หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 842 ขอความช่วยเหลือ

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 842 ขอความช่วยเหลือ

ในซากอารยธรรมโบราณเงียบสงบ

ขณะที่เสียงของเซียวชิงหยุนสะท้อนก้องอยู่เป็นเวลานาน ร่างกายก็สลายหายไปจนหมดสิ้น มีเพียงยาหยุ่นลั้วที่วนเวียนอยู่รอบร่างมู่เฉินและจิ่วโยว แสดงให้เห็นว่าเขาเคยอยู่ที่นี่มาก่อน

ศิษย์เอกของจอมพลสี่แห่งวังสวรรค์บรรพกาลได้จากโลกนี้ไปตลอดกาล

มู่เฉินมองไปตรงจุดที่เซียวชิงหยุนหายไปก็รู้สึกสงสารเล็กน้อย จากข้อมูลที่ได้จากอีกฝ่าย เขาบอกได้เลยว่าวังสวรรค์บรรพกาลยิ่งใหญ่เกรียงไกรขนาดไหน จอมพลทั้งเจ็ดจะต้องเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุน ส่วนเจ้าวังก็ต้องเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนอย่างแน่นอน

ทว่าแม้แต่พลังอันน่าสะพรึงดังกล่าวก็สูญสลายลง ดังนั้นจึงสามารถบอกได้ว่าการบุกรุกของปีศาจต่างมิติน่ากลัวเพียงใด

สงครามที่ส่งผลกระทบต่อทุกระนาบมิติ เป็นสิ่งที่มู่เฉินในตอนนี้ยังไม่สามารถจินตนาการได้

จิ่วโยวยืนอยู่ด้านข้างก็คลี่ยิ้มบางเมื่อเห็นบรรยากาศอึมครึม “อย่าเพิ่งคิดมากไป แม้พวกปีศาจต่างมิติจะแข็งแกร่ง แต่มหาพันภพของเราก็ไม่ได้อ่อนแอ ยอดจอมยุทธ์ต่างตื่นระวังอย่างมากต่อพวกมัน”

มู่เฉินพยักหน้าเห็นด้วย นี่เป็นความกลัวที่ไร้เหตุผลสำหรับเขาที่จะคิดไกลเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยขุมพลังที่มีในปัจจุบัน

“ไปกันเถอะ ไม่มีไอหยุ่นลั้วในซากอารยธรรมระดับสามแห่งนี้แล้ว”

จิ่วโยวสะบัดมือเก็บยาหยุ่นลั้วทั้งหมดไป รอยยิ้มหวานกระจายเต็มใบหน้า “คิดรวมทั้งหมดตอนนี้เรามีเม็ดยาสามร้อยกว่าเม็ด ซึ่งเป็นการเก็บเกี่ยวไกลกว่าซากอารยธรรมระดับสามทั่วไป”

มู่เฉินพยักหน้า โดยทั่วไปยาหยุ่นลั้วที่กลั่นได้จากซากอารยธรรมระดับสามจะมีประมาณร้อยเม็ด แต่พวกเขาโชคที่ได้พบกับเซียวชิงหยุนที่มีร่างกายได้รับเชื้อปีศาจต่างมิติ เขาเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าตอนที่มีชีวิตอยู่ แม้พลังจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่ไอหยุ่นลั้วในร่างกายก็ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เมื่อเทียบกับจอมยุทธ์คนอื่นที่สิ้นชีพในซากอารยธรรมแห่งนี้

แน่นอนว่ายาหยุ่นลั้วปริมาณเท่านี้ไม่ได้น่าตื่นเต้นดีใจเมื่อเทียบเข็มทิศค้นวิญญาณ

มู่เฉินยิ้ม ดวงตาหรี่แคบลง ขณะโยนเข็มทิศสีดำขึ้นลง ตราบใดที่พวกเขามีเข็มทิศนี้ พวกเขาก็จะได้เปรียบในการค้นหาซากอารยธรรม ในการแย่งชิงเม็ดยาหยุ่นลั้ว นี่เปรียบได้กับวัตถุเทพเลยทีเดียว

“ไปเถอะ”

ทั้งสองกวาดมองไปรอบซากอารยธรรมที่ยับเยินไม่มีชิ้นดี จากนั้นก็ไม่ลังเลที่จะอยู่ต่อ พวกเขาทะยานเปลี่ยนเป็นลำแสงออกจากบึงน้ำนี้ไป

ที่ด้านนอกหน่วยรบวิหคโลกันตร์ราวกับคลื่นยักษ์กระจายตัวออกไป พวกเขาเฝ้ามองสภาพแวดล้อมโดยรอบด้วยความระมัดระวัง ในมือกำอาวุธเอาไว้แน่น ร่างกายเหยียดเกร็งราวกับเสือชีตาร์

แม้แต่บนภูเขาที่ไกลออกไปก็ยังมีนักรบวิหคโลกันตร์อยู่ ชัดเจนว่าพวกเขากำลังปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่แห่งนี้ เพื่อป้องกันสถานการณ์ไม่คาดฝันที่อาจไปรบกวนมู่เฉินและจิ่วโยวได้

ฟิ้ว!

ลำแสงสองสายทะยานออกมาจากบึงน้ำ จากนั้นก็ปรากฏตัวบนอากาศ แววปีติยินดีฉายบนใบหน้าเหล่านักรบพวกเขารีบโค้งคำนับ

“มีใครเข้ามาใกล้ไหม?” มู่เฉินมองไปที่ชิวซัน ชายผู้นี้เป็นนักรบชั้นยอด ในหนึ่งปีนี้ด้วยความช่วยเหลือของทรัพยากรมหาศาลของหอวิหคโลกันตร์ พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ยามนี้เขามีขุมพลังจื้อจุนขั้นสองได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยรบวิหคโลกันตร์พร้อมกับจอมยุทธ์ชั้นสูงอีกสามคนเพื่อฝึกฝนหน่วยรบให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ร่างหอคอยเหล็กของชิวซันประสานกำปั้นทันที “รายงานท่านแม่ทัพ ก่อนหน้านี้มีกองทัพอื่นๆ ที่พยายามจะเข้าใกล้ แต่ถูกไล่ไปโดยพวกเราแล้วขอรับ”

มู่เฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แม้ว่าเขากับจิ่วโยวจะไม่ได้อยู่ด้วย แต่หน่วยรบวิหคโลกันตร์ก็แข็งแกร่งกว่าตอนที่เขาเพิ่งเข้าร่วมมาก ดังนั้นพวกกองทัพทั่วไปจึงไม่กล้าท้าทายอะไรพวกเขา

“ท่านผู้บัญชาการ ท่านแม่ทัพ เราจะไปไหนกันต่อหรือ?” ชิวซันมองมู่เฉินและจิ่วโยวด้วยไฟแห่งการต่อสู้พล่านในดวงตา ในช่วงปีที่ผ่านมาพวกเขาได้รับทรัพยากรมากมายจากหอวิหคโลกันตร์ ซึ่งช่วยเพิ่มพูนพลังขึ้นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เขาก็ทราบถึงสำนวนที่ว่าเลี้ยงดูทหารพันวันเพื่อใช้งานวันเดียว ยิ่งตอนนี้ในสงครามล่าก็เป็นช่วงเวลาที่พวกเขาจะแสดงพลังให้เป็นที่ประจักษ์

พวกเขาอยากบอกให้มู่เฉินและจิ่วโยวรู้ว่าทรัพยากรที่มอบให้ ไม่สูญเปล่าอย่างแน่นอน

มู่เฉินยิ้ม แผนที่ที่มั่นถัวหลัวมอบให้พวกเขาคงใช้ได้ถึงแค่สถานที่แห่งนี้ หากตามแผนเดิมพวกเขาก็จะคล้ายแมลงวันไร้หัวที่บินไปรอบๆ แล้วดูว่าจะมีดวงพอหาซากอารยธรรมโบราณแห่งอื่นพบหรือไม่ แต่โชคดีที่ตอนนี้พวกเขาสามารถเปลี่ยนทุกอย่างแล้ว

“ถึงเวลาทดสอบประสิทธิภาพวัตถุนี้แล้ว” มู่เฉินยิ้มตาหยีขณะหยิบเข็มทิศค้นวิญญาณสีดำออกมา ก่อนที่จะส่งคลื่นหลิงของตนลงไป ทันใดนั้นอักขระโบราณซับซ้อนก็ปรากฏขึ้นที่ด้านบนพื้นผิวของเข็มทิศ จากนั้นแสงก็กำจายออก ซึ่งดูเหมือนจะเป็นหน้าจอแสงพร้อมด้วยเส้นที่แสดงถึงภูมิประเทศกระจายออกไปอย่างต่อเนื่อง

มู่เฉินและจิ่วโยวจ้องมองเข็มทิศอย่างกังวล วัตถุนี้อยู่กับเซียวชิงหยุนตั้งแต่หมื่นปีก่อน ไม่มีใครรู้ว่ายังใช้ได้หรือไม่ หากมันได้รับความเสียหาย ความยินดีของพวกเขาสลายเป็นอากาศธาตุแน่

เมื่อพวกชิวซันเห็นท่าทางของเจ้านายก็งงงันไป ขณะที่แลกเปลี่ยนสายตากัน

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ทว่าวงแสงของเข็มทิศก็ยังกระจายออกไปไม่หยุด ไม่มีปรากฏการณ์ใดๆ ซึ่งนี่ทำให้มู่เฉินและจิ่วโยวมีสีหน้าดิ่งลง

ทว่าขณะที่พวกเขากำลังเริ่มผิดหวัง เข็มทิศสีดำก็สั่นสะเทือน จุดสีแดงปรากฏขึ้นบนหน้าจอแล้วกะพริบวิบวับไม่หยุด

“มีอะไรบางอย่าง!” ทันใดนั้นดวงตามู่เฉินก็เป็นประกาย

ทันทีที่เสียงของมู่เฉินดังขึ้น จุดอีกจุดก็ปรากฏห่างออกไปจากจุดสีแดงก่อนหน้า ยิ่งกว่านั้นความหนาแน่นของแสงก็เข้มข้นกว่าอีกด้วย

เวลาเพียงไม่กี่วินาที เข็มทิศนี้ก็ค้นพบซากอารยธรรมสองแห่งที่เปี่ยมไปด้วยไอหยุ่นลั้ว

ถ้ากองทัพอื่นรู้ถึงความรวดเร็วในการสำรวจเช่นนี้ละก็ ดวงตาของพวกเขาคงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำไปเลยก็ได้ เมื่อมีวัตถุเทพนี้ช่วยในการค้นหา งานกลั่นเม็ดยาหยุ่นลั้วก็ง่ายลงทันตาราวกับเอื้อมมือคว้าเลยทีเดียว

“ไป!”

มู่เฉินและจิ่วโยวเผยสีหน้าอัดแน่นด้วยความประหลาดใจแฝงความยินดี พวกเขาไม่มีความลังเล เคลื่อนหน่วยรบวิหคโลกันตร์ออกจากบึงน้ำไปยังตำแหน่งที่เข็มทิศปักเครื่องหมายเอาไว้

ระหว่างทางกองทัพอื่นๆ ก็หลบหลีกอย่างระวังเมื่อเห็นขบวนของหน่วยรบวิหคโลกันตร์ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถูกขู่ขวัญจากไฟต่อสู้เชี่ยวกรากที่ปลดปล่อยออกมาจากหน่วยรบวิหคโลกันตร์

ส่วนกองทัพที่แข็งแกร่งพอตัวก็ยังไม่อยากปะทะกับหน่วยรบวิหคโลกันตร์ในเวลานี้ ดังนั้นจึงเลือกที่จะล่าถอย เพราะแม้ว่าหน่วยรบวิหคโลกันตร์จะไม่น่าเกรงกลัวอะไรมาก แต่อาณาเขตกงเวทสวรรค์ที่หนุนหลังอยู่ก็เป็นสำนักที่ทรงพลังอย่างแท้จริง ทำให้ขั้วอำนาจต่างๆ ต้องหวาดเกรงในใจ

ด้วยเหตุผลหลายประการ ทำให้การเดินทางของพวกมู่เฉินราบรื่นนัก แม้ว่าจะถูกขัดขาบ้างบางครั้ง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนพลของพวกเขามากนัก

ดังนั้นพวกเขาจึงมาถึงจุดแรกที่ปักไว้บนเข็มทิศในสี่ชั่วโมงต่อมา

ทว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ก็คือซากอารยธรรมแห่งนี้ไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับก่อนหน้า ไม่ได้จัดอยู่ในซากอารยธรรมระดับสามด้วยซ้ำ

ทว่าแม้จะผิดหวัง แต่เนื้อยุงก็ยังเรียกว่าเนื้อ นี่ก็ดีกว่าการค้นหาแบบมั่วซั่วและคว้าอะไรไม่ได้เลย ดังนั้นด้วยความคิดนี้กลุ่มของมู่เฉินก็กวาดซากอารยธรรมเสียเหี้ยนเต้แล้วกลั่นเม็ดยาหยุ่นลั้วออกมาได้ห้าสิบกว่าเม็ด

หลังจากค้นทุกซอกทุกมุม พวกเขาก็ไม่ได้หยุดเดินทางตรงไปยังจุดสีแดงที่สองทันที แล้วซากอารยธรรมแห่งนี้ก็ไม่ได้ทำให้มู่เฉินผิดหวังเนื่องจากไอหยุ่นลั้วอยู่ในระดับสาม

แต่ขณะที่ยึดซากอารยธรรมระดับสามนี้ ในที่สุดมู่เฉินก็ได้เจอพวกขวางทางที่ชื่อว่าสำนักสงครามสำริดโลหิต พวกเขาถือได้ว่าเป็นกองทัพที่มีคุณภาพค่อนข้างสูง มิหนำซ้ำยังคลั่งการต่อสู้มาก ดังนั้นพวกเขาจึงชื่นชอบการสู้รบมาก ถือเป็นสำนักที่ทำให้หลายขั้วอำนาจในภูมิภาคทางเหนือขยาดกลัว

ดังนั้นเมื่อกลุ่มของมู่เฉินประจันหน้ากับกองทัพสำริดโลหิต พวกเขาก็รู้ทันทีว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้ แต่ขณะที่มู่เฉินกำลังจะเร้าวิญญาณสงครามออกมาเตรียมพร้อมสู้ แม่ทัพกองทัพสำริดโลหิตก็ออกคำสั่งให้ถอยทัพทันที ขณะที่ล่าถอยยังได้ยินเสียงสบถด่าเป็นระยะ

“บ้าเอ๊ย มันเป็นสัตว์ประหลาดที่ชำระวิญญาณสงครามได้…”

เมื่อมู่เฉินได้ยินเสียงสบถจากระยะไกล แล้วมองกองทัพสำริดโลหิตที่ถอยออกไปก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ทว่าก็ดีที่ได้หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าตรงๆ กับศัตรู แต่จากการแสดงออกของกองทัพสำริดโลหิต พวกเขาไม่ได้คลั่งไคล้การรบตามข่าวลือเลย ดังนั้นพวกเขาจึงยังถอยกลับอย่างมีเหตุผล หลังจากรู้ว่าต้องจ่ายราคามหาศาลเพียงใดถ้าคิดจะสู้

ด้วยการล่าถอยของกองทัพสำริดโลหิต ซากอารยธรรมแห่งนี้ก็ตกอยู่ในมือพวกเขา

ซากอารยธรรมระดับสามแห่งนี้สามารถกลั่นเม็ดยาได้สองร้อยเม็ด เมื่อมารวมกันพวกเขาก็รวบรวมเม็ดยาได้ถึงหกร้อยเม็ดแล้ว

ความสำเร็จดังกล่าวถือว่าโดดเด่นมากตามที่จิ่วโยวพูด เพราะเป็นเรื่องยากที่จะสามารถพบซากอารยธรรมระดับสามในเวลาติดๆ กันเช่นนี้ เว้นแต่ว่ากองทัพอื่นๆ ก็มีวิธีที่จะค้นหาไอหยุ่นลั้วเช่นกัน

ฟิ้ว!

หลังจากกวาดซากอารยธรรมแห่งนี้จนหมด มู่เฉินและจิ่วโยวก็ให้หน่วยรบวิหคโลกันตร์หยุดพักชั่วครู่ ขณะที่ทั้งสองหยิบเข็มทิศออกมาเพื่อค้นหาสถานที่ต่อไป

แต่ขณะที่ทั้งสองตั้งใจจะค้นหาที่ตั้งซากอารยธรรมอื่นๆ ปฏิกิริยาของจิ่วโยวกับมู่เฉินก็เปลี่ยนไปทันที กระจกหัวใจเชื่อมโยงก็ปรากฏขึ้นในมือ นี่เป็นวัตถุที่มั่นถัวหลัวให้ผู้บัญชาการทั้งสิบก่อนที่สงครามล่าจะเริ่มขึ้น

ยามนี้มีแสงสีแดงกะพริบวูบวาบบนกระจก ซึ่งเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือ!

เมื่อเห็นแสงนี้ ใบหน้าของมู่เฉินกับจิ่วโยวก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดอย่างยิ่ง

ผู้บัญชาการของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ถึงกับตกอยู่ในอันตรายจนต้องส่งสัญญาณช่วยเหลือออกมา

สงครามล่าอันตรายอย่างแท้จริง!

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset