หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1102 เปิดแปดตะวัน

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1102 เปิดแปดตะวัน

รัศมีร้ายกาจไร้ขอบเขตกำจายออกไป

ร่างเทห์สวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ก็ปรากฏขึ้น ราวกับเป็นร่างรวมของสัตว์อสูรยุคดึกดำบรรพ์ ที่ทั้งครอบงำและดุร้าย

ทุกคนเปลือกตากระตุกเมื่อเห็นภาพนี้ ขณะมองไปที่ร่างเทห์สวรรค์สีแดงเข้ม สายตาของพวกเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด เมื่อสัมผัสได้ถึงรัศมีร้ายกาจที่น่าสะพรึงกลัว

“นี่เป็นร่างอสูรเก้าฉกาจที่เซี่ยหงชำระ ว่ากันว่าต้องใช้วิญญาณสัตว์อสูรดุร้ายเก้าตัว กระบวนการการชำระเป็นอันตรายอย่างยิ่งและเมื่อประสบความสำเร็จก็จะมีรัศมีร้ายกาจคล้ายกับสัตว์อสูรที่สามารถทำลายร่างเทห์สวรรค์ธรรมดาได้” มีคนร้องอุทานออกมาและมีหลายคนรู้สึกอิจฉากับร่างเทห์สวรรค์ของเซี่ยหง

เนื่องจากพวกเขาส่วนใหญ่ชำระร่างเทห์สวรรค์ธรรมดาเท่านั้น บางคนที่โชคช่วยก็อาจได้ชำระร่างลำดับท้ายตาราง แต่เมื่อเทียบกับอันดับที่ห้าสิบเจ็ดก็มีเพียงขั้วอำนาจชั้นสูงที่มีฐานรากลึกซึ่งเท่านั้นที่สามารถครอบครองได้ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่จอมยุทธ์สามัญทั่วไปสามารถหามาได้ ไม่เช่นนั้นจะนำพาหายนะมาสู่ตัวเองแทน

“แกมีความสามารถจริงที่บีบข้าให้นำร่างเทห์สวรรค์ออกมาทั้งที่มีขุมพลังเกือบจะบรรลุระดับจื้อจุนขั้นเก้าเท่านั้น” เซี่ยหงหลุบตาลงขณะพูดด้วยความไม่แยแสภายใต้สายตาตกตะลึงนับไม่ถ้วน

มู่เฉินมองไปที่ร่างเทห์สวรรค์ที่กำลังปลดปล่อยรัศมีร้ายกาจที่รุนแรง ดวงตาก็ฉายแววตกใจ เซี่ยหงมีความสามารถแท้จริงที่ติดอันดับยี่สิบของทำเนียบจอมยุทธ์รุ่นใหม่ของทวีปเทียนหลัว

ด้วยความสามารถที่เขาเปิดเผยในวันนี้ ไม่ต้องพูดถึงจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะต้น แม้แต่ระยะปลายสุดก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้

เซี่ยหงลอยตัวขึ้นอย่างช้าๆ พลิ้วลงบนไหล่ของร่างอสูรเก้าฉกาจ จากนั้นก็มองไปที่มู่เฉินด้วยรอยยิ้มโหดร้ายแขวนบนมุมปาก ก่อนจะกระทืบเท้าลงไป

ตู้ม!

รัศมีร้ายกาจเชี่ยวกรากระเบิดออกจากร่างอสูรเก้าฉกาจ ก่อร่างเป็นแม่น้ำที่มีความยาวพันจั้งกวาดเข้าหามู่เฉิน

ด้วยพลังของร่างอสูรเก้าฉกาจการโจมตีของเซี่ยหงจึงแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก

มู่เฉินมองไปที่แม่น้ำสีแดงเข้มก็หดตาลง มือทั้งสองข้างประสานกัน จากนั้นแสงสีทองก็กำจายออกมา พลางปล่อยหมัดออกไป ฝ่ามือแสงสีทองไร้ขอบเขตก็คำรามพร้อมกับเสียงมังกรเกรี้ยวกราดปะทะกับแม่น้ำ

ปัง!

แต่เวลานี้การโจมตีของเซี่ยหงแข็งแกร่งมาก ดังนั้นเมื่อปะทะกันฝ่ามือทองคำก็ต้านได้เพียงชั่วครู่ก่อนที่จะถูกกลืนกินลงไปในแม่น้ำ

“นำร่างเทห์สวรรค์ของแกออกมาซะก่อนจะหมดโอกาส” เซี่ยหงมองภาพนี้ด้วยความเฉยเมย

มู่เฉินไร้เดียงสาซะจริง ที่คิดจะต้านทานการโจมตีดังกล่าวด้วยพลังในร่างที่มีเท่านั้น

แม่น้ำขยายตัวอย่างรวดเร็วที่เบื้องหน้า มู่เฉินก็เบ้ปากแล้วหลับตาลง เมื่อเปิดดวงตาขึ้นอีกครั้ง แสงสีทองก็ระเบิดออกจากดวงตา ย้อมดวงตาเป็นสีทองอร่าม

ครืน!

คลื่นหลิงจำนวนมหาศาลทะยานออกจากร่างกายของมู่เฉินราวกับดวงตะวันสีทองลอยขึ้นด้านหลัง เงาร่างสีทองควบแน่น ยักษ์สีทองปรากฏขึ้นที่ด้านหลังมู่เฉิน

ความไร้ขอบเขตและลึกลับเปล่งออกมารอบๆ

เงาร่างสีทองปรากฏขึ้นกระจายความแวววาวสีทองกลายเป็นโล่ขนาดใหญ่ล้อมรอบรัศมีหนึ่งพันจั้งเอาไว้

เมื่อแม่น้ำสีแดงเข้มอยู่ห่างออกไปหนึ่งพันจั้งก็เริ่มแตกกระจายไปอย่างรวดเร็วด้วยชั้นของแสงสีทอง พอมาถึงตัวมู่เฉินก็อันตรธานหายไปหมดแล้ว

ทุกคนหดตาลง ร่างเทห์สวรรค์ที่มู่เฉินฝึกฝนมาเป็นร่างแบบใดถึงสามารถสลายการโจมตีของเซี่ยหงในลักษณะนี้ได้?

สายตานับไม่ถ้วนจดจ่อไปที่แสงพร่างพราว เมื่อแสงสีทองหม่นลง พวกเขาก็สามารถมองเห็นร่างในนั้นได้อย่างชัดเจน ทุกคนสูดลมหายใจเย็นเข้าปอด

มีร่างยักษ์สีทองยืนอยู่ข้างหลังมู่เฉิน แสงสีทองไหลเวียนอยู่รอบๆ ตัวราวกับว่าถูกหลอมด้วยทองคำดวงตะวันลอยคว้างอยู่ด้านหลังศีรษะเปล่งแรงกดดันที่ลึกลับและไม่อาจอธิบายได้

“นั่นคือร่างเทห์สวรรค์อะไรกัน?” ทุกคนถามด้วยความสงสัยเนื่องจากไม่คุ้นชินกับร่างนั้นของมู่เฉิน ซึ่งเหมือนไม่ได้อยู่ในทำเนียบคัมภีร์ร่างเทห์สวรรค์เก้าสิบเก้าร่าง แต่เมื่อพิจารณาจากพลังของมันก็ดูไม่ธรรมดา

ชิ้งหย่า มู่ซันและคนอื่นๆ ก็มองไปที่ร่างเทห์สวรรค์ทองคำด้วยความสงสัย พวกเขาพากันขมวดคิ้วแน่น “นี่ไม่ใช่หนึ่งในทำเนียบคัมภีร์ร่างเทห์สวรรค์เก้าสิบเก้าร่างแน่ หรือว่าจะไม่ได้รับการจัดอันดับ?”

ด้วยร่างเทห์สวรรค์มีมากมายจึงอาจไม่ได้รวมอยู่ในทำเนียบคัมภีร์ร่างเทห์สวรรค์ เนื่องจากยังมีร่างบางส่วนที่ยอดเยี่ยมที่ไม่ได้รับการจัดอันดับ

“ว่าแต่ทำไมร่างเทห์สวรรค์นี้ถึงดูคุ้นเคยนะ?” ชิ้งหย่าถามหลังจากลังเลไปครู่หนึ่ง

มู่ซันและเจียงหลิงผงะไปก่อนที่จะไตร่ตรอง จากนั้นหัวใจพวกเขาก็เต้นไม่เป็นส่ำ อุทานเสียงสั่นว่า “ดูคล้ายกับร่างเทห์สวรรค์ลึกลับที่จาโหลหลัวแห่งตำหนักเทพปีศาจฝึกฝน”

ชิ้งหย่ามีสีหน้าเคร่งเครียดดูไม่แน่ใจ นางเคยเห็นร่างเทห์สวรรค์ของจาโหลหลัว แม้คล้ายคลึงกัน แต่ก็ไม่เหมือนไปทุกประการ

“ดูคล้าย แต่ข้าก็ไม่แน่ใจ”

มู่ซันและเจียงหลิงครุ่นคิดหนัก “บางทีอาจแค่คล้ายคลึงกัน จาโหลหลัวเป็นใคร? ร่างเทห์สวรรค์ที่เขาปลูกฝังว่ากันว่าทรงพลังและลึกลับ ถึงขนาดที่ว่าจอมยุทธ์ลำดับก่อนหน้าเขายังค่อนข้างครั่นคร้าม แล้วจอมยุทธ์ที่มาจากอาณาเขตกงเวทสวรรค์ของภูมิภาคทางเหนือเล็กจ้อยจะมีวิธีฝึกฝนร่างเทห์สวรรค์นี้ได้อย่างไร?”

ชิ้งหย่าฉินหยาพยักหน้าเห็นด้วย บางทีอาจเป็นเพียงความคล้ายคลึงกัน ร่างเทห์สวรรค์ของมู่เฉินที่ฝึกฝนก็ไม่ธรรมดา เหมือนจะไม่ได้ด้อยไปกว่าร่างอสูรเก้าฉกาจของเซี่ยหง การเผชิญหน้าระหว่างพวกเขาสองคนเต็มไปด้วยความดุเดือดอย่างแท้จริง

“นี่คือร่างเทห์สวรรค์ที่มู่เฉินชำระเหรอ?” หลินจิ้งมองร่างเทห์สวรรค์ทองคำอย่างอยากรู้อยากเห็น ย้อนกลับไปตอนที่นางเจอกับมู่เฉินครั้งแรกเขายังไม่ได้ชำระร่างเทห์สวรรค์ ซ้ำยังกำลังรวบรวมของที่จำเป็น แต่ดูจากตอนนี้ร่างเทห์สวรรค์ของเขาไม่ธรรมดา ดูเหมือนว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาก็ได้พัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว!

ภายใต้เสียงกระซิบทั้งหมด เซี่ยหงก็หดดวงตาลงมองไปที่ร่างเทห์สวรรค์ทองคำ ความรู้สึกลึกลับและหนาแน่นที่ส่งมาทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ แต่จากนั้นสายตาของเขาก็เย็นชาลง ไม่ว่ามู่เฉินจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้ได้

“ลากศึกต่อไปไม่ได้แล้ว”

จิตสังหารพวยพุ่งขึ้นในดวงตาของเซี่ยหงก่อนที่จะหายใจเข้าลึกๆ สีหน้าเย็นชาลง ทันใดนั้นมือทั้งสองก็ประสานเข้าด้วยกัน สร้างตราประทับแปลกประหลาดขึ้น

โฮก!

ทันทีที่วาดตราประทับเสียงคำรามลึกก็แผ่มาจากร่างอสูรเก้าฉกาจที่อยู่ใต้เท้าของเขา เสียงคำรามทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับรัศมีรุนแรง

ลวดลายที่ปกคลุมร่างกายเต้นยุบยับราวกับมีชีวิต ค่อยๆ แยกตัวออกจากร่างอสูรเก้าฉกาจ ดวงตาสีแดงเข้มจับจ้องที่มู่เฉิน ราวกับว่าต้องการเขมือบอีกฝ่าย

โดยไม่มีการแสดงออกใดๆ เซี่ยหงก็วาดตราประทับวูบไหวที่ดูราวกับสัตว์อสูร

“ทักษะเทห์สวรรค์ คัมภีร์อสูรฟ้า พยัคฆ์ปีศาจ!”

เมื่อวาดตราประทับ พยัคฆ์ดำก็ปะทุออกมาด้วยแสงสีแดงเข้ม

“หมีปีศาจ!”

“เต่าปีศาจ!”

“ปีศาจฉลู!”

“…”

เสียงไม่แยแสดังก้องออกมาขณะที่สัตว์อสูรเก้าตัวที่อยู่รอบๆ เซี่ยหงลืมตาขึ้นพร้อมกับแสงรัศมีร้ายกาจที่ครอบงำสวรรค์และโลก

เมื่อชิ้งหย่าและคนอื่นๆ เห็นฉากนี้สีหน้าก็เปลี่ยนไปพร้อมกับความหวาดเกรงฉายในสายตา “เซี่ยหงเทหมดหน้าตักแล้ว ด้วยสัตว์อสูรทั้งเก้าพลังสามารถทำให้พลังของเขาพุ่งขึ้นถึงขีดสุด ว่ากันว่าเขาเคยใช้กระบวนท่านี้เอาชนะจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะปลายสุดด้วย”

“มังกรปีศาจ!”

ท่ามกลางสายตาหวาดผวาของทุกคน เสียงเย็นเยียบสุดท้ายก็ดังออกจากปากเซี่ยหง ในเวลาเดียวกันมังกรดำที่กำลังขดตัวก็เปิดดวงตาออก รัศมีร้ายกาจพวยพุ่งสูง

สัตว์อสูรทั้งเก้าลืมตาขึ้น ทั่วบริเวณก็เหมือนถูกดึงกลับไปในยุคดึกดำบรรพ์ ขณะที่คลื่นร้ายกาจอัดแน่นที่ขอบฟ้า

“ทักษะเทห์สวรรค์ คัมภีร์อสูรฟ้า หมัดเก้าอสูรฉกาจ!”

จิตสังหารในดวงตาของเซี่ยหงหนาแน่นขึ้น รัศมีร้ายกาจที่เชี่ยวกรากก็พรั่งพรูออกมาพร้อมกับรัศมีเลือดปกคลุมท้องฟ้า เขาเหวี่ยงหมัดออกไป ขณะที่สายตาน่าขนลุกจับจ้องที่มู่เฉิน

โฮก!

สัตว์อสูรทั้งเก้าปล่อยเสียงคำราม กระโจนออกไปพร้อมกับหมัด กลายเป็นแสงสีแดงฉานบ้าคลั่งหลอมรวมเป็นภาพกำปั้นสีแดงเข้มขนาดใหญ่พันจั้ง

สัตว์อสูรเปล่งเสียงพร้อมกับรัศมีร้ายกาจน่าสะพรึง ราวกับจะกลืนกินท้องฟ้า

พลังของหมัดนี้ ทำให้จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนเกิดอาการสั่นสะท้าน พวกเขาทราบดีว่าถ้าหมัดนี้พุ่งมาหา กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าก็ตายคาที่กับการโจมตีนี้

เซี่ยหงเค้นพลังทุกหยาดหยดใส่ลงไปในหมัดนี้

ภาพหมัดเอิบอาบด้วยรัศมีร้ายกาจเชี่ยวกราก สายตาของมู่เฉินที่ยืนอยู่บนร่างเทพสุริยะก็เคร่งเครียดลงหลายส่วน ก่อนที่จะหายใจลึกสุดปอด มือทั้งสองประสานเข้าด้วยกัน

เมื่อยกมือทั้งสองขึ้น ร่างเทพสุริยะซึ่งอยู่ใต้ฝ่าเท้าก็เปล่งประกายแสงสีทอง จากนั้นผู้คนก็มองเห็นดวงตะวันสีทองลุกโชนขึ้นมาอย่างช้าๆ จากร่างมหึมานั่น

ดวงตะวันโชนแสงขึ้นทีละดวง…ละดวงจนครบแปดดวง!

คลื่นเก้าตะวัน เปิดแปดตะวัน!

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset