หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 956 ร่างเทพสุริยะนิรันดร์

เหนือมหาสมุทรใหญ่

ทุกคนพากันตะลึงเงยหน้าขึ้นด้วยความหวาดผวาที่ไม่อาจปกปิดได้ในดวงตา แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนทรงพลังก็ยังไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้

แน่นอนว่าใครก็ตามที่เห็นจอมยุทธ์ตี้จื้อจุนขั้นปลายตายที่เบื้องหน้า ก็ยากสำหรับพวกเขาที่จะนิ่งสงบได้

ในเวลานี้บนท้องฟ้ามีเพียงพีระมิดแสงดาวปราบปีศาจลอยอยู่เงียบๆ ขณะที่ระลอกคลื่นสลายหายไปทีละน้อย แต่ความกดดันที่เล็ดลอดออกมาก็ยังข่มขู่ทุกคนทำให้ไม่มีใครกล้าทำลายความเงียบนี้ ท่าทางราวกับพวกเขากลัวที่จะนำพาความโชคร้ายมาสู่ตน

มู่เฉินมองฉากความตายของประมุขหมู่ตึกเทวะด้วยสายตาตกตะลึงเช่นกัน จากนั้นก็แอบเดาะลิ้น จอมพลสี่สมกับที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเจ้าภูมิภาคทางเหนือ วิธีการและความเหี้ยมโหดไม่ได้ให้โอกาสประมุขหมู่ตึกเทวะสักนิด

“พีระมิดแสงดาวปราบปีศาจน่ากลัวจริงๆ”

มู่เฉินถอนหายใจ ถ้าครั้งนี้ไม่ใช่จอมพลสี่ครอบครองอาวุธมหสวรรค์ทรงพลัง แม้ว่าประมุขหมู่ตึกเทวะจะพ่ายแพ้ในวันนี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าเขา

เพราะยังไงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฆ่าจอมยุทธ์ระดับตี้จื้อจุน

“ถ้าเขาไม่ทรงพลัง เขาจะสั่งการศึกระหว่างตี้จื้อจุนได้อย่างไร?” มั่นถัวหลัวยิ้ม นางบอกได้เลยว่าความพ่ายแพ้ของประมุขหมู่ตึกเทวะทำให้นางผ่อนคลายมากขึ้น ในอนาคตอาณาเขตกงเวทสวรรค์ของพวกเขาจะต้องขึ้นอยู่จุดสูงสุดแน่นอน

“เราจะเอามันไปได้ไหม?”

ดวงตาของมู่เฉินวูบไหวขณะที่ส่งเสียงเบาไปหามั่นถัวหลัว หากอาณาเขตกงเวทสวรรค์ได้รับอาวุธมหสวรรค์ทรงพลังเช่นนี้ ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถครอบครองภูมิภาคทางเหนือได้ แต่ก็ทำให้สถานะของสำนักมั่นคงในฐานะขั้วอำนาจใหญ่ในภูมิภาคทางเหนือ

เมื่อได้ยินคำพูดนั่น แววตาของมั่นถัวหลัวก็วูบไหว เห็นได้ชัดว่าแม้แต่ตัวนางก็ถูกล่อลวงด้วยอาวุธมหสวรรค์อันทรงพลังเช่นกัน

“อาวุธมหสวรรค์น่าดึงดูดเกินไป อย่าเพิ่งทำอะไรโดยประมาท ไม่งั้นเราอาจจะจบลงเหมือนประมุขหมู่ตึกเทวะก็ได้” ทว่าหลังจา กการพิจารณาคร่าวๆ มั่นถัวหลัวก็ส่ายหัวเบาๆ การมีประมุขหมู่ตึกเทวะเป็นตัวอย่างทำให้นางรู้สึกยำเกรงอย่างยิ่งต่อจอมพลสี่ เพราะไม่มีใครรู้ว่าจอมพลสี่ยังมีไพ่ตายใบอื่นในแขนเสื้ออีกไหม

มู่เฉินพยักหน้า จากนั้นก็กวาดสายตามอง ประมุขคนอื่นๆ ก็กำลังมองพีระมิดแสงดาวปราบปีศาจด้วยความหิวกระหาย ทว่าพวกเขาเกรงกลัวจอมพลสี่เช่นกัน ดังนั้นแม้ว่าน้ำลายจะสอมากแค่ไหน พวกเขาก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวสักกระผีกลิ้น

ฮึ่ม!

ขณะที่ทุกคนมองไปที่พีระมิดด้วยดวงตาแดงก่ำ ทันใดนั้นความผันผวนเบาบางก็เกิดขึ้นเบื้องหน้าพีระมิดสีดำ ภาพเงาค่อยๆ ปรากฏขึ้น ทุกคนเพ่งมองไป หัวใจก็สั่นเทา นั่นเป็นเพราะร่างที่ปรากฏก็คือจอมพลสี่ที่ร่างหุ่นเงาแตกสลายไปแล้ว

ทว่าในเวลานี้ร่างเขาดูโปร่งแสงราวกับว่ากำลังจะหายไป แต่ถึงแม้จะอยู่ในสภาพที่อ่อนแอจอมพลสี่ก็ยังยืนอยู่ตระหง่านด้วยสองมือไพล่หลัง ข่มประมุขคนอื่นๆ ไม่กล้าเคลื่อนไหวเลยทีเดียว

“พวกเจ้าบุกเข้ามาในสุสานของข้าได้ แสดงว่าวังสวรรค์บรรพกาลได้หายไปแล้วสินะ…” จอมพลสี่กวาดมองทุกคนก็ถอนหายใจเบาๆ ด้วยความเศร้าโศก

เมื่อมั่นถัวหลัวได้ยินคำพูดนั่นก็พยักหน้า “ตามประวัติศาสตร์เจ้าวังสวรรค์บรรพกาลได้เข้าต่อสู้กับจอมปีศาจตอนที่พวกมันรุกรานทวีปเทียนหลัว แม้สุดท้ายเขาจะเอาชนะได้แต่ก็สิ้นชีพลง ส่วนวังสวรรค์บรรพกาลก็หายไปหลังจากสงครามครั้งนั้น…”

แววตาจอมพลสี่มืดมนพึมพำว่า “แม้แต่ท่านเจ้าวังก็ยังสิ้นชีพเหรอ…”

แววตามืดครึ้มช่วงสั้นๆ ก่อนที่เขาจะเรียกสติแล้วมองมั่นถัวหลัวและจอมยุทธ์ระดับตี้จื้อจุนคนอื่นด้วยการยิ้มที่เหมือนไม่ได้ยิ้ม “คิดว่าพวกเจ้าคงมาที่นี่เพื่อสุสานของข้าใช่ไหม?”

เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของเขา การแสดงออกก็กลายเป็นกระอักกระอ่วนเล็กน้อย

“ไม่ได้ผิดอะไร ข้าคือคนที่ตายไปแล้ว ดังนั้นก็เหมาะสมแล้วกับสิ่งที่ข้าทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลัง” จอมพลสี่ยิ้มพลางชี้ไปที่พีระมิดแสงดาวปราบปีศาจ “พวกเจ้าทุกคนอยากได้สิ่งนี้ใช่ไหม?”

หลังจากที่เขาพูดจบ จอมยุทธ์ตี้จื้อจุนทั้งหลายก็หายใจหนักขึ้น บอกได้ว่าพีระมิดแสงดาวปราบปีศาจดึงดูดใจพวกเขาแค่ไหน เพราะหากได้รับอาวุธเช่นนี้ พวกเขาก็สามารถหลบหนีได้อย่างปลอดภัยแม้เผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลาย

“โดยทั่วไปอาวุธมหสวรรค์จะต้องมอบให้คนที่ทรงพลังที่สุด ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเจ้าก็มีคุณสมบัติพอใช้ได้ ดังนั้น…” จอมพลสี่พูด

เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดนั่น ดวงตาของแต่ละคนก็สว่างวาบ

พอเห็นปฏิกิริยาของพวกเขา มุมปากของจอมพลสี่ก็ยกขึ้น จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปที่มู่เฉินซึ่งยืนอยู่ด้านหลังมั่นถัวหลัวพูดช้าๆ ว่า “เจ้าหนุ่ม เจ้าพบตราประทับพีระมิดนี้ใช่ไหม?”

มู่เฉินอึ้งไป จากนั้นก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร ตราประทับพีระมิดที่จอมพลสี่พูดถึงน่าจะเป็นโลหะรูปสามเหลี่ยมสีดำขนาดเล็ก ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าตอบสนอง

“ข้าซ่อนสิ่งนี้ไว้ลึกลับมาก แต่เจ้าก็ยังค้นพบ ดูเหมือนว่าพวกเราจะชะตาต้องกัน”

ท่าทางของจอมพลสี่ผ่อนคลายลง “ถ้าไม่ใช่เจ้าปลุกจิตสำนึกที่ข้าทิ้งไว้ วันนี้พลังแม่ทัพปีศาจทุนเทียนก็คงถูกนำเอาออกไปแล้ว”

มู่เฉินยิ้มเฝื่อน เขาไม่ได้คิดมากขนาดนั้น ตอนนั้นเขาเพียงแต่พยายามจะให้หุ่นเงาเข้ามาแทรกแซงสถานการณ์ที่ประมุขหมู่ตึกเทวะควบคุม เหตุผลที่เขาสามารถอัญเชิญจอมพลสี่มาได้เป็นความบังเอิญล้วนๆ

“ไม่ว่าความคิดแรกของเจ้าคืออะไร เจ้าก็ได้ช่วยข้าครั้งหนึ่ง ไม่งั้นการผนึกที่ผ่านมาหลายหมื่นปีก็ไม่มีความหมายอะไร” จอมพลสี่เหมือนจะอ่านความคิดของมู่เฉินออก ทันใดนั้นเขาก็ยิ้ม “และข้าไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณใคร”

เมื่อเขาพูดเช่นนี้ หัวใจของทุกคนก็สั่นไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งประมุขคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่มั่นถัวหลัวก็ต่างมีความรู้สึกสังหรณ์ใจ จากนั้นลมหายใจก็เริ่มถี่ขึ้นเมื่อพวกเขาเห็นจอมพลสี่ยกมือขึ้น ทำให้พีระมิดขนาดมหึมาหดตัวอย่างรวดเร็ว ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็กลายเป็นพีระมิดขนาดเท่าฝ่ามือตกลงในมือของจอมพลสี่

“พีระมิดแสงดาวปราบปีศาจเป็นหนึ่งในอาวุธมหสวรรค์ของวังสวรรค์บรรพกาล เดิมทีถูกทิ้งไว้เพื่อปราบแม่ทัพปีศาจทุนเทียน แต่เนื่องจากไอ้ตัวชั่วร้ายนั่นสูญสลายหายไปแล้ว จึงไม่มีความหมายที่จะทิ้งสิ่งนี้ไว้ ดังนั้นให้คนที่มีโชคชะตาต่อกันนำออกไปเถอะ”

พูดจบเขาก็สะบัดนิ้ว พีระมิดแสงดาวปราบปีศาจกลายเป็นเส้นแสงดาวพุ่งเข้าไปในหว่างคิ้วของมู่เฉิน

แสงดาวจางหายไปในหว่างคิ้วของมู่เฉิน ทำเอาตัวเขาอึ้งไป เหล่าผู้บัญชาการอาณาเขตกงเวทสวรรค์ดวงตาก็ขึ้นริ้วแดงด้วยความอิจฉาที่ไม่อาจปกปิดได้

ภาพนี้เกินความคาดหวังของทุกคนชัดเจน ไม่มีใครคิดว่าจอมพลสี่จะมอบอาวุธมหสวรรค์ล้ำค่าให้กับจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าอย่างมู่เฉิน

ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะปลดปล่อยพลังของอาวุธชิ้นนี้ การกระทำเช่นนี้เป็นการเอาสมบัติไปทิ้งลงในถังขยะชัดๆ!

วั้นเซิ่ง เยาตี้และคนอื่นๆ ก็มีดวงตาแดงฉาน หากไม่ใช่เพราะความจริงที่พวกเขากลัวมั่นถัวหลัวและจอมพลสี่ที่ยังอยู่ พวกเขาคงพุ่งเข้าไปแย่งชิงแล้ว สมบัติเช่นนี้จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าจะใช้งานได้อย่างไร?

“ในพีระมิดมีของเหลวหลิงเสินที่กลั่นออกมาจากบุคคลผู้นั้น… เจ้าสามารถตัดสินใจได้ว่าจะให้ใคร”

จอมพลสี่ยิ้มให้มู่เฉิน จากนั้นก็โบกมืออย่างเกียจคร้าน ร่างเงาเริ่มจางลงเรื่อยๆ “ย้อนกลับไปตอนนั้นวังสวรรค์บรรพกาลน่าจะถูกผนึกจากท่านเจ้าวัง ด้วยพีระมิดนี้เจ้าอาจจจะสัมผัสได้…”

เมื่อได้ยินคำพูดของจอมพลสี่ มู่เฉินก็สูดลมหายใจเย็นเยือก หากเป็นเช่นนั้นเขาจะสามารถค้นหาวังสวรรค์บรรพกาลที่หายไปได้โดยพีระมิดแสงดาวปราบปีศาจหรือ?

หากเป็นเช่นนั้นจริงมูลค่าพีระมิดนี้ก็น่ากลัวเกินไป การตกอยู่ในมือเขาฉับพลันเช่นนี้ แม้แต่คนที่มีสุขุมก็รู้สึกดเป็นกังวลได้ นั่นเป็นเพราะเขารู้ว่าหากข่าวนี้รั่วไหลออกไป จะทำให้จอมยุทธ์จำนวนมากพุ่งเป้ามาที่เขาอย่างแน่นอน

แม้พีระมิดแสงดาวปราบปีศาจจะเป็นสมบัติล้ำค่า แต่มันก็เป็นเผือกร้อนดีๆ ด้วย!

มู่เฉินมองจอมพลสี่ที่ร่างบางลงเรื่อยๆ ก็ยิ้มขมขื่น แต่ขณะที่เขากำลังกระวนกระวายในใจเสียงเสียงหนึ่งก็ดังกึกก้องอยู่ในใจ “เด็กน้อย เจ้าครอบครองร่างเทพสุริยะ หากเจ้าสามารถค้นพบวังสวรรค์บรรพกาล หากมีโอกาสเจ้าอาจจะสามารถพัฒนาร่างเทห์สวรรค์นี้ให้เป็นร่างเทพสุริยะนิรันดร์ได้…”

เสียงที่ดังขึ้นฉับพลันทำให้มู่เฉินอึ้งไป จากนั้นหัวใจก็สั่นเทา ไม่คิดว่าแม้เขาจะไม่ได้ใช้งาน จอมพลสี่ก็สามารถสัมผัสได้

“ร่างเทพสุริยะนิรันดร์?”

ชื่อนี้ทำให้มู่เฉินดวงตาหดลง หรือว่าร่างเทพสุริยะนิรันดร์เป็นระยะพัฒนาของร่างเทพสุริยะ?!

ขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ การหายใจของมู่เฉินก็รัวขึ้น ตัวเขาค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับร่างเทห์สวรรค์นี้มาหลายปี ในที่สุดก็ได้ข้อมูลชัดเจนเสียที ร่างเทพสุริยะนิรันดร์ชัดเจนว่าเป็นการเข้าใกล้ร่างมหาเทพนิรันดร์มากขึ้น!

“ขอบพระคุณท่านผู้อาวุโส!” มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองร่างจอมพลสี่ซึ่งกำลังสลายไปก็ประสานมือ เขาขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ตามหามานาน

ทว่าตอบสนองต่อความขอบคุณนี้ จอมพลสี่ก็เพียงโบกมือแผ่วเบาก่อนที่ภาพเงาจะโปร่งใสและหายไปอย่างสมบูรณ์ภายใต้สายตาของทุกคน

“วังสวรรค์บรรพกาลของข้าในฐานะผู้ปกครองทวีปเทียนหลัวก็เหลือเพียงควัน… ช่างเป็นชะตากรรมที่ตลกนัก…” พร้อมกับที่ร่างจางหาย เสียงก็เปล่งสะท้อนไปทั่วมิติ

เมื่อทุกคนเห็นว่าจอมพลสี่หายไปแล้ว พวกเขาก็รู้สึกโล่งใจมาก ก่อนดวงตาสีแดงฉานแต่ละคู่จะจ้องเขม็งมาที่มู่เฉินราวกับหมาป่า

ทว่าเผชิญหน้ากับสายตานั่น มู่เฉินกลับไม่สนใจ เขาไตร่ตรองครู่หนึ่ง จากนั้นก็กำมือ พีระมิดสีดำปรากฏขึ้นแล้วส่งผ่านไปให้มั่นถัวหลัวภายใต้สายตาตะลึงงันมากมาย

แม้ว่านี่จะเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ก็เป็นของร้อน สิ่งนี้จะทำให้เขาเป็นศัตรูกับทุกคน นอกจากนี้ด้วยขุมพลังจื้อจุนขั้นห้า เขายังไม่สามารถใช้อาวุธมหสวรรค์นี้ได้

สมบัติเช่นนี้อยู่ในมือเขา กลับเป็นหายนะ

เรื่องนี้มู่เฉินที่มีนิสัยหนักแน่นระวังเสมอมองทะลุปรุโปร่งมาก

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset