หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1038 เนตรดับชีวิต

ใจกลางสายธารที่สร้างจากอาวุธโบราณนับหมื่นชิ้น

ลูกแสงสามลูกลอยตัวอย่างเงียบเชียบ แสงที่กำจายออกมานั้นไม่ได้ทรงพลังอะไร แต่รอบข้างกลับมัวหมองเมื่อเทียบกัน

ภายในลูกแสงทั้งสามมีของได้แก่ขวาน ไม้บรรทัดและกระจก

ขวานเป็นสีทองแดงปกคลุมไปด้วยรอยกระดำกระด่างราวกับว่าครั้งหนึ่งเคยแยกท้องฟ้าออกด้วยพลังอันไร้ขอบเขต

ไม้บรรทัดเป็นสีดำสนิท ดูเหมือนว่าสามารถกลืนกินแสงจากฟ้าดินได้เพียงโบกลงมา

กระจกเป็นกระจกโบราณที่มีพื้นผิวขรุขระดูค่อนข้างธรรมดา ซ้ำยังเปล่งรัศมีเก่าแก่ของยุคแรกเริ่มและสัมผัสได้ถึงความลึกลับที่เปล่งออกมา

วัตถุทั้งสามล้วนทรงพลังอย่างเห็นได้ชัด ความผันผวนที่ปล่อยออกมาเกินขอบเขตของอาวุธพบสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมและก้าวเข้าสู่อาวุธเสมือนมหสวรรค์

นี่คือสมบัติที่มู่เฉินเฝ้าฝันอยากได้ หากเขาสามารถได้รับหนึ่งในนั้น พลังในการต่อสู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นมาก ต่อให้จิงฉิงเทียนเขาก็สามารถฆ่าได้อย่างสบายๆ

มู่เฉินจ้องมองอาวุธทั้งสามด้วยแววตาลุกโชนพลางเลียริมฝีปาก ความโลภเพิ่มขึ้นในใจอีกครั้ง เมื่อเผชิญหน้ากับอาวุธเสมือนมหสวรรค์ที่เขาสามารถไขว่คว้ามาไว้ในมือ แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนก็ไม่อาจทำให้จิตใจสงบลงได้

สายตาของมู่เฉินร้อนแรงขึ้น จากนั้นก็ก้าวออกไป คลื่นหลิงพวยพุ่งกลายเป็นมือใหญ่ฉีกขาดมิติคว้าอาวุธเสมือนมหสวรรค์ทั้งสามไว้ในทันที ในเมื่อมาแล้วก็ไม่ปล่อยให้หนีไปได้แม้แต่ชิ้นเดียว

ฟิ้ว!

มือคลื่นหลิงขนาดใหญ่พุ่งผ่านขอบฟ้าเข้าสู่สายธารอาวุธได้อย่างง่ายดาย จากนั้นก็ไปปรากฏตัวตรงหน้าอาวุธเสมือนมหสวรรค์ทั้งสามเตรียมที่จะคว้าเอาไว้

มือแหวกตรงเข้าไป แต่ขณะที่มู่เฉินจะสัมผัสกับวัตถุทรงพลังทั้งสามชิ้น ดวงตาเขาก็เปล่งประกายวูบไหว เขาได้สติรีบกัดลิ้นแรงๆ พ่นเลือดออกมากบปาก

ริ้วเลือดไหลอยู่ที่มุมปาก มือคลื่นหลิงก็ชะงักค้างโดยไม่ได้สัมผัสกับอาวุธเสมือนมหสวรรค์ทั้งสามที่ลอยอยู่เงียบๆ

มู่เฉินเช็ดเลือดออกช้าๆ สีหน้าไม่น่าดูลงหลายส่วน เมื่อครู่ขณะที่เขากำลังจะคว้าอาวุธเทพทั้งสามชิ้น ด้วยนิสัยหวาดระแวงและดื้อรั้นของเขาที่ผ่านการฝึกฝนมาตลอดหลายปีก็แสดงให้เห็นผล ทำให้เขาควบคุมความโลภหนาแน่นในหัวใจได้

เมื่อความโลภจางลง มู่เฉินก็สติกระจ่างแจ้งและเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

นั่นเป็นเพราะทุกอย่างราบรื่นเกินไป

แม้ว่าเขากำลังจะคว้าอาวุธเสมือนมหสวรรค์ทั้งสาม แต่ก็ไม่มีสิ่งกีดขวางใดแม้แต่น้อย แม้ว่าอสูรโบราณโภคะตายไปแล้ว มู่เฉินก็ไม่เชื่อว่าสัตว์เทพเช่นนี้ไม่ได้ทิ้งวิธีการปกป้องสมบัติไว้

เล่าลือกันว่าอสูรโบราณโภคะขี้เหนียวมากกับสมบัติที่มี ดังนั้นถ้าเขาคิดว่าสามารถรับสมบัติโดยไม่ต้องกังวลอะไร ก็คงต้องได้รับผลจากการกระทำของตนเอง

นอกจากนี้เมื่อเข้ามาในพื้นที่นี้ มู่เฉินก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องง่ายมากที่ความโลภจะพุ่งมาหล่อเลี้ยงหัวใจ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาตั้งใจ แต่ได้รับผลกระทบจากวิธีการบางอย่างที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

วิธีการเหล่านั้นอาจถูกทิ้งไว้โดยอสูรโบราณโภคะ ถ้าเขาทำตามที่ใจปรารถนาโดยการคว้าสมบัติมา ความพยายามทั้งหมดของเขาก็อาจจะสูญเปล่า

มู่เฉินยืนเงียบขณะไตร่ตรอง ครู่หนึ่งเขาก็สูดลมหายใจลึก ก่อนที่จะนั่งลงและค่อยๆ หลับตา

เขาไม่ได้พยายามที่จะคว้าสมบัติอีกครั้ง เขาตั้งใจที่จะสงบจิตใจละทิ้งการล่อลวงของความโลภ

เมื่อมู่เฉินหลับตาจิตใจก็ค่อยๆ สงบลง ความโลภที่พล่านอยู่ในหว่างคิ้วก็จางหายไป หัวใจของเขาเริ่มสงบนิ่งเหมือนผิวน้ำ

เวลาไหลผ่านไปเงียบๆ

ไม่รู้เมื่อไร มู่เฉินก็ลืมตาขึ้น ม่านตาสะท้อนความสงบนิ่ง ราวกับสระน้ำลึกที่ไม่มีความผันผวน ความโลภก่อนหน้านี้หายไปอย่างสมบูรณ์

มู่เฉินจ้องมองสายธารอาวุธพบสวรรค์อีกครั้งด้วยใจสงบ แต่คราวนี้สิ่งที่เห็นแตกต่างจากเมื่อครู่สิ้นเชิง

สายธารพร่างพราวกำลังหายไปอย่างช้าๆ ราวกับว่าสิ่งที่เห็นก่อนหน้าเป็นภาพลวงตา

มู่เฉินเฝ้าดูสายธารอาวุธล้ำค่าหายไปอย่างเงียบๆ โดยไม่รู้สึกเสียใจอะไร

สุดท้ายสายธารก็อันตรธานหายไปจนหมด

เมื่อสายธารหายไปก็เหลือเพียงอาวุธเสมือนมหสวรรค์ทั้งสามเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในพื้นที่นี้

แต่มู่เฉินก็มองไปโดยไม่ทำอะไร ไม่มีระลอกคลื่นในดวงตาสักนิด

ความเงียบดำเนินไปเป็นเวลานานก่อนที่อาวุธเสมือนมหสวรรค์ทั้งสามจะเคลื่อนไหวในที่สุด แสงเบ่งบานจากพวกมัน จากนั้นอาวุธทั้งสามก็ค่อยๆ ขยับเข้าใกล้กันก่อนจะรวมตัวเข้าด้วยกัน

เมื่อมู่เฉินเห็นฉากนี้ ระลอกคลื่นก็เริ่มปรากฏขึ้นในดวงตา อาวุธเสมือนมหสวรรค์ทั้งสามที่เบื้องหน้าไม่ใช่ภาพลวงตา พวกมันมีอยู่จริง แต่เพราะการเลือกของเขา ทำให้กลอุบายที่ถูกทิ้งไว้โดยอสูรโบราณโภคะเปลี่ยนไป

มู่เฉินอยากรู้อย่างมากในใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน

เมื่ออาวุธรวมเข้าด้วยกัน แสงก็บิดเบี้ยวก่อนที่จะค่อยๆ จางหายไป วัตถุชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้น

นี่ไม่ใช่ขวาน ไม้บรรทัดหรือกระจก แต่เป็นลูกปัดสีดำขนาดฝ่ามือ แต่เมื่อมองเข้าไปใกล้ๆ ก็จะเห็นว่าลูกปัดนี้คล้ายกับดวงตาสีดำ…

ดวงตาสีดำลอยอยู่ในอากาศเปล่งความลึกลับที่ทำให้หัวใจของผู้คนเย็นเยือกลง

ฟิ้ว!

เมื่อดวงตาสีดำปรากฏขึ้นก็ลอยมาอย่างช้าๆ แล้วหยุดที่เบื้องหน้ามู่เฉิน เขาลังเลสั้นๆ ก่อนที่จะยื่นมือออกไปรับเอาไว้

ความรู้สึกเย็นเยือกกระจายออกจากฝ่ามือก่อนที่มู่เฉินจะสะบัดนิ้วหยดเลือดลงไป เลือดกลั่นแทรกซึมเข้าไปอย่างรวดเร็วในลูกตาสีดำ อึดใจเขาก็รู้สึกถึงการเชื่อมต่อกับอาวุธชิ้นนี้

อาวุธนี้ไม่มีผู้ครอบครองหลังจากที่อสูรโบราณโภคะเสียชีวิต ตราบใดที่เขารับได้ก็จะสามารถผูกไว้กับตัวโดยผ่านร่องรอยเลือด

เมื่อสร้างการเชื่อมโยงกัน มู่เฉินก็รู้สึกถึงข้อมูลโบราณที่ไหลเข้ามาในสมอง ซึ่งอธิบายที่มาที่ไปของวัตถุนี้

มู่เฉินหลับตาลงรับรู้ข้อมูลก่อนที่จะเปิดขึ้นในไม่ช้า ความฉงนสนเท่ห์อัดแน่นในดวงตาเมื่อมองไปที่ดวงตาสีดำ อาวุธชิ้นนี้ถูกเรียกว่า ‘เนตรดับชีวิต’ ซึ่งว่ากันว่าใช้ดวงตาของอสูรโภคะเป็นวัสดุพื้นฐานและได้เพิ่มสมบัติธรรมชาติอีกมากมาย ในมุมมองหนึ่งถือได้ว่าเป็นสมบัติชีวิตของอสูรโบราณโภคะเลยทีเดียว

ถ้าไม่ใช่เพราะอสูรโบราณโภคะตายก่อนเวลาอันควร มันคงจะปรับแต่งอาวุธนี้ให้เป็นอาวุธมหสวรรค์ของแท้ได้

แต่ถึงกระนั้นเนตรดับชีวิตก็ยังถือเป็นอาวุธเสมือนมหสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่อสูรโบราณโภคะได้สร้างขึ้น

“เป็นเช่นนี้เอง…”

มู่เฉินรับรู้ข้อมูลในหัวสมองก็เข้าใจทันที หากก่อนหน้าเขาพยายามจะคว้าอาวุธทั้งสามชิ้นไป ตอนนี้เขาก็จะไม่ได้อะไรเลย

ทุกคนที่มาที่นี่มีโอกาสในการเลือก หากพวกเขาเลือกที่จะรับอาวุธพบสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมตั้งแต่เริ่มต้น เส้นทางในการค้นหาสมบัติของเขาก็จะจบลง

มู่เฉินชื่นชมยินดีในหัวใจ โชคดีที่เขาไม่ได้โลภมากเลือกรับอาวุธพบสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมแล้วถูกเตะโด่งออกไป ไม่งั้นเขาคงเสียใจจนบ้าไปแล้ว

“ถ้าเมื่อครู่ข้าเลือกหนึ่งในสามนั้น…แม้ว่าข้าจะได้รับสิ่งนั้น แต่ก็ไม่สามารถได้รับเนตรดับชีวิตนี้…”

มู่เฉินถอนหายใจ หากใครต้องการได้รับเนตรดับชีวิต พวกเขาก็ต้องละทิ้งความโลภจนหมดสิ้น ถ้าเขาไม่สะกิดใจว่าทุกอย่างดูง่ายไป เลือกที่จะทำให้จิตใจสงบลง ตอนนี้เขาก็คงไม่สามารถได้รับเนตรดับชีวิตมา

“อสูรโภคะเจ้าเล่ห์จริงๆ…” มู่เฉินส่ายหัว หากไม่ใช่โชคดี ครั้งนี้เขาคงถูกเจ้าอสูรตัวนี้หลอกเข้าแล้ว

แต่โชคดีที่เขาอดทนได้จนถึงวินาทีสุดท้าย

ยกเนตรดับชีวิตในมือขึ้น รอยยิ้มพอใจก็ปรากฏบนใบหน้า แม้ว่าเนตรดับชีวิตจะเป็นอาวุธเสมือนมหสวรรค์ แต่พลังอำนาจไปไกลเกินกว่าระดับธรรมดา ถ้าเขามีโชคมากพอก็อาจจะสามารถพัฒนาเป็นอาวุธมหสวรรค์ของแท้ได้

“ว่ากันว่าเนตรดับชีวิตนี้สามารถมองผ่านภาพลวงตาและปราการกั้นต่างๆ ได้… นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งแสงเทพดับชีวิตซึ่งเป็นพลังครอบงำและทำลายทุกสิ่งที่ขวางทาง”

มู่เฉินหรี่ตาลงพร้อมกับเร้าคลื่นจิต เขาอ้าปาก เนตรดับชีวิตก็กลายเป็นจุดสีดำเคลื่อนเข้าไปสถิตในร่างกายเขา จากนั้นแสงสีดำมืดก็รวมตัวกันที่หน้าผากขณะที่ตาสีดำสนิทเปิดขึ้นอย่างช้าๆ ในแนวตั้ง

แสงสีดำกำจายอยู่ในดวงตาสีดำส่องประกายวูบไหว ทันใดนั้นมู่เฉินก็พบว่าภาพเบื้องหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก เขามองทะลุผ่านมิติเห็นทะเลสาบตัวเป่าขนาดใหญ่

แต่ครั้งนี้ปราการของทะเลสาบไม่มีอีกต่อไป สายตาของเขาทะลุผ่านทะเลสาบ เห็นทุกสิ่งในทะเลสาบอยู่ในสายตา

โครงกระดูกขนาดมหึมาก็สามารถมองได้ทั่วในครั้งเดียว

นั่นคือโครงกระดูกของอสูรโบราณโภคะ

บนกระดูกที่เผยออกมาจากน้ำในทะเลสาบ เขาเห็นจิ่วโยว หานซันและคนอื่นๆ ก่อนที่สายตาจะเลื่อนออก เพียงแวบเดียวเขาก็ได้เห็นส่วนที่ลึกที่สุดของทะเลสาบ

มีปากปล่องภูเขาขนาดใหญ่ฝังตัวอยู่ที่ความลึกของทะเลสาบคล้ายกับหุบเหว เห็นได้ชัดว่าถูกทิ้งไว้โดยผลจากการละสังขารของอสูรโบราณโภคะ เมื่อกวาดสายตาไปหัวใจของเขาก็วิ่งพล่านไปทั่ว

เนตรดับชีวิตมองผ่านทุกสิ่งก่อนรวมตัวกันในสถานที่หนึ่งของโครงกระดูกที่ร่วงหล่น เมื่อพิจารณาจากรูปร่างน่าจะเป็นส่วนหัว ยามนี้มองเห็นปากปล่องสีดำกว้างร้อยจั้งอยู่ใต้หัวนั่น

ภาพปากปล่องดำมืดที่เผยออกมา ทำให้จิตใจของคนมองเย็นเยือกลง ไม่มีแสงสว่างใดๆ ในนั้น มีเพียงริ้วแสงสีเลือดสลัวรางที่ห่อหุ้มอยู่เท่านั้น กลิ่นอายช่างคล้ายคลึงกับอสูรโบราณโภคะยิ่งนัก

“แก่นโลหิตอสูรโบราณโภคะอยู่ในนั้นเหรอ?”

หัวใจมู่เฉินสั่นสะท้าน แสงกำจายออกมาจากเนตรดับชีวิตพยายามตรวจสอบหลุมดำ แต่ทันทีที่สายตาของเขาสัมผัสกับมัน ริ้วแสงเลือดก็เปล่งประกายออกมา วิสัยทัศน์การมองของเขาแตกกระจาย

ในมิติมู่เฉินลืมตาโพลง ก่อนที่ดวงตาบนหน้าผากจะหายไป ความเคร่งเครียดและหวาดผวาปกคลุมทั่วใบหน้า

หลุมดำที่อยู่ก้นทะเลสาบคืออะไรกัน?

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset