หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1211 องครักษ์ของเจ้า

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1211 องครักษ์ของเจ้า

“ค่ายกลแม่น้ำลั่ว!”

เมื่อลั่วเทียนเสินคำราม แม่น้ำก็ล้นทะลัก คลื่นน้ำไม่มีที่สิ้นสุดกวาดกระจายออกไปทั่วสารทิศ ก่อตัวเป็นปราการน้ำขวางกั้น ราวกับชามกว้างใหญ่ครอบคลุมตระกูลลั่วเสินทั้งหมดเอาไว้

ปราการน้ำสั่นไหว รัศมีโบราณเอิบอาบออกมาคลุมเครือ

แม้ว่าปราการนี้จะดูอ่อนแอ แต่คลื่นหลิงทรงพลังที่เล็ดลอดออกมาก็ทำให้ม่านตาของเสี่ยหลิงจื่อหดลง ดูเหมือนว่าตระกูลลั่วเสินเตรียมการมาเป็นอย่างดี

“หึ ดูท่าตระกูลลั่วเสินของเจ้าไม่คิดที่จะยอมรับสันติสุขที่ตระกูลเสี่ยเสินมอบให้!”

เสี่ยหลิงจื่อพูดเสียงเย็นเยือก จากนั้นก็ยื่นมือกดมิติตรงหน้า ทันใดนั้นเมฆโลหิตก็เริ่มรวมตัวก่อร่างเป็นมือขนาดใหญ่ซัดลงมากระแทกกับปราการน้ำ

ปัง!

ความผันผวนป่าเถื่อนเกิดขึ้นจากปราการ แผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับกำลังจะแตกสลาย

หัวใจทุกคนโลดขึ้นเมื่อมองดูปราการที่ผันผวน ใบหน้าของพวกเขาซีดลง เนื่องจากเมื่อไรที่ปราการนี้พังทลาย ตระกูลเสี่ยเสินก็จะเริ่มการสังหารหมู่

ฮึ่ม ฮึ่ม

ทว่าปราการก็ทนรับแรงระเบิดภายใต้สายตาที่จ้องมองด้วยความหวาดกลัว การโจมตีของเสี่ยหลิงจื่อ ค่อยๆ หายไป ปราการได้รับการฟื้นฟูจนสงบและปกป้องเมืองลั่วเสินอย่างเงียบๆ

ใบหน้าของเสี่ยหลิงจื่อเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าปราการยังคงยืนหยัด พลังของค่ายกลแม่น้ำลั่วเกินความคาดหมายของเขาไปไกล

“เสี่ยหลิงจื่ออย่ากัดมากกว่าจะเคี้ยวได้ ค่ายกลนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยพลังของแม่น้ำลั่ว ตราบใดที่แม่น้ำลั่ว ยังยืนยงก็จะไม่ถูกทำลาย” ลั่วเทียนเสินรู้สึกโล่งใจกับภาพดังกล่าว จากนั้นก็เอ่ยเยาะเย้ย

ถึงแม้ว่าตระกูลลั่วเสินจะตกต่ำ แต่ศักดิ์ศรีของพยัคฆ์ก็ยังคงมี รากฐานของตระกูลลั่วเสินเกินกว่าตระกูลเสี่ยเสินมาก ไม่ต้องพูดถึงระดับตี้จื้อจุนขั้นปลายอย่างเสี่ยหลิงจื่อ แม้แต่ระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็มก็ไม่สามารถทำลายค่ายกลนี้ลงได้

นี่เป็นความเชื่อมั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาในการปกป้องพิธีเทพธิดาลั่ว!

“ฮึ่ม ข้าไม่เชื่อว่ากระดองเต่านี้จะปกป้องแกได้ตลอดไป!”

สายตาของเสี่ยหลิงจื่อมืดมนลงแฝงความดุร้ายขณะที่คำราม “ซัดไปที่จุดเดียว ทำลายมันให้ได้!”

ผู้อาวุโสทั้งห้าของตระกูลเสี่ยเสินรับคำสั่งด้วยท่าทางน่ากลัว คลื่นหลิงขนาดมหึมาแผ่ซ่านไปทั่ว ทำให้ทั่วทั้งภูมิภาคแดงฉาน กลิ่นเหม็นเลือดคละคลุ้งขึ้นสู่ท้องฟ้า

ตู้ม ตู้ม!

การโจมตีของจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายหนึ่งคนและขั้นต้นห้าคน สิ่งนี้แทบจะทำลายโลกแตกสลาย การโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวพุ่งลงมาจากท้องฟ้า ซัดโจมตีจุดเดียวบนปราการน้ำ

เผชิญหน้ากับการโจมตีรุนแรง ปราการก็ผันผวนรุนแรง ระลอกคลื่นแผ่กระจายไปทั่ว

ทุกคนในเมืองลั่วเสินมองไปที่ปราการที่สั่นสะเทือนด้วยความกลัวในสายตา

ทว่าลั่วเทียนเสินดูสงบนิ่งมาก เขามีความมั่นใจในค่ายกลแม่น้ำลั่วนี้ ตราบใดที่พวกเขายังยืนหยัดอยู่ได้ ตระกูลเสี่ยเสินก็จะไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้

“ลั่วหลีใช้เวลานี้ทำให้สำเร็จ” ลั่วเทียนเสินพึมพำเมื่อมองไปที่ลั่วหลีซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยเปลวไฟ

ตราบใดที่ลั่วหลีประสบความสำเร็จในการพัฒนาดังกล่าว ตระกูลลั่วเสินก็จะเป็นปึกแผ่นอย่างแท้จริง ในเวลานั้นพวกเขาสามารถต่อสู้กับตระกูลเสี่ยเสิน เขาไม่เชื่อว่าตระกูลเสี่ยเสินจะยอมจ่ายราคามหาศาลเพื่อต่อกรกับตระกูลลั่วเสินของพวกเขา เพราะแบบนั้นจะทำให้ตระกูลลี่เสินและตระกูลกู่เสินได้รับประโยชน์จากการต่อสู้ครั้งนี้แทน

ด้วยความเข้าใจของลั่วเทียนเสินที่มีต่อตระกูลเสี่ยเสิน พวกเขาไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน

ฟู่ ฟู่!

ราวกับลั่วหลีได้ยินเสียงของลั่วเทียนเสิน เปลวไฟบนร่างนางก็ลุกโชนเป็นพายุไซโคลนเพลิง

ในพายุหมุนนี้ดอกไม้เพลิงที่เย้ายวนบินฉวัดเฉวียนไปมา

“ท่านบรรพบุรุษโปรดปกปักตระกูลของเราด้วย!”

ลั่วหลีกำมือแน่น เลือดสีแดงเข้มหยดลงจากปลายนิ้ว นางพึมพำราวกับกำลังขอพร

แปะ!

หยดเลือดทิ้งตัวลงสู่แม่น้ำลั่วจมลึกลงไป

ตู้ม!

ทันใดนั้นแม่น้ำลั่วก็เดือดพล่าน ดอกไม้เทพธิดาบินออกไปรวมตัวกันอยู่ด้านหลังลั่วหลี ก่อตัวเป็นเงาแสง

ภาพเงาช่างบอบบาง แม้จะเลือนรางแต่ก็ยังงดงามจนใจสั่น

รัศมีโบราณเปล่งออกมาจากร่างเงานั้น

เมื่อภาพเงาปรากฏขึ้นทุกคนในเมืองลั่วเสินก็เปลี่ยนสีหน้า นั่นเป็นเพราะขณะนี้พวกเขารู้สึกถึงจุดกำเนิดของสายเลือด

“นั่นคือ…ท่านบรรพบุรุษลั่วเสินเรอะ?!”

เสียงที่น่าตกใจของลั่วเทียนเสินดังขึ้น เขามองดูเงาด้านหลังของลั่วหลีโดยไม่อยากจะเชื่อ จากนั้นใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยน้ำตา ใครจะคิดได้ว่าบรรพบุรุษของพวกเขาจะปรากฏเมื่อตระกูลลั่วเสินกำลังจะถึงกัลปาวสาน

ภาพเงามองมาที่ลั่วหลีแล้วคลี่ยิ้ม เสียงหัวเราะเบานั้นทำให้ทุกสรรพสิ่งเงียบลง

ภาพเงาแตะนิ้วที่กึ่งกลางคิ้วของลั่วหลี

คลื่นหลิงที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็พุ่งเข้าสู่ห้วงแห่งจิตของลั่วหลี

“นั่นคือ…มรดกของลั่วเสิน?!”

ผู้อาวุโสทั้งสามของตระกูลสาขามองดูเหตุการณ์นี้ด้วยความอิจฉา พวกเขาไม่คิดว่าพิธีของลั่วหลีจะแตะถึงระดับสูงสุดนี้!

แค่ดอกไม้เทพธิดาก็ยังรับได้ แต่ทำไมกระทั่งท่านบรรพบุรุษยังปรากฏตัวและมอบมรดกให้ลั่วหลี!

“บรรพบุรุษผู้เป็นหนึ่ง! ทุกคนถวายบังคมองค์จักรพรรดินี!”

ชาวเมืองทุกคนรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง พวกเขาคุกเข่าหมอบคลานพร้อมกับเสียงดังแสบแก้วหู

เมื่อเสี่ยหลิงจื่อเห็นสิ่งนี้ใบหน้าก็มืดมนพร้อมกับร่องรอยความกลัวผุดขึ้นในส่วนลึกของดวงตา

ลั่วหลีตรงหน้าทำให้เขารู้สึกถึงภัยคุกคามแล้ว

เขามองไปที่ปราการที่ยังตั้งมั่นภายใต้การโจมตีดุร้าย ใบหน้าก็กลายเป็นอุบาทว์คำรามลั่น “พวกแกยังไม่ขยับอีกเรอะ?”

เสียงคำรามของเขาดังก้อง ทำให้ดวงตาของลั่วเทียนเสินสั่นไหว มันกำลังเรียกตระกูลลี่เสินกับกู่เสินรึ?

ขณะที่ลั่วเทียนเสินเฝ้าระวังการแทรกแซงของอีกสองตระกูล เขาก็ไม่ได้สังเกตเห็นผู้อาวุโสสามคนจากตระกูลสาขากัดฟันกรอด

ทันใดนั้นคนหนึ่งก็เคลื่อนตัวไปทางแม่น้ำลั่ว

“แกจะทำอะไร?!” ลั่วเทียนหลงที่จับตามองทั้งสามตลอดก็คำรามกร้าว

วาบ!

อีกสองคนจากตระกูลสาขาก็ขยับเข้ามาอย่างรวดเร็วเพื่อสกัดลั่วเทียนหลงไว้

ตอนนั้นเองผู้อาวุโสที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้แม่น้ำลั่วก็หยิบขวดของเหลวสีดำออกมาแล้วโยนลงไปในแม่น้ำลั่ว

ปัง!

ขวดระเบิดของเหลวสีดำพวยพุ่งออกมาพร้อมกับความผันผวนที่น่าขนพองสยองเกล้า บริเวณที่มันไหลผ่านก็ทำให้แม่น้ำลั่วแข็งค้างขึ้นทันที

เมื่อแม่น้ำถูกแช่แข็งก็เกิดช่องโหวบนค่ายกล ปราการเกิดความผันผวน รอยร้าวปรากฏขึ้นในปราการ

“รนหาที่ตาย!” ลั่วเทียนเสินคำรามกับภาพเบื้องหน้า เขาไม่คิดว่าคนตระกูลสาขาจะไร้ยางอายขนาดนี้

เห็นได้ชัดว่าพวกมันร่วมมือกับตระกูลเสี่ยเสินมานานแล้ว!

ปัง!

คลื่นหลิงที่น่ากลัวระเบิดออกมาจากร่างลั่วเทียนเสิน สายตาจ้องมองผู้ทรยศทั้งสามแล้วพุ่งเข้าใส่

วาบ!

แต่ขณะที่เขาเคลื่อนไหว คลื่นโลหิตก็ซัดเข้ามา เสี่ยหลิงจื่อพุ่งเข้ามาในเมืองลั่วเสินสกัดกั้นลั่วเทียนเสินเอาไว้

“จุ๊ๆ ลั่วเทียนเสินแกดีใจเร็วเกินไป!”

เสี่ยหลิงจื่อขวางทางลั่วเทียนเสินไว้ จากนั้นก็แสยะยิ้มพลางตะโกน “ทำลายพิธีเทพธิดาลั่ว!”

ชัดว่าเขากำลังพูดกับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นทั้งห้าของตระกูลเสี่ยเสิน

วาบ! วาบ!

เมื่อสิ้นเสียง ทั้งห้าที่กำลังพยายามขยายรอยร้าวก็แบ่งสามคนพุ่งเข้ามาด้วยรัศมีโลหิต

“ใครคิดขัดขวางองค์จักรพรรดินีต้องตาย!”

ขณะที่พวกเขาพุ่งไปหาลั่วหลีi เสียงคำรามนับไม่ถ้วนดังก็กึกก้องเบื้องหน้า ลั่วชิงหยาและลั่วซิวพุ่งเข้ามาพร้อมกับกองทัพ ทะยานเข้าใส่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นทั้งสาม

“ฮึ่ม ช่างเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์!”

หนึ่งในนั้นเค้นเสียงเย็น คลื่นหลิงสีแดงเข้มที่น่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมาจากร่างเขา เขาสามารถสกัดลั่วชิงหยาและลั่วซิวด้วยตัวคนเดียว!

อีกสองคนพุ่งเข้าหาลั่วหลีโดยไม่ลังเล

“ปกป้องจักรพรรดินี!”

เงานับไม่ถ้วนพุ่งออกไปก่อตัวเป็นแนวป้องกันเบื้องหน้าลั่วหลี พวกเขาเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าของตระกูลลั่วเสิน

“ไอ้พวกมด!”

ทว่าจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนทั้งสองไม่สนใจสิ่งนี้เลย คนหนึ่งแหวกคลื่นมนุษย์ออกไปแล้วกระทืบเท้าเรียกร่างเวทสวรรค์ออกมา ร่างใหญ่โตเปิดปากดูดดึงคลื่นหลิงในฟ้าดินเข้าไป

โฮก!

อึดใจร่างใหญ่โตก็เปิดปากส่งเสียงคลื่นที่น่ากลัวออกมา จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าเหล่านั้นถูกเป่ากระเด็นออกไป

จอมยุทธ์อีกคนอาศัยช่วงเวลานี้พุ่งผ่านแนวป้องกัน จากนั้นก็สะบัดนิ้ว แสงหลิงยิงไปในทิศทางของแท่นพิธีสีขาว

แท่นสีขาวแตกตกลงไปในแม่น้ำลั่วลอยอยู่บนผิวน้ำ

บนแท่นสีขาว ลั่วหลียังคงนั่งหลับตาอยู่

“ฮ่าๆ ตระกูลลั่วเสินยังมีใครสกัดข้าได้อีก?”

พอเห็นลั่วหลีตกอยู่ในสถานการณ์นี้ จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นที่พุ่งเข้ามาก็ระเบิดเสียงหัวเราะ ตอนนี้ตระกูลลั่วเสินได้งัดไพ่ตายออกมาทั้งหมดแล้ว งานพิธีเทพธิดาลั่วครั้งนี้ถือว่าล้มเหลวไม่มีชิ้นดี

จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนกำกำปั้นหอกโลหิตก็ปรากฏขึ้น ปลายหอกชี้ไปทางลั่วหลี เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ลังเลที่จะทำลายนางให้สิ้นซาก

ประชาชนที่เฝ้ามองสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปฉับพลันก็ร้องโศกเศร้าเสียใจ หรือว่าตระกูลลั่วเสินจะถึงกัลปาวสานอย่างแท้จริง?

ความโศกเศร้ากระจายทั่วเมืองส่งผลให้ลั่วหลีต้องลืมตาขึ้น ทว่านางได้แต่มองจอมยุทธ์ตระกูลเสี่ยเสินที่เข้าใกล้เรื่อยๆ นางกำหมัดแน่น เล็บจิกลงบนฝ่ามือ กัดริมฝีปากจนเลือดซึมออกมา

พิธีเทพธิดาของนางจะล้มเหลวแล้วจริงหรือ?

นางต้องการเวลาอีกเล็กน้อย…อีกเล็กน้อยเท่านั้นก็จะสามารถสำเร็จแล้ว!

จอมยุทธ์ตระกูลเสี่ยเสินมองลั่วหลีด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “น่าเสียใจเนอะ จอมยุทธ์อัจฉริยะหญิงแห่งตระกูลลั่วเสินต้องมาตายด้วยน้ำมือข้าหรือเนี่ย?”

“ตายซะ นังเวร!”

สายตาเขาเย็นยะเยือก หอกโลหิตพุ่งออกมาโดยไม่ลังเล พุ่งทะลุมิติเล็งไปที่กลางหว่างคิ้วของลั่วหลี

เมื่อหอกเสือกแทงออกมาทั่วเมืองก็เงียบกริบ ประชาชนมากมายล้มลงด้วยความสิ้นหวัง

ลั่วชิงหยาและลั่วซิวคำรามลั่น ขณะที่เรียกใช้รัศมีจั้นยี่พยายามที่จะทำลายการกีดขวางของศัตรูเบื้องหน้า

ลั่วเทียนเสินที่ถูกเสี่ยหลิงจื่อขัดขวางเอาไว้ก็ครางเสียงเศร้าหมอง

ลั่วเทียนหลงถูกบีบจากจอมยุทธ์สองคนจนขยับไม่ได้

ลั่วหลีกัดริมฝีปาก รอยเลือดไหลออกมาจากมุมปาก

ฮึ่ม!

หอกสีแดงฉีกผ่านมิติ

ตู้ม ตู้ม!

ทว่าจังหวะนั้นเมื่อหอกมาปรากฏต่อหน้าลั่วหลี ทุกคนก็ได้ยินเสียงระเบิดแสบแก้วหูดังขึ้นฉับพลัน

จอมยุทธ์ตระกูลเสี่ยเสินก็เหมือนสัมผัสได้ สีหน้าเปลี่ยนไป

ปัง!

วินาทีที่เขาสัมผัสได้ มิติเบื้องบนเขาก็ระเบิด สายฟ้าสีดำพุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว

เร็วมากจนเขาไม่สามารถหลบได้ อึดใจต่อมาแสงสีดำก็กระแทกลงบนร่างเขาอย่างรุนแรงท่ามกลางใบหน้าที่อัดแน่นด้วยความตกใขหวาดผวา

ตู้ม!

เสียงระเบิดดังกึกก้อง จากนั้นทุกคนก็ตะลึงไปเมื่อเห็นพื้นผิวแม่น้ำลั่วยุบลง คลื่นสูงหมื่นจั้งพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วโปรยปรายลงมาราวกับพายุฝน

“นั่น…นั่นมันอะไร?”

ทุกคนตกใจกลัวกับฉากนี้

จอมยุทธ์ตระกูลลั่วเสินและเสี่ยเสินก็หยุดการปะทะทันทีและมองไปทิศทางนั้นด้วยสายตาตะลึงงัน

เมื่อพายุฝนโปรยปรายลงมาจนหมด พวกเขาก็เห็นได้อย่างชัดเจน

จอมยุทธ์ตระกูลเสี่ยเสินหายใจพะงาบๆ บนพื้นผิวของแม่น้ำมีร่างเงาหนึ่งยืนอยู่บนแผ่นหลังเขา มือข้างหนึ่งตะปบบนศีรษะ ขณะที่หัวเข่าข้างหนึ่งกดลงบนหลัง

เบื้องหน้าพวกเขาคือแท่นพิธีสีขาวที่ลอยอยู่บนแม่น้ำ

ฉากนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง!

“ใคร…นั่นใครกัน?”

เสียงตื่นตกใจดังขึ้น จอมยุทธ์ชุดดำที่ปรากฏขึ้นฉับพลันทำให้พวกเขาตกตะลึงไป

พายุยังคงโหมกระหน่ำ ท่ามกลางเสียงตกตะลึงนับไม่ถ้วน ลั่วหลีก็อึ้งไปเมื่อมองร่างเงาที่พลิ้วตัวลงมาจากท้องฟ้า

ในไม่ช้านางก็หายจากอาการตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างขึ้นอย่างช้าๆ

ความไม่เชื่อสายตากระจายบนใบหน้าของนาง

พายุฝนโปรยปรายลงมาตรงหน้า ร่างเงาชุดดำที่ตึงร่างจอมยุทธ์ตระกูลเสี่ยเสินไว้ก็เงยหน้าขึ้นในเวลานี้ เขามองความงดงามเบื้องหน้า รอยยิ้มอ่อนโยนก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของเขา

เขาเอามือข้างหนึ่งแตะบนหน้าอกก้มศีรษะลงเล็กน้อยแล้วยิ้ม

“จักรพรรดินีที่รักของข้า… องครักษ์ของเจ้า…มาถึงแล้ว!”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset