หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1064 ปีศาจ

ช่างเป็นสัมผัสที่อบอุ่น

เมื่ออัญมณีสีแดงเข้มตกอยู่ในมือของมู่เฉินก็ราวกับมีเปลวไฟลุกโชนอยู่ในนั้นพร้อมกับวิหคอมตะงดงามโปรยบินอยู่ในอัญมณีดูลึกลับอย่างยิ่ง

มู่เฉินจ้องมองแก่นมรดกโลหิตวิหคอมตะโบราณในมือ แม้แต่เขาที่มักสงบอารมณ์ได้ดี ยังอดไม่ได้ที่จะฉายความสุขบนใบหน้า พวกเขาไม่ได้พยายามหนักในดินแดนเสิ่นโซ่เพื่อแก่นมรดกโลหิตนี้รึ?

เมื่อได้สิ่งนี้ภารกิจของเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ ผู้อาวุโสของเผ่าวิหคโลกันตร์จะไม่แสดงท่าทางกระด้างเกี่ยวกับพันธะโลหิตของเขากับจิ่วโยวอีกต่อไป

“จิ่วโยวเอานี่”

มู่เฉินโยนแก่นมรดกโลหิตของวิหคอมตะโบราณเล่นในมือ จากนั้นนิ้วก็สะบัดออกแก่นโลหิตกลายเป็นลำแสงพุ่งไปหาจิ่วโยว

จิ่วโยวคว้ามือออกไปรับแก่นโลหิตด้วยใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างไม่สามารถควบคุมได้ แก่นมรดกโลหิตวิหคอมตะโบราณเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับนาง ตราบใดที่นางสามารถดูดซับได้ สายเลือดวิหคอมตะที่ไหลเวียนในร่างกายนางก็จะยกระดับสูงขึ้น หากมีโอกาสมากพอในอนาคตนางอาจจะสามารถพัฒนาเป็นวิหคอมตะที่แท้จริงได้

ในเวลานั้นนางก็จะเป็นจอมยุทธ์หญิงที่ทั้งมหาพันภพต้องให้ความสนใจ

เนื่องจากวิหคอมตะทุกตัวมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวซึ่งเทียบเท่ากับระดับเทียนจื้อจุน

เมื่อจอมยุทธ์เผ่าอื่นๆ บนแท่นบูชาเห็นมู่เฉินยกแก่นมรดกโลหิตที่เขาต่อสู้มาอย่างสาหัสากรรจ์ให้จิ่วโยว พวกเขาก็อึ้งไปเป็นเวลานาน ก่อนที่พวกเขาจะเบ้ริมฝีปาก สายตาที่มองไปยังมู่เฉินก็เปลี่ยนไปจากเดิม

ความกว้างใจกว้างนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถมีได้…

มู่เฉินไม่ได้ใส่ใจกับสายตาตกตะลึงเหล่านั้น เหตุผลที่เขามาดินแดนเสินโซ่ก็เพื่อช่วยจิ่วโยวให้ได้รับแก่นโลหิตวิหคอมตะโบราณ นอกจากนี้จิ่วโยวก็เป็นพี่สาวที่ดูแลเขาเป็นอย่างดีมานาน ดังนั้นแก่นมรดกโลหิตวิหคอมตะโบราณนี้ยังไม่เพียงพอกับความช่วยเหลือที่มีในสายตาของเขาเลย

หลังจากที่มู่เฉินส่งแก่นมรดกโลหิตให้จิ่วโยว จงชิงเฟิงและลู่โหวที่อยู่เบื้องหน้ารูปปั้นอีกสองแห่งก็ได้รับแก่นมรดกโลหิตเรียบร้อยเช่นกัน

จงชิงเฟิงและลู่โหวจ้องมองสมบัติเบื้องหน้าก็ฉายความสุขบนใบหน้า พวกเขาเก็บแก่นโลหิตไป การเก็บเกี่ยวของพวกเขาในการเดินทางมายังดินแดนเสินโซ่ถือว่าสมบูรณ์แบบแล้ว

ทว่าขณะที่พวกเขากำลังชื่นชมยินดี มู่เฉินก็รู้สึกว่าสีของรูปปั้นหินทั้งสามมืดลงและแสงหลิงที่ครอบครองก่อนหน้าก็เริ่มหายไป

ฮึ่ม!

เมื่อรูปปั้นหินทั้งสามหม่นหมองลง จู่ๆ ผืนดินก็โยกคลอนเล็กน้อย แม้ว่าการโยกนี้จะไม่ชัดเจน แต่มู่เฉินก็ยังรับรู้ได้จากประสาทสัมผัสที่ว่องไว

มู่เฉินขมวดคิ้วขณะที่กวาดสายตามอง ครู่เดียวสายตาของเขาก็จ้องไปที่มุมมุมหนึ่งซึ่งเป็นบริเวณที่ไป๋หมิงนอนบาดเจ็บอยู่ก่อนหน้า ทะเลสาบเลือดถูกดูดซึมลงไปในดินตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ทำให้ดินแดนมืดมนในตอนแรกมีร่องรอยสีแดงสดเพิ่มขึ้น ซึ่งให้ความรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง

มู่เฉินจ้องมองผืนดิน ไม่รู้ว่าทำไมภาพหลุมดำลึกลับใต้ทะเลสาบตัวเป่าผุดขึ้นในหัวอีกครั้ง ความไม่สบายใจกวนตัวขึ้นในใจ จากนั้นสายตาของเขาก็ส่องประกายตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็วบอกจิ่วโยวและพรรคพวก “ไป รีบออกจากที่นี่!”

ทว่าทันทีที่เสียงของเขาสะท้อนก้อง กระทั่งตัวเขายังไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ทันท่วงที ความสั่นสะเทือนที่มาจากพื้นดินก็รุนแรงยิ่งขึ้น แม้แต่แท่นบูชาก็สั่นไหว

ครั้งนี้ทุกคนสัมผัสได้ สายตางุนงงจ้องมองไปยังผืนดินมืดครึ้มเหนือแท่นบูชาก็เห็นว่าพื้นดินสั่นระรัวราวกับคลื่นในทะเลสาบ

รัศมีความชั่วร้ายพุ่งสูงจากพื้นดิน เปลี่ยนทั่วฟ้าดินให้มืดมิดลงทันที

“ไม่ดีล่ะ สถานที่นี้แปลกนัก รีบไป!”

เมื่อเห็นฉากนี้ ใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปรุนแรง ตอนนี้แม้แต่คนโง่ยังเข้าใจได้ว่าสุสานสักการะเทพไม่ใช่ธรรมดา

ฟิ้ว!

มีกลุ่มหนึ่งที่อยู่รอบนอกของแท่นบูชาและปฏิกิริยาของพวกเขาก็รวดเร็วมาก ทันใดนั้นพวกเขาก็กลายเป็นร่างแสงพยายามพุ่งออกจากบริเวณที่แปลกประหลาดนี้

ปัง!

แต่ทันทีที่พวกเขาพุ่งออกไป พื้นผิวสีดำมืดก็กระเพื่อมบนพื้นดิน ใบหน้าที่ดูใหญ่โตน่ากลัวปรากฏขึ้น มันเปิดปากหมอกสีดำเชี่ยวกรากโหมกระหน่ำออกมาห่อหุ้มร่างแสงเหล่านั้นเอาไว้ เสียงกรีดร้องดังขึ้น ร่างกายของพวกเขาระเบิดเป็นหมอกเลือดทันที ก่อนที่จะถูกกลืนโดยใบหน้าที่น่ากลัว

คึ! คึ!

หลังจากกลืนหมอกเลือด ใบหน้าบนพื้นก็ยิ่งแปลกประหลาด มันเปล่งเสียงหัวเราะเสียดแก้วหู ทำให้คลื่นหลิงในร่างกายของผู้คนสั่นสะท้าน

รัศมีชั่วร้ายเชี่ยวกรากทะลักออกมา ทำให้ทั่วบริเวณดูราวกับรังปีศาจ

“เลือด—ข้า-ต้องการ-เลือด-สด!”

ใบหน้าบนพื้นจ้องมองไปที่ทุกคนบนแท่นบูชา ส่งเสียงหัวเราะบาดหู อ้าปากปล่อยหมอกสีดำซัดสาดเข้าหาทุกคนบนแท่น

เมื่อทุกคนเห็นภาพนี้ ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดขาว ความกลัวพล่านในสายตา พวกเขาจะมองไม่ออกได้อย่างไรว่าพลังของใบหน้าปีศาจนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถรับมือได้เลย

“ให้ตายเถอะ นี่จะต้องถูกทิ้งไว้โดยพวกปีศาจต่างมิติแน่!” มีคนอุทานด้วยความสยองขวัญ พวกเขาคิดได้จากฉากเบื้องหน้า เพราะมหันตภัยร้ายของมหาพันภพก็คือเผ่าปีศาจต่างมิติ นอกจากพวกมันไม่มีใครที่จะมีรัศมีชั่วร้ายแบบนี้ได้อีก

นอกจากนี้สถานที่แห่งนี้ก็เป็นสมรภูมิรบที่ดุเดือดที่สุดในดินแดนเสินโซ่ตอนที่จักรวรรดิปีศาจต่างมิติบุกเข้ามา มีนักรบนับไม่ถ้วนจากเผ่าปีศาจถูกสังหารที่นี่ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีตัวที่หลุดรอดไป

ฮึ่ม!

หมอกสีดำเชี่ยวกรากกวาดเข้ามา แต่เมื่อไอหมอกกำลังจะไปถึงแท่นบูชา ริ้วแสงยาวเหยียดหมื่นจั้งก็เบ่งบานขึ้นมาบนแท่นบูชา ดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นจากลวดลายลึกซึ้งนับไม่ถ้วน ลวดลายเหล่านี้ฉีกทึ้งหมอกสีดำอย่างรวดเร็ว

บนแท่นทุกคนยินดีกับภาพดังกล่าว สายตายกขึ้นไปยังสามทิศทางทันที รูปปั้นหินทั้งสามดูเหมือนจะมีชีวิตขึ้นมา ริ้วแสงควบแน่นบนรูปปั้นก่อตัวเป็นภาพเงาลวงตาสามร่าง

บนร่างวิหคอมตะโบราณ หญิงสาวสะคราญโฉมสวมชุดสูงศักดิ์ฉายอารมณ์สูงส่ง นางมีความงามที่น่าทึ่งพร้อมกับรูปร่างงดงาม กำจายรัศมีทรงเกียรติออกมาจากทั่วร่าง

บนร่างปักษาวิญญาณโบราณ ชายคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าห้าแถบสีดูหล่อเหลาด้วยท่วงท่าสง่างามราวกับเขาไม่แยแสแม้ว่าท้องฟ้าจะถล่มลงมา

บนร่างอสูรไร้พิรุณโบราณ ชายร่างกำยำไม่ได้สวมเสื้อท่อนบน ผิวของเขาคล้ายกับโลหะดำ รูปร่างที่แข็งแกร่งดูเหมือนภูเขาสูงตระหง่าน ทุกสิ่งรอบตัวเขามั่นคงแข็งแรง

เมื่อทั้งสามปรากฏขึ้นก็กวาดพายุโบราณไปทั่วระหว่างสวรรค์และโลก แรงกดดันเกินพรรณนาปกคลุมทั่วพื้นที่ ทำให้เกิดแสงในบริเวณนี้ซึ่งดูเหมือนรังของปีศาจ

“นั่นราชันเทพอสูรทั้งสามแห่งดินแดนเสิ่นโซ!” จิ่วโยวอุทานเมื่อเห็น แม้แต่คนโง่ก็รู้ได้ว่าสามร่างนี้เป็นร่างจิตที่หลงเหลืออยู่ของราชันทั้งสาม

“คึ คึ…” ใบหน้าปีศาจบนพื้นเปล่งเสียงแหลมแสบแก้วหูออกมาเมื่อเห็นทั้งสามปรากฏขึ้น น้ำเสียงราวกับว่ามีภูตผีนับไม่ถ้วนส่งเสียงร้องพร้อมกัน “พวกแกผนึกพวกข้ามานานนับหมื่นปี โดยคิดว่าสามารถฆ่าพวกข้าได้ แต่พวกแกคงไม่คิดว่าพวกข้าจะฉลาดกว่า คึ คึ!”

บนรูปปั้นหินราชินีวิหคอมตะจ้องมองใบหน้าปีศาจบนพื้นดินก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ปีศาจพวกนี้ ตายยากตายเย็นนัก”

ราชันปักษาวิญญาณมองทุกคนบนแท่นแล้วพูดว่า “น่าเสียดาย ตอนแรกคิดว่าจะทนได้อีกสักร้อยปี ไม่คิดว่าแก่นมรดกโลหิตจะถูกรับไปเร็วเช่นนี้ ทำให้ผนึกต้องคลายลงก่อน”

“ฮึ่ม ผืนดินปีศาจถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยโลหิตทรงประสิทธิภาพ ใครเป็นคนทำ?!” ราชันอสูรไร้พิรุณเค้นเสียงดังกึกก้องราวกับฟ้าร้อง สะท้อนอยู่ในโสตประสาทของทุกคน ทำให้เลือดลมปราณในร่างกลิ้งตัวไปมา

ทุกคนบนแท่นแลกเปลี่ยนสายตากัน ก่อนที่จะเบนสายตามายังมู่เฉินและไป๋หมิง เห็นได้ชัดว่าเลือดของไป๋หมิงซึ่งเต็มไปด้วยพลังยิ่งใหญ่ของเผ่าหงส์ฟ้าเป็นสาเหตุของเรื่องนี้

ดังนั้นสายตาคมกล้าของราชันอสูรไร้พิรุณจึงจ้องไปที่มู่เฉินและไป๋หมิง

มู่เฉินรู้สึกว่าหนังหัวชาหนึบไปหมด ส่วนไป๋หมิงที่เพิ่งรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาจากอาการหมดสติก็ร่างกายสั่นเทา แม้ว่าราชันอสูรไร้พิรุณจะเป็นเพียงร่างดวงจิต แต่ก็เป็นเรื่องง่ายดายนักที่จะฆ่าพวกเขา

แต่ขณะที่พวกเขากำลังหวาดกลัวในหัวใจ ราชินีวิหคอมตะก็ส่ายหัว “เรื่องนี้โทษพวกเขาไม่ได้ ปีศาจพวกนี้เตรียมการตั้งแต่ต้น เรื่องนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไรก็เป็นเพียงเรื่องของเวลา วันนี้เราต้องหาวิธีกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก”

“เราสามคนเป็นเพียงร่างดวงจิตที่เหลืออยู่ แค่รักษาค่ายกลไว้ก็สุดพลังแล้ว กลัวว่าจะไม่สามารถกำจัดปีศาจนี้ได้” ราชันอสูรไร้พิรุณพูดเสียงเหี้ยม เขากวาดมองทุกคนก็เค้นเสียงเย็นขึ้นจมูก “นอกจากนี้พวกเด็กรุ่นใหม่ก็ไร้ประโยชน์ ไม่มีแม้แต่ระดับจื้อจุนขั้นเก้า น่าละอายนัก พลังแค่นี้ยังกล้ามารับมรดกของเรารึ?”

ทุกคนรู้สึกว่าใบหน้าเห่อแดงจากคำพูดนั่น แต่ก็ไม่กล้าจะเถียงอะไร เผชิญกับจอมยุทธ์เช่นนี้ จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดขั้นแปดก็ราวกับมดปลวก

ราชินีวิหคอมตะยิ้มบางก่อนที่จะมองทุกคน “ไม่รู้ว่ามีใครที่นี่มีความสามารถทางด้านค่ายกลสงครามหรือไม่ ข้าจะมอบโอกาสที่ยิ่งใหญ่ให้กับเขา”

เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของนางก็ได้แต่ส่ายหัว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีความเชี่ยวชาญในค่ายกลสงคราม

ในหมู่คนมู่เฉินหดดวงตาแต่ไม่คิดจะก้าวออกไป ต่อให้จะโง่แค่ไหนก็รู้ว่าสถานการณ์ตรงหน้าไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถรับมือได้ หากก้าวออกไปโดยไม่ยั้งคิด คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะตายด้วยท่าไหน

สำหรับโอกาสส้มหล่นแบบนั้น…ลืมไปเถอะ

ดังนั้นเขาจึงส่ายหัวให้จิ่วโยวลับๆ ไม่เพียงแต่ไม่ก้าวออกไป เขายังเตรียมก้าวถอยไปหาฝูงชนอีกด้วย

ทว่าทันทีที่เขายกเท้า ท่าทางก็แข็งทื่อไป เนื่องจากเขาตกใจเมื่อพบว่าตนเองสูญเสียการควบคุมร่างกาย ราวกับว่าถูกตรึงอยู่กับที่

สายตาของเขาเลื่อนขึ้นไปข้างบน ก็เห็นร่างสะคราญโฉมมองเขาด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ…

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset