หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 862 ซากอารยธรรมความตาย

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 862 ซากอารยธรรมความตาย

มู่เฉินใช้เวลาสองวัน

ในการช่วยเหลือทั้งสามหน่วยรบสร้างวิญญาณสงครามจำลอง ราคาที่เขาต้องจ่ายออกไปคือตกอยู่ในสภาวะอ่อนเพลียตลอดหนึ่งวันเต็ม

การกลั่นวิญญาณสงครามไม่ได้สูญเสียคลื่นหลิง แต่เป็นความเหนื่อยล้าในจิตใจ การควบคุมกระแสจิตของนักรบหลายหมื่นคนมีเงื่อนไขสูงมาก นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจอมยุทธ์ทรงพลังมากมายไม่ใช่ทุกคนที่สามารถสั่งการรัศมีจั้นยี่ได้

การเชื่อมโยงรัศมีจั้นยี่ของสี่หน่วยรบและทิ้งรอยประทับไว้ในใจนักรบทุกคนเป็นอะไรที่ยากเย็น ดังนั้นเมื่อมู่เฉินทำภารกิจนี้เสร็จสิ้น เขาก็หมดแรงไปทั้งวัน ก่อนที่จะค่อยๆ ฟื้นฟูพลังกลับมา

วันถัดมา

หลังจากมู่เฉินฟื้นตัว ผู้บัญชาการทั้งสี่ก็เข้ามากล่าวขอบคุณเป็นเวลาแรก ท่าทางเกรงใจนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นั่นเป็นเพราะตอนที่มู่เฉินพักเอาแรง พวกเขาได้ทำการทดสอบวิญญาณสงครามจำลอง แม้ว่าจะไม่สามารถเทียบกับของจริงได้ แต่ก็ทำให้พลังของหน่วยรบเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน

ดังนั้นหลังจากที่พวกเขาได้ลิ้มรสความหอมหวานนี้ พวกเขาก็ตระหนักถึงความสำคัญของมู่เฉิน นี่จึงเป็นเหตุที่ต้องมาตีสนิท มิฉะนั้นหลังจากที่รอยประทับหายไป หน่วยรบของพวกเขาก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม

เมื่อจิ่วโยวเห็นท่าทางของพวกที่มีต่อมู่เฉิน นางก็อดหัวเราะและตัดพ้อไม่ได้ เมื่อก่อนตอนที่นางขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการอาณาเขตกงเวทสวรรค์ แม้ผู้บัญชาการเหล่านี้จะไม่ได้เล็งหาเรื่องนางเหมือนเสี่ยยิง แต่พวกเขาก็รู้สึกดูถูกในใจ เพราะไม่ว่าจะในเรื่องอายุ ความแข็งแกร่งหรือประสบการณ์ นางก็ยังยากที่จะมีคุณสมบัติขึ้นเป็นผู้บัญชาการ

ตอนนี้จิ่วโยวเทียบไม่ได้กับอดีต ความแข็งแกร่งของนางเทียบเท่ากับผู้บัญชาการคนอื่นแล้ว แต่นางก็ยังรู้ชัดว่านี่ทำให้เหล่าผู้บัญชาการไม่ดูถูกนางอีกเท่านั้น ซึ่งยังยากที่จะทำให้พวกเขามีมารยาทกับนาง

แต่ตอนนี้แม้แต่จอมยุทธ์ที่เย่อหยิ่งแบบเลี่ยซันยังมีมารยาทกับหน่วยรบวิหคโลกันตร์และไม่มีท่าทางกระด้างกระเดื่องอีกแล้ว การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้มาจากมู่เฉิน

บางทีเขาไม่ได้มีพลังที่น่าอัศจรรย์ แต่เขาพึ่งพาวิธีการของตัวเอง ทำให้จอมยุทธ์เก่งกล้าอย่างเลี่ยซันเป็นฝ่ายเริ่มที่อยากจะผูกมิตรก่อน

“พวกเจ้าไม่ต้องมากมารยาทหรอก เราเป็นสมาชิกของอาณาเขตกงเวทสวรรค์เหมือนกัน ดังนั้นก็ต้องช่วยเหลือกันในสงครามล่าเช่นนี้อยู่แล้ว” เหล่าผู้บัญชาการทั้งสี่มีมารยาทมา มู่เฉินก็ตอบกลับด้วยความสุภาพไป

เมื่อทั้งสี่เห็นมู่เฉินมีความสุภาพให้และไม่แสดงอาการเย่อหยิ่งเพราะเขาเข้าใจว่ารอยประทับเป็นสิ่งสำคัญ พวกเขาจึงรู้สึกสบายในใจมาก การแสดงออกก็ยิ่งเป็นมิตรมากขึ้น

“ฮ่าๆ ผู้บัญชาการมู่ เราหยุดค้นหามาหลายวันแล้ว ต่อไปก็ลุยเต็มที่เลยหรือไม่?” เลี่ยซันหัวเราะร่า ขณะที่คำพูดของเขาบ่งบอกชัดว่ารับฟังการตัดสินใจของมู่เฉิน

เมื่อได้ยินมู่เฉินก็คิดครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า “ตอนนี้สถานการณ์ในสมรภูมิหยุ่นลั้วเป็นยังไงบ้าง?”

เนื่องจากเขามุ่งเน้นไปในการกลั่นวิญญาณสงครามในช่วงหลายวันนี้ เขาจึงไม่ได้ใส่ใจกับสถานการณ์รอบตัวนัก

“เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ” สีหน้าของเลี่ยซันเคร่งขรึมขณะพูดต่อว่า “พวกเรากำลังมุ่งหน้าเข้าไปในส่วนลึกของสมรภูมิหยุ่นลั้ว โดยทั่วไปกองทัพที่สามารถไปต่อได้ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นหากเกิดการต่อสู้ระเบิดขึ้นจะต้องเป็นสงครามใหญ่แน่นอน จากข่าวที่ทราบมามีกองทัพกว่าร้อยกองทัพถูกทำลายจนสิ้นซากในช่วงนี้… ไม่เว้นแต่ขั้วอำนาจชั้นนำด้วย”

สายตามู่เฉินหดเกร็ง ขั้วอำนาจชั้นนำถือได้ว่ามีรากฐานที่ไม่อ่อนแอเลยในภูมิภาคทางเหนือ แต่ก็ยังถูกทำลาย ดังนั้นยากที่จะจินตนาการว่าการต่อสู้ตอนนี้โหดร้ายไปถึงขั้นไหนแล้ว

“มีข่าวเกี่ยวกับอาณาเขตกงเวทสวรรค์ไหม?” มู่เฉินถาม

“สมรภูมิหยุ่นลั้วกว้างใหญ่ไพศาล ดังนั้นการรับข้อมูลจึงมีอย่างจำกัด เราไม่ค่อยจะแน่ใจสถานการณ์ของคนอื่นๆ” หลิงเจี้ยนตอบกลับพลางส่ายหัว

มู่เฉินพยักหน้า “ข้าว่ายาหยุ่นลั้วคงยังไม่น่าจะพอ”

แม้ว่าพวกเขาจะใช้พลังของเข็มทิศค้นวิญญาณจนได้รับเม็ดยามามากกว่าหมื่นเม็ด แต่ว่ากันว่าขุมทรัพย์ตี้จื้อจุนแห่งเดียวก็ต้องใช้ยาหยุ่นลั้วถึงหลายหมื่นเม็ดหรือมากกว่านั้นในการเปิดผนึกชั้นหนึ่ง ดังนั้นปริมาณยาที่มีในมือจึงยังไม่พออย่างมาก

“ตอนนี้เม็ดยาหยุ่นลั้วที่กลั่นจากซากอารยธรรมระดับสามมีน้อยเกินไป ดังนั้นเราจะต้องหาซากอารยธรรมระดับที่สูงกว่านี้” จิ่วโยวพูดพร้อมกับมุ่นคิ้วจนเป็นร่อง โดยทั่วไปซากอารยธรรมระดับสามสามารถกลั่นเม็ดยาได้หลายร้อยเม็ดซึ่งเป็นจำนวนมากในตอนเริ่มต้นของสงครามล่า ทว่าตอนนี้จำนวนเท่านี้ไม่พอแล้ว นอกจากนี้พวกเขายังรวมหลายหน่วยรบเข้าด้วยกัน ถ้าแยกเม็ดยาออกก็ถือว่ามีปริมาณกระจ้อยร่อยนัก

แม้ว่ามีเข็มทิศจะช่วยเพิ่มจำนวนซากอารยธรรมระดับสามที่พวกเขาค้นพบได้ แต่มูลค่าก็ยังน้อยเกินไป สมบัติที่ถูกทิ้งไว้ในนั้นไม่เพียงพอต่อความพอใจของพวกเขาอีกแล้ว

“ซากอารยธรรมระดับสูงขึ้นรึ…”

มู่เฉินตกอยู่ในภวังค์ เหนือขึ้นไปจากซากอารยธรรมระดับสามก็คือระดับสอง ซึ่งซากอารยธรรมเหล่านั้นเป็นอะไรที่พิเศษอย่างแท้จริง ครั้งก่อนพวกเขาโชคดีพบแห่งหนึ่ง แม้พวกเขาจะร่วมมือกันก็ยังต้องจ่ายอะไรไปบ้าง แต่การเก็บเกี่ยวก็เป็นเรื่องน่ายินดี เพียงแห่งเดียวก็เทียบเท่ากับระดับสามถึงสิบแห่ง ไม่ต้องพูดถึงสมบัติอื่นๆ อีก แค่ยาหยุ่นลั้วอย่างเดียวก็กลั่นออกมาได้หลายพันเม็ดเลยทีเดียว

แต่ถึงแม้จะมีการเก็บเกี่ยวเหลือเฟือในซากอารยธรรมระดับสอง แต่สถานที่แบบนั้นหายากเหลือเกิน แม้จะมีความช่วยเหลือของเข็มทิศค้นวิญญาณก็หาเจอเพียงแห่งหนึ่งเท่านั้น

ในสมรภูมิหยุ่นลั้วตอนนี้ ถ้ามีข่าวเกี่ยวกับซากอารยธรรมระดับสองใดๆ กองทัพอื่นๆ คงแห่กันเข้ามาแน่

“ถ้าเป็นข่าวซากอารยธรรมระดับสูงกว่านั้น… ไม่รู้ว่าพวกเจ้าได้ข่าวที่ลือในช่วงสองสามวันนี้มาบ้างไหม?” หงหยาที่เงียบขรึมพูดออกมา

“หืม?” คนที่เหลืออึ้งไปก่อนจะขมวดคิ้ว “เจ้าหมายถึงซากอารยธรรมความตายที่เป็นข่าวดังในช่วงนี้ใช่ไหม?”

“ซากอารยธรรมความตาย?” มู่เฉินถามด้วยความสงสัย เนื่องจากเขาไม่ได้ข่าวเรื่องนี้เลย

“ช่วงนี้ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสมรภูมิหยุ่นลั้วมีการค้นพบซากอารยธรรมแห่งหนึ่ง ว่ากันว่าจนถึงตอนนี้คนที่เข้าไปยังไม่มีใครสามารถออกมาได้ ดังนั้นจึงถูกเรียกว่าซากอารยธรรมความตาย” จิ่วโยวอธิบาย

“พอข่าวนี้กระจายออกไปก็กระตุนความสนใจของกองทัพทรงพลังมากมาย นั่นเพราะตามการคาดเดาของพวกเขาแล้ว ซากอารยธรรมแห่งนี้อาจจะอยู่ในระดับหนึ่งก็เป็นได้”

“ซากอารยธรรมระดับหนึ่ง?!” ม่านตาของมู่เฉินอดหดลงไม่ได้ ซากอารยธรรมแบบนี้อยู่ระดับต่ำกว่าขุมทรัพย์ตี้จื้อจุนก้าวเดียว แม้แต่จะยืมเข็มทิศค้นวิญญาณค้นหา ก็ไม่เคยพบซากอารยธรรมระดับหนึ่งเลย ดังนั้นจึงบอกได้เลยว่าสถานที่เหล่านั้นถูกซ่อนเอาไว้ลึกเพียงใด

“ก็แค่ข่าว แต่เราไม่แน่ใจว่าใช่ซากอารยธรรมระดับหนึ่งหรือไม่? ในสมรภูมิหยุ่นลั้วที่น่าสะพรึงทุกสิ่งก็เกิดขึ้นได้ ไม่มีใครรู้ว่าเข้าไปแล้วจะได้อะไร แต่…”

เลี่ยซันหยุดพูดก่อนที่จะมองไปที่มู่เฉิน “ว่ากันว่าซากอารยธรรมความตายเหมือนจะมีร่องรอยของจั้นเจิ้นซือหลงเหลืออยู่…”

จั้นเจินซือ?!

สีหน้าของมู่เฉินเปลี่ยนไปอย่างมาก ไฟค่อยๆ ลุกโชนในดวงตา จั้นเจิ้นซือ? นั่นคือตำนานยืนหนึ่งที่หาได้ยากในมหาพันภพ ดังนั้นเขายังไม่รู้ว่าจะทำให้ตนเองเป็นจั้นเจิ้นซือแท้จริงได้อย่างไร แม้ว่าเขาจะสามารถบัญชารัศมีจั้นยี่ได้ แต่เขาก็อยู่ในระดับผิวเผินเท่านั้นและยังต้องคลำหาทางไปด้วยตัวเอง

จิ่วโยวคาดไว้แล้วว่ามู่เฉินต้องมีปฏิกิริยาแบบนี้จึงพูดว่า “มีคนบอกว่ามีการค้นพบโครงกระดูกของกองทัพขนาดใหญ่ ดังนั้นพวกเขาจึงเดาว่าซากอารยธรรมความตายนี้มีโอกาสสูงที่ถูกทิ้งไว้โดยจั้นเจิ้นซือ”

มู่เฉินสงบจิตใจลงก่อนที่จะผงกหัว แม้ซากอารยธรรมความตายล่อลวงใจนัก แต่อันตรายที่อยู่ภายในก็ยากที่จะจินตนาการ ดังนั้นแม้กระทั่งคนที่เด็ดขาดอย่างเขาก็ยังอดลังเลไม่ได้

ถ้านี่มีเพียงหน่วยรบวิหคโลกันตร์ มู่เฉินก็คิดจะลองสักตั้ง การล่อลวงคำว่าจั้นเจิ้นซือค่อนข้างมีน้ำหนักสำหรับเขาตอนนี้มาก ทว่าเวลานี้มีสี่ผู้บัญชาการร่วมเดินทางด้วย ดังนั้นมู่เฉินไม่แน่ใจว่าพวกเขายินดีที่จะเสี่ยงสำหรับข่าวลือรึเปล่า

แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยเห็นซากอารยธรรมความตายกับตาตัวเอง แต่ก็ต้องไม่ใช่สถานที่ที่ดีแน่ แค่ชื่อก็ถือเป็นลางร้ายแล้ว

“ถ้าเจ้าสนใจก็ตัดสินใจให้เร็วหน่อย มีข่าวลือว่าจอมยุทธ์ศาสตร์รัศมีจั้นยี่จากตำหนักสุดนภาและหมู่ตึกเทวะกำลังพุ่งไปที่ซากอารยธรรมความตายนี้ หากข้าเดาไม่ผิดพวกเขาไปที่นั่นเพราะข่าวเกี่ยวกับจั้นเจิ้นซือเหมือนกัน” จิ่วโยวยิ้มบาง น้ำเสียงของนางกระตุ้นใจของมู่เฉินนัก

“ฮ่าๆ ถ้าผู้บัญชาการมู่สนใจ เราก็จะไปด้วย ด้วยวิญญาณสงครามที่มี เราแข็งแกร่งพอในการปกป้องกันและกัน ไม่ว่าซากอารยธรรมความตายจะอันตรายสักแค่ไหน” ดูเหมือนทุกคนจะรับรู้ถึงความลังเลในใจของมู่เฉิน ทั้งสี่คนก็แลกสายตากันพลางยิ้ม

“นอกจากนี้เรายังไม่เคยเห็นว่าซากอารยธรรมระดับหนึ่งน่ากลัวขนาดไหน ดังนั้นขอไปดูด้วยตาตัวเองสักหน่อยเถอะ”

พอได้ยินคำพูดเหล่านี้ มู่เฉินก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก ถ้ามีเพียงหน่วยรบวิหคโลกันตร์บุกตะลุยไปตามลำพังก็จะเป็นอันตรายมาก แต่ด้วยการสนับสนุนของสี่หน่วยรบ ความปลอดภัยก็จะเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน นี่คงเป็นเพราะเขาช่วยกลั่นวิญญาณสงครามไปก่อนหน้า มิฉะนั้นทั้งสี่อาจไม่ยอมที่จะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องประเภทนี้ก็เป็นได้

แต่ไม่ว่าอย่างไรในเมื่อผู้บัญชาการทั้งสี่เห็นพ้องต้องกันแล้ว งั้นพวกเขาก็เล็งเป้าหมายไปที่ซากอารยธรรมแห่งนี้กันเลย

มู่เฉินค่อยๆ กำมือแน่นขณะที่เปลวไฟลุกโชนในจุดที่ลึกที่สุดของนัยน์ตาสีดำ

จั้นเจิ้นซือ เขาชักจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยแล้ว หวังว่าซากอารยธรรมความตายจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset