หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 781

 ขนนกโหมสวรรค์

ร่างใหญ่โตดูราวกับเทพไฟยืนตระหง่านบนท้องฟ้า

ขณะที่เพลิงหลากสีสันโชติช่วงบนพื้นผิวกาย อุณหภูมิน่ากลัวทำให้บริเวณนี้ลุกไหม้จนเกิดกลิ่นไหม้ในชั้นบรรยากาศ

มู่เฉินหรี่ตาลงมองร่างเพลิงนั่น มีความเปลี่ยนแปลงเบาบางบนสีหน้าไร้อารมณ์ เห็นได้ชัดว่าแม้แต่เขาที่อยู่ในสภาวะฤทัยปีศาจก็ยังรู้สึกถึงภัยคุกคามข้นคลั่กที่มาจากร่างเพลิงนั้น

“ร่างมหาเพลิงนภา สมกับชื่อเสียงจริงๆ”

บนยอดเขากระดูกขาว จอมยุทธ์คนอื่นๆ มีสีหน้าตกตะลึงไปและอดไม่ได้ที่จะชื่นชม ร่างมหาเพลิงนภาเป็นร่างมีอันดับไม่ต่ำในทำเนียบคัมภีร์ร่างเทห์สวรรค์เก้าสิบเก้าร่าง ยิ่งกว่านั้นความยากลำบากในการฝึกร่างนับว่าสูงมาก แค่ความต้องการเพลิงหลากหลายชนิดก็ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลแล้ว หากเป็นจอมยุทธ์ธรรมดาได้ร่างเทห์สวรรค์นี้ไป ก็คงเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะชำระได้สำเร็จ

โชคดีที่หลิ่วเหยียนคือประมุขน้อยแห่งตำหนักสุดนภา ไม่อย่างนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะชำระร่างมหาเพลิงนภาได้หรอก

บนหัวของร่างมหาเพลิงนภา เปลวไฟพวยพุ่ง หลิ่วเหยียนก็ปรากฏตัวในพริบตา สายตามืดครึ้มจับจ้องมู่เฉินพร้อมกับรังสีสังหารแรงกล้าวาบขึ้นในส่วนลึกของดวงตา

เขาไม่คิดว่าตนเองจะถูกบีบให้ต้องใช้ร่างเทห์สวรรค์ก่อนคนแรก!

“เจ้าเล่ห์จริงๆ” หลิ่วเหยียนกัดฟันแววตาอัดแน่นด้วยความเกลียดชัง หากไม่ใช่เพราะสายฟ้าฤทัยปีศาจดำทำให้เขาไม่ทันตั้งตัว เขาก็ไม่มีทางเปิดช่องโหว่ให้มู่เฉิน แล้วถูกบีบให้ถอยจนสุดท้ายต้องเร้าร่างเทห์สวรรค์มาปกป้องตัวด้วย

แม้จะโกรธเคือง แต่ในใจหลิ่วเหยียนกลับเพิ่มข้อควรระวังขึ้น ถอนการประเมินต่ำทั้งหมดที่มีต่อมู่เฉิน

ฮา

หลิ่วเหยียนที่ยืนอยู่บนหัวร่างมหาเพลิงนภาสูดหายใจลึกพร้อมกับโทสะบนใบหน้าค่อยๆ จางหายไปทีละน้อย…ละน้อย สายตากลับคืนสู่ความไม่แยแส

เมื่อเห็นภาพนี้ มู่เฉินก็ขมวดคิ้วเบาๆ หลิ่วเหยียนที่คืนความสงบย่อมไม่เปิดช่องโหว่ให้ บวกกับการที่เขาเตรียมป้องกันสายฟ้าฤทัยปีศาจดำ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะเป็นฝ่ายได้เปรียบเหมือนก่อนหน้าอีก

“ถ้าแกอยากชนะข้า ก็เอาความสามารถที่แท้จริงออกมา อย่าใช้วิธีลอบกัดพวกนั้นให้ขายขี้หน้าเลย!”

หลิ่วเหยียนมองมู่เฉินอย่างเย็นชา จากนั้นก็ไม่ลังเลประสานมือเข้าด้วยกัน ทันใดนั้นเพลิงหลากสีก็โชติช่วงบนร่างมหาเพลิงนภา

มือประสานเข้าด้วยกัน เพลิงหลากหลายก็กวาดออก ก่อร่างเป็นนกเพลิงสีแดงส้มบนท้องฟ้า นกเพลิงสีแดงส้มช่างน่าตื่นตา ด้วยสีหลากหลายที่ลุกโชน ทำให้ดูงดงามนัก

“วิญญาณมหาเพลิง!”

หลิ่วเหยียนส่งเสียงคำรามต่ำขณะที่นกเพลิงสีแดงส้มงดงามกางปีก เมื่อปีกกระพือ ก็ราวกับวาดผ่านเป็นเส้นเกลียวเพลิง ทว่าภายใต้ความงามกลับเต็มไปด้วยอันตรายร้ายแรง

นกเพลิงสีแดงส้มขยายอย่างรวดเร็วในนัยน์ตาของมู่เฉิน เขาวาดตราประทับเร็วรี่เช่นกัน แสงสีทองเจิดจ้าก็ระเบิดออกทุกทิศทาง ร่างทองคำปรากฏตัวยืนอยู่ในบริเวณนี้

ทันทีที่ร่างทองคำเผยออกมา ดวงตะวันสีทองเจิดจ้าก็กำจายออกจากหว่างคิ้ว จากนั้นฝ่ามือใหญ่เหยียดออก แสงเรืองรองราวกับทองคำพวยพุ่งออกมา ทำให้ร่างนั้นดูราวกับหลอมมาจากทองคำปะทะกับนกเพลิงสีแดงส้ม

ตู้ม!

เปลวเพลิงงดงามระเบิดราวกับดอกไม้ไฟ มิติในจุดปะทะกันบิดเบี้ยวรุนแรงจากแรงกระทบน่ากลัว พลังระเบิดคลื่นหลิงกวาดตัวออกทำให้เหล่าจอมยุทธ์รอบด้านถอยหนีกันจ้าละหวั่นด้วยสีหน้าเปลี่ยนไป ด้วยหวาดกลัวว่าจะถูกลูกหลง

“นี่คือร่างเทห์สวรรค์ที่เขาฝึกงั้นหรือ?”

ม่านตาหลิ่วเหยียนหดลงเมื่อมองร่างทองคำที่ดูเหมือนพระพุทธรูปองค์ใหญ่ มิหนำซ้ำยังอดไม่ได้ที่จะมีสีหน้าเปลี่ยนไป เนื่องจากเขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันคุกคามที่ไม่อาจอธิบายได้จากอีกฝ่าย

ความกดดันบีบคั้นทำให้เขารู้สึกไม่อยากเชื่อ ร่างมหาเพลิงนภาที่เขาฝึกอยู่ในอันดับหกสิบเก้าบนทำเนียบคัมภีร์ร่างเทห์สวรรค์เก้าสิบเก้าร่าง ซึ่งไม่ใช่อันดับต่ำเลย แต่ตอนนี้ร่างเทห์สวรรค์ที่มู่เฉินฝึกฝนกลับทำให้ร่างมหาเพลิงนภาของเขารู้สึกถูกกดดันได้?

หรือว่าร่างเทห์สวรรค์นั่นเป็นสุดยอดในสามสิบอันดับแรก?!

หลิ่วเหยียนจ้องมองดวงตะวันสีทองเจิดจ้าที่ลอยอยู่เบื้องหลังร่างเทพสุริยะ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถระบุได้ ในทำเนียบคัมภีร์ร่างเทห์สวรรค์เก้าสิบเก้าร่างที่เขารู้มา รู้สึกจะไม่มีวิชาไหนที่เหมือนกับร่างตรงหน้าเขาเลย

“หรือจะเป็นร่างเทห์สวรรค์ลึกลับที่ไม่ได้ถูกจัดอันดับไว้?”

หลิ่วเหยียนขมวดคิ้ว แต่สุดท้ายเขาที่ไม่มีคำตอบก็ทำได้เพียงส่ายหัวด้วยสายตามืดครึ้ม ต่อให้ร่างเทห์สวรรค์ของมู่เฉินจะลึกลับ แต่ร่างเทห์สวรรค์ทรงพลังก็ต้องการพลังมาสนับสนุน เขาไม่เชื่อว่าในขุมพลังจื้อจุนขั้นสี่บวกกับร่างมหาเพลิงนภา เขาจะไม่สามารถจัดการกับจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นสามได้!

“ตู้ม!”

ขณะที่เค้นเสียง แสงสีทองก็กวาดออกมาจากเบื้องหน้า ร่างเทพสุริยะคว้าเสาปีศาจ สีเสาแต่เดิมที่เป็นสีดำก็ราวกับหลอมทองคำไว้ เมื่อเคลื่อนตัวผ่าน แม้แต่ท้องฟ้ายังฉีกขาดออกจากกัน

“ฮึ่ม!”

เมื่อเห็นมู่เฉินเป็นฝ่ายเริ่มเปิดโจมตีก่อน หลิ่วเหยียนก็อดไม่ได้ที่จะแค่นเสียงพร้อมกับมือสองข้างของร่างมหาเพลิงนภากำเป็นหมัด ขณะที่เพลิงพวยพุ่ง หอกเพลิงยาวก็ก่อตัวขึ้นพร้อมกับภาพหอกกวาดออกมาทุกทิศทาง

ปัง! ปัง!

ขณะที่ร่างใหญ่ยักษ์ทั้งสองปะทะกันบนท้องฟ้า ความปั่นป่วนก็ทำให้แม้แต่ฟ้าดินยังสั่นสะเทือน มากจนเกิดรอยแตกร้าวบนภูเขากระดูกขาว คลื่นหลิงที่กวาดออกมาราวกับพายุครางกระหึ่มกวาดอาละวาดออกไป ภายในรัศมีหมื่นเมตร ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้แม้แต่คนเดียว

จอมยุทธ์โดยรอบตะลึงลานไปกับการปะทะกันกระบวนท่านี้ พวกเขาไม่อยากเชื่อว่ามู่เฉินจะสามารถสู้กับหลิ่วเหยียนได้ถึงระดับนี้

ในหมู่จอมยุทธ์รุ่นใหม่ภูมิภาคทางเหนือ หลิ่วเหยียนมีชื่อเสียงโด่งดังอยู่ในอันดับสี่ของบันทึกมังกรหงส์ ส่วนมู่เฉินล่ะ? เขาเป็นจอมยุทธ์ไร้ชื่อเท่านั้น แม้จะมีอาณาเขตกงเวทสวรรค์หนุนหลังทำให้เขามีสถานะบางอย่างขึ้นมา แต่ก็ยังห่างไกลเมื่อเทียบกับชนชั้นสูงที่โดดเด่นในหมู่จอมยุทธ์รุ่นใหม่อย่างหลิ่วเหยียน

แต่ตอนนี้จอมยุทธ์ไร้ชื่อตรงหน้าพวกเขากลับสู้กับหลิ่วเหยียนจนผืนฟ้าผืนดินมืดครึ้มไปหมด แม้เขาจะไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่ไม่ง่ายเลยที่เขาจะต้านทานไว้ได้นานขนาดนี้

ตู้ม!

เสาปีศาจฟาดใส่หอกเพลิง ตรงจุดปะทะเกิดรอยร้าวมากมายบนมิติ จากนั้นก็มีคลื่นระเบิดที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่ากระจายตัวออก

ทั้งสองถอยออกไป แต่เห็นชัดว่าหลิ่วเหยียนยังเป็นฝ่ายได้เปรียบจากกระบวนท่านี้ แต่ใบหน้าของหลิ่วเหยียนกลับดูน่าเกลียด เพราะเขาไม่ต้องการเป็นฝ่ายเหนือกว่าแค่กระผีกลิ้นเท่านี้

พลังร่างเทห์สวรรค์ของมู่เฉินเหนือความคาดหมายของเขาไปมาก

“ร่างเทห์สวรรค์ของเจ้านั่นไม่ธรรมดาเลย” สายตาของหลิ่วเหยียนเปลี่ยนไปเมื่อจ้องมู่เฉินด้วยสายตาเย็นเยือก เขานั่งบนศีรษะร่างมหาเพลิงนภา เริ่มวาดตราประทับวูบไหวด้วยมือทั้งสองข้าง

ฟู่วๆๆๆ!

ขณะที่ตราประทับของหลิ่วเหยียนเปลี่ยนไป เพลิงรอบร่างมหาเพลิงนภาก็ลุกโชน เปลวไฟหลากสีก็พวยพุ่ง สุดท้ายไปรวมตัวกันเหนือร่างหลิ่วเหยียน

ความร้อนไร้รูปร่างผันผวนไปในบริเวณนี้

เมื่อจอมยุทธ์คนอื่นๆ มองจากที่ไกลสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป เพราะพวกเขารู้สึกว่าคลื่นหลิงในร่างกายของตนเองกำลังเดือดพล่าน ทั้งยังแสดงสัญญาณเผาไหม้อีกด้วย

สีหน้าแต่ะคนเปลี่ยนแปรถอยหนีกันอย่างรวดเร็ว พวกเขารู้สึกได้ว่าหลิ่วเหยียนไม่ทนอีกต่อไปแล้ว การโรมรันพันตูแบบนี้กับมู่เฉินทำให้เขาหมดความอดทน

เขาตั้งใจจบศึกนี้แล้ว

มู่เฉินก็เงยหน้าขึ้น เพลิงงดงามสะท้อนในม่านตาสีดำขณะที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมมากขึ้น

“ไม่ว่าแกจะมีร่างเทห์สวรรค์อะไร ข้าก็จะเผาให้เป็นจุณเลย!”

หลิ่วเหยียนยิ้มน่าขนลุกให้มู่เฉินพลันตบมือ เพลิงงดงามนับไม่ถ้วนบนท้องฟ้ารวมตัวกัน ก่อตัวเป็นหม้อกลั่นขนาดใหญ่ที่มีขนาดหลายพันจั้ง

หม้อกลั่นนี้งดงามมาก ทว่าแผ่รังสีน่ากลัวออกมา

หลิ่วเหยียนมองมู่เฉินอย่างน่าขนลุก จากนั้นก็โบกมือ หม้อกลั่นหายไปทันที

ทันทีที่หม้อกลั่นหายไป มู่เฉินก็รู้สึกว่าท้องฟ้ารอบด้านมืดมนลง ทว่าไม่นานเขาก็ตระหนักได้ว่าไม่ใช่ท้องฟ้าที่มืด เป็นเพราะเขาถูกหม้อกลั่นครอบคลุมเอาไว้ต่างหาก

หลิ่วเหยียนมองมู่เฉินและร่างเทพสุริยะที่ถูกหม้อกลั่นครอบไว้ก็รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมบนมุมปาก จากนั้นมือทั้งคู่ประสานมือเข้าด้วยกัน ตะโกนเสียงเย็นดังก้องไปทั่วบริเวณ

“เตามหาเพลิง ขนนกโหมสวรรค์!”

ตู้ม!

ทันทีที่หลิ่วเหยียนตะโกนออกมา เพลิงหลากสีก็ลุกโชนในหม้อกลั่น พริบตาเดียวก็เปลี่ยนเป็นทะเลเพลิงมโหฬาร

เปลวไฟลุกโชนอยู่ในทะเลเพลิงก่อตัวเป็นหลุมวนขนาดใหญ่ เพลิงเจิดจ้าเปลี่ยนเป็นเส้นเพลิงเล็กๆ รวมตัวกัน เส้นเพลิงเล็กๆ เหล่านั้นคือแก่นของเปลวเพลิง เพียงเส้นเดียวก็สามารถเผาทั้งเทือกเขาให้มอดไหม้เป็นเถ้าถ่านได้

เส้นเพลิงเหล่านี้รวมตัวกันก่อร่างเป็นขนนกสายรุ้งขนาดหนึ่งจั้ง

ขนนกเต็มไปด้วยลวดลายเพลิงทุกชนิด ลอยตัวเงียบๆ บนอากาศ แม้จะดูอ่อนโยน แต่อุณหภูมิน่ากลัวที่แผ่ออกมาก็ทำให้เกิดรอยร้าวบนมิติ

พลังงานที่อยู่ในขนนกสายรุ้งนั่นทำให้แม้แต่ร่างกายของมู่เฉินที่เข้าสู่สภาวะฤทัยปีศาจยังเกร็งเครียด ชัดว่ารู้สึกได้ถึงอันตรายถึงชีวิตอย่างชัดเจน

หลิ่วเหยียนเป็นศู่ต่อสู้ที่โค่นยากจริงๆ

“ต่อไปข้าจะให้แกดูว่าข้าจะเผาร่างเทห์สวรรค์ของแกให้เป็นเถ้าถ่านได้ยังไง!”

มองภาพนี้แล้ว รอยยิ้มที่แขวนบนมุมปากของหลิ่วเหยียนก็ดูเหี้ยมเกรียมลงหลายส่วน

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset