หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1120 รูปแบบการต่อสู้เชอหลุนจั้น

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1120 รูปแบบการต่อสู้เชอหลุนจั้น

โฮก!

ค่ายกลขนาดใหญ่ล้อมรอบลานประลอง ก่อนที่มังกรตัวมหึมาจะค่อยๆ ก่อตัวขึ้นที่ใจกลางค่ายกล มังกรสถิตอยู่ในค่ายกลพร้อมกับพายุคลื่นหลิงที่ครอบงำกวาดออกไปเมื่อเกิดการหายใจ

มังกรนี้มีสีเหลืองเข้ม ไม่มีสติปัญญาใดๆ ในดวงตา แต่กลับแผ่กระจายด้วยคลื่นหลิงทรงพลังออกมา มู่เฉินสามารถสัมผัสพลังนี้ได้ถึงความผันผวนของระลอกคลื่นหลิง

นั่นคือขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะเต็ม!

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลัง มู่เฉินก็โล่งใจมาก ค่ายกลเก้าเทพมังกรประหารสมกับเป็นค่ายกลระดับจงซือ แม้ว่าจะอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ แต่พลังที่สามารถปลดปล่อยออกมาก็ยังคงน่าตกใจอย่างยิ่ง

ตามการคาดเดาของมู่เฉินหากค่ายกลสามารถเปิดใช้งานได้แบบสมบูรณ์ ก็อาจจะสามารถเรียกมังกรระดับนี้ได้ถึงสามหรือสี่ตัว แต่เวลานี้เขายังทำถึงขนาดนั้นไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกพอใจที่สามารถสร้างมังกรได้แม้จะเป็นตัวเดียวก็ตาม

“ถ้าค่ายกลสมบูรณ์แบบ ก็จะมีมังกรขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะเต็มเก้าตัว บวกกับการประสานพลังจากค่ายกล แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นก็ยังต้องปวดหัวเมื่อจัดการ!” รอยยิ้มปรากฏบนริมฝีปากของมู่เฉิน ค่ายกลเก้าเทพมังกรประหารพิเศษจริงๆ

หลังจากเรียกมังกรมหึมาออกมาได้ มู่เฉินก็รู้สึกโล่งใจ เขาเงยหน้าขึ้นมองศิษย์ระดับมังกรทองคำพูดว่า “ชี้แนะด้วย”

สีหน้าของศิษย์ระดับมังกรทองคำเคร่งเครียดลงหลายส่วน เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังของค่ายกล

“ตามที่ขอ”

หอกยาววาดขึ้นชี้ไปที่มังกร เงาร่างเขากลายเป็นแสงสีดำในพริบตาก็พุ่งเข้าไปในค่ายกล รังสีแสงขนาดหมื่นจั้งระเบิดออกพร้อมกับหอกซัดไปที่มังกร

โฮก!

มังกรคำรามกระโจนออกไปอย่างไม่เกรงกลัวพร้อมกับกระแสคลื่นหลิงรุนแรงกวาดออก พุ่งไปหาศิษย์ระดับมังกรทองคำ

ตู้ม!

พลังงานสองสายปะทะกันเกิดเสียงกัมปนาทดังกึกก้อง คลื่นหลิงป่าเถื่อนกวาดออก ทำให้มิติแปรปรวนตลอดเวลา

มู่เฉินมองการเผชิญหน้านี้ด้วยความหนักใจและตระหนักได้ว่าเขาประเมินความแข็งแกร่งของศิษย์ระดับมังกรทองคำต่ำเกินไป แม้จะมีมังกรของค่ายกลเก้าเทพมังกรประหารช่วยเหลือ ซึ่งคล้ายกับการมีองครักษ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะเต็ม แต่ศิษย์ระดับมังกรทองคำก็ยังได้เปรียบกว่า

ในทางกลับกันหากมู่เฉินไม่เทคลื่นหลิงให้มังกรตัวนั้นอย่างต่อเนื่อง ไม่นานมันก็คงถูกศิษย์ระดับมังกรทองคำแทงทะลุไป

“สมกับเป็นศิษย์ระดับมังกรทองคำ”

มู่เฉินถอนหายใจ จากนั้นก็กระแทกฝ่าเท้า สัญลักษณ์หลิงยิ่งนับไม่ถ้วนพรั่งพรูสายผนึกออกมาก่อร่างเป็นค่ายกลวงจรดาวสวรรค์!

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

ดวงดาวพริบพราวก่อนที่จะตกใส่ร่างศิษย์ระดับมังกรทองคำ!

ตู้ม!

เมื่อฝนดวงดาวร่วงหล่นลงมา ศิษย์ระดับมังกรทองคำก็ต้องชะลอการโจมตีมังกร ก่อนจะทำให้ฝนดวงดาวเหล่านั้นแตกสลาย

ดังนั้นภายใต้การโจมตีของมู่เฉิน ศิษย์มังกรทองคำต้องทนต้านรับการโจมตีจากทั้งมังกรและค่ายกลอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์เข้าสู่ทางตัน

มู่เฉินมองศิษย์ระดับมังกรทองคำที่ถูกดักเอาไว้ สายตาก็วูบไหวพลางนั่งลงก่อนที่จะสะบัดแขนเสื้อ ของเหลวจื้อจุนอีกสายไหลเวียนรอบร่าง

เมื่อพิจารณาจากจำนวนแล้ว นี่คือของเหลวจื้อจุนอย่างน้อยหนึ่งล้านหยด

“อึดจริงๆ! ข้าคงต้องใช้กลเม็ดสักหน่อยแล้ว”

มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองศิษย์ระดับมังกรทองคำก่อนจะยิ้มบาง ตราประทับเปลี่ยนแปลงเร็วรี่ สัญลักษณ์หลิงยิ่งก็กวาดออกมาอีกครั้ง

ขณะที่มู่เฉินเริ่มหมดพลังในการควบแน่นสัญลักษณ์หลิงยิ่ง ของเหลวจื้อจุนรอบตัวก็เติมเต็มเข้าไปในร่างกายเพื่อลดทอนความเหนื่อยล้า

เมื่อสัญลักษณ์หลิงยิ่งแผ่ออก ค่ายกลขนาดใหญ่ก็ก่อร่างขึ้นช้าๆ นี่ก็คือค่ายกลเก้าเทพมังกรประหารอีกค่ายกลหนึ่ง!

แต่ค่ายกลที่สองนี้ใช้เวลานานกว่าเนื่องจากต้องอาศัยพลังงานภายนอก ดังนั้นจึงใช้เวลาในการสร้างเป็นสองเท่า

เมื่อค่ายกลเก้าเทพมังกรประหารค่ายกลที่สองสร้างขึ้นเรียบร้อย มังกรในค่ายกลแรกก็หดลงเหลือครึ่งหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าได้รับความเสียหายจากการต่อสู้กับศิษย์ระดับมังกรทองคำ

เมื่อมู่เฉินเห็นภาพนี้ดวงตาก็กะพริบวูบไหวก่อนที่มังกรจะคำรามกระโจนเข้าใส่อย่างไม่กลัวตาย ทันทีที่ปะทะกับร่างศิษย์ระดับมังกรทองคำก็ระเบิดตัวเอง

ตู้ม!

คลื่นกระแทกป่าเถื่อนกวาดออก ค่ายกลเก้าเทพมังกรประหารค่ายกลแรกถูกทำลาย ส่วนร่างศิษย์ระดับมังกรทองคำก็ได้รับความเสียหายมาก คลื่นหลิงที่ทรงพลังรอบตัวอ่อนแอลงอย่างมาก

แต่ก่อนที่ศิษย์ระดับมังกรทองคำจะฟื้นตัว ก็ได้ยินเสียงมังกรคำรามอีกเสียง มังกรจากค่ายกลเก้าเทพมังกรประหารที่สองพุ่งเข้าใส่ศิษย์ระดับมังกรทองคำอย่างดุเดือด!

เมื่อมองการพุ่งเข้าใส่ของมังกร ใบหน้าของศิษย์ระดับมังกรทองคำก็ตะลึงงันไป เพราะไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะต้องเจอกับผู้ท้าทายที่หน้าด้านขนาดนี้…

เห็นได้ชัดว่ามู่เฉินคิดจะใช้รูปแบบการต่อสู้แบบเชอหลุนจั้นเพื่อให้เขาเหนื่อยตาย!

เผชิญหน้ากับกลยุทธ์แบบนี้ ต่อให้เขามีพลังในการต่อสู้ไม่ธรรมดา สุดท้ายก็จะหมดแรงไปเองอย่างสมบูรณ์ ส่วนมู่เฉินเพียงแค่เติมของเหลวจื้อจุนให้ตัวเองก็สามารถสร้างค่ายกลออกมาไม่สิ้นสุด!

ภายใต้สถานการณ์ต่อสู้เช่นนี้ ไม่มีใครสามารถไปรบกวนมู่เฉินได้เลย

ดังนั้นการต่อสู้ที่ยากลำบากเลยกลายเป็นขบขัน ในฐานะผู้ท้าชิงมู่เฉินไม่คิดจะเสี่ยงชีวิต กลับซ่อนตัวอยู่ไกลๆ และจัดค่ายกลขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

เขาไม่สามารถควบคุมค่ายกลเก้าเทพมังกรประหารสองค่ายกลได้พร้อมกัน ดังนั้นเขาจะควบคุมค่ายกลที่สองได้หลังจากที่ค่ายกลแรกถูกทำลาย

ทว่าแม้กลยุทธ์นี้จะเป็นการชกใต้เข็มขัด แต่ก็ยังอยู่ในกฎที่วางไว้ ดังนั้นมู่เฉินจึงไม่ถูกยับยั้งไม่ให้ทำ เมื่อเวลาผ่านไปคลื่นหลิงรอบร่างศิษย์ระดับมังกรทองคำก็อ่อนลงเรื่อยๆ

เมื่อมังกรตัวที่สี่ระเบิดออก ร่างศิษย์ระดับมังกรทองคำก็แตกร้าว แสงซึมออกมาจากรอยแตกเหล่านั้น

เมื่อมู่เฉินที่เหงื่อท่วมตัวเห็นฉากนี้ก็อดรู้สึกโล่งใจไม่ได้ เนื่องจากมือของเขาสั่นเทิ้มไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะความอ่อนเพลียที่เกิดขึ้นจากการที่เขาสร้างค่ายกลซ้อนกันขึ้นมาตลอดเวลา

เวลานี้เขารู้สึกเวียนหัวไปหมดแล้ว ท้ายที่สุดแล้วการสร้างค่ายกลที่ซับซ้อนจำนวนมาก ไม่เพียงแต่ทำให้คลื่นหลิงหมดลงเท่านั้น หากเขาหมดแรงเกินไปก็จะหมดลมแน่นอน

“ขอโทษด้วย”

มู่เฉินสะบัดแขนเสื้อสลายค่ายกลที่จัดเตรียมได้ครึ่งหนึ่งออกไป ศิษย์ระดับมังกรทองคำในสภาพเช่นนี้ชัดว่าหมดแรงแล้ว ไม่เป็นภัยคุกคามอีกต่อไป

ถึงตอนนี้การท้ามายของเขาถือว่าประสบผลแล้ว

ตอนนี้มู่เฉินตระหนักได้ว่าซูชิงหยิงน่าจะมีสิทธิ์ในการรับป้ายมังกรทองคำ ทว่าราคาแพงระยับที่ต้องจ่ายคือการบาดเจ็บล้มตายของแมลงวิญญาณจำนวนมาก ซึ่งนางไม่เต็มใจที่จะทำแบบนั้น

ศิษย์ระดับมังกรทองคำประสานมือให้มู่เฉินกล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีที่ได้เป็นศิษย์ระดับมังกรทองคำของวังสวรรค์บรรพกาล”

ภาพเงาของศิษย์ระดับมังกรทองคำกระจายเป็นจุดแสง ป้ายโบราณถูกควบแน่นที่เบื้องหน้ามู่เฉิน

บนป้ายมีมังกรทองขดตัวอยู่ ปลดปล่อยแรงกดดันทรงพลัง

ป้ายมังกรทองคำ!

ฮา!

มู่เฉินมองไปที่ป้ายทองอร่ามก็รู้สึกว่าร่างกายเป็นอัมพาต เขาทรุดตัวลงกล้ามเนื้อเจ็บปวดรวดร้าว สั่นระริกไปหมด การสร้างค่ายกลเก้าเทพมังกรประหารออกมาเป็นชุดแบบนี้ เกินพลังเขาอย่างชัดเจน

นอกจากนี้เขายังใช้ของเหลวจื้อจุนไปถึงสามล้านหยด

แต่ก็คุ้มค่ากับตำแหน่งศิษย์ระดับมังกรทองคำ

เมื่อมู่เฉินทรุดตัวลง มิติก็ผันผวน จากนั้นแสงสายหนึ่งก็ห่อหุ้มร่างมู่เฉินพาเขาออกจากมิตินี้ไป

มู่เฉินรู้ว่าในที่สุดการทดสอบของประตูมังกรทะยานสวรรค์ก็จบลงแล้ว

ด้านนอกประตูมังกรทะยานสวรรค์

ทั่วบริเวณตกอยู่ในความสับสน แต่คราวนี้ผู้คนมองไปที่ประตูด้วยความประหลาดใจ เมื่อพวกเขาตระหนักว่ามู่เฉินใช้เวลานานเกินไปแล้ว

ซึ่งเกินกว่าทุกคนก่อนหน้า

นี่ทำให้พวกเขาประหลาดใจและสงสัยอย่างยิ่ง มู่เฉินไปเจออะไรในนั้นถึงได้ใช้เวลานานขนาดนี้? แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเดาอย่างไรก็ไม่เคยคิดว่ามู่เฉินกำลังท้าทายศิษย์ระดับมังกรทองคำอยู่…

มีเพียงซูชิงหยิงที่มุ่นคิ้วขึ้นทีละน้อย รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

ขณะที่ทุกคนคาดเดาในใจ ประตูก็เกิดการเคลื่อนไหวในที่สุด ประกายแวววาวพร่างพราวออกมาก่อเป็นร่างสูงโปร่ง

ร่างนี้ก็คือมู่เฉิน

แต่เมื่อพวกเขากวาดสายตาไปที่มู่เฉินก็ต้องหดดวงตาลงทันที เนื่องจากพวกเขาเห็นเสาสีทองขนาดใหญ่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าจากร่างของมู่เฉิน ฉีกขาดฟ้าดิน

มีมังกรทองพันอยู่รอบเสา

เสียงวุ่นวายหยุดลงทันที ใบหน้าผู้คนแข็งทื่อ จากนั้นไม่นานความไม่เชื่อเข้มข้นและหวาดผวาก็ผุดขึ้นในดวงตา

“นั่น…นั่นศิษย์ระดับมังกรทองคำ? เป็นไปได้อย่างไร?!”

**车轮战 อ่านว่าเชอหลุนจั้น หมายถึงการต่อสู้แบบหลายคนผลัดขึ้นสู้กับคนคนเดียว หรือหลายกลุ่มปะทะคนกลุ่มเดียวเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามแพ้เพราะความเหนื่อย

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset