หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 782

ตราประทับทองคำพันแสงสวรรค์

ในหม้อกลั่นเต็มไปด้วยเพลิงอันงดงาม

ทะเลเพลิงพุ่งพวย ทำให้อุณหภูมิภายในสูงจนถึงระดับที่น่ากลัว หากมู่เฉินไม่ได้เข้าสภาวะฤทัยปีศาจ เขาคงสูญเสียการควบคุมคลื่นหลิงไปแล้ว

ทว่าตอนนี้มู่เฉินไม่ได้สนใจกับอุณหภูมิโดยรอบ ความสนใจทั้งหมดอยู่ที่ขนนกแสนสวยที่ลอยขึ้นจากทะเลเพลิง

แม้ว่าขนนกนี้จะมีขนาดยาวจั้งเดียวพร้อมกับสีรุ้งทำให้ดูงดงาม แต่มู่เฉินก็รู้สึกถึงอันตรายที่อยู่ภายใต้ภาพลักษณ์อันงดงาม

ชัดว่าเขาบีบหลิ่วเหยียนให้ปล่อยกระบวนท่าไม้ตายออกมาแล้ว

ขนนกนี้มีพลังน่ากลัวที่สามารถสังหารจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นสี่ได้แน่นอน!

แสงเจิดจ้าเปล่งออกมาจากร่างเทพสุริยะอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องตัวเองจากอุณหภูมิน่ากลัวที่คอยกัดกร่อน มู่เฉินยืนอยู่บนศีรษะของร่างเทพสุริยะ ม่านตาสีดำลึกซึ้งวูบไหวเบาๆ ครู่ต่อมาเขาก็สูดอากาศร้อนผ่าวราวกับลาวา ใบหน้าหล่อเหลาดูเคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม

กระบวนท่านี้จากหลิ่วเหยียนอยู่เหนือความคาดหมายของมู่เฉิน ความคิดหลากหลายวาบขึ้นมาในใจไม่หยุด ทว่าเขาก็ตระหนักได้ว่าคลื่นหนึ่งตะวันของร่างเทพสุริยะยังไม่สามารถต้านทานได้

มู่เฉินขมวดคิ้ว อึดใจก็นั่งลงบนศีรษะร่างเทพสุริยะ เมื่อแสงสีทองพวยพุ่ง ร่างเขาก็จมลงไปในร่างเทพสุริยะอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อ กระแสพลังยิ่งใหญ่ไหลออกมา ภายในกระแสมีความผันผวนของคลื่นหลิงบริสุทธิ์อย่างยิ่งอยู่ นี่เป็นกระแสธารของของเหลวจื้อจุน

มู่เฉินจ้องมองกระแสธาร ของเหลวจื้อจุนในนั้นมีปริมาณราวสองแสนหยด ทั้งหมดนี่มั่นถัวหลัวมอบให้เขา ซึ่งได้ถูกนำออกมาใช้ในคราวนี้แล้ว

“เท่านี้ก็เพียงพอแล้วมั้ง?”

มู่เฉินมองกระแสคลื่นหลิง แม้เขาจะอยู่ในสภาวะฤทัยปีศาจ แต่มุมปากก็อดกระตุกไม่ได้ การเทของเหลวจื้อจุนทั้งหมดสองแสนหยดออกมาใช้จนเกลี้ยงเป็นเรื่องน่าปวดใจอย่างยิ่ง

แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถใส่ใจกับเรื่องนี้มากแล้ว

แสงหลิงวูบไหวในม่านตาสีดำของมู่เฉิน จากนั้นมือทั้งสองก็วาดตราประทับฉับพลัน ทันใดนั้นแสงสีทองเปล่งปลั่งก็กำจายออกมาจากหน้าอกของร่างเทพสุริยะ ซึ่งเหมือนจะมีเมล็ดสีทองปรากฏอยู่ภายใน

ด้วยการดีดนิ้วครั้งเดียว กระแสธารที่เกิดจากของเหลวจื้อจุนสองแสนหยดก็พุ่งออกไป ปะทะกับแสงสีทองอย่างไม่รู้จบ

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

ในแสงสีทอง เมล็ดสีทองก็ราวกับหลุมไร้ก้นดูดเอาของเหลวจื้อจุนลงไปจนหมด

เมื่อสายธารคลื่นหลิงถูกเทเข้าอย่างต่อเนื่อง เมล็ดสีทองก็ค่อยๆ สว่างขึ้นราวกับดวงอาทิตย์โชติช่วงซึ่งกำลังจะกะเทาะออกจากเปลือกในไม่ช้า

ขณะที่มู่เฉินซ่อนอยู่ในร่างเทพสุริยะ ขนนกเพลิงที่อยู่ภายนอกก็ควบแน่นจนถึงขีดสุด มองภาพนี้จากด้านนอกหม้อกลั่น หลิ่วเหยียนก็มีท่าทางผ่อนคลายลงพร้อมกับรอยยิ้มเย็นโค้งขึ้นที่มุมปาก

“แกคิดว่าซ่อนตัวอยู่ในร่างเทห์สวรรค์แล้วจะหนีพ้นได้เรอะ?” หลิ่วเหยียนเยาะเย้ย อึดใจก็เหยียดมือออกมาแล้วชี้ลงไปที่ท้องฟ้าเบาๆ

ด้านนอกภูเขากระดูกขาว เหล่าจอมยุทธ์มองภาพนี้ก็อดม่านตาหดเกร็งไม่ได้ เห็นชัดว่าพวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังงานน่ากลัวที่ก่อตัวอยู่ในหม้อกลั่น

ภายใต้พลังงานนั้น แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นสี่ก็คงหลบหนีได้ยาก

“บีบให้หลิ่วเหยียนใช้ทักษะเทห์สวรรค์ได้ มู่เฉินไม่ธรรมดาจริงๆ แต่การดวลนี้ก็คงถึงจุดจบแล้วแหละ” บางคนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมา ดูเหมือนพวกเขาจะเข้าใจดีว่ากระบวนท่าโจมตีนี้ของหลิ่วเหยียนน่ากลัวเพียงใด ว่ากันว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ เป็นเรื่องจริงที่มีจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นสี่กลายเป็นเถ้าถ่านภายใต้พลังโจมตีนี้ของหลิ่วเหยียน

คนจำนวนมากเห็นด้วยและรู้สึกเสียดายขึ้นมาในเวลาเดียวกัน มู่เฉินยังอายุน้อย แต่กลับมีความแข็งแกร่งที่น่าตกใจ หากเขามีเวลาฝึกยุทธ์นานกว่านี้อีกสองสามปี เขาคงจะเติบโตเป็นจอมยุทธ์ชั้นสูงแท้จริงในหมู่จอมยุทธ์รุ่นใหม่แห่งภูมิภาคทางเหนือ ในเวลานั้นเขาอาจมีพลังเพียงพอที่จะสู้กับฟังยี่อันดับหนึ่งของบันทึกมังกรหงส์เลยก็เป็นได้

แต่น่าเสียดายที่บนโลกนี้อัจฉริยชนมักตายได้ง่ายที่สุด

ฮึ่ม!

ขณะที่จอมยุทธ์ทุกคนรู้สึกสงสารกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น หม้อกลั่นก็ส่งเสียงฮึ่มฮั่มบนท้องฟ้า อุณหภูมิสูงที่ปล่อยออกมา ทำให้มิติบิดเบี้ยวจนจะแตกเป็นเสี่ยง

ทุกคนเห็นว่าขนนกงดงามลอยผ่านเบาๆ จากนั้นก็พุ่งไปหาร่างเทห์สวรรค์ที่แผ่แสงสีทองจ้าตาออกมา

มันช่างรวดเร็วอย่างยิ่ง จนสุดท้ายได้เปลี่ยนเป็นอุกกาบาตลุกโชติช่วง เมื่ออุกกาบาตพุ่งผ่าน มิติก็แตกเป็นเสี่ยง เกิดรอยร้าวมิติที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่ากระจายออกไป

แสงสีทองบนร่างเทพสุริยะมืดมนอย่างรวดเร็ว แม้แต่ร่างเปล่งประกายก็เริ่มแสดงสัญญาณหลอมเหลว

อุกกาบาตงดงามพุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็ว

ทว่าขณะที่อุกกาบาตกำลังจะตกลงมา ดวงตาที่ปิดสนิทของมู่เฉินในร่างเทพสุริยะก็ค่อยๆ ลืมขึ้นในตอนนี้

เปรียะ!

ทันทีที่เขาลืมตา รอยร้าวก็ปรากฏบนเมล็ดสีทองที่อยู่ตรงกลางอกของร่างเทพสุริยะ

ชี่! ชี่!

แสงสีทองพร่างพราวพุ่งออกจากรอยแตก จากนั้นเมล็ดก็ระเบิดตัวออก ทันใดนั้นแสงสีทองเจิดจ้าก็กระจายไปทั่วทั้งร่างเทพสุริยะ

ดวงตะวันสีทองสว่างโชติช่วงโชนขึ้นจากแผ่นอกของร่างเทพสุริยะ เวลาเดียวกันก็มีดวงตะวันอีกดวงพุ่งออกมาจากหว่างคิ้ว

ดวงตะวันสีทองโชติช่วงสองดวงลอยอยู่ในอากาศ แสงสีทองสุกใสแผ่ออกมา ทันใดนั้นสภาพร่างเทพสุริยะที่กำลังหลอมละลายก็หยุดลง นอกจากนี้ประกายทองคำยังเริ่มเข้มข้นขึ้น ราวกับมีเส้นใยแสงสีม่วงจางๆ เจืออยู่

ที่ด้านนอก สายตาของหลิ่วเหยียนที่มองสถานการณ์ในหม้อกลั่นอยู่ตลอดก็ชะงักค้างไป เห็นได้ว่าเขาสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างเทพสุริยะเช่นกัน

“คิดจะดิ้นรนสุดชีวิตเรอะ?”

หลิ่วเหยียนหัวเราะเยาะ เขาเห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างเทพสุริยะคือการหายใจเฮือกสุดท้าย ไม่ว่ามู่เฉินจะใช้วิธีใด ก็ไม่อาจหนีรอดจากความตายภายใต้การโจมตีเช่นนี้ของเขาได้หรอก

ในหม้อกลั่น มู่เฉินปรากฏตัวบนศีรษะของร่างเทพสุริยะอีกครั้ง เงยหน้าขึ้นมองอุกกาบาตที่พุ่งเข้ามา อุณหภูมิสูงทำลายล้างเป็นสิ่งที่แม้แต่มิติก็รองรับไม่ได้

แต่ครั้งนี้กลับไม่มีริ้วความกลัวบนใบหน้าของมู่เฉินอีก เขาประสานมือเข้าหากันอย่างช้าๆ พลางวาดตราประทับพร้อมกับเสียงพึมพำเปล่งจากปาก

“คลื่นเก้าตะวัน ตราประทับทองคำพันแสงสวรรค์!”

มือร่างเทพสุริยะวาดตราประทับฉับพลันในเวลานี้ ขณะที่แสงสีทองเปล่งปลั่งรวมตัวกัน ราวกับตราประทับแสงสีทองก่อตัวขึ้นภายใต้ฝ่ามือ ตราประทับแสงนั่นดูราวกับดวงตะวันทองคำสองดวงไขว้กัน ลวดลายโบราณลึกลับอยู่ภายใน ประหนึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ก่อตัวขึ้นจากการกำเนิดดวงตะวัน

ตราประทับทองคำพันแสงสวรรค์คือทักษะหนึ่งของคลื่นเก้าตะวัน แต่เงื่อนไขในการสร้างก็คือต้องมีพลังคลื่นสองตะวันเป็นอย่างน้อย ในอดีตมู่เฉินทำสิ่งนี้ไม่ได้ แต่ตอนนี้คลื่นเก้าตะวันของเขาพัฒนาการอีกครั้ง ทำให้สามารถสร้างออกมาได้ในที่สุด

“ตู้ม!”

ตราประทับแสงสีทองรวมตัวกันบนฝ่ามือร่างเทพสุริยะ ก่อนจะทะยานออกไปพร้อมกับแสงสีทองเจิดจ้าและมวลลมฝ่ามือ ปะทะกับอุกกาบาตเพลิงแบบไม่มีถอย

ทันทีที่ปะทะกัน ทุกสรรพเสียงบนโลกก็เหมือนนิ่งสนิทลง

ทว่าความเงียบคงอยู่เพียงชั่วขณะก่อนที่ทุกคนจะเห็นแสงสีทองระเบิดออกมาจากหม้อกลั่นในทุกทิศทาง

ทั้งบริเวณราวกับเจือด้วยแสงสีทอง

คลื่นระเบิดที่ไม่อาจบรรยายได้ผันผวนรุนแรง หม้อกลั่นก็สั่นสะเทือนเลื่อนลั่น ยากที่จะจินตนาการได้ว่าพลังงานน่ากลัวชนิดใดที่มันกำลังต้านไว้

เคร้ง! เคร้ง!

เสียงกัมปนาทดังอย่างต่อเนื่อง จากนั้นทุกคนที่มองภาพนี้ก็ดวงตาหดเกร็ง เพราะพวกเขาเห็นรอยร้าวปรากฏบนหม้อกลั่น

“หม้อกลั่นจะต้านไว้ไม่ไหวแล้ว!”

บางคนอุทานออกมาพร้อมกับถอยกรูดตอบสนอง

ตู้ม!

ชั่วขณะที่พวกเขาถอยหนี หม้อกลั่นก็ระเบิด แสงสีทองน่ากลัวแผ่กระจายออกมา พร้อมกับเพลิงสีทองงดงามตระการตา ทุกคนในรัศมีพันลี้ได้รับผลกระทบจากคลื่นระเบิดกันถ้วนทั่ว

พรูด!

จอมยุทธ์โดยรอบที่ตั้งใจจะหนีได้รับผลกระแทก แต่ละคนเลือดกระอักออกจากปาก ร่างกระเด็นใส่ยอดเขา ทำให้ยอดเขาทั้งยอดพังทลายจากแรงปะทะ

ทั่วบริเวณตกอยู่ในความโกลาหลโดยสิ้นเชิง

คลื่นระเบิดทำลายล้างคงอยู่ประมาณสิบกว่านาที ก่อนจะค่อยๆ สลายตัวไป ท่ามกลางซากยอดเขา ร่างสะบักสะบอมจำนวนมากก็ทะยานออกมา ดวงตาแต่ละคนมองภูเขากระดูกขาวด้วยความหวาดผวา

พวกเขาอยากรู้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายจากการดวลเดือดนี้

ขณะที่สายตาทุกคู่พุ่งตรงไปที่ภูเขากระดูกขาว ม่านตาของพวกเขาก็ต้องหดลงพลางสูดอากาศเย็นเข้าไปเต็มปอด

บนยอดเขาร่างเทห์สวรรค์สองร่างยืนประจันหน้ากัน ทว่าร่างใหญ่โตทั้งสองอยู่ในสภาพใกล้สลายตัว แสงหม่นลงจนถึงจุดที่จะสลายตัวไปได้ทุกเมื่อ บนศีรษะร่างจอมยุทธ์สองคนก็มีคลื่นหลิงรอบตัวอ่อนกำลังลงอย่างยิ่ง

พวกเขาแลกเปลี่ยนสายตากัน ใบหน้าก็แดงก่ำในเวลาเดียวกัน รอยเลือดไหลออกจากมุมปากก่อนที่จะถูกปาดทิ้งเบาๆ

ปัง!

ในที่สุดร่างเทห์สวรรค์ทั้งสองก็มาถึงขีดสุดระเบิดอนุภาคออก

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการปะทะน่าทึ่งนี้ คือจบลงด้วยบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย!

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset