หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1100 สู้กับเซี่ย

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1100 สู้กับเซี่ยหง

“ไอ้หนุ่มโชคร้าย…”

ขณะที่มู่เฉินกับจิ่วโยวรู้สึกความเห็นใจเซี่ยหงอยู่ในใจ อีกฝ่ายก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วจากสายตาของพวกเขา สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ระงับอารมณ์เบาบางนี้ไว้ในใจ

นั่นเป็นเพราะไม่ว่าจะไตร่ตรองอย่างไร ก็ไม่เห็นความผิดพลาดตรงไหน เนื่องจากเขารู้ว่าทั้งใบรับรองลูกหนี้และคำกล่าวก่อนหน้าของหลินจิ้งที่ได้สาวงามสองคน ทั้งสองฝ่ายคงไม่ยอมรับกันภายหลังอยู่แล้ว

ที่เสนอก่อนหน้าก็เพื่อต้องการมีข้ออ้างที่จะลงมือกับสาวงามทั้งสองหลังจากจัดการกับมู่เฉินเรียบร้อย ตราบใดที่หลินจิ้งและจิ่วโยวอยู่เคียงข้าง เขาก็มีวิธีปราบพยศแม่เสือสาวทั้งสอง

เซี่ยหงตั้งสติก่อนจะมองไปที่หลินจิ้งที่ยิ้มราวกับนางจิ้งจอก ทำเอาไฟปรารถนาถูกจุดในหัวใจ เมื่อไรที่นางตกอยู่ในอ้อมกอดของเขา องค์ชายคนนี้จะทำให้นางยิ้มจนพอใจ

แต่ก่อนอื่นต้องกำจัดไอ้ตัวเกะกะสายตาก่อน…

แววตาเย็นเยือกราวกับใบมีดของเซี่ยหงหันไปหามู่เฉินอย่างช้าๆ การแลกกระบวนท่าเมื่อครู่เขาเสียเปรียบเล็กน้อยเนื่องจากประเมินมู่เฉินต่ำไป ทว่าเขาจะไม่ทำผิดพลาดซ้ำสอง ดังนั้นเขาจะพยายามเต็มที่เพื่อกำจัดมู่เฉินให้เร็วที่สุดและบอกให้รู้ว่าจอมยุทธ์ไร้ชื่อจากอาณาเขตกงเวทสวรรค์ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำตัวหยิ่งผยองในสถานที่แห่งนี้ที่เหล่าจอมยุทธ์ชั้นสูงของทวีปเทียนหลัวมารวมตัวกัน

คลื่นหลิงระหว่างฟ้าดินเดือดพล่านพร้อมกับระลอกคลื่นกดดันพุ่งไปยังมู่เฉิน ทำให้ผืนดินใต้เท้ามู่เฉินสั่นสะท้านภายใต้แรงกดดัน

ใบหน้าของมู่เฉินสงบ เขารู้ว่าเซี่ยหงทรงพลังเพียงใด แม้ว่าเซี่ยหงจะอยู่ในระดับจื้อจุนขั้นเก้าระยะต้นเท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ที่แท้จริงสูงกว่าหลงปี้มาก ตามการคาดการณ์ของมู่เฉิน เซี่ยหงอาจจะสามารถต่อสู้กับระดับจื้อจุนขั้นเก้าระยะปลายสุดได้เลยทีเดียว

มู่เฉินเก็บความคิดทุกอย่าง แขนทั้งสองทิ้งดิ่งลงข้างลำตัว คลื่นหลิงในร่างก็เริ่มไหลเวียน พลังงานรอบตัวเขากวาดไปราวกับมหาสมุทรทำให้มิติบิดเบี้ยวที่เบื้องหลัง จุดจื้อจุนไห่ของเขาปรากฏขึ้นอย่างคลุมเครือ ปล่อยคลื่นหลิงทรงพลังออกมา

ปัดเป่าแรงกดดันที่มาจากเซี่ยหงจนหมดสิ้น

แม้ว่าเขาจะอยู่ในระยะอีกครึ่งก้าวถึงจะบรรลุระดับจื้อจุนขั้นเก้า แต่คลื่นหลิงในจุดจื้อจุนไห่ของมู่เฉินได้รับการขัดเกลาอย่างเข้มข้นในมหาสมุทรเทพสร้างสองปี ซึ่งนั่นทำให้คลื่นหลิงของเขาหนาแน่นจนถึงขีดสุด

ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากเขาได้กลั่นเพลิงอมตะที่ราชินีวิหคอมตะทิ้งไว้ ซึ่งมอบคุณสมบัติอันเป็นอมตะให้กับคลื่นหลิงของเขา ดังนั้นในแง่ความหนาแน่นและทนทานของคลื่นพลังเพียงอย่างเดียว มู่เฉินก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้า ในทางกลับกันเขาแข็งแกร่งกว่าด้วยซ้ำ

“น่าสนใจ…”

คลื่นหลิงไร้ขอบเขตผิดแผกของมู่เฉินถูกเซี่ยหงสัมผัสได้ ทันใดนั้นดวงตาก็วูบไหวพร้อมกับเค้นเสียงเย็น ก่อนที่แววตาจะเปลี่ยนเป็นเย็นชา

“ปัง!”

คลื่นหลิงทรงพลังระเบิดที่เบื้องหลังเซี่ยหง ขณะเดียวกันร่างเขาก็เปลี่ยนเป็นภาพมายา พริบตาก็มาปรากฏตัวต่อหน้ามู่เฉินซัดหมัดออกมา

ไม่มีทักษะใดอยู่เบื้องหลังหมัดนี้ แต่ก็ถูกควบแน่นด้วยคลื่นหลิงรุนแรง นอกจากนี้เมื่อหมัดซัดออกไปเลือดและรัศมีของเซี่ยหงก็เดือดพล่าน ห่อหุ้มหมัดพร้อมกับเสียงสังหารหมู่ที่ดังออกมา

“นั่นกายาเทพสงครามสังหารของเซี่ยหง!” ชิ้งหย่าอดไม่ได้ที่จะเกร็งดวงตาเมื่อเห็นเลือดและรัศมีที่ระเบิดจากร่างเซี่ยหง นี่เป็นทักษะฝึกฝนพลังกายที่ค่อนข้างครอบงำและน่าขนลุก ซึ่งผู้ฝึกจะต้องผ่านการต่อสู้นองเลือดมานับไม่ถ้วนเพื่อใช้เลือดของศัตรูมาชำระร่าง เพื่อฝึกวิชานี้ให้สำเร็จ เซี่ยหงถึงกับไปร่วมสงคราม ใช้เลือดของศัตรูในการฝึกฝนวิชาพลังกายนี้

“เขาฝึกฝนวิชาพลังกายด้วยเรอะ…”

เจตนาฆ่าพุ่งเข้ามาพร้อมกลิ่นอายโลหิตหนาแน่น นี่ทำให้มู่เฉินรู้สึกเหมือนมีทะเลโลหิตกวาดเข้ามา แต่สิ่งนี้ไม่ได้ส่งผลใดๆ กับเขา ดวงตาหลุบลง แสงสีม่วงทองระเบิดออกมาจากร่างกาย

กายามังกรหงส์!

แสงสีม่วงทองไหลเวียนบนพื้นผิวของร่างกายมู่เฉินซึ่งทำให้ดูไม่สามารถทำลายได้ เขาชกหมัดออกไปด้วยสีหน้าไม่แยแส

มู่เฉินไม่ได้หลบการโจมตีของเซี่ยหง ความภาคภูมิใจในพลังกายของอีกฝ่ายช่างน่าตลกในสายตาของเขา

หากเซี่ยหงใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบในฐานะจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะต้นก็อาจจะสร้างปัญหาให้กับมู่เฉินอยู่บ้าง แต่ถ้าเซี่ยหงต้องการที่จะแข่งขันในแง่ของพลังกายก็เป็นเรื่องเพ้อฝันถ้าคิดจะทำให้มู่เฉินได้รับทำอันตรายใดๆ

มู่เฉินที่ฝึกฝนกายามังกรงหงส์และบรรลุถึงระดับจิตวิญญาณมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงก็มั่นใจอย่างยิ่งกับพลังกายของตนเอง เขาไม่กลัวกระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะปลายสุดด้วยซ้ำ

หมัดน่ากลัวทั้งสองฉีกผ่านอากาศ ปะทะซึ่งกันและกันภายใต้สายตาเคร่งเครียดนับไม่ถ้วน

ตู้ม!

อากาศระเบิดขึ้น คลื่นกระแทกเกรี้ยวกราดมองเห็นด้วยตาเปล่ากระจายออก มิติถึงกับบิดเบี้ยว พื้นดินใต้ฝ่าเท้าของทั้งสองไม่สามารถแบกรับผลกระทบแตกออกในทันที

ทุกสายตาจ้องเขม็งที่ต้นกำเนิดของคลื่นกระแทก อึดใจสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป เพราะพวกเขาเห็นร่างกายของมู่เฉินตั้งมั่นประหนึ่งหินผา ไม่ได้เคลื่อนไหวสักกระผีกจากการปะทะกับเซี่ยหง

กลับกลายเป็นเซี่ยหงที่เหมือนได้รับแรงต้านกลับ ร่างกายสั่นไหวไปทีหนึ่ง

“พลังกายของมู่เฉินน่าสะพรึงมาก!” บางคนอุทานด้วยเสียงต่ำ ด้วยขุมพลังเกือบจะบรรลุระดับจื้อจุนขั้นเก้า จากการปะทะกับเซี่ยหงในแง่ของพลังกาย มู่เฉินไม่เพียงแต่จะไม่เสียเปรียบ กลับยังได้เปรียบอยู่เล็กน้อยด้วย!

สีหน้าของชิ้งหย่าและคนอื่นๆ ก็เคร่งเครียดลงหลายส่วนกับฉากนี้

ท่ามกลางความโกลาหล สายตาของเซี่ยหงก็วาวด้วยร่องรอยความมืดมน ความแข็งแกร่งของมู่เฉินเกินความคาดหมายของเขาไกลลิบ

“ตู้ม!”

รัศมีสังหารยิ่งใหญ่ปะทุออกมาจากร่างของเซี่ยหง เขากระทืบเท้า ผืนดินแตกสลายที่ใต้ฝ่าเท้า ร่างเงาก็กลายเป็นภาพซ้อนนับไม่ถ้วน ก่อนที่จะหมุนวนรอบร่างมู่เฉินพร้อมกับหมัดซัดใส่จากทุกทิศทาง

การโจมตีนี้เกินกว่าจะหลบหนีไปได้!

ตู้ม! ตู้ม!

เผชิญกับการโจมตีกระหน่ำของเซี่ยหง สีหน้าของมู่เฉินก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด เขาสะบัดแขนเสื้อ มังกรสีม่วงทองก็ทะยานออกมาล้อมรอบเขาสร้างปราการทรงพลังต้านหมัดเอาไว้

ตึง! ตึง!

เสียงต่ำลึกดังก้องจากลานประลองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด พื้นตรงใต้เท้ามู่เฉินก็พังทลายจากแรงกระแทก

ไม่สามารถอธิบายความรุนแรงของการโจมตีของเซี่ยหงได้ สุดท้ายแม้แต่การป้องกันที่สร้างขึ้นจากจิตวิญญาณมังกรแท้จริงก็ไม่สามารถสกัดกั้นการโจมตีทั้งหมดได้ หนึ่งในหมัดนั้นพุ่งตรงไปที่ศีรษะของมู่เฉินหลังจากหาช่องโหว่ได้

ตู้ม!

มือเรียวยื่นออกมาปิดกั้นหมัด ขณะที่คลื่นหลิงโกรธเกรี้ยวระเบิดออกมา

วาบ!

แผ่นดินแตก ทั้งคู่กระเด็นลากเป็นรอยยาวบนพื้นก่อนที่จะทรงตัวได้

สายตานับไม่ถ้วนมองไป ร่างทั้งสองก็คือมู่เฉินกับเซี่ยหงที่ปะทะอย่างดุเดือดเมื่อสักครู่

มู่เฉินอยู่ในท่าฝ่ามือข้างหนึ่งตั้งขึ้น สีหน้านิ่งสงบ ฝ่ามือเป็นสีทองราวกับไม่สามารถทำลายลงได้ บริเวณแขนเสื้อมีรอยฉีกขาด ซึ่งเกิดจากแรงกระแทกในการปะทะก่อนหน้า

ส่วนเซี่ยหงที่อยู่ไกลออกไปก็มีสีหน้ามืดมน การโจมตีก่อนหน้าของเขาสามารถทำให้จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าได้รับบาดเจ็บเลยทีเดียว ไม่ต้องพูดถึงแค่พวกเสมือน แต่เมื่อกระบวนท่าซัดลงบนร่างมู่เฉินก็เพียงฉีกขาดแขนเสื้อได้เท่านั้น

ผลลัพธ์นี้ทำให้หัวใจของเซี่ยหงเต็มไปด้วยความโกรธและจิตสังหาร

“ฮา”

เซี่ยหงสูดหายใจเข้าลึก อารมณ์บนใบหน้าค่อยๆ หายไปจนกลายเป็นไม่แยแส

สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงนั่น มู่เฉินก็หรี่ตาลงเริ่มรู้สึกได้ถึงภัยคุกคามจากเซี่ยหง

เซี่ยหงฉายสายตาไร้อารมณ์ ยื่นมือออกมากำหมัดแน่น

ฮึ่ม!

ประกายสีแดงสดรวมตัวกันอยู่กลางฝ่ามือเขา กลายเป็นหอกสีแดงเข้มที่สลักลวดลาย เพียงแค่ปรากฏขึ้นก็ระเบิดคลื่นหลิงและไอสังหารที่น่าตกใจออกไป

เมื่อมองไปที่หอกสีแดง มู่เฉินก็หดม่านตาลง “อาวุธเสมือนมหสวรรค์?”

ขณะที่มู่เฉินรู้สึกอึ้งเล็กน้อยในใจ เซี่ยหงก็สาดยิ้มน่าขนพองสยองเกล้า แสงสีแดงเข้มพุ่งออกมาจากร่างเขาอีกครั้งกลายเป็นชุดเกราะสีแดงเข้มที่สลักลวดลายมังกรคำราม ดูทั้งน่ากลัวและดุร้าย

หอกและชุดเกราะชัดว่าเป็นของในชุดเดียวกันเนื่องจากมีรัศมีแบบเดียวกัน เมื่อเซี่ยหงสวมใส่ลงไปความผันผวนของคลื่นหลิงรอบตัวก็เพิ่มสูงขึ้นจนน่ากลัว

ตอนนี้แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าก็ต้องเผชิญหน้ากับเขาอย่างจริงจัง

“นั่นคือ…หอกสงครามมังกรแดงและเกราะสงครามมังกรแดง… ชุดอาวุธเสมือนมหสวรรค์ ทั้งชุดนี้สามารถประกาศความเป็นจักรพรรดิในหมู่อาวุธเสมือนมหสวรรค์… เซี่ยหงโหดเหี้ยมแท้จริง ถึงขนาดใช้พวกมัน” เมื่อชิ้งหย่าและคนอื่นๆ เห็นภาพนี้ สีหน้าของพวกเขาก็เคร่งเครียดลง ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดเกรง

เผชิญหน้ากับเซี่ยหงที่ใช้ไพ่ตายใบนี้ ต่อให้เป็นพวกเขาก็ต้องหลีกเลี่ยง

เห็นได้ชัดว่าหลังจากไม่ได้ผลในการโจมตีหลายครั้ง จิตสังหารของเซี่ยหงก็ถูกปลุกขึ้นอย่างสมบูรณ์

ทีนี้…มู่เฉินตกอยู่ในอันตรายแล้ว

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset