หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1017 เร่งรุดเดินทาง

ข้อเสนอของหานซัน มู่เฉินไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ

ไม่ต้องพูดถึงว่าอสูรโบราณโภคะล่อลวงแค่ไหน เพียงแค่เบาะแสเกี่ยวกับวิหคอมตะโบราณในสุสานหมื่นอสูรอย่างเดียวก็มีค่าพอที่จะเสี่ยงแล้ว

นั่นเป็นเพราะเป้าหมายหลักของเขาในการมาในดินแดนเสินโซ่ก็คือการช่วยจิ่วโยวให้ได้รับเลือดศักดิ์สิทธิ์ของวิหคอมตะโบราณ เพื่อทำให้สายเลือดของนางสมบูรณ์และกำจัดข้อเสียที่ได้จากพันธะโลหิตให้หมดสิ้น

ดินแดนเสินโซ่มีพื้นที่ใหญ่โตมโหฬารแฝงด้วยอันตรายทุกรูปแบบ ความต้องการที่จะพบร่องรอยของวิหคอมตะโบราณก็เหมือนการค้นหาเข็มในมหาสมุทร ดังนั้นในเมื่อมีเบาะแสขึ้นมาในตอนนี้ พวกเขาก็ไม่คิดจะปล่อยมันไป

ดังนั้นมู่เฉินและจิ่วโยวจึงไม่ได้ลังเลอะไรมากกับคำชวนของหานซันตอบตกลงทันที

มั่วเฟิงและมั่วหลิงก็เห็นพ้องต้องกัน พวกเขามาที่ดินแดนเสินโซ่เพื่อแสวงหาโอกาสตั้งแต่ต้น แม้สุสานหมื่นอสูรจะอันตราย แต่ก็มีโอกาสยิ่งใหญ่ในนั้น

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็รีบเดินทางกันดีกว่า ที่นี่ห่างไกลจากสุสานหมื่นอสอูร จากการกะระยะของข้า เราต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้าวันแม้ว่าจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเต็มพิกัดก็ตาม” เมื่อหานซันเห็นว่าพวกมู่เฉินตกลงร่วมมือ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็กว้างขึ้นจากนั้นก็โบกมือ ร่างเงาสามร่างพลิ้วตัวลงข้างเขา

ร่างพวกเขาปกคลุมด้วยเกราะหนักสีดำ รัศมีเหี้ยมหาญกระจายโดยรอบ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นจอมยุทธ์จากเผ่าแรดอสูร มีสองคนอยู่ในระดับจื้อจุนขั้นเจ็ด แม้แต่คนที่อ่อนแอที่สุดก็อยู่ในระดับจื้อจุนขั้นหกระยะปลายสุด ซึ่งนี่เป็นรูปแบบการรวมตัวที่ทรงพลังนัก

แม้ว่าจอมยุทธ์สามคนของเผ่าแรดอสูรจะห่อหุ้มไปด้วยรัศมีเหี้ยมหาญ แต่พวกเขาก็มีความสุภาพต่อพวกมู่เฉิน เห็นได้ชัดว่าการแสดงความแข็งแกร่งก่อนหน้าของมู่เฉินเอาชนะใจพวกเขาไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คัดค้านหานซันที่ขอความร่วมมือกับกลุ่มมู่เฉิน

ทั้งสี่พยักหน้าให้กับผู้มาใหม่ทั้งสามคน ตอนนี้มีเพียงคนไม่กี่คนอยู่ในซากปรักหักพังแห่งนี้ คนส่วนใหญ่จากไปแล้ว ส่วนเผ่าอีกาสายฟ้าก็พาลู่สุยที่ไม่รู้เป็นหรือตายออกไปตั้งแต่ตอนที่จงเถิงเผ่นหนีแล้ว

มู่เฉินไม่ได้หยุดพวกเขา แม้ว่าเผ่าอีกาสายฟ้าจะน่ารังเกียจ แต่ก็ยังไม่ถึงจุดที่เขาจะฆ่าพวกเขาทั้งหมด นั่นเป็นเพราะถ้าเขาทำก็อาจทำให้เผ่าอีกาสายฟ้าไม่พอใจ ยังไงพวกเขาก็เป็นสัตว์อสูรที่มีชื่อเสียง ถ้าพวกเขาโกรธขึ้นมาละก็เป็นปัญหาใหญ่แน่

แน่นอนว่าถ้ามีใครบางคนแกว่งเท้าหาเสี้ยนแบบจงเถิง มู่เฉินอาจหาโอกาสฆ่าพวกเขาหากหลบหนีช้า

ดังนั้นตัวตลกอย่างลู่สุย ในเมื่อไม่สามารถคุกคามอะไรได้ เขาก็ขี้เกียจไปสนใจอะไรมาก

เมื่อทั้งสองกลุ่มรวมตัวกัน กลุ่มของพวกเขาก็มีประสิทธิภาพขึ้น มู่เฉินและหานซันไม่ได้ชักช้าอีกต่อไป ออกเดินทางทันทีหลังจากกำหนดทิศทางได้ พวกเขากลายเป็นร่างแสงแปดร่างทะยานออกจากเมืองร้างนี้ไป

เมื่อพวกเขาจากไป เมืองก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง มีเพียงเจดีย์หินโบราณที่ยังตั้งตระหง่าน เมื่อกาลเวลาผ่านไป ร่องรอยที่เหลือไว้บนพื้นผิวก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าครั้งหนึ่งที่นี่เคยรุ่งโรจน์

ขณะที่พวกมู่เฉินออกจากเมืองร้าง

มุ่งหน้าไปยังสุสานหมื่นอสูร ในอีกทิศทางหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป…

ฟิ้ว!

แสงสีทองส่งเสียงหวีดหวิวตกลงบนเนินเขาอย่างน่าสมเพช ในแสงสีทองมีร่างกระเรียนทองคำขนาดใหญ่เมื่อแสงทองแล่นพล่านออกไปก็กลายร่างกลับเป็นมนุษย์

นี่คือจงเถิงและพรรคพวกเผยตัวออกมาด้วยสีหน้าซีดเซียว

“พี่ใหญ่จงเถิง เจ้า…” ใบหน้าของหลิ่วชิงซีดเผือดเมื่อมองไปที่จงเถิง ขณะนี้ใบหน้าชายหนุ่มน่ากลัวอย่างยิ่ง แขนขวาถูกตัดออก เขาเอามืออีกข้างถือแขนขวาไว้ เลือดสดไหลนอง

แม้ว่าเขาจะตัดสินใจหนีอย่างเด็ดขาด แต่แขนเขาก็ยังถูกฟันด้วยกระบี่ของมู่เฉิน

“มู่เฉิน ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!”

จงเถิงจับแขนที่ขาดไว้ คำรามอย่างอาฆาตมาดร้าย จอมยุทธ์อัจฉริยะเผ่ากระเรียนฟ้าเช่นเขาตกอยู่ในสภาพน่าสมเพชเนื่องจากฝีมือของมนุษย์คนหนึ่ง มากจนถูกตัดแขนไปข้างหนึ่ง หากเรื่องนี้ถูกส่งกลับไปที่เผ่ายากที่จะจินตนาการว่าจะเกิดคลื่นสะท้อนยิ่งใหญ่เพียงใด

“พี่ใหญ่จงเถิง ตอนนี้เราจะทำยังไง?” จงฮั่วถามด้วยสีหน้าซีดขาว ด้วยการบาดเจ็บตอนนี้ของจงเถิง ทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาลดลงมาก หากไปแข่งขันเพื่อโอกาสกับกลุ่มอื่นๆ อีก พวกเขาอาจได้ทิ้งชีวิตไว้ในดินแดนเสินโซ่แห่งนี้เลยก็ได้

สายตาของจงเถิงดุร้าย พักใหญ่ก็หายใจเข้าลึกค่อยๆ สงบอารมณ์ลง พูดอย่างเย็นชาว่า “ไปหาเผ่าคุนเผิงก่อน ครั้งนี้จงชิงเฟิงก็เข้ามาในดินแดนเสินโซ่ในฐานะสมาชิกกลุ่มเผ่าคุนเผิง ถ้าได้รับความช่วยเหลือของเขา เราก็สามารถฆ่ามู่เฉินได้อย่างง่ายดาย!”

เมื่อชื่อจงชิงเฟิงดังขึ้น ดวงตาของหลิ่วชิงและจงฮั่วก็ลุกเป็นไฟ นั่นเพราะชื่อนี้เป็นตำนานมีชีวิตในหมู่จอมยุทธ์รุ่นใหม่ของเผ่ากระเรียนฟ้า ตอนแรกคนผู้นี้ก็เป็นสมาชิกเผ่ากระเรียนฟ้า แต่เนื่องจากความสามารถที่ยอดเยี่ยมจึงไปถูกตาผู้อาวุโสเผ่าคุนเผิงรับเขาเป็นศิษย์และคัดเลือกเข้าสู่เผ่าคุนเผิง ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่ในเผ่าคุนเผิงที่มีอัจฉริยะมากมาย เขาก็ยังถือว่าโดดเด่น พรสวรรค์และพลังของเขาเหนือกว่าจงเถิงเสียอีก!

ถ้าจงชิงเฟิงยอมช่วยพวกเขา มู่เฉินจะต้องถูกกระทืบจมดินแน่นอน

แค่คิดถึงภาพน่าเศร้าของมู่เฉินที่โดนกระทืบครั้งแล้วครั้งเล่า พวกหลิ่วชิงก็อดเป็นสุขจากการล้างแค้นไม่ได้ราวกับว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงแล้ว

ความมืดเยือนเข้ามาโอบล้อมพื้นดิน

ค่ำคืนในดินแดนเสินโซ่หนาวจัด กระทั่งฟ้าดินยังเต็มไปด้วยไอเย็นยะเยือก ซึ่งเกิดจากรัศมีความตาย มีจอมยุทธ์เผ่าเทพอสูรมากมายได้ทิ้งร่างไว้ที่นี่ ดังนั้นแม้เวลาจะผ่านไปนับหมื่นปี แต่ในค่ำคืนก็ยังถูกปนเปื้อนด้วยรัศมีความตาย ทำให้เย็นเยือกไปถึงแก่น

ดังนั้นโดยทั่วไปจึงไม่มีจอมยุทธ์คนไหนเลือกเดินทางในเวลากลางคืน พวกเขาจะมองหาสถานที่พักผ่อนเพื่อต่อต้านการรุกรานของรัศมีความตาย

บนภูเขาที่เคยสูงตระหง่าน แต่ตอนนี้พังทลายลงปรากฏถ้ำที่พร่างพราวด้วยแสงสว่างของเพลิงสีขาวนวล นี่เป็นเพลิงพิเศษชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถขับไล่รัศมีความตาย ทำให้ทั้งถ้ำเป็นอิสระจากสิ่งชั่วร้าย

ในถ้ำพวกมู่เฉินนั่งรอบกองไฟมองดูเพลิงสีขาวเต้นระริก พวกเขาอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า กลุ่มหานซันเตรียมพร้อมมาก แม้แต่หินไฟชนิดพิเศษก็เตรียมมา ชัดว่าพวกเขาตั้งใจจะไปสุสานหมื่นอสูรมานานแล้ว

“จากความเร็วของเรา น่าจะใช้เวลาอีกสี่วันไปถึงสุสานหมื่นอสูร…”

ที่เบื้องหน้ากองไฟ หานซันพลิกนิ้วประกายไฟลุกโชนก่อตัวเป็นแผนที่ จากนั้นก็ชี้นิ้วไปยังตำแหน่งหนึ่ง “อีกสองวันเราจะผ่านสถานที่นี่ซึ่งเป็นตลาดเสรี จะมีจอมยุทธ์จากเผ่าอื่นมารวมตัวกัน เราต้องไปเตรียมของบางอย่าง”

“นอกจากนี้…” หานซันมองมู่เฉินและจิ่วโยวแล้วยิ้ม “ที่นี่ก็มีของดีไม่น้อย หากมีโชค เราอาจจะได้รับบางอย่าง ข้าเคยได้ยินว่าในอดีตมีคนโง่ที่ไม่รู้มูลค่าของขายชิ้นส่วนวิทยายุทธระดับเสินทงไปให้คนอื่นในราคาต่ำ”

“ชิ้นส่วนของวิทยายุทธระดับเสินทง?”

มู่เฉินและจิ่วโยวอึ้งไปจากนั้นก็แอบเบ้ปาก เขาคนนั้นโง่จริงๆ แต่คำพูดของหานซันก็ทำให้พวกเขาสนใจมากขึ้น ดินแดนเสินโซ่กว้างใหญ่ไพศาลมีโอกาสมากมายซ่อนอยู่ที่นี่ ดังนั้นจึงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ได้รับโอกาส บางคนอาจมองไม่เห็นมูลค่าและนำสมบัติหายากนั้นมาขาย

“สำหรับสกุลเงินที่ใช้ก็คือของเหลวจื้อจุน แน่นอนว่าเจ้าสามารถใช้ของในการแลกเปลี่ยนได้” หานซันยิ้ม

มู่เฉินพยักหน้า เขาเพิ่งได้รับของเหลวจื้อจุนมาจากจงเถิงล้านหยด บวกกับที่มีอยู่แล้วเขาก็มีของเหลวจื้อจุนอยู่กับตัวเกือบสองล้านหยด หากพบของดีจริง เขาก็สามารถซื้อได้

“เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ ทุกคนรีบพักกันเถอะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางตั้งแต่เช้า”

เมื่อหานซันบอกเล่าเกี่ยวกับตลาดเสรีเรียบร้อย เขาก็หยุดคุยแล้วหลับตาเข้าสู่สมาธิ

ที่ด้านข้างจิ่วโยว มั่วเฟิงและมั่วหลิงก็หาที่ทางเข้าสู่สมาธิด้วยเช่นกัน

มู่เฉินเปิดโพรงหินสร้างห้องเพื่อเพาะบ่มแยกออกไป เขานั่งลงแต่ไม่ได้เข้าสมาธิทันที เขาหายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยๆ หลับตา

เมื่อหลับตาภาพทิวทัศน์ก็ปรากฏอยู่ในใจ ที่นี่เป็นสนามรบโบราณที่ไม่สามารถมองเห็นปลายเส้นขอบฟ้าได้ มีเพียงไอสังหารเชี่ยวกรากและกลิ่นอายความสิ้นหวังกระจายออกมา

ที่ใจกลางของสนามรบมีร่างเงาสีแดงเข้มยืนตระหง่านราวกับก้อนหิน เหมือนกับว่าต่อให้มีกองทัพและม้านับหมื่นแสนพุ่งเข้ามา ก็ไม่มีทางที่จะขยับเขยื้อนร่างกายของเขาได้

ดวงตาของมู่เฉินจับจ้องอยู่ที่ร่างสีแดงเข้ม ก็เห็นไอสังหารเชี่ยวกรากจากฟ้าดินค่อยๆ มารวมกันที่รอบตัวคนนั้น ทำให้เขาประหนึ่งเทพปีศาจเลยทีเดียว

เงาสีแดงเข้มเงยขึ้นอย่างช้าๆ เหมือนจะเหลือบมองมาที่มู่เฉิน ก่อนที่ไอสังหารจะก่อเป็นถ้อยคำสีแดงเข้มนับไม่ถ้วนปรากฏบนท้องฟ้า

เมื่อมองไป หัวใจของมู่เฉินก็กระตุกแรง

กระบวนท่าแรกของหมัดปีศาจพลีชีพ—สังเวยปีศาจ!

แม้สุดท้ายมู่เฉินจะออกมาจากเจดีย์โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็แปลกที่ไม่มีใครคิดว่ามู่เฉินผ่านการทดสอบของชั้นห้า นั่นเป็นเพราะในมุมมองของพวกเขานี่เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย

ทว่าพวกเขาไม่เคยคิดว่าชั้นห้าไม่ใช่การทดสอบความแข็งแกร่ง แต่เป็นความกล้าหาญในการเสียสละตนเอง

มู่เฉินอดทนจนวินาทีสุดท้ายไปกับหมัดทำลายล้าง ดังนั้นเมื่อเขาเห็นว่าร่างกายถูกทำลายโดยหมัด เขาก็รู้ว่าการเดิมพันของตนเองประสบความสำเร็จแล้ว

เดิมพันนี้ก็คือวิทยายุทธระดับเสินทงที่ราชันสงครามโลหิตสร้างขึ้น!

หมัดปีศาจพลีชีพ!

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset