หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 923 วัตถุประหลาด

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

แสงแวววาวกำจายออกมาจากเข็มทิศค้นวิญญาณ ทำให้มู่เฉินและจิ่วโยวไม่สามารถฟื้นสติจากความตื่นตะลึงของแสงสว่างที่รุนแรงในระยะสั้น หลังจากอึ้งไปพักใหญ่ ทั้งสองถึงได้แลกเปลี่ยนสายตากัน

“ไปดูกันเถอะ” มู่เฉินเลียริมฝีปาก แม้ว่าเขาจะตกใจอยู่บ้างในใจจากความปั่นป่วนที่เกิดจากเข็มทิศ แต่โอกาสแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมีง่ายๆ

“ระวังให้ดีด้วย”

จิ่วโยวพยักหน้าเบาๆ แต่ก็อดเตือนไม่ได้

มู่เฉินพยักหน้าเล็งตำแหน่งบนเข็มทิศ สายตาของเขากวาดไปทางทิศตะวันตกก่อนจะมองไปที่จิ่วโยว จากนั้นทั้งคู่ก็ทะยานออกไปโดยไม่ลังเล

ทั้งสองเหาะเหินอย่างรวดเร็วผ่านเกาะลอยน้อยใหญ่มากมาย พวกเขากวาดสายตาไปรอบๆ ขณะที่พยายามค้นหาต้นกำเนิดของแสงแวววาวบนเข็มทิศค้นวิญญาณ

การใช้เข็มทิศเพื่อระบุตำแหน่งเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก

นี่เป็นเกาะหินขนาดใหญ่ลอยอยู่ตรงหน้ามู่เฉินและจิ่วโยว พวกเขาแลกเปลี่ยนสายตา นี่คือสถานที่ที่เข็มทิศชี้มาดังนั้นก็น่าจะเป็นเกาะลอยนี้ละมั้ง

“ปัง!”

พวกเขาสองคนเหลือบมองกันก่อนจะออกกระบวนท่าโดยไม่ลังเล ไม่กี่ลมหายใจภูเขาสูงตระหง่านก็บดขยี้ลงบนเกาะลอย

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

เศษหินแตกกระจายยิงออกไปทุกทิศทางโดยที่ดวงตาของมู่เฉินและจิ่วโยวจับจ้องชิ้นส่วนที่แหลกละเอียดทุกชิ้น สายตาของพวกเขาเฉียบคมมาก ดังนั้นสิ่งผิดปกติใดๆ ก็จะไม่สามารถเล็ดลอดไปได้

ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปเศษหินใหญ่น้อยก็ถูกยิงออกไปจนหมด แต่ที่ทำให้มู่เฉินและจิ่วโยวตกตะลึงก็คือพวกเขาไม่ค้นพบสิ่งผิดปกติอะไรเลย

“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?” จิ่วโยวถามอย่างงุนงง

มู่เฉินก็ขมวดคิ้วแน่น เมื่อครู่พวกเขาจ้องมองอยู่อย่างละเอียดถี่ถ้วนมาก ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่พวกเขาจะพลาดอะไร แต่ทำไมถึงไม่พบอะไรเลยล่ะ?

มู่เฉินก้มลงมองเข็มทิศก็ต้องอึ้งไป นั่นเป็นเพราะเขาตระหนักได้ว่าแสงสว่างบนเข็มทิศยังคงเจิดจรัสอยู่ แบบนี้ก็หมายความว่าต้นกำเนิดของมันยังอยู่ที่นี่

“เกาะลอยแห่งนี้เหมือนจะไม่ใช่เป้าหมาย…” มู่เฉินกล่าว

“ตำแหน่งไม่ได้บอกว่าอยู่ที่นี่เหรอ?” จิ่วโยวถามกลับ

“ตำแหน่งอยู่ที่นี่ก็จริง…” แววตามู่เฉินวูบไหว จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองบริเวณที่เคยเป็นที่ตั้งเกาะลอยมาก่อน ทันใดนั้นเขาก็หดตาลง ขยับตัวเข้าไปใกล้เมื่อตระหนักได้ว่าจุดที่เคยเป็นเกาะลอยอยู่ในสภาพบิดเบี้ยว แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดรอยแตกของมิติได้

แต่มิติผิดส่วนนี้ถูกซ่อนอยู่ในเกาะลอย ความจริงนี้ทำให้คนเห็นรู้สึกสับสน

มู่เฉินจ้องมองไปที่มิติบิดเบี้ยว ก่อนที่จะยกเข็มทิศขึ้นมาเบาๆ ทันใดนั้นเข็มทิศก็พุ่งขึ้นพร้อมกับแสงที่โชติช่วง

จิ่วโยวก็สังเกตเห็นความผิดปกตินี้ นางขยับเข้าหามู่เฉินอย่างรวดเร็วพลางมองไปยังมิติบิดเบี้ยว แววตะลึงใจเขียนอยู่บนใบหน้านาง

“ดูเหมือนจะเป็นมิติที่ผิดส่วนนะ” มู่เฉินพูดอย่างประหลาดใจ ที่แท้เกาะลอยเป็นเพียงส่วนหน้าที่เอาไว้บังตา มิติตรงหน้าต่างหากถึงเป็นจุดสำคัญ

“สมบัติคือนี่หรือ?” จิ่วโยวถามอย่างไม่เชื่อ

มู่เฉินครุ่นคิดสั้นๆ ก่อนที่จะหรี่ตาแคบลง เขาเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดโพลงขึ้นว่า “เจ้าสามารถฉีกรอยร้าวในมิติผิดส่วนนี่ได้ไหม?”

จิ่วโยวตกใจไปกับคำพูดนี้พลางตอบว่า “เจ้าสงสัยว่าสมบัติถูกซ่อนอยู่ในมิติผิดส่วนนี้เหรอ?”

“มีคนพยายามซ่อนบางสิ่งที่นี่ ดังนั้นจะต้องมีเหตุจูงใจ ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงน่าจะมีบางอย่างผิดปกติด้านใน” มู่เฉินพยักหน้า

“งั้นข้าจะลองดู”

เมื่อได้ยินมู่เฉินอธิบาย จิ่วโยวก็พยักหน้า จากนั้นนางก็กำหมัดคลื่นหลิงไร้ขอบเขตกระแทกกับมิติผิดส่วนจนบิดเบ้ คลื่นพลังงานก่อตัวขึ้นเป็นมือขนาดใหญ่พยายามฉีกรอยแตกออกจากกัน

แต่เมื่อคลื่นหลิงของจิ่วโยวชนกับระลอกมิติ นางก็ต้องตกตะลึงในใจ เพราะนางสัมผัสได้ว่ามิติผิดส่วนนี้ทนทานกว่าที่คิดมาก

ด้วยขุมพลังระดับจื้อจุนขั้นหก ไม่ได้ยากที่จะฉีกมิติออก แต่ตอนนี้กลับรู้สึกลำบากมากล้น

“ดูเหมือนว่ามีบางอย่างผิดปกติที่นี่จริงๆ”

จิ่วโยวกัดฟันขณะที่คลื่นหลิงระเบิดออกมาจากภายในร่างไม่หยุดยั้ง ทำให้มิติผิดส่วนสั่นสะเทือนรุนแรงทันที สุดท้ายรอยแตกสีดำเล็กๆ ก็ค่อยๆ เปิดออก

ภายใต้พลังเต็มพิกัดของจิ่วโยว รอยแตกสามารถเปิดขึ้นประมาณสองฉื่อ แต่เมื่อแหวกมาถึงขนาดนี้ จิ่วโยวก็ตระหนักได้ว่านี่เป็นขีดจำกัดของตนเองแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นรอยแตกมิติดูเหมือนจะต่อต้านและพยายามซ่อมแซมตัวเองไปด้วย

“เร็วเข้าข้าอดทนนานไม่ไหว” จิ่วโยวเร่ง

“ฮึ่ม!”

มู่เฉินไม่รอช้า ยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็วซึ่งดูราวกับปากพยัคฆ์พยายามกัดแยกรอยแตกมิติ ทันใดนั้นคลื่นหลิงก็พุ่งขึ้นบนฝ่ามือ ก่อเป็นกระแสน้ำวนพร้อมกับแรงดูดระเบิดออกมา

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

เมื่อแรงดูดทรงพลังเข้าสู่รอยแตกขอมิติ เศษหินก็พุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่พวกมันจะเข้าใกล้ฝ่ามือของมู่เฉินก็สลายกลายเป็นผงธุลี

มู่เฉินไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังรอยแตก ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเสี่ยงเข้าไปดู เพราะถ้าเขาหลงทางในความปั่นป่วนของมิติ แม้แต่มั่นถัวหลัวก็คงยากที่จะช่วยเขาออกมาได้

ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีดังกล่าว โดยใช้แรงดูดเพื่อดูว่าสามารถดึงอะไรออกจากมิติส่วนนี้ได้หรือไม่

ปุ! ปุ!

หินนับไม่ถ้วนยังพุ่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายกระแสน้ำวนก็ทำให้สลายหายไป ทว่าก็ยังไม่มีวัตถุวิเศษใดปรากฏขึ้น

เมื่อเวลาผ่านไปฝ่ามือของจิ่วโยวก็เริ่มสั่นเทา ชัดว่ายากสำหรับนางที่จะคงสภาพเอาไว้แล้ว

พอเห็นสถานการณ์นี้ มู่เฉินก็ถอนหายใจ ทว่าขณะที่กำลังจะหยุดด้วยความผิดหวัง เสียงแปลกๆ ก็แผ่มาจากรอยแตกมิติ

ฟิ้ว!

ทันใดนั้นแสงสีดำก็พุ่งออกมากระทบกับกระแสน้ำวนเต็มแรง แต่คราวนี้กระแสน้ำวนไม่ได้สลายมัน กลับกลายเป็นกระแสน้ำวนแตกสลายแทน

มู่เฉินตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาเร้าคลื่นหลิงในมือจากนั้นก็คว้าแสงสีดำเอาไว้

เวลาเดียวกันจิ่วโยวก็หมดแรง รอยแตกหดตัวลงอย่างรวดเร็วก่อนที่จะหายไป พื้นที่กลับสู่สภาพเดิม

จิ่วโยวซับเหงื่อออกจากหน้าผากขณะที่มองมู่เฉิน ก่อนที่จะเห็นแสงสีดำยิงออกมาจากสายตาอีกฝ่าย

มู่เฉินกางมือออก วัตถุสีดำก็เผยออกมา ดูเหมือนจะเป็นโลหะสีดำรูปสามเหลี่ยมที่ถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายโบราณบนพื้นผิว ทว่ามู่เฉินและจิ่วโยวสัมผัสไม่ได้ถึงคลื่นหลิงเลยสักริ้ว

ทั้งสองแลกเปลี่ยนสายตากัน ชัดเจนว่าพวกเขาไม่เข้าใจในวัตถุ ทั้งสองพยายามคั้นสมองเพื่อหาคำอธิบาย ห้ได้ ซึ่งทำเอางุนงงไปตามๆ กัน หลังจากมองแล้วมองอีกวัตถุนี้ก็ไม่ได้เหมือนกับอาวุธเทพสักเท่าไร

มู่เฉินขมวดคิ้วพยายามเทคลื่นหลิงเข้าไป แต่สุดท้ายเขาก็ตระหนักได้ว่าไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากมันเลย…

ทั้งสองคนพยายามขบคิด ทดลองวิธีการต่างๆ มากมาย แต่ก็ไม่มีการตอบสนองจากโลหะสีดำ จนสุดท้ายพวกเขาต้องยอมแพ้อย่างช่วยไม่ได้

“โอ๊ย เสียเวลาตั้งมากมาย ได้อะไรมาก็ไม่รู้” มู่เฉินและจิ่วโยวไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แม้ความรู้สึกของพวกเขาจะบอกว่านี่ไม่ใช่วัตถุธรรมดา แต่เมื่อไม่มีวิธีใช้ ก็ไม่ต่างอะไรจากเศษขยะหรอก

“ช่างเถอะ เอาเวลาไปหาสมบัติอื่นต่อดีกว่า”

มู่เฉินยิ้มขมขื่น ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมแพ้ โลหะสีดำถูกโยนเข้าไปในกำไลเฉียนคุน เขาใช้เวลาที่เหลืออยู่ค้นหาสมบัติอื่นๆ ด้วยเข็มทิศค้นวิญญาณต่อไป

ขณะที่เขาพยายามค้นหาสมบัติต่อ ทันใดนั้นเขาก็มองไปในทิศที่ห่างไกลออกไป ชั่วขณะหนึ่งพีระมิดสีดำขนาดใหญ่ที่กำลังลอยอยู่ในอวกาศก็ดูเหมือนกับโลหะรูปสามเหลี่ยมที่เขาเพิ่งได้รับ…

แต่ความคิดนี้ปรากฏขึ้นชั่วครู่ก่อนที่จะถูกปัดออกไปด้วยเสียงหัวเราะเยาะของมู่เฉิน เขารีบค้นหาสมบัติกับจิ่วโยวต่อ

เวลาที่เหลืออยู่มู่เฉินและจิ่วโยวก็เก็บเกี่ยวโดยใช้เข็มทิศช่วย ทว่าผลงานของพวกเขาไม่ดีเยี่ยมนัก เมื่อเปรียบเทียบกัน การเก็บเกี่ยวครั้งแรกดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด

ฮึ่ม!

ขณะที่ทั้งสองคนยังค้นหาสมบัติต่อ จู่ๆ เสียงกระหึ่มก็กำจายออกมา มู่เฉินและจิ่วโยวหยุดลงทันทีเมื่อได้ยินเสียงนี้ ก่อนที่จะเหลือบมองกันแล้วทะยานไปในทิศทางนั้นอย่างรวดเร็ว

นี่คือสัญญาณเรียกรวมตัวของมั่นถัวหลัว

ฟิ้ว!

บนเกาะลอยเหล่าผู้บัญชาการมารวมตัวกันอีกครั้ง เมื่อมั่นถัวหลัวเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าพวกเขา นางก็รู้ว่าพวกเขามีผลการเก็บเกี่ยวที่ดี ทว่านางไม่ได้ถามเรื่องนี้และไม่ได้ให้ส่งมอบมา

“เตรียมตัวเข้าสู่ขุมทรัพย์ตี้จื้อจุน ก่อนหน้าข้ารู้สึกได้ว่ากองทัพอื่นๆ เข้ามาในมิตินี้แล้ว”

เมื่อได้ยินคำพูดของมั่นถัวหลัว หัวใจของทุกคนก็เต้นไม่เป็นส่ำ การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของสงครามล่ามีไว้สำหรับขุมทรพัย์ตี้จื้อจุน กองทัพสูงสุดทั้งหมดพยายามอย่างเต็มที่เพื่อต่อสู้กับสิ่งต่างๆ ในนั้น การแข่งขันเข้าขั้นหายนะอย่างแน่นอน

“ไป!”

มั่นถัวหลัวไม่ได้พูดมาก นางโบกมือ ร่างก็เปลี่ยนเป็นลำแสงสีดำทะยานออกไป สถานที่ที่นางเคลื่อนไปก็คือพีระมิดสีดำที่อยู่ห่างไกลเบื้องหน้า

เมื่อมู่เฉินเห็นว่ามั่นถัวหลัวรวดเร็วและเด็ดขาด เขาก็ไม่มีเวลาพูดถึงวัตถุประหลาดที่ค้นพบก่อนหน้า เขายักไหล่อย่างจนใจก่อนจะตามไปพร้อมกับจิ่วโยว

ขณะที่ติดตามเขาเห็นใบหน้าของเหล่าผู้บัญชาการตึงเครียดขึ้นหลายส่วน เขาอดถอนหายใจไม่ได้ ต่อจากนี้ไปการแข่งขันหายนะสุดโหดของสงครามล่าจะอุบัติขึ้นแล้ว…

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset