หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1018 ตลาดเสรี

ในถ้ำ

รัศมีสังหารรุนแรงแฝงด้วยความโหดเหี้ยมไม่สิ้นสุดเกิดขึ้นในใจของมู่เฉินแล้วพุ่งใส่ร่างดวงจิตของมู่เฉินไม่หยุดยั้ง ทำให้ดวงตาเริ่มกลายเป็นสีแดง

ราวกับว่ามีไอกระหายเลือดพุ่งขึ้นจากหัวใจ

เมื่อรู้สึกถึงสิ่งนี้ มู่เฉินก็ตัดสินใจรีบหยุดการสัมผัสทันที ดวงตาของเขาเปิดโพลงพร้อมกับสีหน้าเคร่งเครียด

หมัดปีศาจพลีชีพน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง เพียงแค่ฝึกก็จะได้รับผลกระทบจากความกระหายเลือดแล้ว

ทว่ามู่เฉินไม่ได้กังวลอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ หากวิทยายุทธระดับเสินทงสามารถฝึกสำเร็จได้ง่าย ก็ไม่ควรถูกเรียกว่าคัมภีร์มหาเทพแล้ว

“ตอนนี้ข้าต้องสัมผัสความกระหายเลือดทุกวันจนกว่าจะคุ้นชินและสามารถควบคุมได้ ถึงจะเริ่มฝึกฝนได้” มู่เฉินพึมพำกับตัวเอง

หากเขาต้องการใช้หมัดปีศาจพลีชีพ ก็ต้องทำให้จิตวิญาณจมจ่มอยู่ในความกระหายเลือด มีเพียงรัศมีที่ลืมความตายเท่านั้นถึงจะทำให้เขาสามารถปลดปล่อยพลังหมัดนี้ได้อย่างแท้จริง

แต่ถึงแม้ว่าวิธีการฝึกฝนหมัดนี้จะยากมาก แต่มู่เฉินก็ยังแอบดีใจอยู่ในใจ แม้ว่าเขาจะได้รับเพียงกระบวนท่าแรก แต่หมัดนี้ก็จะกลายเป็นไพ่ตายใบสำคัญหากเขาสามารถฝึกฝนได้สำเร็จ

ฮา

มู่เฉินสูดหายใจเข้าลึกสุดปอดระงับความปีติยินดีในใจ จากนั้นก็สงบจิตใจก่อนที่จะเข้าสู่สมรภูมิสังหาร อีกครั้ง ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปเขาจะต้องทำความเข้าใจรัศมีสังหารที่โหดร้ายและพยายามคุ้นชินกับมันโดยเร็วที่สุด

นั่นเป็นเพราะเขาตั้งตารอวันที่สามารถปลดปล่อยหมัดปีศาจพลีชีพและดูว่ามันจะน่าตกใจแค่ไหน

เช้าวันรุ่งขึ้น

ทันทีที่ความมืดเพิ่งจะบอกลา ทุกคนก็ออกจากสมาธิ หลังจากเก็บข้าวของพวกเขาก็เดินทางกันอีกครั้ง

ภายใต้การเดินทางอย่างรวดเร็ว มู่เฉินก็เริ่มตระหนักถึงความกว้างใหญ่ของดินแดนเสินโซ่ นอกจากนี้ในบางพื้นที่ยังเต็มไปด้วยหุบเหวลึก เมื่อมองจากมุมสูงก็จะพบว่าเหวลึกเกิดจากการฉีกขาดโดยฝ่ามือขนาดใหญ่ทั้งนั้น ฉากนี้ราวกับว่าผืนดินทั้งผืนแตกออกจากกัน

ภาพเหล่านี้ล้วนพิสูจน์ว่าเป็นหายนะแค่ไหนในยามที่เผ่าปีศาจต่างมิติเปิดการโจมตีแบบไม่ยั้งใส่ดินแดนเสินโซ่ในยุคโบราณ…

สำหรับเหวลึกเหล่านี้แม้บางพื้นที่จะมีรัศมีสมบัติ แต่พวกมู่เฉินก็ไม่กล้าเสี่ยงเข้าไป เพราะแม้ว่าจะผ่านไปนับหมื่นปี รัศมีปีศาจก็ยังคงอยู่ในนั้น ซึ่งเป็นรัศมีที่ไม่เข้ากับคลื่นหลิงในฟ้าดิน หากพวกเขาเข้าไปข้างในมีความเป็นไปได้ที่คลื่นหลิงในร่างกายจะหมดลงอย่างรวดเร็วและถูกรัศมีปีศาจเข้าบุกรุกทำร้ายล้างวิญญาณ

ระหว่าทางพวกเขาก็พบคนเผ่าอื่นๆ อยู่บ้าง แต่เมื่อคนเหล่านั้นเห็นการรวมตัวของกลุ่มมู่เฉินก็รีบถอยอย่างมีชั้นเชิง

เพราะตัดสินจากรูปลักษณ์กลุ่มพวกเขามีจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดห้าคน ส่วนอีกสามคนนอกจากมั่วหลิงที่ดูบอบบางแล้ว อีกสองคนก็ดูจัดการยาก ดังนั้นนี่จึงทำให้หัวใจของกลุ่มเหล่านั้นสลายเจตนาไม่ดีลง ทำให้การเดินทางของพวกเขาราบรื่นขึ้น

ดังนั้นภายใต้การเดินทางในกลางวันและทำความเข้าใจกับรัศมีกระหายเลือดของหมัดปีศาจพลีชีพในกลางคืน เวลาจึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ในวันที่สามกลุ่มมู่เฉินก็พบว่ามีความผันผวนของคลื่นหลิงปรากฏมากขึ้น นอกจากนี้ยังมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน

ภาพนี้ทำให้มู่เฉินรู้ว่าพวกเขาน่าจะใกล้ถึงตลาดเสรีที่หานซันบอกแล้ว

ขณะที่ความคิดนี้ผุดขึ้นในใจมู่เฉิน ทิวทัศน์เบื้องหน้าเขาก็เปิดกว้างขึ้นทันที จากนั้นเขาก็เห็นว่ามีเนินเขาขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในระยะไกล ซึ่งมีสิ่งก่อสร้างโบราณอยู่บนนั้นบ้าง คลื่นหลิงทรงพลังนับไม่ถ้วนกระจายออกจากที่นั่น

ในฟ้าดินโดยรอบก็มีร่างแสงพลิ้วลงในสิ่งก่อสร้างโบราณอยู่เรื่อยๆ

ชัดว่าพื้นที่บริเวณน่าจะเป็นตลาดเสรีที่หานซันบอกแล้ว

“เรามาถึงแล้ว”

หานซันพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วพูดกับกลุ่มมู่เฉินว่า “เมื่อเราเข้าตลาดเสรีก็แยกกันหาซื้อสิ่งของที่สามารถช่วยต่อต้านรัศมีความตายเพื่อง่ายสำหรับพวกเราที่จะเข้าไปในสุสานหมื่นอสูร ในมือพวกเจ้าก็มีรายการวัตถุอยู่ ถ้าเจอก็ซื้อเอาไว้ ของเหล่านั้นยิ่งเยอะยิ่งดี”

“ตกลง” มู่เฉินพยักหน้าหลังจากได้ยิน

ฟิ้ว!

จากนั้นร่างแสงหลายร่างก็พุ่งทะลุขอบฟ้าพลิ้วลงในเขตนอกของตลาดเสรีอย่างรวดเร็ว

เมื่อพวกเขาเข้าสู่เขตนอกตลาดเสรี ความตื่นตะลึงก็วูบไหวในดวงตามู่เฉิน ขนาดความเฟื่องฟูที่นี่เกินความคาดหมายของเขา ตามการคาดการณ์น่าจะมีคนไม่น้อยกว่าพันคนที่อยู่ในตลาดเสรี

พวกเขาเข้าสู่ตลาดตามคลื่นฝูงชน ก่อนที่พวกหานซันจะเดินแยกไปอีกทาง

มั่วหลิงเต็มไปด้วยชีวิตชีวาเผยท่าทางของหญิงสาวที่ชื่นชอบสถานที่จับจ่ายใช้สอย เมื่อพรรคพวกมองเห็นก็ได้แต่ยิ้ม ยังไงพวกเขาก็ตั้งใจมาหาสมบัติอยู่แล้ว ดังนั้นการเดินตามหลังนางไปเดินดูข้าวของไปรอบๆ ก็ไม่เสียหายอะไร

ตลาดเสรีกว้างใหญ่ มีหินก้อนโตโดยรอบก่อตัวเป็นรูปแบบต่างๆ บางคนนั่งอยู่บนหินตามสองข้างทาง ที่มีต้นไม้หินหนาแน่นอยู่ข้างหน้า บนกิ่งไม้มีลูกผลึกแสงกะพริบแวววาว สิ่งของสะดุดตาหลากหลายอยู่ในลูกผลึกแสงเหล่านั้น

ทั้งคัมภีร์ กระบี่โบราณ กระดูกสีขาวและสมบัติแปลกประหลาดหลากหลายประเภท ซึ่งดูน่าตื่นตาดึงดูดสายตาอย่างยิ่ง

มู่เฉินเดินช้าๆ บางทีเมื่อพบวัตถุที่สามารถต้านทานรัศมีความตายได้ก็จ่ายเงินซื้อเอาไว้ แม้ว่าวัตถุเหล่านี้หายาก แต่ราคาส่วนมากก็อยู่ที่หลักหมื่นของเหลวจื้อจุน ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับมู่เฉิน

ขณะที่พวกเขากวาดตาผ่านสินค้า มู่เฉินก็ค้นพบของบางอย่างที่ถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ผู้ขายก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน ดังนั้นราคาจึงแพงหูฉี่ เขาได้แต่เหลือบมองก่อนที่จะยอมแพ้

ไม่จำเป็นต้องเสียของเหลวจื้อจุนมากมายเพื่อซื้อของที่ไม่เป็นประโยชน์อะไรมาก

ดังนั้นระหว่างทางมู่เฉินจึงอดถอนหายใจไม่ได้ สินค้าในตลาดเสรีแห่งนี้มีคุณภาพสูง หากวางไว้ในโรงประมูลภายนอก จะเรียกราคาสูงกว่านี้อย่างแน่นอน

พวกเขาเดินเข้าไปส่วนในของตลาด สุดท้ายทั้งสี่ก็หยุดเดินเบื้องหน้าต้นไม้หินใหญ่ต้นหนึ่ง

ต้นไม้หินนี้ไม่เล็ก ซ้ำยังหนากว่าต้นอื่น นอกจากนี้ยังมีวัตถุมากมายแขวนอยู่ ช่างดูเจิดจ้าแยงตาและเหมือนจะพิเศษไม่น้อย

ดังนั้นจึงมีผู้คนแวะเวียนเข้ามาดูวัตถุบนต้นไม้หินนี้ตลอดเวลา

มู่เฉินเพ่งสายตาไป แววตกตะลึงก็วูบไหวในดวงตา นั่นเพราะเขาพบว่าทุกชิ้นถูกปิดผนึกไว้ ผนึกเหล่านั้นเก่าแก่มาก ทำให้ผู้ซื้อไม่สามารถมองทะลุทะลวงเข้าไปได้

“สหายนี่หมายความว่าอะไร?” มู่เฉินมองใต้ต้นไม้หินที่มีชายร่างผอมบางนั่งเงียบๆ แม้ว่าชายคนนี้จะหลุบตาต่ำราวกับง่วงงุน แต่มู่เฉินก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนของคลื่นหลิงที่ทรงพลังจากเขา

พลังของชายคนนี้ไม่อาจประมาทได้

“วัตถุเหล่านี้ข้าได้มาจากซากอารยธรรม แต่ก็มีผนึกติดอยู่ทุกชิ้น ผนึกเหล่านี้แปลกมาก มีโอกาสประสบความสำเร็จในการทำลายเพียงสามส่วน เมื่อล้มเหลวสมบัติก็จะระเบิดตัวเอง ดังนั้นหากใครต้องการที่จะลองก็ต้องจ่ายของเหลวจื้อจุนห้าแสนหยดแล้วก็เลือกทำลายได้ตามใจชอบ แน่นอนว่า…ข้าจะไม่รับผิดชอบต่อความสำเร็จหรือความล้มเหลว ต่อให้เจ้าเปิดได้อาวุธมหสวรรค์ก็จะเป็นของของเจ้า” ชายร่างผอมบางเงยหน้าขึ้นมองไปที่มู่เฉินก่อนจะพูดช้าๆ

กติกาของผู้ขายคนนี้แตกต่างจากคนอื่น ใช้วิธีจับสลากเพื่อเสี่ยงโชค หากใครโชคร้ายแม้ว่าพวกเขาจะสามารถเปิดผนึกได้ พวกเขาก็จะได้รับเพียงขยะไปเท่านั้น

“ของเหลวจื้อจุนห้าแสนหยดสำหรับโอกาสทำลายผนึก นอกจากนี้โอกาสสำเร็จยังไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ เจ้าบ้ารึเปล่า?” ที่ด้านข้างมีคนส่งเสียงล้อเลียน เพราะเขาคิดว่าผู้ขายคนนี้เรียกร้องราคาที่สูงเกินไป

เมื่อเขาพูดออกไปก็มีคนจำนวนมากเอ่ยเห็นด้วย สิ่งนี้น่าดึงดูด แต่ราคาของเหลวจื้อจุนห้าแสนหยดและโอกาสสำเร็จเพียงสามส่วนก็หยุดความคิดผู้คนที่จะลองดู

ทว่าชายร่างผอมขี้เกียจเกินกว่าจะให้ความสนใจพวกเขา วัตถุของเขาผ่านการคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน ดังนั้นผู้มีสายตาเฉียบแหลมจะรู้สึกได้ว่านี่ไม่ใช่ของธรรมดา หากไม่ใช่วัตถุเหล่านี้มีโอกาสประสบความสำเร็จต่ำ เขาก็คิดทำลายเองทั้งหมด ทว่า…เขาเคยลองมาแล้วหลายครั้ง แต่ที่ทำให้เขาโมโหคือโชคของเขาต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เขาไม่เคยทำลายผนึกได้สำเร็จเลยสักครั้ง

มู่เฉินกับจิ่วโยวแลกเปลี่ยนสายตากันอย่างรวดเร็ว ความสนใจก็เพิ่มขึ้น นั่นเป็นเพราะพวกเขาพบว่าวัตถุที่ปิดผนึกอยู่ภายในมีความไม่ธรรมดาอยู่จริง

บางทีพวกเขาอาจลองเสี่ยงได้สักหน่อย

ทั้งสี่มีความคิดดังกล่าวแล่นพล่านในใจ จากนั้นสายตาก็กวาดมองไปที่ลูกผลึกแสงทั้งหลาย

ในขณะที่ทั้งสี่กวาดมองไปรอบๆ สายตามู่เฉินและมั่วหลิงก็หยุดชะงักมองลูกผลึกแสงที่ห้อยอยู่มุมขวาล่างพร้อมกัน

ภายในลูกผลึกแสงเป็นหินสีดำขนาดเท่ากำปั้น หินราวกับไข่ พื้นผิวเหมือนจะมีร่องรอยไหม้อยู่

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset