หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1160 แมลงหงส์

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1160 แมลงหงส์

ร่างในชุดคลุมสีม่วงยืนอยู่ตรงบัลลังก์

พร้อมกับรัศมีครอบงำยิ่งใหญ่ที่โดดเด่น ทำให้พื้นที่โดยรอบบิดเบี้ยวปกคลุมโถงเป็นชั้นๆ

มู่เฉินถูกห่อหุ้มด้วยแรงกดดันตั้งแต่ก้าวเข้ามาในโถง ทันใดนั้นร่างกายก็เกร็งขึ้น เกลียวแสงสีทองไหลอยู่บนชั้นผิวพร้อมกับเสียงคำรามของมังกรและหงส์ฟ้าดังก้องในร่างกาย เนื้อหนังแข็งตัวประหนึ่งเหล็กกล้าในตอนนี้

เผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่รู้จัก ชัดว่ามู่เฉินไม่กล้าที่จะผ่อนคลายแม้แต่น้อย ร่างน่าเกรงขามที่ถูกทิ้งไว้โดยบุคคลที่ยิ่งใหญ่ สามารถทำให้เขาต้องจ่ายราคาแพงระยับแน่นอน

ขณะที่เขาใช้พละกำลังทั้งหมดเพื่อป้องกัน สายตาก็จดจ้องร่างชุดสีม่วงเบื้องหน้าด้วยแววตื่นระวังวาบไหวในส่วนลึกของนัยน์ตา นั่นเป็นเพราะก่อนหน้านี้เขาสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่คลุมเครือจากในร่างจอมพลสอง

หรือว่าจอมพลสองยังไม่ได้สิ้นชีวิตอย่างสมบูรณ์?

แต่ท่าทางเช่นนี้เขาไม่ได้ดูเหมือนมีสติสัมปชัญญะเลยนะ?

มู่เฉินขมวดคิ้วหันหน้าก้าวไปในทิศทางอื่นซึ่งจะได้เผชิญหน้ากับจอมพลสอง จุดนี้ทำให้เขามองเห็นรูปลักษณ์อีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน

ทว่าทันทีที่เห็นรูปลักษณ์อีกฝ่ายใบหน้าของมู่เฉินก็เปลี่ยนไปรุนแรง อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึก

นั่นเป็นเพราะเขาเห็นจอมพลสองเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า ดวงตาจ้องมองด้วยความโกรธเกรี้ยว ซึ่งทำให้มู่เฉินตกตะลึง แต่ที่ทำให้มู่เฉินหวาดผวาไม่ใช่การแสดงออกที่แข็งกระด้างบนใบหน้า แต่เป็นรูโลหิตที่อยู่หว่างคิ้วจอมพลสอง

รูโลหิตนี้มีขนาดหนึ่งนิ้วดูเหมือนไม่สลักสำคัญอะไรเลย ทว่ามู่เฉินตระหนักได้ทันทีว่านี่เป็นพลังทำลายล้างชีวิตของจอมพลสองแบบทันด่วน

มู่เฉินไม่สามารถวัดได้ว่าจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มทรงพลังเพียงใด แต่เขารู้ดีว่ามีจอมยุท์ระดับนี้ไม่มากนักในทวีปเทียนหลัวปัจจุบัน

ทว่าบุคคลดังกล่าวกลับถูกสังหารทันที แล้วศัตรูคนนั้นจะทรงพลังขนาดไหน?

มู่เฉินรู้สึกเย็นเยือกบนผิวหนัง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า สายตาจับจ้องไปยังสถานที่แห่งหนึ่งขณะที่คลื่นหลิงรวมตัวในดวงตา

ขอบฟ้าบนนั้นก็มีร่องรอยหลุมดำขนาดหนึ่งนิ้วคล้ายๆ กันซึ่งดูไม่สำคัญเมื่อเทียบกับขนาดทั้งท้องฟ้า แต่เมื่อเขาเห็นหลุมดำนั้นก็รู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลัง

ความกลัวที่ไม่อาจอธิบายได้เพิ่มขึ้นในใจ

ตอนนั้นเองฉากหนึ่งก็กะพริบในห้วงจิตของมู่เฉิน ขณะที่ทวีปเทียนหลัวถูกรุกราน ปีศาจทรงพลังคนหนึ่งที่ไม่อาจจินตนาการได้ปรากฏตัวที่วังสวรรค์บรรพกาล ซึ่งทันทีที่เขาปรากฏก็ได้ลงมือก่อนที่จักรพรรดิฟ้าเสียอีก

ร่างนั้นใช้นิ้วชี้นิ้วเดียวก็ทำให้เกิดหลุมดำบนท้องฟ้าหอสอง จากนั้นทันทีที่จอมพลสองสัมผัสได้และลุกขึ้นยืน หว่างคิ้วก็ปรากฏรูโลหิตซึ่งทำลายพลังชีวิตทันท่วงที

สังหารจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มด้วยดัชนีเดียว

มู่เฉินหายใจเข้าลึกด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้จะมีใครอีกบ้างที่สามารถบรรลุได้นอกจากนักรบราชันปีศาจที่ตายไปพร้อมกันกับจักรพรรดิฟ้า?

นอกจากนี้การเคลื่อนไหวก่อนที่จักรพรรดิฟ้าจะตั้งตัวก็พิสูจน์แล้วว่านักรบราชันปีศาจคนนี้น่ากลัวเพียงใด…

“จักรวรรดิปีศาจ…เป็นสิ่งมีชีวิตน่าสะพรึงกลัวจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพวกมันถึงบังคับให้คนทั้งจักรวาลร่วมมือกันได้” ท่าทางของมู่เฉินเคร่งขรึมลง เขารู้สึกได้ว่าเผ่าปีศาจต่างมิติทรงพลังและน่ากลัวเพียงใด พวกมันคือศัตรูตัวฉกาจของมหาพันภพอย่างแท้จริง

กระทั่งตอนนี้เผ่าปีศาจก็ยังคงจับจ้องมหาพันโลกและรอคอยโอกาสในการบุกเข้ามา

มู่เฉินถอนหายใจในใจสงบสติอารมณ์ เผ่าปีศาจยังอยู่ไกลจากเขามากนัก เนื่องจากตอนนี้เขายังอ่อนแอเกินไป

แม้แต่จอมยุทธ์อย่างจอมพลสองสองยังถูกทำลายล้างด้วยดัชนีเดียว อาจมีเพียงจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนเท่านั้นที่สามารถต่อกรกับการดำรงอยู่ดังกล่าวได้

เมื่อสงบอารมณ์มู่เฉินก็เลื่อนสายตาจากจอมพลสองมาที่โถง

ท้ายที่สุดแล้วเป้าหมายที่เขามาหอสองในครั้งนี้ไม่ใช่จอมพลสอง

แต่เป็นกองทัพสังหารวิญญาณ!

เมื่อมู่เฉินกวาดสายตามองก็ค้นพบว่าโถงแห่งนี้มีขนาดใหญ่เพียงใด ก่อนหน้านี้เขาตะลึงกับร่างของจอมพลสองจนมองข้ามสิ่งอื่นไป

มีบันไดวนร้อยขั้นอยู่ใต้บัลลังก์โดยมีร่างหุ้มเกราะหนาอยู่ด้านหลังบันได

เมื่อมู่เฉินเห็นร่างเหล่านั้น เปลือกตาก็กระตุก หัวใจเต้นรัวพร้อมกับดวงตาลุกโชนกวาดมองไป

ร่างหุ้มเกราะดำทะมึนปรากฏมากขึ้น…มากขึ้นในครรลองสายตา นี่เป็นกองทัพที่ยืนอยู่เบื้องหลังจอมพลสองประหนึ่งทหารผู้จงรักภักดี

ดูคร่าวๆ มีร่างหุ้มเกราะหนักห้าพันร่าง พวกเขาสวมชุดเกราะจนไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ได้ ชุดเกราะเหล่านั้นสลักด้วยอักษรสีแดงเข้มราวกับว่าเป็นเลือดปลดปล่อยไอสังหารที่น่าสะพรึงกลัว ทุกคนมีง้าวสีแดงเข้มเป็นอาวุธประดุจดังถูกห่อหุ้มด้วยรัศมีสีแดงเข้ม

เห็นได้ชัดว่าตอนที่กองทัพยังคงอยู่ พวกเขาได้ต่อสู้หลายครั้งแม้กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนก็เคยถูกทำลายโดยพวกเขา

สายตาของมู่เฉินมองไปที่กองทัพด้วยดวงตาลุกโชน อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่นด้วยความตื่นเต้น นี่คือกองทัพที่เขาตามหา—กองทัพสังหารวิญญาณ!

ทว่า… ความตื่นเต้นของมู่เฉินก็หดกลับอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเมื่อคลื่นจิตแพร่กระจายออกไป เขาค้นพบว่ากองทัพสังหารวิญญาณไม่มีร่องรอยของความผันผวนที่แปลกประหลาดเลย

ดูเหมือนกองทัพสังหารวิญญาณจะถูกทำลายโดยสิ้นเชิงแล้ว

ใบหน้าของมู่เฉินบิดเบ้ไม่น่าดู ถ้าเขาไม่สามารถควบคุมกองทัพสังหารวิญญาณได้ เขาก็ไม่สามารถนำร่างหลักของมั่นถัวหลัวออกมาได้

“ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?” มู่เฉินขมวดคิ้ว โดยทั่วไปแล้วหากกองทัพชั้นยอดดังกล่าวเสียชีวิตลง ส่วนใหญ่จะใช้ทักษะลับเพื่อดึงพลังของพวกเขาออกมาทำให้กลายเป็นกองทัพไม่มีวันตาย ด้วยวิธีนี้แม้ว่าพวกเขาจะตายแต่ก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ

ในบางแง่มุมกองทัพดังกล่าวไม่สามารถพิจารณาว่าเป็นสิ่งมีชีวิตได้ ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถรอดจากการกัดกร่อนของกาลเวลาได้

แต่ทำไมตอนนี้จากความผันผวนที่สัมผัสได้ พวกเขาราวกับตายไปแล้วจริงๆ?

“นั่นเป็นเพราะกองกำลังนี้ขาดการกระตุ้น”

ขณะที่มู่เฉินครุ่นคิดเสียงหัวเราะพลิ้วไหวก็ดังมาจากด้านหลังเขา

มู่เฉินหดดวงตาก่อนที่จะค่อยๆ เอี้ยวหน้ากลับไปก็เห็นร่างเงาซูชิงหยิง

ไม่คิดว่านางก็มาที่หอสอง

เขายังคงมีสีหน้าสงบแต่ในร่างได้หมุนเวียนคลื่นหลิงแล้ว แม้ว่าเขาและซูชิงหยิงจะไม่ใช่ศัตรูกัน แต่ก็ไม่ได้เป็นพันธมิตรเช่นกัน

เมื่อเห็นมู่เฉินตั้งระวัง ซูชิงหยิงก็ยิ้มพร้อมกับหรี่ตายิ้ม “อย่ากังวล ข้าไม่ต้องการสู้กับเจ้าที่นี่ ยิ่งกว่านั้นข้าคิดว่าตอนนี้เรามาร่วมมือกันจะดีกว่านะ”

“ร่วมมือกัน?” มู่เฉินหรี่ตาลง

“เป้าหมายของเจ้าคือกองทัพนั่นใช่ไหม? ฮ่าๆ เจ้ามีความทะเยอทะยานจริงๆ กองทัพนี้ไม่ใช่ใครๆก็สามารถควบคุมได้หรอกนะ” ซูชิงหยิงมองไปที่มู่เฉินด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง

“นั่นไม่ใช่เรื่องของเจ้า” มู่เฉินตอบอย่างไม่แยแสจากนั้นก็ถามกลับ “เจ้าพูดถึงการกระตุ้น หมายความว่าอย่างไร?”

ซูชิงหยิงยิ้มเรียบขณะที่ตอบ “กองทัพนี้ไม่ได้ถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากตอนที่จอมพลสองถูกฆ่าตาย กองทัพนี้ได้แผดเผาวิญญาณของตนเองเพื่อเทพลังไปที่จอมพลสองด้วยความหวังว่าจะช่วยชีวิตเอาไว้ได้ ดังนั้นหากเจ้าต้องการควบคุมกองทัพนี้ก็ต้องคืนพลังให้พวกเขา”

มู่เฉินขมวดคิ้ว “ถ้านั่นคือวิธีที่สามารถรักษาชีวิตจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนได้ก็ง่ายเกินไป”

ซูชิงหยิงพยักหน้า “ถ้าเป็นเพียงแค่นี้ก็เป็นไปไม่ได้ แต่จอมพลสองมีแมลงหงส์ซึ่งเป็นแมลงวิญญาณหายาก แมลงดังกล่าวสามารถผ่านนิพพานเพื่อฟื้นฟูชีวิตของเจ้านายได้ครั้งหนึ่ง เพียงแต่ว่าต้องใช้พลังสนับสนุนอย่างมาก”

“แมลงหงส์?” หัวใจของมู่เฉินสั่นสะท้าน หรือว่าพลังชีวิติที่เขารู้สึกได้จากจอมพลสองก็คือแมลงหงส์?

ถ้าเป็นอย่างนั้นจอมพลสองก็จะมีโอกาสกลับมามีชีวิตจริงหรือ?

“จอมพลสองตายไปแล้วและไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้อีก” ราวกับว่านางเดาความคิดของมู่เฉินได้ ซูชิงหยิงส่ายหน้า “การโจมตีที่จอมพลสองประสบยิ่งใหญ่มากจนแทบจะทำให้ทุกอย่างในร่างกายกลายเป็นขี้เถ้า ดังนั้นต่อให้เป็นแมลงหงส์ก็ไม่สามารถช่วยเขาได้”

จากนั้นนางก็หันไปหามู่เฉิน “เป้าหมายของข้าคือแมลงหงส์ ตราบใดที่ข้าได้มา ข้าก็สามารถช่วยเจ้าบีบพลังงานที่แมลงหงส์ดูดซับจากกองทัพออกมา ถึงตอนนั้นเจ้าก็จะสามารถได้รับกองทัพ”

“ดังนั้นเราสามารถร่วมมือกันได้”

สายตามู่เฉินวูบไหว จากนั้นไม่นานก็พูดต่อ “งั้นข้าต้องการทำอะไร?”

ไม่ว่าซูชิงหยิงจะพูดความจริงหรือไม่ แต่ตอนนี้เขาก็คิดจะลองทำเช่นนี้สักหน่อย ถ้าผู้หญิงคนนี้โกหกเขาจะให้นางจ่ายจนกระอักแน่

เมื่อเห็นมู่เฉินสนใจ ซูชิงหยิงก็อดกลั้นรอยยิ้มไม่ได้ จากนั้นมองไปที่โถงพลางสะบัดนิ้ว ลำแสงหลิงพุ่งออกมา

ฮึ่ม

เมื่อคลื่นหลิงพุ่งเข้าไปในโถง ทั้งห้องก็สั่นสะเทือน เส้นหลิงนับไม่ถ้วนรวมตัวกันบนอากาศ ทันใดนั้นเสียงคำรามมังกรก็ดังก้อง ค่ายกลมหึมาปรากฏขึ้นปกคลุมทั่วไปโถง

“ข้าต้องการให้เจ้าช่วยสลายค่ายกลนี้” เมื่อเห็นค่ายกลที่น่าสะพรึง ซูชิงหยิงก็พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองไปที่ค่ายกลขนาดใหญ่ ความแปลกประหลาดและตกตะลึงก็ฉายบนใบหน้า

เนื่องจากเขาพบว่าค่ายกลนี้คุ้นเคยอย่างมาก

นี่คือค่ายกลเก้าเทพมังกรประหาร!

ทว่าค่ายกลนี้อยู่ในรูปแบบที่สมบูรณ์!

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset