็งแกร่งเหมือนเดิม

“ดูเหมือนประมุขหลิ่วจะอยากสู้กับข้างั้นหรือ?” ขณะที่สายตาของหลิ่วเทียนเต้าเปลี่ยนแปร คนบนบัลลังก์ก็เอ่ยเสียงพร่า คลื่นเสียงสั่นกระเพื่อมทำให้แม้แต่มิติยังบิดเบี้ยว

“ฮ่าๆ ข้าแค่อยากรู้ว่าประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ จะมีพัฒนาการเท่าไรหลังจากผ่านมาหลายปีแล้วเท่านั้น”

หลิ่วเทียนเต้าโบกมือยิ้มบาง อึดใจก็มองไปยังสนามรบกว้างใหญ่ไพศาล “แต่ดูจากสถานะของประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ นี่ดูเป็นการรังแกกันเกินไปที่จะเข้าร่วมในการต่อสู้ระดับนี้ ตำหนักสุดนภาของข้ามีความสัมพันธ์กับแดนร้อยสงคราม ดังนั้นถ้าประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ต้องการจะรังแกด้วยขุมกำลังที่มี ตำหนักสุดนภาของข้าคงไม่ยืนมองอยู่ข้างๆ แน่นอน”

“งั้นวันนี้ข้าจะดูว่าตำหนักสุดนภาของเจ้ามีความสามารถขนาดไหน” ประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์บนบัลลังก์แค่นเสียง ในน้ำเสียงไม่ปรากฏความกลัวใดๆ ต่อเรื่องที่ตำหนักสุดนภาจะเข้ามายุ่ง

หลิ่วเทียนเต้ายิ้มพลางมองประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ “ทำไมพูดเช่นนั้นเล่าท่านประมุข? เจ้ากับข้าต่างรู้สถานการณ์กันดี หากเจ้าลงมือ ข้าก็ต้องขัดขวางจนเจ้าเข้ามายุ่งเรื่องนี้ไม่ได้ ยิ่งกว่านั้น….หากพวกเจ้าต้องการจะสู้ตายกับแดนร้อยสงคราม ที่จริงข้าเต็มใจที่จะให้เรื่องนี้เกิดขึ้นนะ”

รัศมีรอบตัวประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์วูบไหว จากนั้นเขาก็ยิ้มบาง “งั้นก็หยุดพล่ามได้แล้ว บอกสิ่งที่เจ้าต้องการมา”

หลิ่วเทียนเต้ายิ้ม “เจ้าตรงไปตรงมาจริงๆ แต่ข้าไม่ได้เป็นฝ่ายจัดการ ดังนั้นเจ้าลองถามประมุขทั้งสามแห่งแดนร้อยสงครามถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการเถอะ”

เมื่อสิ้นเสียงหลิ่วเทียนเต้า เฒ่าเร้นกระบี่แห่งหุบเขาหมื่นศาสตราก็ประสานมือคำนับประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์พร้อมยิ้มตาหยี “ในเมื่อเราทั้งคู่ต่างไม่อยากให้เกิดการสู้รบในวันนี้ แต่ก็จะปล่อยให้อาณาเขตกงเวทสวรรค์กลับไปมือเปล่าไม่ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น แดนร้อยสงครามขอเสนอการเดิมพันเพื่อป้องกันการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก มิหนำซ้ำยังได้ผลลัพธ์จากเรื่องในวันนี้ด้วย ผู้แพ้จะต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ชนะด้วยของเหลวจื้อจุนหนึ่งล้านหยดพร้อมกับมอบเมืองหนึ่งพันเมือง ไม่ทราบว่าประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์คิดเห็นว่าอย่างไรบ้าง?”

“ของเหลวจื้อจุนหนึ่งล้านหยด? เมืองหนึ่งพันเมือง?”

เมื่อพูดถึงเดิมพัน ความโกลาหลก็แผ่กระจายออกไป แม้แต่เหล่าจอมพลยังสายตาวูบไหว แม้ว่าอาณาเขตกงเวทสวรรค์ของพวกเขาจะสามารถจ่ายของเหลวจื้อจุนหนึ่งล้านหยดออกมาได้ แต่นี่ก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย

นอกจากนี้มูลค่าเมืองหนึ่งพันเมืองก็น่าตกใจโดยแท้จริง หากอาณาเขตกงเวทสวรรค์ของพวกเขาต้องส่งมอบเมืองให้ คงเป็นเรื่องน่าเจ็บปวดใจไประยะหนึ่งอย่างแน่นอน

มู่เฉินลอบเดาะลิ้น พวกเขาค้นไปทั่วสำนักสายฟ้าปีศาจถึงได้ของเหลวจื้อจุนมาสองแสนหยด แต่ตอนนี้การประลองกับแดนร้อยสงครามกลับเรียกร้องของเหลวจื้อจุนถึงหนึ่งล้านหยด ปริมาณนี้ทำเอาน้ำลายสอเลยจริงๆ

เหล่าจอมพลเหลือบมองประมุขรอคอยการตัดสินใจ

ภายใต้สายตานับไม่ถ้วน ประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนที่พูดด้วยน้ำเสียงไม่มีริ้วอารมณ์ใดๆ ตามเคย “เจ้าจะสู้กันยังไง?”

“ง่ายนิดเดียว” เฒ่าเร้นกระบี่ยิ้ม “การประลองแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม การต่อสู้ของจอมพล-ผู้บัญชาการ-แม่ทัพ… ก็หมายความว่าแต่ละฝ่ายจะส่งผู้เข้าแข่งขันอย่างละหนึ่งคนที่อยู่ในระดับเดียวกันมาสู้กัน ฝ่ายที่ได้รับชัยชนะมากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ”

“ทำไมต้องทำให้วุ่นวายด้วย พวกเจ้าสามจากแดนร้อยสงครามกับพวกข้าก็สู้กันเลยไม่ง่ายกว่าหรือ? หรือว่าพวกเจ้าไม่มั่นใจตัวเอง?” เทียนจิ้วยิ้มบาง

“ฮ่าๆ แบบนั้นไม่เห็นน่าสนใจเลย เรื่องแบบนี้ต้องให้โอกาสกับคนรุ่นใหม่บ้างน่ะ” เฒ่าเร้นกระบี่ยิ้ม

เทียนจิ้วขมวดคิ้วพลางมองประมุขของตนเอง ในเมื่ออีกฝ่ายพยายามจะใช้ลูกไม้นี้ ดังนั้นจึงมีความไม่แน่นอนในการต่อสู้มากขึ้น

รัศมีรอบกายประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์วูบลงเบาบาง สายตากวาดมองไปยังจอมยุทธ์จำนวนมากในอาณาเขตกงเวทสวรรค์ จากนั้นเสียงแหบพร่าไร้อารมณ์ก็ดังขึ้น “ตกลง อาณาเขตกงเวทสวรรค์รับคำท้านี้”

“ประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์กล้าหาญจริงๆ” เฒ่าเร้นกระบี่ยิ้มด้วยความเคารพ

“ส่งจอมยุทธ์สามคนจากแดนร้อยสงครามออกมาซะ ข้าอยากรู้ว่าพวกเจ้ามั่นใจขนาดไหน” ประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์เอ่ยเบาๆ

เฒ่าเร้นกระบี่ยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไรขึ้น อสูรพิลาลสที่ยังไม่ได้พูดอะไรก็ก้าวเท้าออกมา สายตาล้ำลึกพุ่งตรงไปที่ประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ เอ่ยเสียงราบเรียบ “ขอให้จอมพลอาณาเขตกงเวทสวรรค์ชี้แนะด้วย”

เมื่อเห็นเขาเดินออกไป เฒ่าเร้นกระบี่และปีศาจภูเขาศพก็คลี่ยิ้ม ไม่ได้คัดค้านอะไร นี่คงเป็นแผนการที่พวกเขาวางไว้ล่วงหน้าแล้ว

“อสูรพิลาลสออกโรงเองเลยเหรอ” ถังปิงมองชายหัวล้านด้วยใบหน้าเคร่งเครียดมากลงกว่าเดิม ในบรรดาหัวหอกทั้งสามแห่งแดนร้อยสงคราม อสูรพิลาลสเป็นคนที่มีข้อมูลน้อยมาก มิหนำซ้ำยังเป็นคนที่ยากจะหยั่งถึงมากที่สุดอีกด้วย

มู่เฉินพยักหน้าเบาๆ อสูรพิลาลสไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่รับมือง่ายเลย

หลังจากอสูรพิลาลสเดินออกมา เฒ่าเร้นกระบี่ก็โบกมือ ทันใดนั้นในกลุ่มคนก็แหวกทางออกพร้อมกับร่างสีดำค่อยๆ เดินออกมา

นอกเหนือจากรูปลักษณ์ของร่างสีดำ กลิ่นเหม็นเน่าของซากศพก็คละคลุ้งออกมา ทุกคนเบนสายตาไปก็มองเห็นร่างที่ดูเปราะบางอยู่ในผ้าพันแผลสีดำราวกับมัมมี่ ยิ่งกว่านั้นยังมีลวดลายประหลาดปรากฏอย่างเห็นได้ชัดบนผ้าพันแผลสีดำเหล่านั้นด้วย

เมื่อร่างประหลาดพิลึกนี้ปรากฏ เสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นทั่วบริเวณ

“นั่นคือ…ผู้บัญชาการซือหลิงแห่งสำนักศพปีศาจ คนผู้นั้นไม่ใช่ว่าหายตัวไปนานแล้วหรือ? เขามาปรากฏตัวอีกครั้งแล้ว…” ถังปิงอุทานออกมาเช่นกัน

“ผู้บัญชาการซือหลิง?” มู่เฉินอึ้งไป

“เขาเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักศพปีศาจ ลือกันว่าพลังของเขาอยู่ต่ำกว่าปีศาจภูเขาศพเท่านั้น แต่เขาหายหน้าไปเมื่อหลายปีก่อน คนส่วนใหญ่คิดว่าเขาตายแล้วซะอีก ไม่คิดว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่” ถังปิงเอ่ย

มู่เฉินขมวดคิ้ว ผู้บัญชาการซือหลิงให้ความรู้สึกประหลาดใจยังไงไม่รู้

“ไม่รู้ว่าแม่ทัพคนไหนของแดนร้อยสงครามจะออกมา?” มู่เฉินเอ่ยเบาๆ เทียบกับสองคนก่อนหน้า เขารู้สึกสนใจจอมยุทธ์ในระดับเดียวกับตนเองมากกว่า

“แดนร้อยสงครามเลือกผู้นำทัพที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างแน่นอน ซึ่งมีสามคนที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุด หลินชิงเฟิงจากหุบเขาหมื่นศาสตรา มั่วมั่วจากสำนักศพปีศาจและฉิงเปยจากพิลาลสสวรรค์ ในหมู่สามคนนี้หลินชิงเฟิงมืชื่อเสียงโด่งดังที่สุด มั่วมั่วเหี้ยมโหดดุร้ายที่สุด ขณะที่ฉิงเปยพยายามไม่เป็นที่สนใจที่สุด…” ถังปิงเอ่ย

มู่เฉินทวนคำพูดพลางพยักหน้าเบาๆ

“แต่อย่าหวังมากเกินไปล่ะ มีโอกาสสูงที่เจ้าจะไม่ได้เป็นตัวแทนของอาณาเขตกงเวทสวรรค์” ถังปิงยิ้มขณะเหลือบมองมู่เฉิน “ข้าไม่ได้จะสกัดดาวรุ่งนะ แต่มีสูชิงกับโจวเยี่ยมีฐานชื่อเสียงมานาน แม้ช่วงนี้เจ้าจะผงาดขึ้นเร็ว แต่ในสายตาของหลายๆ คน พวกเขาน่าเชื่อใจมากกว่า ดังนั้นท่านประมุขคงจะเลือกหนึ่งในสองคนนั้นน่ะ”

มู่เฉินถูจมูกและยิ้ม “สูชิงกับโจวเยี่ยแข็งแกร่ง ข้าไม่ว่าอะไรถ้าพวกเขาจะออกไปหรอก อีกอย่างก็ช่วยให้ข้าไม่ต้องเสี่ยงชีวิตด้วย”

“ดีแล้วที่เจ้าคิดในแง่บวก แม้ว่าเราจะรู้ว่าเจ้าไม่ได้อ่อนแอกว่าพวกเขาก็ตาม” ถังปิงยิ้มขณะเอ่ยปลอบ

มู่เฉินยักไหล่เงยหน้าขึ้น เขาเห็นเฒ่าเร้นกระบี่โบกมืออีกครั้งและคนที่ออกมาก็จะเป็นแม่ทัพแดนร้อยสงคราม

ถัดไปทางด้านหลังมีชายสามคนยืนอยู่บนอากาศ คนหนึ่งคือหลินชิงเฟิงที่มู่เฉินเคยพบมาก่อน ที่ยืนอยู่ทางขวาคือมั่วมั่วที่สวมชุดสีดำ ทางซ้ายเป็นชายร่างผอมหัวล้าน เขาคือฉิงเปยที่ดูธรรมดามากที่สุดในสามคนนี้

เมื่อเฒ่าเร้นกระบี่โบกมือ หลินชิงเฟิงกับมั่วมั่วก็สบตากันก่อนจะเบ้ปากก้าวถอยหลัง เพื่อเปิดทางให้ฉิงเปยที่มีดวงตาริบหรี่

เห็นชัดว่าพวกเขาเลือกฉิงเปยเป็นนักสู้ระดับแม่ทัพ

“เลือกเขาจริงๆ ด้วย” ถังปิงมุ่นคิ้วเมื่อเห็นภาพนี้ ในหมู่ขั้วอำนาจทั้งสามแห่งแดนร้อยสงคราม สำนักศพปีศาจเป็นสำนักที่ไม่โดดเด่น แต่กลับต่อกรด้วยยากที่สุด

“ฮ่าๆ ประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ พวกข้าเลือกนักสู้แล้ว ไม่รู้แล้วว่านักสู้ที่เจ้าจะส่งออกมามีใครบ้าง?” เฒ่าเร้นกระบี่ยิ้มตาหยี

สายตานับไม่ถ้วนจ้องไปที่ประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ รัศมีรอบตัวขยับไหวเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เอนตัวพิงบัลลังก์อย่างเกียจคร้านเอ่ยเสียงเรียบ “ซุ่ยนอน”

ท่ามกลางเหล่าจอมพล ซุ่ยนอนที่มีดวงตาง่วงงุนก็ลืมตาขึ้นเหลือบมองอสูรพิลาลสที่อยู่ไกลออกไปพลางยิ้มและพยักหน้า

เห็นชัดว่าอาณาเขตกงเวทสวรรค์ เลือกจอมยุทธ์ยากหยั่งถึงแบบจอมพลซุ่ยนอนรับมือกับอสูรพิลาลส

“ซิวหลัว” ประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ขานชื่ออีกครั้ง

การเลือกเป็นไปตามที่คาดไว้ เพราะซิวหลัวแข็งแกร่งที่สุดในหมู่เก้าผู้บัญชาการ

หลังจากเลือกซิวหลัว ประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็นิ่งเงียบไป จากนั้นสายตานับไม่ถ้วนก็มองไปที่สูชิงกับโจวเยี่ย แต่ทั้งสองก็ยังคงสีหน้าสงบนิ่ง

ประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์เคาะนิ้วเบาๆ บนพนักเก้าอี้ สายตาที่เหมือนสามารถมองผ่านจิตใจกวาดมองสูชิงกับโจวเยี่ย ก่อนจะเบนมามองที่มู่เฉินที่กำลังหลับตาสงบจิตใจอยู่

“มู่เฉิน”

เสียงเรียบเฉยดังขึ้นทำเอาทุกคนตะลึงไป แม้แต่จิ่วโยวที่อยู่ไม่ไกลนักก็ยังมองอย่างตกตะลึง เห็นชัดว่าไม่มีใครคิดว่าประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์จะเลือกมู่เฉินที่มีคุณสมบัติต่ำที่สุด…

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset