หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 746

ใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน

มืออสูรแดงฉานบดขยี้ลงมาจากท้องฟ้า

ดูราวกับปีศาจที่หมายจะล้างชีวิตออกจากแผ่นดิน กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นกระจายไปทั่วพื้นที่

จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนมีสีหน้าเคร่งเครียดลงเมื่อมองกระบวนท่าสุดยอดของฉิงเปย ระดับการโจมตีนี้เป็นสิ่งที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นสี่ตัวจริงยังต้องหลีกเลี่ยง

มู่เฉินสามารถสกัดกระบวนท่านี้ได้อย่างไร?

สายตานับไม่ถ้วนยกขึ้นมองชายหนุ่มอ่อนวัยบนท้องฟ้า ภายใต้การจ้องมองหลากหลาย มู่เฉินก็วาดตราประทับในมือขึ้นพร้อมกัน

โฮก!

เสียงมังกรและช้างคำรามก้องจากจุดจื้อจุนไห่กว้างใหญ่ไพศาล จากนั้นก็เห็นคลื่นลูกเชี่ยวกรากกวาดไปทั่วในจุดจื้อจุนไห่

ซ่า!

มังกรยักษ์ที่ปกคลุมด้วยเพลิงสีม่วงทะยานออกจากจุดจื้อจุนไห่ปรากฏตัวขึ้น ขณะเดียวกันคชสารยักษ์ขนาดใกล้เคียงกันที่ปกคลุมด้วยสายฟ้าไร้รูปร่างก็ตะลุยออกจากผิวมหาสมุทรด้วยเช่นกัน

มังกรและคชสารพุ่งออกจากจุดจื้อจุนไห่ ลอยอยู่บนอากาศเหนือมู่เฉิน ทันใดนั้นคลื่นหลิงทรงพลังก็กำจายออกมาจากร่างของพวกมัน ทำให้กลิ่นคาวเลือดจางลงไปอย่างมากในทันที

จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนดวงตาหดเกร็ง พวกเขาบอกได้ชัดเลยว่ากระบวนท่านี้ของมู่เฉินทรงพลังเพียงใด ทันใดนั้นทุกคนก็กลั้นหายใจ หรือว่าชายหนุ่มคนนั้นจะมีความสามารถในการสกัดการโจมตีสุดพลังของฉิงเปยได้จริงๆ?

“ฮึ่ม!”

มังกรและชคชสารยืนอยู่บนขอบฟ้า จากนั้นก็ปะทะกัน ทันใดนั้นเพลิงสีม่วงและสายฟ้าก็พลุ่งพล่าน ขณะที่รัศมีแสงทั้งสองระเบิดออก พวกมันก็ราวกับก่อร่างเป็นจานแสงที่มีมังกรและคชสารพันไขว้กัน คุณสมบัติแตกต่างกันสิ้นเชิงของพลังงานทั้งสองหลอมรวมเข้ากันด้วยวิธีนี้ ทันใดนั้นพายุเฮอริเคนคลื่นหลิงน่าสะพรึงกลัวก็กวาดออก

จานแสงมังกรคชสารลอยอยู่บนอากาศขณะที่คลื่นพลังที่ปลดปล่อยออกมาทำให้หนังตาของจอมยุทธ์นับไม่ถ้วนกระตุก พวกเขาบอกได้ว่าแม้กระบวนท่านี้ของมู่เฉินจะทรงพลัง แต่ก็ยังขาดอะไรไปบางอย่างหากต้องเผชิญหน้ากับฝ่ามืออสูรโลหิตของฉิงเปย

จอมยุทธ์จำนวนมากฝั่งอาณาเขตกงเวทสวรรค์มีสีหน้าวิตกกังวล กระทั่งเหล่าผู้บัญชาการยังหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ หากพลังการโจมตีของมู่เฉินอยู่แค่ระดับนี้ ก็คงไม่สามารถจะต้านฉิงเปยได้

ประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ยังคงนั่งบนบัลลังก์ ไม่มีริ้วความผันผวนประหลาดรอบกายเลย ท่าทางดูราวกับไม่กังวลถึงความล้มเหลวของมู่เฉิน

ฝั่งแดนร้อยสงคราม หลิ่วเทียนเต้ายืนเอามือไพล่หลังขณะมองวงแสงมังกรคชสารที่มู่เฉินสร้างขึ้นบนท้องฟ้า คิ้วของเขากลับค่อยๆ ย่นเข้าหากันพร้อมกับแสงวูบไหวในดวงตา

เมื่อความสนใจทั้งหมดพุ่งไปหา มู่เฉินก็เงยหน้าขึ้นมองจานแสงมังกรคชสารที่ลอยอยู่ด้านบน จากนั้นเขาก็สูดหายใจเข้าลึก เขารู้ดีว่ายังเป็นไปไม่ได้ที่จะปะทะกับฉิงเปยด้วยจานแสงมังกรคชสารที่เพิ่งสร้างขึ้นนี้

หากเป็นในอดีต มู่เฉินก็คงอับจนปัญญาแน่นอน แต่ตอนนี้เขาได้หลอมรวมพลังเข้ากับสายฟ้าฤทัยปีศาจดำเรียบร้อย ทำให้พลังอำนาจของวิชาเก้ามังกรคชสารถูกปลดปล่อยออกมาได้อย่างแท้จริง

ลมหายใจขาวขุ่นพรูออกจากปากมู่เฉิน ดวงตาสีดำสนิทเปลี่ยนเป็นคมกริบ ตราประทับในมือเปลี่ยนไป!

ตู้ม!

คลื่นเชี่ยวกรากพัดกระหน่ำในจุดจื้อจุนไห่ขณะที่แสงระเบิดออกจากทุกทิศทาง หลุมวนขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นเหนือจุดจื้อจุนไห่ พร้อมกับแสงมหึมาสองสายลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า

โฮก!

เสียงสัตว์อสูรทั้งสองแผดร้องดังขึ้นอีกเสียง ที่เสาแสงมังกรและคชสารก็ระเบิดออกเปลี่ยนเป็นลำแสงเจิดจ้าสองสายเข้าไปในวงแสงมังกรคชสารที่อยู่เหนือร่างมู่เฉิน

ปัง! ปัง!

เมื่อมังกรคชสารอย่างละหนึ่งพุ่งเข้าไป จานแสงมังกรคชสารก็จะขยายขนาด ขณะเดียวกันคลื่นหลิงป่าเถื่อนก็เพิ่มขึ้นรวดเร็ว

ผู้คนมีสีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลัน

สีหน้าของมู่เฉินซีดลง คิดว่าคงเป็นภาระยิ่งใหญ่สำหรับเขาหลังการสำแดงพลังของวิชาเก้ามังกรคชสาร แต่เวลานี้เขาจะต้องทนไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม

“ก่อนหน้าไม่ได้ แล้วตอนนี้ล่ะ?!”

ไอเย็นเยือกพวยพุ่งในดวงตาของมู่เฉิน ไม่มีอาการลังเลใดเขาก็ซัดฝ่ามือออกไปทันที จานแสงมังกรคู่และคชสารคู่พุ่งออกไปทันที

วาบ!

ความเร็วของจานแสงมังกรคชสารอยู่ในระดับที่ไม่สามารถอธิบายได้ ขณะที่ทะลวงผ่านมิติในพริบตา เมื่อทุกคนมองเห็นอีกครั้งจานแสงมังกรคชสารก็ปรากฏใต้ฝ่ามืออสูรโลหิตที่กำลังซัดลงมาแล้ว

“แตกซะ!”

ฉิงเปยคำรามพร้อมกับเบิกตาโพลง เขาเร้าคลื่นหลิงจนถึงขีดสุด พร้อมกับกลิ่นคาวเลือดรุนแรง จากนั้นก็ตบลงมาบนจานแสงมังกรคชสาร!

ตู้ม!

ทันทีที่ปะทะกันก็ราวกับอุกกาบาตสองลูกฉีกผ่านขอบฟ้าพุ่งเข้าชนกันด้วยพลังทำลายล้าง คลื่นกระแทกที่มองเห็นด้วยตาเปล่ากวาดออกเป็นชั้น ทำให้มิติถล่มลงทีละชั้น…ละชั้น เศษมิติคมกริบนับไม่ถ้วนกระจายไปทุกทิศทาง

เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง ดังนั้นจอมยุทธ์ทั้งสองฝั่งจึงรีบลงมือ พริบตาเดียวม่านพลังนับไม่ถ้วนก็สะบัดไหว สร้างแนวป้องกันทรงพลังสกัดเศษมิติที่แตกกระจาย

ส่วนมู่เฉินกับฉิงเปยที่อยู่ในจุดกำเนิดของคลื่นกระแทก ก็ไม่กล้าถูกความน่ากลัวนั้นเข้าเล่นงาน พวกเขาจึงรีบถอยเข้าไปในร่างเทห์สวรรค์ทันที

มู่เฉินเข้าไปในร่างเทพสุริยะใช้การป้องกันที่ทรงพลังต่อต้านเศษมิติที่ปลิวว่อน แต่ถึงกระนั้นก็มีรอยบาดลึกปรากฏบนร่างเทพสุริยะ ดูจากท่าทางแล้วหากมู่เฉินไม่มีร่างเทพสุริยะ แค่คลื่นกระแทกอย่างเดียวก็ทำให้ร่างเทห์สวรรค์เสียหายใหญ่หลวงได้แล้ว

ขณะที่คลื่นป่าเถื่อนกวาดอาละวาดไปทั่ว คนมากมายก็ยังคงจับจ้องการปะทะบนท้องฟ้า แสงจากจานมังกรคชสารเจิดจ้ามากขึ้น สัตว์อสูรสี่ตัวก็คำรามอย่างเกรี้ยวกราด จานแสงหมุนควงเร็วจี๋ ราวกับเลื่อยคมกริบที่สุดในโลก

ยกเว้นว่าใบเลื่อยนี้เกิดจากมังกรและคชสาร

เผชิญหน้ากับพลังทำลายล้างน่ากลัวของจานแสงมังกรคชสาร ฝ่ามืออสูรโลหิตก็แตกร้าว รอยร้าวเล็กๆ ปรากฏขึ้น

ใบหน้าของฉิงเปยเปลี่ยนไปรุนแรงในทันที

รอยแตกกระจายออกด้วยความเร็วที่น่ากลัว ไม่กี่อึดใจก็ปกคลุมมือใหญ่สีแดงฉานไปทั่ว สุดท้ายมือสีแดงฉานทั้งคู่ก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป แตกออกเป็นสองส่วน!

โห่!

ความปั่นปวนประหลาดใจดังขึ้นในบริเวณนี้

หลังจากที่จานแสงมังกรคชสารฉีกผ่านฝ่ามืออสูรโลหิต แม้ว่าประกายจะหม่นลงไปมาก แต่ก็ยังพุ่งต่อไปพร้อมกับความเร็วชวนตะลึง เล็งเป้าไปที่ร่างอรหันต์หลัวฮั้น เห็นชัดว่ามู่เฉินใช้โอกาสนี้ในการกำจัดฉิงเปย

เมื่อฉิงเปยเห็นการเคลื่อนไหวของมู่เฉินในร่างอรหันต์หลัวฮั้น แม้ว่าใบหน้าของเขาจะเขียวคล้ำแต่ก็ไม่ได้ตื่นตกใจ เขาขบฟันแน่นวาดประทับ ขนาดของฝ่ามืออสูรโลหิตที่แตกออกเป็นสองส่วนหดลงเท่าหนึ่ง คลื่นหลิงภายในเปลี่ยนเป็นไร้ระเบียบ แต่ก็ไม่ได้หายไป กลับทะยานตรงไปที่ร่างเทพสุริยะ

ทั้งสองไม่สนใจตัวเองเลือกปลดปล่อยการโจมตีครั้งสุดท้ายใส่ศัตรู!

ผู้คนจำนวนมากหนังตากระตุกเมื่อเห็นภาพที่ทั้งสองเด็ดขาดและไร้ปรานีเช่นนี้

ตึง!

จานแสงมังกรคชสารพุ่งเข้ากระแทกร่างอรหันต์หลัวฮั้น แต่ก่อนที่จะเกิดการปะทะร่างอรหันต์หลัวฮั้นก็เบี่ยงตัวหลบ ดังนั้นเมื่อแสงวาบผ่าน ครึ่งหนึ่งของไหล่ร่างอรหันต์หลัวฮั้นก็ถูกเฉือนออก

ขณะเดียวกันฝ่ามืออสูรโลหิตที่ผ่าออกเป็นสองซีกก็ซัดร่างเทพสุริยะหนักหน่วง ทันใดนั้นแสงสีทองก็กระเซ็นไปทั่วท้องฟ้า เสียงโลหะกระทบกันดังกังวาน

ร่างเทห์สวรรค์ทั้งสองกระเด็นออกไปนับหมื่นเมตรก่อนที่จะทรงตัวได้

ผู้คนเบนสายตามองตาม บนหน้าอกของร่างเทพสุริยะมีรอยฝ่ามือประทับลึกสองรอย แม้พลังการโจมตีจะน่ากลัว แต่การป้องกันของร่างเทพสุริยะก็อยู่เหนือความคาดหมายของทุกคนแล้ว

ขณะที่ร่างอรหันต์หลัวฮั้นของฉิงเปยถูกเฉือนไหล่ออกไปครึ่งหนึ่ง คลื่นหลิงก็รั่วไหลออกจากบาดแผลแสดงสัญญาณไร้ระเบียบพร้อมกับร่างเทห์สวรรค์เริ่มจางหายไป

มู่เฉินปรากฏตัวบนศีรษะของร่างเทพสุริยะขณะเลือดปรากฏบนมุมปาก จากนั้นเขาก็ปาดคราบเลือดออกเบาๆ พร้อมกับสายตาเย็นชาจับจ้องที่ร่างอรหันต์หลัวฮั้นของฉิงเปยที่ได้รับบาดเจ็บหนัก

สู้มาถึงจุดนี้ ชัดว่าทั้งสองก็แสดงอาการอ่อนกำลังลงแล้ว

ตู้ม!

แสงดุร้ายวาบผ่านในดวงตาของมู่เฉิน เขากระทืบเท้า ร่างเทพสุริยะที่เจ็บหนักก็ทะยานขึ้นสู่ขอบฟ้าปรากฏตัวตรงหน้าร่างอรหันต์หลัวฮั้นซัดหมัดใหญ่ลงมาอย่างไร้ปรานี

ฉิงเปยรีบควบคุมร่างอรหันต์หลัวฮั้นตั้งรับ แต่ร่างที่เหลือมีเพียงมือข้างเดียวจะต้านทานการโจมตีของร่างเทพสุริยะได้อย่างไร? เมื่อหมัดข้างหนึ่งซัดเข้าที่แขนของร่างอรหันต์หลัวฮั้นจนหัก อีกข้างหนึ่งก็ซัดทะลุหน้าอกร่างอรหันต์หลัวฮั้นเลย

ปัง!

ในที่สุดร่างอรหันต์หลัวฮั้นก็มาถึงขีดสุด แตกออกเป็นประกายแสง ร่างสะบักสะบอมร่วงลงมากระอักเลือดเต็มปากก่อนจะกระแทกกับยอดเขาจังใหญ่ พลังรุนแรงทำลายยอดเขาจนราพณาสูร

ครืน!

ภูเขาขนาดใหญ่ถล่มลงขณะที่ผู้คนจากทั้งสองฝั่งอยู่ในความเงียบ ดวงตาแตะละคู่แทบถลนออกมาบ่งบอกถึงความตกใจในหัวใจ

ไม่เพียงแต่มู่เฉินจะสามารถต้านทานกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของฉิงเปยได้ เขายังเอาชนะฉิงเปยได้อีกด้วย!

เมื่อร่างอรหันต์หลัวฮั้นสลายตัว ผลลัพธ์ก็ถูกตัดสินแล้ว!

นี่เป็นผลลัพธ์ที่แทบไม่มีใครคาดคิดมาตั้งแต่ต้น…

บนท้องฟ้า ร่างเทพสุริยะก็โยกไปมาก่อนที่จะจางหายไปในที่สุด มู่เฉินโซซัดโซเซออกมา ใบหน้าเขาซีดลงเช่นกัน เลือดไหลออกจากมุมปาก

เห็นชัดว่ามู่เฉินได้รับบาดเจ็บไม่น้อยจากการต่อสู้กับฉิงเปย ชายหนุ่มคนนั้นทรงพลังแท้จริง แต่โชคดีที่ในการต่อสู้ใช้ชีวิตเป็นเดิมพันครั้งนี้ เขาสามารถหัวเราะได้เป็นคนสุดท้าย

มือเช็ดคราบเลือดที่มุมปาก สายตากวาดมองกองทัพทั้งสองที่เงียบไป จากนั้นเขาก็หันไปทางอาณาเขตกงเวทสวรรค์ ประสานมือคำนับต่อประมุขพร้อมกับรอยยิ้มฝืดเฝื่อนผุดบนใบหน้าซีดชาว

“ท่านประมุข ข้าโชคดีที่ไม่แพ้”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset