หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1128 โชคชะตาของข้า

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1128 โชคชะตาของข้า

เมื่อมู่เฉินจับพัดขนนกสีเขียวเอาไว้

คลื่นหลิงในร่างกายก็เพิ่มขึ้นกะทันหัน มิติแปรปรวนอยู่ข้างหลัง จุดจื้อจุนไห่มองเห็นได้เลือนรางพร้อมกับคลื่นสูงหมื่นจั้งซัดสาดแผดเสียงดังกึกก้อง

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

ร่างกายของมู่เฉินสั่นสะท้าน เนื่องจากสัมผัสได้ถึงคลื่นหลิงในร่างกายที่ไหลผ่านแขนเทลงไปในพัดขนนก

พัดอันเล็กนี้ราวกับหลุมดำไร้ก้น ไม่ว่าคลื่นหลิงของมู่เฉินจะไหลเข้าไปมากเพียงใด พัดก็เขมือบลงไปโดยไม่ลังเล

แรงดูดนี้ทำให้หัวใจของมู่เฉินกระเด้งขึ้น เขารู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาบ้าง

ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินความต้องการยิ่งใหญ่ของอาวุธมหสวรรค์ต่ำเกินไป

ในทะเลพลังเสาน้ำจำนวนมากพุ่งสูงขึ้น ขณะเชื่อมโยงกับมิติว่างเปล่าราวกับมังกรมหึมา

ภายใต้การดูดระดับน้ำทะเลพลังในจุดจื้อจุนไห่ก็ค่อยๆ ลดลง

จิ่วโยวกับหลินจิ้งก็ตกใจไปกับภาพที่เห็น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นั่นเป็นเพราะพวกนางไม่สามารถเทคลื่นหลิงเข้าไป เนื่องจากเมื่อคลื่นหลิงสูญเสียการควบคุมก็จะสร้างปัญหาใหญ่หลวง!

มู่เฉินหน้าเขียวคล้ำ มือที่จับพัดก็สั่นเทิ้มอยู่ตลอด เห็นได้ชัดว่าเขาสามารถสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในจุดจื้อจุนไห่ ตัดสินจากภาพนี้อาวุธมหสวรรค์ชิ้นนี้อาจจะดูดเขาจนแห้งเหี่ยวถ้าคิดจะใช้มัน

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

คลื่นหลิงไร้ขอบเขตคำรามรอบร่างมู่เฉิน เมื่อคลื่นหลิงหลั่งไหลเข้าไปในพัดขนนกมากขึ้น รัศมีของพัดก็สว่างไสวขึ้นชัดเจน

ในทางกลับกันระดับน้ำทะเลพลังในจุดจื้อจุนไห่ก็ลดลงเรื่อยๆ

นี่เป็นสถานการณ์อันตรายมาก หากคลื่นหลิงในจุดจื้อจุนถูกดูดจนหมด ทะเลพลังจะสูญเสียพลังงานที่จะรองรับหากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย จุดจื้อจุนไห้ก็อาจจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ซึ่งเป็นหายนะสำหรับเขาแน่

“นรกแล้ว!”

มู่เฉินสาปแช่งในใจ เขาระมัดระวังอย่างมากแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะต้องใช้คลื่นหลิงจำนวนมหาศาลเพียงนี้เพื่อใช้งานอาวุธมหสวรรค์ชิ้นนี้

ตอนนี้เขามีขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้า ซึ่งอยู่ห่างจากขุมพลังตี้จื้อจุนเพียงก้าวเดียว ทว่าก้าวย่างนั้นยากที่จะก้าวผ่านไปยิ่งกว่าหุบเหวหมื่นจั้ง

มู่เฉินเกิดอาการวิงเวียนในศีรษะ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเขาคงจะแห้งเหี่ยวเป็นมัมมี่ ดังนั้นเขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ คำรามพร้อมกับกัดฟันกรอด “ควบคุมตัวเองหน่อย ไม่งั้นข้าจะตัดการเชื่อมโยงและถอยออกจากที่นี่ทิ้งเจ้าไว้เพื่อพินาศกับชายคนนั้นเอง!”

เขาเชื่อว่าพัดขนนกเข้าใจสิ่งที่พูดด้วยจิตวิญญาณที่มี

ความจริงก็เป็นเช่นนั้น เมื่อมู่เฉินคำรามการสั่นสะเทือนของพัดขนนกก็อ่อนลง แต่มันก็ส่งเสียงงึมงำอย่างไม่พอใจ ราวกับว่ากำลังตำหนิมู่เฉินที่ไม่สามารถตอบสนองความอยากอาหารได้

“ไปทำงานได้แล้ว กินจนอิ่มแปล้แล้วนี่!” มู่เฉินกัดฟันกรอดพูดขึ้น

ฮึ่ม!

พัดขนนกเปล่งรังสีสีฟ้าอมเขียวอย่างช้าๆ ซึ่งดูอ่อนโยนมาก แต่มู่เฉินก็สามารถสัมผัสได้ถึงความผันผวนของการทำลายล้างที่ทำให้หนังหัวชาหนึบไปหมด

เมื่อแสงสีฟ้าอมเขียวเบ่งบาน มู่เฉินก็สัมผัสได้ถึงชิ้นส่วนข้อมูลที่มาจากพัดขนนกในมือ ดูเหมือนจะเป็นตราประทับโบราณหลายชิ้น ดูท่าว่าพัดขนนกต้องการให้มู่เฉินใช้ตราประทับประสานงานกันกับมัน ท้ายที่สุดมันก็เป็นอาวุธมหสวรรค์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีคนควบคุมเพื่อที่จะปลดปล่อยพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดออกมา

เมื่อสัมผัสได้ถึงความลึกซึ้งของตราประทับเหล่านั้น มู่เฉินก็วาดกระบวนท่าด้วยฝ่ามือ

การเคลื่อนไหวของเขาช้าและมั่นคง เนื่องจากเขาสัมผัสได้ว่าทุกครั้งที่ตราประทับเปลี่ยนแปลงคลื่นหลิงในร่างกายก็จะหายไปเป็นก้อนใหญ่ เห็นได้ชัดว่าการสร้างตราประทับเหล่านั้นต้องการใช้พลังมหาศาล

สิ่งนี้ทำให้มู่เฉินกัดฟันแน่นขึ้น พัดบ้านี่เป็นหลุมดำ ถ้าตอนนี้เขายังอยู่ในระดับเกือบจะบรรลุขั้นเก้าเขาคงหมดสติไปนานแล้ว

แต่ในเวลานี้เขาทำได้เพียงแค่อดทนต่อสิ่งนี้ ฟันกัดกรอดจนแทบสึก หมุนเวียนคลื่นหลิงที่เหลืออยู่ในร่างกาย ดีที่จากนั้นไม่นานก็สร้างตราประทับสำเร็จจนได้

ตู้ม!

ในช่วงอึดใจสุดท้ายที่เขาสร้างตราประทับ พัดขนนกก็สั่นเทิ้มก่อนที่เขาจะยกมันขึ้น

มันไม่ได้ถูกควบคุมโดยมู่เฉิน แต่มันเป็นคนนำต่างหาก

มู่เฉินจับพัดขนนกแล้วพัดลงไปที่ผู้บัญชาการตำหนักสายลม

“ตราประทับเทพสายลม!”

เสียงเคร่งเครียดดังออกมาจากริมฝีปากของมู่เฉิน แสงสีฟ้าอมเขียวมากมายมหาศาลก็พวยพุ่งออกมาจากพัดราวกับพายุทอร์นาโดฉีกทำลายมิติในเส้นทางที่ผ่าน

พายุทอร์นาโดปิดตัวลงอย่างรวดเร็ว มวลลมน่าสะพรึงกวาดออก มิติแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยพร้อมกับความผันผวนของการทำลายล้างที่แผ่กระจายออกไป ซึ่งทำให้หนังหัวของมู่เฉินชาวาบไปหมด

เมื่อพายุรวมตัวกัน แสงสีฟ้าอมเขียวเข้มขนาดเท่าศีรษะมนุษย์ก็ปรากฏขึ้น สามารถมองเห็นตราประทับโบราณที่ส่วนลึก

ตราประทับดูลึกซึ้งมาก มีพายุไม่มีที่สิ้นสุดราวกับว่าเป็นพายุที่เกิดจากการกำเนิดครั้งแรกของฟ้าดินที่เต็มไปด้วยการทำลายล้าง แม้จะดูอ่อนโยนก็ตาม

แรงดูดมหาศาลระเบิดออกจากตราประทับ กลืนกินลมสลาตันสีฟ้าอมเขียว ในเวลาไม่กี่อึดใจลมสลาตันก็หายไปอย่างสมบูรณ์ มีเพียงตราประทับแสงลอยคว้างอยู่บนท้องฟ้า

ฮึ่ม!

ตราประทับแสงกระตุกเบาๆ ก่อนที่ทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว

ตู้ม!

เมื่อแสงกวาดผ่าน มิติก็ระเบิดกลายเป็นสะเก็ดจำนวนนับไม่ถ้วน สะเก็ดเหล่านั้นไม่ได้สลายไป แต่รวมตัวกันรอบๆ ตราประทับพุ่งเข้าหาผู้บัญชาการตำหนักสายลมประหนึ่งมังกรทะยาน

โฮก!

เผชิญหน้ากับการโจมตีที่น่ากลัว ผู้บัญชาการตำหนักสายลมก็คำราม ชัดว่ารู้สึกได้ถึงพลังทำลายล้างที่อยู่เบื้องหลัง ทันใดนั้นหมอกสีดำก็พัดออกมารวมตัวกันที่เบื้องหน้าเขา กลายเป็นหลุมดำกว้างร้อยจั้งซึ่งดูชั่วร้ายมาก ราวกับว่าสามารถกลืนกินและปนเปื้อนอะไรก็ได้

ตู้ม!

ทว่าตราประทับสีฟ้าอมเขียวกลับไม่สนใจ ชนเข้ากับหลุมดำพร้อมกับสะเก็ดมิตินับไม่ถ้วน

ชี่ ชี่!

ในช่วงเวลาปะทะกันฟ้าดินก็เงียบงันลงชั่วครู่ ก่อนที่แสงสีฟ้าอมเขียวจะกระจายออกมาจากหลุมดำพร้อมกับคลื่นกระแทกที่ไม่สามารถอธิบายได้ระเบิดออก!

ครืน!

คลื่นกระแทกพัดออกมาทำให้หลุมดำสลายไปทันที เสาทั้งหมดในโถงก็ถูกทำลายจนสิ้นซาก ทิ้งรอยแตกไว้บนพื้นแข็งแรง

ทั้งสามคนเคลื่อนไหวหลบหลีกสิ่งนี้ไปไกลๆ เพราะกลัวว่าจะถูกคลื่นกระแทกซัดเอาได้

คลื่นกระแทกที่รุนแรงกินเวลาหลายนาทีก่อนที่จะค่อยๆ สงบลง เมื่อความสงบกลับคืนสู่สถานที่แห่งนี้พวกเขาก็จ้องมองไป

ทั้งโถงวินาศสันตะโร ผู้บัญชาการตำหนักสายลมยังคงลอยตัวอยู่บนท้องฟ้า ทว่ารัศมีสีดำรอบตัวหายไปอย่างสมบูรณ์ เขายืนนิ่งโดยมีรอยแตกปกคลุมพื้นผิวของร่างกาย ไม่ช้าก็กระจายไปทั่วทุกตารางนิ้ว

แคร็ก!

จู่ๆ ชิ้นส่วนร่วงหล่นลงมาคล้ายกับหน้ากากหลุดลอก ชิ้นส่วนหลุดออกไปไปทีละน้อยร่างผู้บัญชาการตำหนักสายลมอีกรูปลักษณ์ก็เผยออกมา…

แต่คราวนี้ความมืดในดวงตาหายไป รัศมีปีศาจก็ไม่เหลือหลอ

ฮึ่ม

ขณะนี้พัดขนนกบินฉวัดเฉวียนไปมารอบตัวผู้บัญชาการตำหนักสายลม ส่งเสียงครางเบาๆ ใส่

“ดูเหมือนว่านี่จะเป็นผู้บัญชาการตำหนักสายลมตัวจริง…” มู่เฉินเข้าใจสถานการณ์ในทันที ดูท่ารัศมีปีศาจชั่วร้ายจะสลายไปอย่างสมบูรณ์ แต่เมื่อพิจารณาจากภาพที่ดูโปร่งใส ผู้บัญชาการตำหนักสายลมในปัจจุบันเป็นเพียงร่างดวงจิตที่ในไม่ช้าก็จะจางหายไป

ภายใต้สายตาของพวกเขา ดวงตาของผู้บัญชาการตำหนักสายลมก็กะพริบด้วยความคมชัด เขามองไปยังโถงวินาศสันตะโร ก่อนจะมองพัดขนนกข้างตัวพลางถอนหายใจเบาๆ

เขาลูบพัดขนนกก่อนที่จะโค้งคำนับให้ทั้งสามราวกับว่ากำลังแสดงความขอบคุณที่ปลดปล่อยเขาจากรัศมีปีศาจชั่วร้าย ทำให้สติเส้นสุดท้ายฟื้นคืนมา

หลังจากทำเช่นนี้ ร่างกายเขาก็ดูโปร่งใสมากขึ้นพร้อมกับประกายแสงกระจายออกจากร่างกาย ราวกับว่ากำลังจะสลายหายไป

พัดขนนกที่อยู่ข้างกายก็มีอาการโศกเศร้า เพราะรู้ว่าเจ้านายกำลังจะหายไปตลอดกาล

ใบหน้าของผู้บัญชาการตำหนักสายลมสงบนิ่ง จากนั้นก็สะบัดมือ ริ้วแสงสามสายบินออกมาพลิ้วลงที่หลังมือของทั้งสามก่อร่างเป็นทอร์นาโดสีฟ้าอมเขียวสามลูกพร้อมกับรัศมีเจ้าตำหนักสายลมเอิบอาบออกมา

นี่คือป้ายยินยอมของเจ้าตำหนักสายลม ด้วยสิ่งนี้พวกเขาจะมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้รับการชำระล้างในทะเลสาบสวรรค์

“ขอบคุณผู้อาวุโส!”

ทั้งสามโค้งคำนับแสดงความขอบคุณด้วยมารยาทสูงสุดต่อผู้บัญชาการตำหนักสายลม

ผู้บัญชาการตำหนักสายลมยิ้มบาง จากนั้นร่างก็กระจายเป็นประกายแสง

เมื่อผู้บัญชาการตำหนักสายลมหายไป รัศมีของพัดขนนกก็ลดลงก่อนที่จะลอยอยู่ในอากาศอย่างเงียบๆ เห็นได้ชัดว่าเข้าสู่สถานะไร้เจ้าของ

เมื่อทั้งสามเห็นสิ่งนี้ก็รู้สึกโล่งใจ ดูเหมือนว่าทางเลือกของพวกเขาจะถูกต้อง ไม่เพียงแต่จะได้รับป้ายยินยอมจากเจ้าตำหนักสายลม พวกเขายังได้รับสมบัติอีกด้วย

มู่เฉินก้าวไปข้างหน้า เตรียมจะเก็บพัดขนนกเข้าในแขนเสื้อ

แต่ในทันใดนั้นความผันผวนก็พุ่งมาจากภายนอก มือลาวายื่นออกมาจากมิติคว้าเข้าที่พัดขนนก

ในเวลาเดียวกันเสียงที่คมชัดร้องแรงก็ดังขึ้นในโถง

“มาให้บังเอิญดีกว่ามาให้เร็ว ดูเหมือนว่าพัดเทพสายลมนี้จะเป็นโชคชะตาของข้า…”

**สุภาษิต มาให้บังเอิญดีกว่ามาให้เร็ว ความหมายประมาณว่าแบบมาให้ถูกเวลาดีกว่ามาเร็ว

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset