หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 999 พลังอำนาจมังกรแท้จริง

ตู้ม!

เมื่อกำปั้นที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดมังกรสีม่วงทองปะทะกับฝ่ามือสายฟ้าที่พุ่งลงมา เสียงกัมปนาทก็ดังก้อง ราวกับว่าท้องฟ้าจะพังทลายลงมาได้ทุกเมื่อ รอยแตกสีดำจำนวนมากกระจายออกไปในมิติ

แสงสีทองวาวโรจน์และสายฟ้ากระจายออกไปราวกับงูนับหมื่นตัว กลืนกินพื้นที่มิติที่อยู่ใกล้ ทำเอาจอมยุทธ์ที่อยู่โดยรอบรีบถอยออกไป ขณะที่จ้องมองจุดปะทะกันระหว่างมู่เฉินและลู่สุยด้วยสายตาตกตะลึง

“มู่เฉินเผชิญหน้ากับลู่สุยได้ด้วยเหรอเนี่ย?” ทุกคนผงะไป เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คิดว่าหลังจากสูญเสียค่ายกลไป มู่เฉินจะยังสามารถเผชิญหน้ากับลู่สุยได้

“หืม?”

ทว่าความตกตะลึงก็กลายเป็นเคร่งเครียดอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพวกเขาพบว่าสายฟ้าที่รุนแรงในมิติไม่ได้เป็นเหมือนใบมีดร้อนตัดผ่านเต้าหู้อย่างที่คาดไว้ แสงสีทองที่ดูอ่อนแอก็ไม่ได้พังทลายลงอย่างที่คิดไว้เช่นกัน

“มู่เฉินรับการโจมตีของลู่สุยไว้ได้เรอะ?” ดวงตาบางคนกะพริบตาวูบไหวขณะที่สีหน้าเคร่งเครียดยิ่งขึ้น อาการเหยียดหยามที่พวกเขามีต่อมู่เฉินในตอนแรกสลายหายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

ที่ไกลออกไปจงเถิงที่เผชิญหน้ากับมั่วเฟิงก็สีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย สายตาเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม ดูเหมือนมู่เฉินจะรับมือยากจริงๆ

“ข้าบอกแล้ว เจ้าไร้เดียงสาเกินที่คิดว่ามู่เฉินจัดการได้ง่าย” มั่วเฟิงพูดเบาๆ

เมื่อจงเถิงได้ยินก็ไม่แยแส “พี่มั่วดีใจเร็วเกินไปรึเปล่า ลู่สุยไม่อ่อนแออย่างที่เจ้าคิด เมื่อเปรียบเทียบกับเขา มู่เฉินยังมีระยะห่างอยู่ไม่น้อย”

มั่วเฟิงไม่แสดงความคิดเห็นใด มือทั้งสองทิ้งลงแนบตัวด้วยสีหน้าสงบนิ่ง เขาไม่ได้เคลื่อนไหวในการเผชิญหน้ากับจงเถิง นั่นเป็นเพราะพวกเขารู้ดีว่าถ้าต่อสู้กันยากที่จะหาผู้ชนะ มิหนำซ้ำคนอื่นๆ ที่เฝ้าดูอยู่รอบๆ ก็จะโผล่ออกมาทันทีที่พวกเขาได้รับบาดเจ็บหนัก

เป้าหมายของจงเถิงคือการทำให้มั่วเฟิงไม่เข้าไปยุ่งเท่านั้น เพื่อให้ลู่สุยมีเวลาจัดการกับมู่เฉิน ส่วนมั่วเฟิงที่มีความมั่นใจในตัวมู่เฉินก็ตัดสินใจที่จะเฝ้าระวังจงเถิงเช่นกัน ไม่ให้สามารถลอบโจมตีกับมู่เฉินได้ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นแม้ว่ามู่เฉินจะมีไพ่ตายอยู่ในมือ ก็ยากที่เขาจะจัดการกับจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดสองคนได้

ทั้งสองยืนอยู่บนท้องฟ้าไม่ขยับเขยื้อน แต่แสงเย็นวับวาบในดวงตา แสดงให้เห็นเจตนาฆ่าของกันและกัน

ตึง!

ขณะที่จงเถิงและมั่วเฟิงยืนเผชิญหน้ากัน สายฟ้าป่าเถื่อนและแสงสีทองก็กวาดอาละวาดในระยะไกลทำให้มิติแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

เบื้องหลังฝ่ามือสายฟ้าใบหน้าของลู่สุยก็บิดเบี้ยวไปเล็กน้อย ขณะที่มองดูฉากตรงหน้าด้วยความโกรธแค้นในสายตา

เขาไม่คิดเลยว่าวิชาฝ่ามือที่ตนเองมั่นใจจะไม่สามารถทำลายมู่เฉินได้

“ไม่ประมาณตัวเองเลย!” ลู่สุยกัดฟันพลางคำราม คลื่นหลิงในร่างกายพวยพุ่งออกมาราวกับน้ำท่วม สายฟ้าใต้ฝ่ามือระเบิดอย่างรุนแรง ทำให้อากาศโดยรอบระเบิดออก

กำปั้นสายฟ้าเพิ่มพลังอย่างรุนแรง มีแววจะทำลายล้างแสงสีทองลง

ลู่สุยรู้ชัดว่าลานเมฆสายฟ้าวุ่นวายมาก ดังนั้นการต่อสู้จะลากยาวออกไปไม่ได้ เขาต้องจัดการมู่เฉินให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะได้ลดการสูญเสียของคลื่นหลิง มิฉะนั้นถ้าเขาหมดแรงไป แม้ว่าเขาจะชนะการต่อสู้ ก็จะถูกคนอื่นเล็งเข้าได้

ดังนั้นเขาต้องรีบจัดการมู่เฉิน

สายฟ้ากวาดออก ดวงตาของมู่เฉินก็หดลง ทว่าเขาก็ไม่ได้ถอย กลับกันเขาก้าวมาข้างหน้าแทน บนแขนขวาเส้นเลือดดำบิดเกลียวอย่างต่อเนื่องราวกับมังกรทะยาน ทุกการบิดเกลียวจะปล่อยพลังงานที่น่ากลัวออกมา

ลวดลายมังกรแท้จริงบนแขนชัดเจนขึ้น กรงเล็บมังกรปกคลุมนิ้วมือก็แข็งแกร่งขึ้นด้วยรัศมีไร้ขอบเขตที่ค่อยๆ เล็ดลอดออกมาจากมัน

ฮา

นัยน์ตาของมู่เฉินสั่นวูบไหวด้วยแสงสีทองพลางหายใจเข้าลึก เขาสัมผัสได้ว่ามีกระแสพลังทรงประสิทธิภาพไหลผ่านร่างกายพล่านเข้าไปในกำปั้นของเขาอย่างต่อเนื่อง

เมื่อพลังงานเดือดพล่านในกำปั้นของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แสงสีทองที่ถูกปล่อยออกมาก็ค่อยๆ หดตัวลง

เมื่อลู่สุยเห็นภาพนี้ดวงตาก็เปล่งประกายด้วยความดีใจ เพราะเขาคิดว่ามู่เฉินไม่สามารถยืดเวลาได้อีกต่อไป

ทว่าความสุขก็คงอยู่ชั่วคราว ก่อนที่ดวงตาเขาจะหดลง จากนั้นเขาก็เห็นมู่เฉินเหวี่ยงกำปั้นอย่างช้าๆ

หมัดนี้หนักหน่วงราวกับว่ามีมังกรตัวโตสถิตอยู่

ตึง!

หมัดของมู่เฉินปกคลุมไปด้วยกรงเล็บมังกรสีม่วงทองปะทะกับฝ่ามือสายฟ้าอีกครั้ง ใบหน้าลู่สุยก็เปลี่ยนไปรุนแรงในขณะนี้

นั่นเป็นเพราะเขาสัมผัสได้ถึงพลังงานน่ากลัวที่บรรจุอยู่ในหมัดของมู่เฉิน

แคร็ก

รอยแตกปรากฏขึ้นบนฝ่ามือสายฟ้าแทบจะในทันที ยิ่งไปกว่านั้นพลังงานนี้ยังดุร้ายจนถึงจุดที่ลู่สุยยังไม่ทันตอบโต้ ฝ่ามือสายฟ้าก็สลายลงจากหมัดเดียวที่ถูกห่อหุ้มด้วยกรงเล็บมังกรและกำจายแสงสีทองออกมา!

แสงสีทองพุ่งออกมา สายฟ้าก็สลายตัวลง ร่างของลู่สุยถลาถอยหลังออกไปในสภาพที่น่าสมเพช ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปมาระหว่างสีเขียวและสีขาว ดวงตาฉายแววขวัญหนีดีฝ่อเมื่อมองเบื้องหน้า

เขาไม่คิดเลยว่าหมัดของมู่เฉินจะทรงพลังขนาดนี้

ความแข็งแกร่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกจะมีได้!

หมัดของมู่เฉินไม่เพียงแต่ทำลายฝ่ามือผสานสายฟ้าของเขา พลังอันน่าสะพรึงกลัวที่เจาะทะลุมายังทำให้คลื่นหลิงในร่างกายของเขาแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

“นรก พลังของเจ้านี่…” ลู่สุยกัดฟันขณะแสงเย็นกะพริบในดวงตา เขาถอยหลังกลับ ขณะเดียวกันก็หมุนวนคลื่นหลิงในร่างอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถใช้กำลังอย่างเดียวในการรับมือกับมู่เฉิน ก่อนหน้าเขาดูถูกมู่เฉินเกินไป

ฟิ้ว!

ทว่าขณะที่ลู่สุยตัดสินใจที่จะล่าถอยเพื่อหาวิธีการอื่นมาจัดการ มู่เฉินก็ไม่ได้ให้โอกาส เมื่อแสงสีทองกะพริบ ร่างของมู่เฉินก็มาปรากฏตัวที่เบื้องหน้าเขาอย่างลึกลับ ก่อนที่จะปล่อยกำปั้นมังกรสีม่วงทองออกไป

สีหน้าลู่สุยเปลี่ยนไป ไขว้แขนไว้กลางหน้าอกเพื่อป้องกันอย่างรวดเร็ว คลื่นหลิงสายฟ้ารุนแรงพัวพันรอบๆ แขนของเขาก่อตัวเป็นโล่สายฟ้า

ปัง!

ภายใต้หมัดมังกรทองโล่สายฟ้าแตกออก ร่างของลู่สุยถูกซัดออกไป

ขณะที่เขาหน้าหงายออกไป มู่เฉินก็ไล่ตามไม่ลดละ หมัดมังกรทองกระแทกเข้าใส่ ไม่ให้โอกาสลู่สุยได้หายใจเลยสักนิด

ปัง! ปัง! ปัง!

ในเวลาเพียงสิบกว่าลมหายใจ มู่เฉินก็เหวี่ยงหมัดไปสิบกว่าครั้ง ทุกครั้งที่ซัดลงไปลู่สุยก็จะถลาออกไปไกลขึ้น ความผันผวนของคลื่นหลิงซึ่งในตอนแรกไร้ขอบเขตก็สลายลงด้วยหมัดมังกรนี้

ทุกคนบอกได้เลยว่าลู่สุยเสียความได้เปรียบเพราะประมาท ทำให้ถูกมู่เฉินบังคับให้อยู่ในสถานะน่าสมเพช ถ้าเขาแข็งแกร่งไม่พอ เขาคงได้รับบาดเจ็บหนักจากการโจมตีเป็นชุดแบบนี้ไปนานแล้ว

แต่ถึงอย่างนั้นขณะที่เขาพยายามหลบเลี่ยงจากระยะโจมตีของมู่เฉิน ใบหน้าก็ซีดเผือด เลือดไหลออกมาจากมุมปาก

สายตาเขาที่มองมู่เฉินอัดแน่นด้วยความหวาดผวา หลังจากรับหมัดสิบกว่าครั้ง ความภาคภูมิใจที่มีก็ลดฮวบลงอย่างสมบูรณ์จากฝีมือของมู่เฉิน

บนลานเมฆสายฟ้าเหล่าจอมยุทธ์ที่ให้ความสนใจกับการต่อสู้ครั้งนี้ก็มีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองมู่เฉินปรากฏแววหวาดเกรง

ตอนแรกพวกเขาคิดว่ามู่เฉินได้แต่พึ่งพาค่ายกลเพื่อเข้าสู่เจดีย์ แต่ในเวลานี้พวกเขารู้ว่าพลังกายของมู่เฉินเข้าขั้นน่าสะพรึงกลัวและไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าร่างกายของเทพอสูรเลย!

ชายคนนี้คือเทพอสูรในร่างมนุษย์!

บนท้องฟ้าลู่สุยมีสีหน้าน่าเกลียดขณะจ้องมองมู่เฉินที่อยู่เบื้องหน้าที่ไม่มีริ้วอารมณ์ใดๆ อยู่บนใบหน้า ทว่ารัศมีเฉียบคมที่มาจากมู่เฉินทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว

ภายใต้ดวงตาสีดำสนิทของมู่เฉิน ลู่สุยรู้สึกราวกับว่าตนเองโดนจับจ้องจากเทพอสูรร้ายกาจยุคดึกดำบรรพ์ที่เขาไม่ทางหนีรอดได้

ยามนี้มู่เฉินคือคนที่รับมือยากมากที่สุด

ใบหน้าของลู่สุยเขียวคล้ำจากนั้นก็กัดฟันกรอด “มู่เฉิน ทุกอย่างถือว่าแล้วกัน แต่หากเจ้ายังต้องการจะลงมือต่อก็อย่าโทษข้าที่ไร้ปรานี ในเวลานั้นข้าจะลากเจ้าลงนรกไปด้วยกัน แม้ว่าข้าจะบาดเจ็บหนักก็ตาม!”

ลู่สุยเป็นคนเหี้ยมโหด ดังนั้นแม้ว่าสถานการณ์จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่เขาก็ไม่แสดงความกลัว นอกจากนี้เขามั่นใจว่าแม้มู่เฉินจะมีทักษะน่าตกใจ แต่หากพวกเขาต้องต่อสู้กันจริง เขาก็สามารถลากมู่เฉินลงนรกไปกับเขาได้

ทว่ามู่เฉินเพียงแค่ยกสายตาขึ้นเผชิญกับคำพูดโหดเหี้ยมของลู่สุย ท่าทางที่จ้องมองไม่ได้ลดละ ในทางตรงกันข้ามกลับแข็งกร้าวขึ้นแทน

บนใบหน้าไม่มีริ้วความรู้สึกใดๆ ร่างกายจวนเจียนจะเดือดหลังจากการแลกกระบวนท่าก่อนหน้า กระแสพลังงานทรงศักยภาพราวกับว่าต้องการที่จะทำลายมิติที่รวมตัวกันอยู่ในร่างกายของเขา

หากเขาไม่ระบายพลังงานนี้ออกไป มันจะทำร้ายตัวเองแทน

ดังนั้นขณะนี้เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะพักเรื่องไว้แล้ว

“ถ้าเจ้ารับการโจมตีกระบวนท่านี้จากข้าได้ ข้าจะปล่อยเจ้าไป” มู่เฉินกล่าวอย่างไม่แยแส

“ไอ้ยโส!”

เผชิญหน้ากับคำพูดของมู่เฉิน ลู่สุยเกือบจะระเบิดโทสะออกมาเพราะเขาถูกบังคับให้ต้องอยู่ในสถานะที่น่าสมเพชจากมนุษย์ที่มีขุมพลังจื้อจุนขั้นหก สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นน่ากลัวอย่างยิ่ง สายตาที่มองมู่เฉินก็ราวกับต้องการจะฉีกเนื้อเถือหนังมู่เฉินออกมาทีละชิ้น…ละชิ้น

“ในเมื่อแกต้องการตาย ข้าจะทำตามคำขอของแกเอง!”

ลู่สุยตะเบ็งเสียงลั่น สายฟ้าระเบิดรุนแรงรอบตัวเขา เสียงฟ้าร้องดังก้องไปทั่วขอบฟ้า แรงคุกคามแพร่กระจาย

มู่เฉินไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาสูดหายใจเข้าลึก แสงสีทองก็รวมตัวกันในจุดลึกของดวงตาก่อเงามังกรและหงส์ฟ้าเลือนราง เขากำมืออย่างช้าๆ พร้อมกับอาการสั่นไหว

นั่นเป็นเพราะเขาสามารถสัมผัสได้ว่าลวดลายมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงบนร่างกายกำลังดิ้นพล่าน พลังงานที่น่ากลัวพวยพุ่งราวกับต้องการจะฉีกร่างกายเขาออกจากกัน

หากเขาไม่ปลดปล่อยพลังงานนี้อีกครั้ง สิ่งแรกที่จะระเบิดคือร่างกายของเขาเอง!

มู่เฉินไม่อยากให้ร่างที่เพิ่งเสริมสร้างถูกทำลายย่อยยับ ดังนั้นเขาต้องให้ลู่สุยที่อยู่เบื้องหน้าได้ลิ้มรสพลังทำลายล้างนี้ซะ

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset