หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 767

 ออกเดินทางได้

หลายวันถัดมา

มู่เฉินใช้เวลาเต็มที่ในการเก็บตัวที่หอวิหคโลกันตร์ จุดประสงค์หลักก็คือการเรียนรู้วิชาแสงบุปผาทำลายฟ้า

หลังจากศึกษาแล้ว มู่เฉินก็ตระหนักได้ว่านี่เป็นวิชาเทพที่ซับซ้อนยากหยั่งถึงวิชาหนึ่งเลยทีเดียว แม้มั่นถัวหลัวจะไม่ได้บอกเขาว่าแสงบุปผาทำลายฟ้านี้เป็นวิทยายุทธระดับใด แต่จากการประเมินของเขามีโอกาสสูงมากที่จะเป็นวิทยายุทธระดับเสินทงขั้นเต็ม

นี่ถือว่าเป็นวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่วิชาที่มู่เฉินมีเลยทีเดียว กระทั่งวิชาเก้ามังกรคชสารยังไม่อยู่ในขั้นเต็มเลย

แน่นอนว่าวิชาเทพขั้นสูงก็หมายความว่ายากที่จะฝึกฝนเช่นกัน และความยากของวิชาแสงบุปผาทำลายฟ้าก็ทำให้แม้แต่มู่เฉินที่มีพรสวรรค์ต้องเดาะลิ้นไม่รู้จบ

ในเวลาหลายวัน แม้จะได้รับการชี้แนะลับๆ จากมั่นถัวหลัว แต่มู่เฉินก็แตะต้องได้เพียงแค่ผิวเผิน ทว่าโชคดีที่เขามีลวดลายของดอกแมนดาลาโบราณในหน้ารายการนิรันดร์ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยเหลือที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขาในการฝึกวิชาแสงบุปผาทำลายฟ้านี้ เขาเชื่อว่าเป็นเรื่องของเวลาที่เขาจะฝึกวิชานี้สำเร็จ

นอกจากนี้เขายังมีความคาดหวังมากกับพลังของวิชาแสงบุปผาทำลายฟ้าเมื่อฝึกสำเร็จ

ในเวลาไม่กี่วันสุดท้ายนอกจากการศึกษาวิชาแสงบุปผาทำลายฟ้า มู่เฉินยังแบ่งความสนใจมาที่ค่ายกลด้วย แม้ตอนนี้เขาจะไม่ค่อยได้ใช้ค่ายกลในตอนต่อสู้ แต่นี่ก็เป็นไพ่ตายที่ได้เปรียบอย่างหนึ่งสำหรับเขา นอกจากนี้พูดตามตรงก็คือพรสวรรค์ด้านค่ายกลของเขาเหนือกว่าการฝึกคลื่นหลิงเสียอีก

ทั้งหมดทั้งมวลก็เพราะมารดาของเขาเป็นหลิงเจิ้นต้าจงซือที่มีพลังขนาดที่มั่นถัวหลัวยังไม่สามารถเผชิญหน้าได้

บางครั้งมู่เฉินก็คิดว่าหากคนอื่นรู้ว่ามารดาของเขาเป็นจอมยุทธ์ทรงพลังอันน่ากลัวที่เทียบได้กับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนละก็ คงจะไม่มีหน้าไหนในทวีปเทียนหลัวที่กล้าท้าทายเขา…

แต่ความคิดนี้ก็หายวับไปจากใจของมู่เฉิน ไม่ต้องพูดถึงว่ามารดาที่ถูกขุมขังในตอนนี้เลย คนนิสัยอย่างเขาไม่คิดที่จะข่มขู่คนอื่นด้วยเส้นสายที่มีหรอก

เรื่องนี้ทำให้มู่เฉินแอบถอนหายใจ ดูเหมือน ‘ผู้สืบทอดยอดยุทธ์’ ก็ใช่ว่าอยากเป็นก็เป็นได้ การพึ่งพาตัวเองน่าเชื่อถือมากสุด ดังนั้นมู่เฉินจึงไปที่หอคัมภีร์ในช่วงเวลาว่างเพื่อฝึกค่ายกล เขาคาดการณ์ล่วงหน้าว่าศึกมังกรหงส์จะต้องมีการต่อสู้น่าตื่นตะลึงเกิดขึ้นแน่ ด้วยการเพิ่มเติมทักษะความรู้ เขาจะมีโอกาสเพิ่มเติมระดับการปกป้องตัวเอง

เผชิญหน้ากับตัวโหดในศึกมังกรหงส์ แม้แต่มู่เฉินยังต้องตั้งสติไม่กล้าดูถูกใครเลย

ส่วนมั่นถัวหลัวก็ให้การสนับสนุนมู่เฉินอย่างสุดความสามารถ อนุญาตให้เขาเข้าหอคัมภีร์ได้ตามที่ต้องการและปล่อยให้ฝึกยุทธ์อยู่ในนั้นได้ การปฏิบัติแบบพิเศษนี้ทำให้ผู้บัญชาการบางคนตาเขียวปั๊ดด้วยความอิจฉา ทุกคนรู้ว่ามีสมบัติอะไรเก็บอยู่ในหอคัมภีร์ ปกติแล้วแม้แต่ระดับพวกเขายังไม่มีสิทธิ์ได้เข้าไป เว้นแต่ว่าจะทำคุณประโยชน์มากมาย แต่มู่เฉินกลับได้เข้าออกตามอำเภอใจ ซึ่งทำให้พวกเขาถึงกับตาลุกวาว

แต่พวกเขาก็ได้แต่ตาลุกวาว ไม่มีใครกล้าอ้าปากพูดอะไรสักคำ ถึงตอนนี้แม้แต่คนตาบอดยังบอกได้ว่ามู่เฉินกับประมุขมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา ด้วยการสนับสนุนจากประมุขแล้ว ก็ไม่มีใครในอาณาเขตกงเวทสวรรค์กล้าท้าทายมู่เฉิน เช่นเสี่ยยิงที่ไม่กล้าใช้ลูกไม้อะไรกับมู่เฉินอีก เพราะหากเขาทำให้ประมุขไม่พอใจละก็ คงเป็นตัวเขาเองที่จะหลุดออกจากตำแหน่ง

หลังจากมั่นถัวหลัวเปิดคลังทรัพยากรที่มีให้มู่เฉิน เวลาก็ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว…

วันที่ห้า

วันนี้หอวิหคโลกันตร์คึกคักเป็นพิเศษ คนจำนวนมากจากหลายกลุ่มมารวมตัวกันที่นี่ ซึ่งตอนนี้มู่เฉินกำลังยิ้มประสานมือคำนับต่อพวกเขา

“ถ้าเตรียมตัวพร้อมแล้วก็รีบออกไป พวกเราจะไม่ไปส่งเจ้า เขตหลงเฟิ่งตั้งอยู่ในเทือกเขาหลงเฟิ่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เจ้าไปเองแล้วกัน” มั่นถัวหลัวเอ่ยพลางปัดมือให้มู่เฉิน

“ข้าไปคนเดียวเหรอ?” พอได้ยินคำพูดของนาง มู่เฉินก็ผงะไป ถึงเขาจะมาอยู่ภูมิภาคทางเหนือช่วงเวลาหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่เคยออกไปไกลจากอาณาเขตกงเวทสวรรค์เลย ตอนแรกเขาคิดว่าคนจากอาณาเขตกงเวทสวรรค์จะไปส่งด้วย อย่างน้อยก็แสดงแสนยานุภาพว่าเป็นขั้วอำนาจชั้นยอด ข่มขวัญพวกปลาซิวปลาสร้อยสักหน่อย

“เจ้าไม่ใช่เด็ก ต้องการผู้ปกครองไปด้วยงั้นหรือ?” มั่นถัวหลัวเบ้ปากเอ่ยต่อ “ถ้าทำไม่ได้กระทั่งเดินทางไปยังเทือกเขาหลงเฟิ่งด้วยตัวเอง ก็อย่าไปร่วมงานประลองให้ต้องอับอายเลย”

มู่เฉินโกรธจนอยากจะขบหัวคนตัวเล็กสักคน หากไม่ใช่เพราะความจริงที่คนตัวเล็กตรงหน้าสามารถสยบเขาได้เพียงการสะบัดมือครั้งเดียว เขาก็คงอดรนทนไม่ไหวที่จะสั่งสอนนางสักครั้ง

“ท่านประมุขพูดเล่นน่ะ เนื่องจากเขตหลงเฟิ่งจะมีเพียงผู้เข้าร่วมงานประลองเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ นอกจากนี้จอมยุทธ์ที่ทรงพลังก็เข้าไปไม่ได้ ตัวแทนของสำนักอื่นก็ไปเองเช่นกัน ไม่มีจอมยุทธ์ในสำนักติดตามไป”

จิ่วโยวยิ้มอยู่ด้านข้างเอ่ยต่อ “ดังนั้นในศึกครั้งนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเจ้าทำได้เพียงพึ่งพาตัวเองในการจัดการเท่านั้น”

มู่เฉินถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ดูท่าครั้งนี้จะต้องฉายเดี่ยวแล้ว

“รับนี่ไว้”

ขณะที่มู่เฉินรู้สึกหดหู่กำลังจะออกเดินทาง มั่นถัวหลัวก็พลิกนิ้วส่งลำแสงพุ่งไปหามู่เฉิน เขารับไว้ในมือ นี่เป็นชิ้นหยกโบราณที่แผ่ความผันผวนประหลาดออกมา

“ถ้าเจ้าเผชิญกับอันตรายแบบใกล้ตายก็ทำลายมันซะ” มั่นถัวหลัวเอ่ยเสียงเรียบ

มู่เฉินอึ้งไป เขาได้ยินจากจิ่วโยวว่ามีข้อห้ามสำหรับศึกมังกรหงส์ คนที่มีพลังระดับมั่นถัวหลัวจะไม่สามารถเข้าไปได้ หากพวกเขาทำเช่นนั้นก็จะเป็นการสร้างปัญหาใหญ่หลวง แต่ตอนนี้มั่นถัวหลัวกลับมอบหยกโบราณกับเขา ซึ่งเมื่อเขาทำลายมัน นางก็จะอาศัยคลื่นพลังนั้นในการเดินทางผ่านมิติ

หากเป็นเช่นนั้น นางก็จะต้องจ่ายราคาแพงระยับอย่างแน่นอน

มู่เฉินรู้สึกตื้นตันใจกำหยกโบราณไว้ เขาไม่เอ่ยอะไรสักคำเก็บหยกไว้ในกำไลเจี้ยจื่อ ดูเหมือนเขาจะต้องระวังตัวให้มากขึ้นในเขตหลงเฟิ่งแล้ว

“ฮ่าๆ มู่เฉิน ต่อให้เราไม่สามารถตามเข้าไปในเขตเทือกเขาหลงเฟิ่งได้ เราก็จะคอยตามดูสถานการณ์ตลอดเวลานะ ทุกคนในอาณาเขตกงเวทสวรรค์จะรอคอยให้เจ้าออกมา” เทียนจิ้วยิ้มจากด้านข้าง

“ครั้งนี้ชื่อเสียงอาณาเขตกงเวทสวรรค์เราฝากไว้กับเจ้าแล้ว!”

มู่เฉินประสานมือคำนับเทียนจิ้ว “จอมพลเทียนจิ้ว วางใจเถอะข้าจะทำให้ดีที่สุด!”

จบคำพูด เขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไปเคลื่อนกายเตรียมทะยานขึ้นสู่ขอบฟ้า

“ถ้าเจ้ากลับมาได้ ตำแหน่งผู้บัญชาการคนที่สิบของอาณาเขตกงเวทสวรรค์จะเป็นของเจ้า” มั่นถัวหลัวมองมู่เฉินและเอ่ยขึ้น

“ฮ่าๆ งั้นก็ขอบคุณประมุขที่เก็บตำแหน่งไว้ให้ข้านะ!” มู่เฉินหัวเราะเคลื่อนตัวออกไป ร่างกลายเป็นลำแสงสายหนึ่งพุ่งผ่านขอบฟ้า ไม่กี่อึดใจก็หายไปจากครรลองสายตาของทุกคน

มองเงาร่างที่จากไป ทุกคนก็ถอนหายใจ

“ประมุข ศึกมังกรหงส์ครั้งนี้ลือกันว่าดุเดือดมากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ขั้วอำนาจชั้นยอดอื่นๆ ก็ส่งจอมยุทธ์รุ่นใหม่ที่ชุบเลี้ยงเข้าร่วมงานประลองกันหมด”

หลิงถงมองทางทิศที่มู่เฉินไปก่อนจะหันมาหามั่นถัวหลัว “หลายปีที่ผ่านมาอาณาเขตกงเวทสวรรค์ ของเราอยู่ตำแหน่งเสียเปรียบในศึกมังกรหงส์มาตลอด สูญเสียชื่อเสียงที่มี แม้มู่เฉินจะไม่ธรรมดา แต่ข้าเกรงว่า…”

คนอื่นๆ พยักหน้ากันเงียบๆ พวกเขาไม่เคยขาดอัจฉริยะจอมยุทธ์รุ่นใหม่เข้าร่วมศึกมังกรหงส์ แต่ทันทีที่ย่างเท้าเข้าไป ก็จะถูกสังหารโดยผู้แข่งขันจากจวนยมโลก ซึ่งสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของพวกเขาใหญ่หลวง ดังนั้นจากนั้นเป็นต้นมาอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็ยกเลิกการส่งคนเข้าร่วมศึกมังกรหงส์ แต่ครั้งนี้มั่นถัวหลัวกลับตัดสินใจส่งคนเข้าร่วม แม้ว่าฝีมือของมู่เฉินจะนับว่าดี แต่อัจฉริยชนที่เข้าร่วมศึกมังกรหงส์ก็ต่างมีฝีมือเหนือเขา พวกเขากลัวว่าหากมู่เฉินล้มเหลว อาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็จะสูญเสียชื่อเสียงอีกครั้ง

“หดหัวเป็นเต่าในกระดองมาหลายปี ยังไงก็ควรส่งคนออกไปบ้าง” มั่นถัวหลัวยิ้มบางขณะจ้องมองหลิงถง “ข้ารู้ว่าพวกเจ้าไม่มีความมั่นใจในตัวมู่เฉินมาก แต่ข้ามี สำหรับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นก็รอดูแล้วกัน”

พอได้ยินคำพูดของมั่นถัวหลัว หลิงถงก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป ทำเพียงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มขื่น เขาไม่ได้เหน็บมู่เฉิน แต่สิ่งที่พูดเป็นความจริง เทียบกับเหล่าอัจฉริยะสิบอันดับแรกในศึกครั้งนี้ ก็มีช่องว่างระหว่างพวกเขาอย่างชัดเจน

แต่ในเมื่อมั่นถัวหลัวบอกว่ามั่นใจในตัวเขา พวกเขาก็ทำได้เพียงเลือกที่จะเชื่อเช่นกัน หวังว่าในครั้งนี้อาณาเขตกงเวทสวรรค์จะไม่เหมือนกับในอดีต ที่ส่งคนไปแล้วท้ายที่สุดก็ไม่มีแม้แต่เงากลับออกมา…

ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองไปทางทิศเหนือ พวกเขาจินตนาการได้เลยว่าช่วงเวลาที่กำลังมาถึง สถานที่แห่งนั้นจะได้รับความสนใจมากที่สุดในภูมิภาคทางเหนือ

อัจฉริยะนับไม่ถ้วนจะลงชิงชัยกันที่นั่น บางคนผงาดขึ้น บางคนล้มลง…

แต่ไม่ว่าอย่างไร เมื่อศึกมังกรหงส์จบลง บันทึกมังกรหงส์ก็คงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset