หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 841 เซียวชิงหยุน

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 841 เซียวชิงหยุน

“วังสวรรค์บรรพกาล?!”

เมื่อคำนี้หลุดออกจากปากของจิ่วโยว ร่างของมู่เฉินก็สั่นสะท้านด้วยความตกตะลึงในดวงตาขณะที่มองร่างชุดเทา เขาไม่คิดเลยว่าบุคคลลึกลับตรงหน้าจะเป็นจอมยุทธ์จากวังสวรรค์บรรพกาลในตำนานลึกลับ!

หลังจากมาที่ทวีปเทียนหลัวเป็นปี นี่คือครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับบางคนจากวังลึกลับ มิหนำซ้ำยังแบบใกล้ชิดอีกด้วย!

“เขาเป็นคนจากวังสวรรค์บรรพกาลเหรอ? เจ้าดูผิดรึเปล่า?” ลูกกระเดือกมู่เฉินยกขึ้นลงขณะสายตาจ้องมองร่างชุดเทาพูดด้วยความไม่เชื่อ เห็นชัดว่าเขารู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าตนเองจะได้รับข้อมูลที่เขาเฝ้าฝันถึง หลังจากเข้ามาในสมรภูมิหยุ่นลั้วในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น

“ข้าดูไม่ผิดหรอก อักขระระหว่างคิ้วของเขาเป็นรูปแบบเฉพาะของวังสวรรค์บรรพกาล ซึ่งเกิดจากการฝีกทักษะเทพของวัง ไม่ใช่อักขระที่เกิดขึ้นจากภายนอกแน่นอน” จิ่วโยวเอ่ยเสียงหนักแน่นด้วยความมั่นใจ นางเป็นคนจากเผ่าวิหคโลกันตร์ ดังนั้นจึงรู้ความลับมากมายและมีความรู้บางอย่างเกี่ยวกับวังสวรรค์บรรพกาล

มู่เฉินถอนหายใจอย่างโล่งอก สายตาเขาจับจ้องร่างชุดเทา ตอนนี้แสงสีแดงดำกับแววตาดุร้ายหายไปหมดแล้ว ใบหน้าแห้งกรังก็ฉายสีหน้าอ่อนโยนออกมา

ปัง! ปัง!

เมื่อแสงสีแดงดำในดวงตาร่างชุดเทาหายจนหมด ป้ายวิญญาณรอบกายก็ระเบิดกลายเป็นประกายแสงก่อนจะอันตรธานหายไป

ขณะที่ประกายแสงเหล่านั้นหายไป ก็เหมือนจะเห็นร่างคนจำนวนมากเลือนราง ภาพลักษณ์ที่ปรากฏไม่ค่อยชัดเจน แต่ทุกคนหันมาโค้งคำนับให้มู่เฉิน ราวกับกำลังขอบคุณที่อีกฝ่ายฝังกระดูกให้พวกเขาได้นอนตายตาหลับ

เมื่อโค้งคำนับเรียบร้อย แต่ละร่างก็กลายเป็นประกายแสงลาลับจากโลกนี้ไปตลอดกาล

มู่เฉินถอนหายใจด้วยสีหน้าซับซ้อนพลางโค้งคำนับไปทางเหล่าร่างแสงที่หายไปเป็นการขอบคุณที่พวกเขาออกมาช่วยในตอนสุดท้าย แม้การจัดวางกระดูกให้ก่อนหน้าจะเป็นเพราะความสงสารและความเคารพเท่านั้น

“ดูเหมือนเจ้าจะช่วยเราไว้โดยบังเอิญล่ะ”

หลังจากรู้สิ่งที่มู่เฉินทำ จิ่วโยวก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและเอ่ยอย่างดีใจ “ต้องขอบคุณเจ้าที่รวบรวมกระดูกแตกหักของพวกเขา ทำให้ความปรารถนาสุดท้ายสัมฤทธิ์ผล ก่อนหน้านี้พวกเขาสัมผัสได้ถึงรัศมีปีศาจ ซึ่งไปปลุกปณิธานสุดท้าย พวกเขาจึงรวมตัวกันขับไล่รัศมีปีศาจออกไป”

มู่เฉินยิ้มขื่น เขาไม่คิดเหมือนกันว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น การกระทำธรรมดาของเขากลับสร้างผลไว้เบื้องหลัง หากไม่ใช่เพราะปณิธานของจอมยุทธ์ผู้ล่วงลับเหล่านี้ เขากับจิ่วโยวก็คงจะต้องหนีไปด้วยอาการบาดเจ็บหนัก

“ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง? ยังนับว่าเป็นคนมีชีวิตอยู่ไหม?” มู่เฉินมองร่างชุดเทาก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น หากชายคนนี้เป็นสมาชิกวังสวรรค์บรรพกาลจริงๆ เขาก็ต้องรู้ข้อมูลที่แน่ชัดของวัง

“ฮ่าๆ ข้าตายเป็นหมื่นปีแล้ว รัศมีปีศาจส่งผลกระทบกับข้าและผนึกจิตใต้สำนึกเอาไว้ แม้จะคงสภาพร่างกายได้แต่ก็เป็นแค่เปลือก ตอนนี้รัศมีปีศาจถูกกำจัดแล้ว ร่างของข้าก็คงจะสลายกลายเป็นเถ้าถ่านในเร็วๆนี้” จู่ๆ เสียงแหบพร่าก็ดังขึ้น ฟังราวกับภาระใหญ่หลวงได้ถูกปลดเปลื้องลงแล้ว

มู่เฉินกับจิ่วโยวผงะไปจากนั้นก็พบว่าดวงตาของร่างชุดเทาวูบไหวด้วยประกายมีชีวิตชีวาอีกครั้ง แต่ใครๆ ก็บอกได้ว่านี่เป็นแสงสุดท้ายก่อนจะลาลับไป

ร่างชุดเทาคืนสติในตอนนี้พลางมองทั้งสองจากนั้นก็โค้งคำนับต่ำ “ต้องขอบคุณพวกเจ้ามากที่ปลดปล่อยข้าจากความเจ็บปวดของรัศมีปีศาจ”

มู่เฉินกับจิ่วโยวรีบคำนับตอบ “ผู้อาวุโสใจเกรงใจไปแล้ว ท่านสสละชีพเพื่อมหาพันภพ ในฐานะคนรุ่นหลัง เราเป็นหนี้บุญคุณพวกท่าน เป็นธรรมดาที่เราจะทำเช่นนี้”

ร่างชุดเทายิ้มอ่อนโยนขณะมองทั้งสอง “ร่างกายของข้าอยู่ได้อีกไม่นาน คงไม่สามารถตอบแทนบุญคุณได้ ถ้าพวกเจ้ามีคำถามอะไรก็ถามมาเถิด ข้าจะตอบอย่างสุดความสามารถ”

เขามองออกว่ามู่เฉินกับจิ่วโยวเหมือนจะสนใจในตัวตนของเขาจากการเป็นสมาชิกวังสวรรค์บรรพกาลมากเลยทีเดียว

เมื่อได้ยินคำพูดเปิดทาง มู่เฉินก็ยินดีพลางประสานมือคำนับ “ผู้อาวุโส ท่านเป็นคนจากวังสวรรค์บรรพกาลใช่ไหมขอรับ?”

“ข้าเป็นศิษย์เอกของจอมพลหอสี่แห่งวังสวรรค์บรรพกาล—เซียวชิงหยุน” ร่างชุดเทายิ้มบาง เมื่อเขาพูดถึงวังสวรรค์บรรพกาล ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความทระนงและภาคภูมิอย่างยิ่งกับตัวตนที่เป็นอยู่

“จอมพลหอสี่?” มู่เฉินกับจิ่วโยวมองหน้ากัน ชัดว่าไม่คุ้นกับเรื่องเหล่านี้นัก

“ในอดีตนั้นวังสวรรค์บรรพกาลมีหอฟ้าเจ็ดแห่งและมีจอมพลในแต่ละหอโดยมีเจ้าวังอยู่เหนือพวกเขาเท่านั้น”

พอเห็นความสงสัยบนใบหน้าของทั้งคู่ เซียวชิงหยุนก็ขมวดคิ้วพร้อมกับความร้อนใจวาบในดวงตาจากนั้นก็เอ่ยภามเสียงเบาอย่างลังเล “ไม่รู้ว่ามหาพันภพในปัจจุบันวังสวรรค์บรรพกาลของข้า…”

มู่เฉินยิ้มขมขื่น “ผู้อาวุโสปัจจุบันไม่มีวังสวรรค์บรรพกาลในมหาพันภพแล้วขอรับ”

เซียวชิงหยุนมีสีหน้าชะงักไปแล้วเงียบไปครู่ใหญ่ ดูราวกับว่าพลังชีพหายไปอีกส่วนพร้อมกับเอ่ยรำพึง “แม้แต่วังสวรรค์บรรพกาลของข้าก็ไม่รอดพ้นจากหายนะครั้งนั้นสินะ…”

“ผู้อาวุโสว่ากันว่าวังสวรรค์บรรพกาลซ่อนตัวอยู่ในมิติของทวีปเทียนหลัว จอมยุทธ์ทั่วไปไม่สามารถหาพบ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้าต้องการในวังสวรรค์บรรพกาล ข้าอยากเข้าไปในนั้น ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสจะพอช่วยเหลือข้าในเรื่องนี้ได้หรือไม่?” มู่เฉินเอ่ยถามอย่างระมัดระวังขณะมองเซียวชิงหยุนด้วยดวงตาฉายแววคาดหวัง

เซียวชิงหยุนชะงักไปก่อนจะเผยรอยยิ้มขื่น “ข้าขอโทษด้วย คนที่สามารถซ่อนวังสวรรค์บรรพกาลเอาไว้มีเพียงเจ้าวังเท่านั้น ความสามารถของเขาอยู่เหนือฟ้า ถ้าเขาต้องการจะซ่อน แม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะหาวังสวรรค์บรรพกาลได้ที่ไหน”

ครั้นได้ยินคำพูดนี่ หัวใจของมู่เฉินก็เย็นวาบ ตอนแรกเขาคิดว่าเซียวชิงหยุนจะสามารถให้ข้อมูลบางอย่างกับเขาได้ แต่ใครจะคิดว่าเซียวชิงหยุนจะมีความรู้เรื่องนี้น้อยกว่าเขาเสียอีก

พอเห็นสีหน้าของมู่เฉิน เซียวชิงหยุนก็กระอักกระอ่วนใจพลางกระแอมไอ “แต่เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ไป แม้ข้าจะไม่รู้ว่าวังสวรรค์บรรพกาลอยู่ที่ไหน แต่ข้าเชื่อว่าอาจารย์ของข้า ท่านจอมพลสี่จะต้องรู้แน่”

“จอมพลสี่?” มู่เฉินรู้สึกปวดหัวจี้ด คนโบราณรุ่นนั้นตายไปนานแล้ว แทนที่จะไปค้นหาเขา ไปตามหาวังสวรรค์บรรพกาลซะเลยยังดีกว่า

“อาจารย์ข้าสิ้นชีพในสมรภูมิหยุ่นลั้วเช่นกัน ด้วยความสามารถของเขาก็น่าจะคงปณิธานสุดท้ายไว้ได้แม้จะตายแล้ว หากพวกเจ้าหาเขาพบ ก็น่าจะได้รับข่าวเกี่ยวกับวังสวรรค์บรรพกาล”เซียวชิงหยุนเอ่ยพลางถอนหายใจเบา

มู่เฉินอึ้งไปขณะแลกเปลี่ยนสายตากับจิ่วโยว จอมพลสี่แห่งวังสวรรค์บรรพกาลคงจะเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุน นั่นหมายความว่าปณิธานของเขาต้องอยู่ที่หนึ่งในขุมทรัพย์ตี้จื้อจุนแน่นอน แต่กระทั่งมั่นถัวหลัวยังไม่มั่นใจว่าจะหาขุมทรัพย์ตี้จื้อจุนที่ถูกผนึกไว้ในค่ายกลของสถานที่แห่งนี้เจอ แล้วพวกเขาจะทำสำเร็จด้วยพลังที่มีได้อย่างไร

เซียวชิงหยุนยิ้มให้ทั้งสองขณะล้วงหน้าอกหยิบเข็มทิศดำที่มีอักขระแสงลึกลับออกมา

“แม้ว่าข้าจะเป็นผีดิบมาเนิ่นนาน แต่ข้าก็ยังรับรู้ความเปลี่ยนแปลงในสมรภูมิแห่งนี้ได้ เข็มทิศค้นวิญญาณนี้เป็นวัตถุของวังสวรรค์บรรพกาล มันสามารถค้นหาพลังงานลึกลับในสมรภูมินี้ได้ เพราะเดิมทีวัตถุนี้เป็นของจอมพล มิหนำซ้ำยังมีผนึกที่เขาทิ้งไว้ ดังนั้นเมื่อพวกเจ้าเข้าใกล้สุสานของจอมพล เข็มทิศนี้ก็จะนำทางให้พวกเจ้าเอง”

ดวงตาของมู่เฉินพราวระยับขณะที่รับเข็มทิศสีดำด้วยหัวใจที่เต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้ นั่นเพราะเขารู้ว่าพลังงานลึกลับที่เซียวชิงหยุนบอกคืออะไร นั่นก็คือไอหยุ่นลั้วที่พวกเขาต้องการมากที่สุดนั่นเอง!

นั่นหมายความว่าด้วยเข็มทิศนี้ พวกเขาก็จะระบุที่ตั้งของซากอารยธรรมโบราณได้ สำหรับพวกเขาที่ต้องเก็บรวบรวมไอหยุ่นลั้วมากลั่นเม็ดยา สิ่งนี้จะช่วยเหลือพวกเขาได้อย่างมาก

ยิ่งกว่านั้นเข็มทิศนี้ยังช่วยให้พวกเขาระบุพื้นที่สิ้นชีพของจอมพลสี่แห่งวังสวรรค์บรรพกาลได้ ที่นั่นจะต้องเป็นขุมทรัพย์ตี้จื้อจุนแท้จริง หากพวกเขาหาเจอ อาณาเขตกงเวทสวรรค์ของพวกเขาก็จะเจอเป็นกลุ่มแรก!

มู่เฉินกับจิ่วโยวมองหน้ากันด้วยริ้วความปีติยินดีในดวงตา เซียวชิงหยุนให้ของขวัญล้ำค่ากับพวกเขาชัดๆ!

“นี่คือความช่วยเหลือสุดท้ายที่ข้าจะมอบให้พวกเจ้าได้” เซียวชิงหยุนยิ้มให้ทั้งสองขณะที่ร่างเขาค่อยๆ กำจายแสงออกมาและเริ่มสลายลง เห็นชัดว่าเขามาถึงเวลาจากลาแล้ว

มู่เฉินกับจิ่วโยวมีสีหน้าเคร่งขรึมลงพร้อมกับโค้งคำนับเซียวชิงหยุน ต่อหน้าจอมยุทธ์ที่สละชีวิตเพื่อปกป้องมหาพันภพแล้ว พวกเขารู้สึกเคารพอีกฝ่ายจากส่วนลึกของหัวใจ

“ก่อนที่จิตสำนึกของข้าจะสลายหายไป ให้ร่างข้าได้ใช้พลังสุดท้ายด้วยเถอะ”

เซียวชิงหยุนยิ้มบางขณะไอหยุ่นลั้วไร้ขอบเขตไหลบ่าออกจากร่างเขาทุกทิศทาง ก่อนจะรวมตัวกลั่นเป็นยาหยุ่นลั้วแล้วร่วงลง ช่างดูราวกับสายธารไหลเวียนรอบตัวมู่เฉินกับจิ่วโยว

มู่เฉินกับจิ่วโยวตะลึงไปเมื่อมองสายธารนี้ มองผ่านๆ ยาหยุนลั้วในนี้มีมากกว่าสองร้อยเม็ดเลยทีเดียว มากกว่าเม็ดยาที่ได้จากซากอารยธรรมโบราณระดับสามที่นี่ทั้งหมดเสียอีก

เมื่อไอหยุ่นลั้วสายสุดท้ายเปลี่ยนเป็นยาหยุ่นลั้ว ร่างเซียวชิงหยุนก็กลายเป็นแสงจางหายไป มีเพียงเสียงเบาใจดังก้องโสตประสาทของมู่เฉินกับจิ่วโยวเป็นเวลานาน

“ขอบใจพวกเจ้ามากที่ทำให้ข้าได้จิตสำนึกกลับคืนมาในช่วงสุดท้าย แต่สวรรค์และโลกยังเปลี่ยนแปร หายนะครั้งใหญ่ยังไม่สิ้นสุด ในอนาคตคงถึงคราวของพวกเจ้าที่จะปกป้องโลกนี้”

“หวังว่าโลกเราจะอยู่ไปจนชั่วกัปชั่วกัลป์”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset