หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1071 เผ่าวิหคโลกันตร์ที่ตื่นตระหนก

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1071 เผ่าวิหคโลกันตร์ที่ตื่นตระหนก

โถงสภาอาวุโสแห่งเผ่าวิหคโลกันตร์

สถานที่แห่งนี้เป็นที่กุมอำนาจสูงสุดของเผ่าวิหคโลกันตร์ ยามนี้บรรยากาศในห้องโถงเต็มไปด้วยความบีบคั้นและรุนแรง แม้ว่าร่างที่นั่งส่วนใหญ่อายุจะดูมาก แต่แรงกดดันมหาศาลที่ปล่อยออกมาก็ยังคงทำให้มั่วเฟิงและมั่วหลิงรู้สึกอึดอัด แม้แต่มั่วหลิงที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาก็ยังเงียบไป

เทียนฮวงนั่งอยู่ในตำแหน่งประธาน เขาขมวดคิ้วแน่นในขณะนี้ เมื่อมองไปที่มั่วเฟิงและมั่วหลิง ก่อนที่จะพูดด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “ทำไมจิ่วโยวกับมู่เฉินถึงไม่กลับมากับพวกเจ้า?”

ทันทีที่ตั้งคำถาม ผู้อาวุโสสวมชุดสีฟ้าอมเขียวซึ่งมีอคติกับมู่เฉินก็ยิ้มเย็นชา “ไอ้หนูนั่นคงรู้สึกว่าจะต้องล้มเหลวในการทำงาน จึงพาจิ่วโยวหนีตายไปแล้วมั้ง ฮึ่ม ช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน”

เมื่อผู้อาวุโสคนอื่นได้ยินก็ขมวดเช่นกัน ถ้านั่นเป็นความจริง มู่เฉินที่ไม่รับผิดชอบก็น่าผิดหวังมากเกินไปแล้ว

แต่เมื่อผู้อาวุโสสวมชุดสีฟ้าอมเขียวพูดจบ มั่วหลิงที่ยืนอยู่ในห้องโถงก็ยกริมฝีปากด้วยความไม่พอใจเถียงขึ้นมาว่า “ใครบอกว่าพี่ใหญ่มู่เฉินหนีไป? ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ใหญ่มู่เฉิน พี่ใหญ่จิ่วโยวจะได้รับแก่นมรดกโลหิตวิหคอมตะโบราณซะที่ไหน?”

“หืม?!”

เมื่อได้ยินคำพูดของมั่วหลิง ร่างผู้อาวุโสแต่ละคนในโถงก็สั่นสะท้าน ประกายแสงวูบไหวในดวงตา แม้แต่เทียนฮวงก็ดวงตาหดลงไม่สามารถปิดบังความตกใจในคำพูดได้ “เจ้าว่าอะไรนะ? จิ่วโยวได้รับแก่นมรดกโลหิตวิหคอมตะโบราณเรอะ?”

สีหน้าภูมิใจปรากฏบนใบหน้าของมั่วหลิงขณะที่เล่า “พี่ใหญ่มู่เฉินทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากราชินีวิหคอมตะจนลุล่วง เหตุผลที่เขาไม่ได้กลับมากับพี่ใหญ่จิ่วโยว แน่นอนว่าเพราะพวกเขาได้รับรางวัลจากผู้อาวุโส ไม่รู้ว่ากำลังรับประโยชน์มากแค่ไหนอยู่ตอนนี้?

“ราชินีวิหคอมตะ?!”

ผู้อาวุโสชุดสีฟ้าอมเขียวร้องคราง เขาไม่ได้แปลกหูสำหรับชื่อนี้ ในสมัยโบราณนี่เป็นหนึ่งในสามราชันแห่งดินแดนเสินโซ่ซึ่งเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนที่แท้จริง

“เป็นไปไม่ได้! ราชินีวิหคอมตะสิ้นชีพไปนานแล้ว พวกเจ้าจะไปเจอได้อย่างไร?” ผู้อาวุโสสวมชุดสีฟ้าอมเขียวมีข้อกังขาอยู่เต็มใบหน้า ถามด้วยความสงสัย

เทียนฮวงไม่ได้แสดงข้อกังขา เขาครุ่นคิดสั้นๆ ก่อนจะพูดว่า “มั่วเฟิงเล่ารายละเอียดทุกอย่างที่เกิดขึ้นในดินแดนเสินโซ่มา ห้ามพลาดแม้แต่เรื่องเดียว!”

เขาจะมาฟังดูสิว่าตอนอยู่ในดินแดนเสินโซ่มู่เฉินทำอะไรไปบ้าง!

มั่วเฟิงพยักหน้ารับ ความรู้สึกของเขาที่มีต่อมู่เฉินเปลี่ยนไปอย่างมากตลอดการเดินทางไปยังดินแดนเสินโซ่ ยิ่งกว่านั้นยังแอบรู้สึกนับถืออยู่ด้วย ดังนั้นเขาจึงยินดีมากที่จะบอกเล่าเรื่องราวให้ผู้อาวุโสในเผ่าฟังเพื่อจะเปลี่ยนแปลงความคิดของพวกเขาเกี่ยวกับมนุษย์ผู้นี้

ดังนั้นเขาจึงจัดเรียงความคิดในใจสั้นๆ ก่อนที่จะเริ่มเล่าเรื่องราวของการเดินทางไปยังดินแดนเสินโซ่

เจดีย์ฝึกพลังกายโบราณ สุสานหมื่นอสูร สุสานอสูรโบราณโภคะและการต่อสู้กับไป๋หมิงจอมยุทธ์รุ่นใหม่ชั้นสูงของเผ่าหงส์ฟ้าน้ำแข็งจนได้รับชัยชนะในที่สุด

ทั้งโถงเงียบกริบเหลือเพียงมั่วเฟิงที่ยังเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ไม่เพียงแต่ผู้อาวุโส แต่กระทั่งเทียนฮวงก็ยังค่อยๆ เบิกตาจากคำอธิบายของมั่วเฟิงด้วยความตะลึงใจ

จอมยุทธ์รุ่นใหม่เผ่าวิหคโลกันตร์ก็เคยเข้าไปในเจดีย์ฝึกพลังกายโบราณ แต่จำนวนของคนที่สามารถไปถึงชั้นสุดท้ายสามารถนับได้ด้วยนิ้วมือ ทว่ามู่เฉินกลับทำสำเร็จ

ส่วนสุสานหมื่นอสูร พวกเขาตระหนักดีถึงอันตรายที่อยู่ในนั้น ไม่คิดเลยว่ามู่เฉินจะมีความกล้าหาญเช่นนี้ สุสานอสูรโบราณโภคะเป็นสิ่งที่เย้ายวนใจ ไม่เพียงแต่เขาจะประสบความสำเร็จในการคว้ามาได้ เขายังนำพาทุกคนที่ไปกับเขารับอาวุธเสมือนมหสวรรค์ด้วย

กระนั้นพวกเขาก็ยังรักษาความสงบเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ได้ แต่เมื่อพวกเขาได้ยินเกี่ยวกับการปะทะของมู่เฉินกับไป๋หมิงเผ่าหงส์ฟ้าน้ำแข็ง สายตาของพวกเขาก็ค่อยๆ เคร่งขรึมลง

นั่นเป็นเพราะพวกเขาตระหนักดีว่าจอมยุทธ์ชั้นสูงที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยเผ่าหงส์ฟ้าน้ำแข็งทรงประสิทธิภาพเพียงใด แม้ว่าสายเลือดของไป๋หมิงจะไม่ใช่พวกสูงศักดิ์ในเผ่าหงส์ฟ้า แต่เทียนฮวงและคนอื่นๆ ก็ต้องยอมรับว่าแม้แต่จอมยุทธ์ชั้นสูงรุ่นใหม่ในเผ่าของพวกเขาก็เอาชนะไป๋หมิงได้ยาก

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาพวกเขาถูกเยาะเย้ยจากเผ่าหงส์ฟ้า ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้ยินว่ามู่เฉินต่อสู้กับไป๋หมิงและชนะ พวกเขาก็พูดอะไรไม่ออกเลยในตอนนี้

“เยี่ยม! พวกเราประเมินเจ้าหนูนั่นต่ำไปจริงๆ!” ผู้อาวุโสบางคนตบลงที่พนักเก้าอี้ด้วยความตื่นเต้น พวกเขารู้สึกโล่งใจจากอาการไม่พอใจในใจ พวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเผ่าหงส์ฟ้าน้ำแข็ง มีแต่คำล้อเลียนเยาะเย้ยที่ส่งมาให้หลายต่อหลายครั้ง แต่ตอนนี้จอมยุทธ์รุ่นใหม่ที่อีกฝ่ายเลี้ยงดูไม่สามารถเอาชนะมู่เฉินซึ่งมีขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดได้ ในอนาคตก็มาดูกันสิว่าเผ่าหงส์ฟ้าน้ำแข็งจะยังกล้าอวดดีกับเผ่าวิหคโลกันตร์ยังไง

แม้ว่ามู่เฉินจะไม่ใช่สมาชิกเผ่าวิหคโลกันตร์ แต่เขามีสายเลือดของเผ่าวิหคโลกันตร์ผ่านพันธะโลหิตของเขากับจิ่วโยว เมื่อมองจากอีกมุม มู่เฉินก็ถือได้ว่าเป็นสมาชิกครึ่งคนของเผ่าวิหคโลกันตร์

ผู้อาวุโสบางคนก็พยักหน้าเห็นด้วย โดยลืมไปว่าเคยคัดค้านพันธะโลหิตระหว่างมู่เฉินกับจิ่วโยวจนหัวชนฝา

“เจ้าหนูนั่นมีความสามารถแท้จริง”

แม้แต่เทียนฮวงก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเบาๆ ขณะที่ใบหน้าคลายความตึงเครียดลง เขาไม่ต้องการเห็นว่ามนุษย์ที่จิ่วโยวสร้างพันธะโลหิตด้วยจะธรรมดา หากเป็นเช่นนั้นแม้ว่าจิ่วโยวจะค้าน เขาก็จะไม่อนุญาตให้พันธะโลหิตระหว่างพวกเขาดำรงอยู่

แต่เมื่อมองสถานการณ์ในตอนนี้สายตาของบุตรสาวไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง

“งั้นก็น่าจะได้รับแก่นมรดกโลหิตของวิหคอมตะโบราณหลังจากเอาชนะไป๋หมิงใช่ไหม?” เทียนฮวงถาม ตอนนี้เขาไม่สงสัยสิ่งที่มั่วหลิงพูดมาก่อนหน้าแล้ว

เมื่อคิดได้ว่าจิ่วโยวได้รับแก่นโลหิตวิหคอมตะโบราณและทำให้สายเลือดของนางสมบูรณ์แบบแล้ว กระทั่งเขายังอดยิ้มไม่ได้ นั่นหมายความว่าจิ่วโยวอาจเป็นเพียงหนึ่งเดียวในรอบหมื่นปีที่ผ่านมาที่มีพัฒนาการสู่การเป็นวิหคอมตะ ในเวลานั้นสถานะของเผ่าวิหคโลกันตร์ก็จะยกสูงขึ้น แม้แต่เผ่าหงส์ฟ้าก็ต้องมองพวกเขาในฐานะที่เท่าเทียมกัน

มั่วเฟิงพยักหน้าขณะที่พูดต่อ “แต่หลังจากได้รับแก่นมรดกโลหิตวิหคอมตะโบราณก็เกิดบางอย่างขึ้น ปีศาจที่ก่อร่างขึ้นจากแรงปรารถนาที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังโดยจอมพลปีศาจที่ตายไปแล้วในสมัยโบราณออกอาละวาด โชคดีที่ราชันทั้งสามทิ้งไพ่ตายไว้เบื้องหลัง พวกเขาปรากฏขึ้นในรูปแบบร่างดวงจิตเพื่อเผชิญหน้ากับมัน ท้ายที่สุดก็เป็นมู่เฉินที่ใช้ความสามารถศาสตร์อื่นในฐานะจั้นเจิ้นซือเพื่อควบคุมรัศมีจั้นยี่ของกองทัพอสูรสวรรค์เพื่อช่วยเหลือสามราชันฆ่าสิ่งมีชีวิตน่าขยะแขยงนั่นลงอย่างสมบูรณ์”

เมื่อมั่วเฟิงพูดจบก็รู้สึกถึงบรรยากาศหยุดนิ่งทันควัน เขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นท่าทางของผู้อาวุโสแต่ละคนอึ้งทึ่งไป แม้แต่เทียนฮวงก็ผงะขณะที่จ้องมองมาที่เขา

ขณะนี้คำพูดของเขาดังสะท้อนอยู่ในใจของเทียนฮวงและเหล่าผู้อาวุโส จอมพลปีศาจ… สามราชัน… กองทัพอสูรสวรรค์…

เมื่อคำพูดเหล่านี้ปรากฏขึ้น ก็ทำให้สมองของพวกเขากระเพื่อมด้วยระลอกคลื่น นั่นเป็นเพราะพวกเขารู้ซึ้งถึงความหมายเบื้องหลังคำเหล่านั้นดีกว่ามั่วเฟิงและคนอื่นๆ

จอมพลปีศาจเป็นสิ่งมีชีวิตน่ากลัวที่เทียบเคียงได้กับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนเลยทีเดียว

ส่วนสามราชันดินแดนเสินโซ่เป็นจอมยุทธ์ชั้นนำที่มีชื่อเสียงในสมัยโบราณ

สำหรับกองทัพอสูรสวรรค์ก็เป็นสุดยอดกองกำลังที่โด่งดังและทรงพลังในสมัยโบราณ ขณะที่รัศมีจั้นยี่ของกองทัพนี้กวาดอาละวาด ก็ไม่รู้สังหารจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนไปแล้วเท่าไร

ดังนั้นเมื่อได้ยินคำเหล่านั้นจากมั่วเฟิง พวกเขาก็อยากถามว่าพวกเจ้าย้อนเวลากลับไปในสมัยโบราณหรือเนี่ย

“แม้ว่ามู่เฉินจะเป็นจั้นเจิ้นซือก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสั่งการกองทัพอสูรสวรรค์หรอกมั้ง?” เทียนฮวงฟื้นจากอาการตกใจคนแรกก็ถามด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ

ผู้อาวุโสคนอื่นก็พยักหน้าเช่นกัน ถ้ามู่เฉินสามารถสั่งการกองทัพอสูรสวรรค์ได้ เขาก็สามารถไปได้ตามที่ใจปรารถนาทั่วมหาภพันภพแล้ว ในระดับนั้นไม่ว่าขุมพลังหลิงของเขาจะอ่อนแอเพียงใด แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มก็ยังหวาดกลัวต่อเขา

“กองทัพอสูรสวรรค์ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด แค่ได้รับการเก็บรักษาไว้ส่วนหนี่งด้วยวิธีพิเศษโดยสามราชัน ยิ่งกว่านั้นราชินีวิหคอมตะก็ให้การป้องกันแก่มู่เฉิน แต่ถึงอย่างนั้นมู่เฉินก็ยังบาดเจ็บหนักมาก” มั่วเฟิงเล่าแบบถึงลูกถึงคน เขาไม่ได้คุยโม้ให้กับมู่เฉิน นั่นเป็นเพราะถ้าเป็นเช่นนั้นจะฟังดูไม่สมจริง

ทว่าคำสัตย์จริงของเขาก็ทำให้เทียนฮวงและคนอื่นๆ เงียบงันไปอีกครั้ง ด้วยประสบการณ์ของพวกเขากว้างใหญ่จึงสามารถอนุมานเบาะแสอื่นๆ จากคำพูดของมั่วเฟิงได้

กองทัพอสูรสวรรค์มีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นแม้ว่าจะเป็นกองทัพที่หลงเหลืออยู่ก็อาจเทียบได้กับระดับตี้จื้อจุน ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่ามู่เฉินจะมีการป้องกันจากวัตถุที่ราชินีวิหคอมตะมอบให้ ซ้ำยังได้รับบาดเจ็บหนักในตอนท้าย แต่ก็พิสูจน์พรสวรรค์และความเข้าใจในเส้นทางแห่งศาสตร์จั้นเจิ้นซือได้ เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นจั้นเจิ้นซือคนใดที่สามารถสั่งการกองทัพอสูรสวรรค์ได้ด้วยวัยเท่านั้น นี่จึงอธิบายสิ่งต่างๆ ได้มากมาย

บางทีในอนาคตอาจมีสักวันที่มู่เฉินจะสามารถบัญชาการกองทัพที่มีพลังเฉกเช่นกองทัพอสูรสวรรค์ได้จริงๆ

ช่วงเวลาที่เขาประสบความสำเร็จก็จะก้าวขึ้นเป็นยอดยุทธ์แห่งมหาพันภพนี้

ดังนั้นคนทั้งหมดจึงนิ่งเงียบหลังจากขบคิดเรื่องนี้ แม้แต่ผู้อาวุโสที่มีอคติต่อมู่เฉินก็ยังปิดปากสนิท

หลังจากมีชีวิตมายาวนานสายตาก็เฉียบคมใช้ได้ บางทีมู่เฉินตอนนี้อาจจะไม่สามารถทำให้พวกเขารู้สึกกลัวได้ แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จในระดับใดในอนาคต?

บางทีในอนาคตแม้แต่เผ่าวิหคโลกันตร์ก็ยังต้องพึ่งพาเขา เมื่อพิจารณาจากศักยภาพที่เขาได้แสดงไว้ก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้

“ราชินีวิหคอมตะบอกว่านางจะมอบโชคยิ่งใหญ่ให้กับมู่เฉิน จิ่วโยวก็รอคอยไม่ยอมกลับมา อาจเป็นไปได้อย่างมากว่านางจะถูกผู้อาวุโสคนนั้นเก็บตัวไว้เพราะมู่เฉิน” มั่วเฟิงได้ข้อสรุปสุดท้าย

ทั้งโถงเงียบกริบ ผู้อาวุโสหลายคนอิจฉาในโชคชะตาของทั้งสอง การได้รับคำแนะนำจากราชินีวิหคอมตะ โชคชะตาเช่นนี้ทำให้ดวงตาของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง

เทียนฮวงตบพนักเก้าอี้เบาๆ จากนั้นก็หลับตาครู่หนึ่งก่อนที่จะเปิดตาอีกครั้ง สายตาที่เข้มงวดกวาดออกไป เขามองไปที่เหล่าผู้อาวุโส เสียงเคร่งขรึมดังก้องไปทั่วห้องโถง

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปห้ามไม่ให้ใครพูดประชดประชันมู่เฉินเกี่ยวกับพันธะโลหิตอีก”

เขาหยุดครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดเสียงเฉียบขาดว่า “เมื่อทั้งสองกลับมา เราจะยกตำแหน่งผู้อาวุโสเผ่าวิหคโลกันตร์ให้แก่มู่เฉิน”

ทันทีที่พูดคำเหล่านั้น หัวใจของทุกคนก็สั่นสะท้านพลางจ้องมองกันและกัน พวกเขาต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็นิ่งเงียบไป บางทีมู่เฉินยังไม่ได้มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้อาวุโสในขณะนี้ แต่ศักยภาพของเขามีนั้น

มากเกินพอแล้ว…

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset